Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 82

№ 82 ปิดเขาสามวัน!

ขณะที่กำลังคิด ก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะดังลอยมาจากด้านนอก เขาเปรยตามองไป จึงเห็นนางจูงเฟิ่งเซียวเดินมา

ความสนิทสนมระหว่างพ่อลูกคือเรื่องปกติ ทั้งท่าทางและความใกล้ชิดก็หาได้แปลกปลอม ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นตัวปลอมจริง เฟิ่งเซียวที่เป็นถึงพ่อ กับคนที่รักที่สุด จะมองไม่ออกได้อย่างไรเล่า?

อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ สำหรับเฟิ่งเซียว เฟิ่งชิงเกอคือลูกสาวของเขา เป็นคนที่เขารักมากที่สุด ต่อให้จะสงสัยใคร ก็คงไม่ไปสงสัยลูกสาวตัวเองแน่

แม้รู้สึกว่านางแตกต่างจากก่อนหน้านี้นิดหน่อย ก็คงคิดไม่ถึงว่าลูกสาวตัวเองจะถูกคนสวมรอยแทนที่ เพราะเรื่องเช่นนั้น มันเหลือเชื่อเกินไป

อีกอย่าง ลูกสาวเขา มองยังไงก็ดีไปเสียหมด ไม่ว่านางจะทำอะไร จะเปลี่ยนไปเช่นไร ในสายตาและหัวใจ ก็เป็นลูกสาวเขา ซ้ำยิ่งไม่ควรถูกเคลือบแคลง

“ท่านพี่มู่หรงเจ้าคะ!”

เฟิ่งชิงเกอผละมือที่จูงเฟิ่งเซียวไว้ออก วิ่งเบาๆ มาที่ข้างกายเขา แล้วมองด้วยแววตาอิ่มเอมที่มีความรักใคร่ “ท่านพี่รอนานไหมเจ้าคะ?”

เขาสลัดความคิดฟุ้งซ่านในใจ วางถ้วยชาในมือลง ก่อนจะลุกยืนขึ้น เผยรอยยิ้มจางๆ ที่สง่างามออกมา “ไม่หรอก พี่เพิ่งมาได้ไม่นาน”

เขามองเฟิ่งเซียวที่เดินเข้ามา จึงโค้งคารวะและเรียกท่าน “ท่านอาเซียว”

ในบ้านตระกูลเฟิ่ง เขาหาใช่ท่านอ๋องสามไม่ แต่เป็นว่าที่ลูกเขยในอนาคตของตระกูลเฟิ่ง เป็นมู่หรงอี้เซวียนที่พวกเขาเห็นกันมาแต่เล็กจนเติบใหญ่ ด้วยเหตุนี้ ที่ถูกต้องคือผู้น้อยต้องให้การคารวะ

“ฮ่าๆ อี้เซวียนเอ้ย! ยากนักที่เจ้าจะมีเวลาพาแม่หนูนี่ออกไป มีเจ้าอยู่เป็นเพื่อนนาง ข้าก็วางใจลงบ้าง”

เฟิ่งเซียวหัวเราะร่า เอ่ยว่า “อารามสวนท้อห่างจากที่นี่ต้องเดินทางสองชั่วยาม แม่หนูนี่เสียเวลาไปนานขนาดนี้ก็สายเสียแล้ว พวกเจ้ารีบออกเดินทางหน่อยเถอะ! อย่าไปถึงที่นั่นตอนเที่ยงเลย”

“ท่านพ่อ ท่านไม่ไปด้วยกันจริงๆ รึเจ้าคะ? ยังไงซะท่านก็อยู่บ้านว่างๆ ออกไปด้วยกันดีกว่านะเจ้าคะ! ข้าจะได้ชมดอกท้อและทิวทัศน์ของอารามสวนท้อกับท่านด้วยพอดี!” นางกอดแขนเฟิ่งเซียวเขย่าเบาๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งเซียวก็หัวเราะลั่น “ฮะๆๆ ไม่ได้ๆ มีอี้เซวียนไปกับเจ้า พ่อไปก็เกะกะเปล่าๆ พวกเจ้าสองคนไปเที่ยวเล่นกันดีๆ ไม่ต้องรีบกลับมาล่ะ”

เขามองที่มู่หรงอี้เซวียน กล่าวว่า “อี้เซวียน แม่หนูคนนี้ รบกวนเจ้าดูแลให้ดีๆ นะ”

กับว่าที่ลูกเขยคนนี้ เขายิ่งมองก็ยิ่งพอใจ สองคนนี้รู้จักกันมาแต่เด็ก ต่างรักใคร่ใจตรงกัน ตอนนี้แค่รอเลือกฤกษ์งามยามดีเพื่อจัดการเรื่องแต่งงานเสีย

“ท่านอาเซียวโปรดวางใจ ข้าจะดูแลชิงเกออย่างดีขอรับ”

เขามองเฟิ่งชิงเกอที่ใบหน้าเหนียมอาย บนริมฝีปากผุดรอยยิ้มออกมา และเก็บซ่อนความแปลกประหลาดในใจไป

เฟิ่งเซียวส่งทั้งสองขึ้นรถม้า หลังจากเห็นรถม้าเคลื่อนออกไปไกล ถึงจะเดินเข้าไปด้านในจวนตระกูลเฟิ่ง

อีกด้านหนึ่ง ที่อารามสวนท้อ

เฟิ่งจิ่วที่เดินตามถนนเส้นเล็กมาถึงด้านในอารามสวนท้อ ยิ่งมองทัศนียภาพด้านในนี้ก็ยิ่งพอใจนัก หากใช้สถานที่เช่นนี้มาเป็นที่พำนัก ถือว่าดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงเหมาะกับการฝึกฝนวิชา ซ้ำยังเหมาะกับการขัดเกลาจิตใจ

อารามสวนท้อตั้งอยู่ในป่าเขาทางทิศใต้ของเมืองอวิ๋นเยวี่ย ทั่วผืนป่าเขาล้วนเต็มไปด้วยดอกท้อหลากสี ที่ไม่อาจมองเห็นปลายทาง

ซ้ำอารามสวนท้อก็อยู่ในส่วนลึกของป่าต้นท้อ เป็นสถานที่งดงามราวสรวงสวรรค์ แต่ไม่อนุญาตให้คนนอกเหยียบย่างเข้ามา

ถึงอย่างงั้น เวลาเดือนสามของทุกปีที่ดอกท้อเบ่งบาน ก็ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมดอกไม้ที่ภูเขาท้อได้ไม่น้อย ยิ่งกว่านั้นยังอยากลักลอบเข้ามาที่อารามสวนท้อในส่วนลึกของป่าต้นท้ออีก และตอนนี้ อารามสวนท้อก็ตกอยู่ในมือเธอแล้ว

หลังจากเดินชมรอบๆ เธอก็หยุดฝีเท้าลง “เหลิ่งซวง เหยียนเหล่าที่ตลาดมือไม่ได้คัดกององครักษ์ตลาดมืดมารึ? เจ้าออกคำสั่งไป ให้พวกเขาเฝ้าอยู่ตรงตีนเขา แล้วปิดเขาไว้สามวัน”

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!