Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 98

№ 98 รัตติกาลสีเลือด!

ผู้อาวุโสสองท่านกู่ร้องเสียงหลง หัวหน้าระดับปรมาจารย์นักรบทั้งสี่ก็เปลี่ยนสีหน้ายกใหญ่ สายตาหวาดกลัวมองไปยังชายชราชุดเทาผู้นั้นที่ลงมืออย่างกะทันหัน

ทว่าชายชรากลับหรี่สายตาลงน้อยๆ กลิ่นอายกระหายเลือดดุร้ายเอ่อล้นอยู่ทั่วร่าง น้ำเสียงปรามาสเยือกเย็นดังออกมาจากปากอย่างเนิบๆ

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ถึงกล้ามาย้อนถามข้า?”

แววตาอำมหิตกราดมอง ทำให้ผู้อาวุโสสองท่านข้างกายใจสั่นสะท้านขึ้นมาทันใด ก่อนจะเผลอถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว

หมัดเดียว!

หมัดเดียวก็สังหารท่านผู้นำตระกูลที่มีพละกำลังระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แล้วรึ? เพียงหมัดเดียวก็ทำให้ผู้นำตระกูลพวกเขาต้องจบชีวิตลงในเงื้อมมืออย่างไม่มีแม้แต่โอกาสจะยืนขึ้นมาด้วยซ้ำ!

ในกองเพลิงโหมกระหน่ำ ใต้กองหินผุพังนั้น ท่านผู้นำแห่งบ้านตระกูลสวี่ที่ก่อตั้งมาเป็นร้อยปี ก็หมดลมหายใจไปอย่างสิ้นท่าและคาดไม่ถึงเช่นนี้…

เฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่บนที่สูง เรียวคิ้วภายใต้หน้ากากยกขึ้นน้อยๆ นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ

สองคนนี้เป็นพวกเดียวกันไม่ใช่หรือ? นึกไม่ถึงว่าจะลงมือฆ่าท่านผู้นำตระกูลสวี่ไปเสียแล้ว?

สังหารในหมัดเดียว…

สายตาเธอจับจ้องไปบนร่างชายชราชุดเทา เห็นกลิ่นอายพลังเร้นลับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าผสานกันอยู่บนฝ่ามือ

มหาปรมาจารย์นักรบ!

พละกำลังของชายชราชุดเทาผู้นี้อยู่ในระดับมหาปรมาจารย์นักรบที่เหนือชั้นกว่าระดับปรมาจารย์นักรบทั่วไปเสียอีก! ซ้ำยังกำราบปรมาจารย์นักรบขั้นสูงสุดได้ในหมัดเดียว พลังแท้จริงจึงสูงกว่าผู้นำตระกูลสวี่อยู่มากเป็นธรรมดา

แต่ว่า มหาปรมาจารย์นักรบ…

เธอในตอนนี้ จะจัดการคนระดับเช่นผู้นำตระกูลสวี่ท่านนั้นก็ไม่มีปัญหา แต่การต่อกรกับมหาปรมาจารย์นักรบ หนำซ้ำเหมือนจะเป็นมหาปรมาจารย์นักรบที่มีพละกำลังมากกว่าพลังเร้นลับขั้นเริ่มต้น เห็นได้ชัด ว่าต่อให้เธอมีสองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายอยู่ดี

“ไปซะ จับนางมาให้ข้า จำไว้ ว่าข้าต้องการแบบเป็นๆ”

ชายชราชุดเทายืนนิ่งไม่ไหวติง สองมือประสานเก็บไว้ในแขนเสื้อ ยืนอยู่ด้านล่างเงียบๆ เช่นนั้น พลางมองเงาร่างสีแดงแพรวพราวร้ายกาจด้วยแววตาที่มีความตื่นเต้นและเฝ้ารอ แววตานั้น น่าแปลกเสียจนรู้สึกขนพองสยองเกล้า

“ขอรับ ขอรับ”

ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้อาวุโสทั้งสอง หรือหัวหน้ากองระดับปรมาจารย์ แม้จะเห็นท่านผู้นำตระกูลถูกเขาฆ่าตาย ก็ไม่กล้าทวงแค้น เพราะรู้ดีอยู่ลึกๆ ว่าพลังแท้จริงของอีกฝ่ายเหนือชั้นไปไกลนัก หากไม่เชื่อฟัง ที่ต้องตายเป็นรายต่อไปก็คือพวกเขา!

เมื่อเห็นพวกเขาที่ล้อมโจมตีมาหาเธอ ดวงตาก็เป็นประกายน้อยๆ ดึงมีดสั้นออกมาพลิกจับไว้ในมือ เรียกพลังขึ้นกระโดดลงบนหลังคาบริเวณไม่ไกล

คนพวกนั้นเร่งตามกันมา ไร้อาวุธในมือ คล้ายว่าเพราะเกรงกลัวชายชราท่านนั้น จึงไม่กล้าใช้อาวุธกับเธอ แต่กลับไม่รู้เลย ว่านี่เป็นโอกาสให้เธอปลิดชีวิตพวกเขาได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

“จะหนีไปไหน!”

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งตะคอกมา ยื่นมือคว้าไปที่หัวไหล่เฟิ่งจิ่ว กลิ่นอายพลังเร้นลับที่พรั่งพรู และแรงกดดันของปรมาจารย์นักรบต่างจู่โจมออกมาพร้อมๆ กันในเวลานี้ เดิมคิดว่าหลังจากทำให้นางตกตะลึง จะลงมือจับกุมได้ง่ายขึ้น นึกไม่ถึงว่ามือกลับถูกพลิกจับหักบิดไปด้านหลัง ท่วงท่ากายราวกับภูตผี อีกทั้งท่ามือแปลกตาพิกล ทำให้เขาตกอยู่ในเงื้อมมือนางอย่างไม่อาจหลบเลี่ยง

ในสถานการณ์ที่ยังไม่ทันได้ถอยออก มีดสั้นเย็นเยียบก็จี้อยู่บนลำคอเขาอย่างง่ายดาย

เมื่อคนอื่นๆ เห็น หัวใจก็หยุดนิ่งลงเล็กน้อยด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ พวกเขาต่างรู้ถึงพลังแท้จริงของผู้อาวุโสสาม ทว่าตอนนี้ กลับถูกนางพลิกจับไว้อย่างง่ายดายเสียแล้ว? ซ้ำยังตกอยู่ในเงื้องมือนาง จะเป็นหรือตายอยู่ที่นางตัดสิน?

“อย่า อย่าฆ่าข้าเลย…”

ผู้อาวุโสสามเสียขวัญอยู่บ้าง ไม่กล้าเชื่อว่าเพียงในชั่วพริบตา ภาพเช่นนี้ที่อยู่ในจินตนาการก็เกิดขึ้น แต่คนที่ถูกจับกุมไว้เป็นเบี้ยล่างกลับกลายเป็นเขา

“สายไปแล้ว”

เฟิ่งจิ่วเอ่ยเสียงเย็น พอดึงลากมีดสั้นในมือ ก็เห็นเลือดสดทะลักออกมาจากปากแผลปาดลึกบริเวณลำคอ

…………………………………….

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!