Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 184

№ 184 ไม่ขันนับเป็นโรค!

“ด้านในนี้เป็นสถานที่ปรุงยาของนักปรุงยา หอที่สองยังมีอีกหนึ่งชั้น ส่วนหอที่สามเป็นพวกตำราด้านยา หอที่สี่ที่ห้าเป็นที่เก็บสมุนไพร หอที่หกกับหอที่เจ็ดเป็นพวกยาที่สำเร็จแล้ว”

นายท่านเหยียนเดินไป พลางน้ำเสียงทุ้มต่ำก็เปล่งออกมา เขาพาเฟิ่งจิ่วมาในห้องหนึ่งด้านใน กล่าวว่า “ข้าให้คนพาเจ้ามา เพื่อจะอาศัยพรสวรรค์การปรุงยาของเจ้า มาศึกษายาระงับพิษเหมันต์ ขอแค่เจ้าปรุงออกมาได้ ข้ารับประกันได้ว่าเจ้าจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย”

“พิษเหมันต์รึ?”

ได้ยินคำพูดนี้ เธอแปลกใจนิดหน่อย ในห้วงทะเลแห่งความคิดก็นึกถึงพิษเหมันต์พันปีบนร่างท่านอาหลิง แล้วทำไมนายท่านเหยียนถึงต้องการยารักษาพิษเหมันต์กันเล่า?

“ถูกต้อง นักปรุงยาที่นี่นอกจากจะกำลังคิดค้นยาแก้พิษเหมันต์ ก็ยังมีพวกที่ช่วยตำหนักยมราชเรากลั่นปรุงยา ขอแค่ตั้งใจทำงาน ข้าจะไม่ปฏิบัติไม่ดีต่อใคร แต่หากมาสร้างปัญหาที่นี่ ข้าจะไม่ปราณีแน่!”

หลังเฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง ก็บอกว่า “มันไม่ใช่ยาที่คิดค้นปรุงกันได้ง่ายขนาดนั้นนะ พิษเหมันต์มีตั้งหลายชนิด หนำซ้ำอาการก็ไม่เหมือนกัน หากไม่เคยจับชีพจรหรือตรวจดูสภาพร่างกาย นักปรุงยาคนไหนจะกล้าปรุงยาส่งเดชเล่า?”

สองแขนเธอกางออก ส่ายหน้านั่งลงข้างโต๊ะ “ไม่จับชีพจร ไม่เห็นคน ข้าก็ปรุงไม่ได้หรอก”

นายท่านเหยียนถลึงมองเฟิ่งจิ่วอยู่ครู่หนึ่ง นิ่งเงียบไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร ลุกยืนขึ้นมาพูดว่า “งั้นเจ้าก็คุ้นเคยกับที่นี่ไปเสียก่อนเถอะ รอเจ้าระดับยาเจ้าสูงเท่านักปรุงยาหอโอสถค่อยว่าเรื่องนี้กัน!”

เห็นเขาจะไป เฟิ่งจิ่วจึงเร่งรีบยื่นมือออกไปคว้าดึงแขนเสื้อเขาไว้พลางตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน!”

นายท่านเหยียนขมวดคิ้วหันกลับมา สายตาจับจ้องบนมือเล็กขาวเนียนที่จับแขนเสื้อเขาอยู่ แววตาฉายแววเล็กน้อย ตะคอกเสียงเย็น “ปล่อย!” สะบัดแขนเสื้อสลัดมือเขาออก แล้วดึงเสื้อกลับมา

เฟิ่งจิ่วไม่ใส่ใจ กล่าวว่า “นายท่านเหยียน พวกท่านจับข้ามา กลับไม่เตรียมให้ข้าแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ให้ข้าอยู่รวมกับคนอื่นๆ บนเตียงใหญ่ พวกท่านไม่เกรงใจกันเลยรึ? ยังมีอีก! พลังเร้นลับข้าถูกท่านปิดผนึกไว้ พวกท่านคุ้มกันที่นี่เข้มงวมถึงเพียงนี้ ยังกลัวว่าข้าจะหนีไปได้อีกรึ? ไม่ต้องใช้เวลาทั้งวันข้าก็ยังออกไปไม่ได้แม้แต่ประตูเรือนเลยกระมัง?”

เธอเหลือบมอง เห็นเขาไม่สะบัดแขนเสื้อจากไป จึงพูดต่อว่า “พวกท่านเชิญข้ามา ในเมื่ออยากให้ข้าปรุงยา ก็ควรจะต้อนรับกันอย่างมีเกียรติสิ ท่านลองไปสอบถามดู พวกคนตลาดมืดปฏิบัติกับข้าราวคุณชาย ท่านว่าเปรียบเทียบกับพวกเขาแล้ว วิธีรับแขกเช่นนี้ไม่แย่เกินไปหน่อยรึ?”

เห็นเฟิ่งจิ่วพูดถึงวิธีรับแขกอะไรนั่นกับนายท่านเหยียนอย่างไม่กลัวตาย หลินเหล่ากับฮุยหลางข้างๆ ล้วนอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมอง คิดว่าเขาเพ้อฝันเกินไปแล้ว

อันที่จริงตัวเป็นนักโทษ จะมาพูดเรื่องวิธีรับแขกอะไรอีก!

แต่ว่า ที่ทำให้พวกเขานึกไม่ถึงที่สุดก็คือ ความอดทนนายท่านเหยียนที่มีต่อเจ้าเด็กนี่ จะเกินความคาดหมายของพวกเขาไปในทุกๆ ครั้ง

นายท่านเหยียนกวาดมองใบหน้าเด็กหนุ่มที่โกรธบูดบึ้ง สั่งการว่า

“ฮุยหลาง กลับไปจัดเตรียมเรือนส่วนตัว ให้เขาไปมาได้อิสระ”

“ขอรับ”

ฮุยหลางมองเฟิ่งจิ่ว ไม่เข้าใจว่าทำไมนายท่านต้องทำดีกับเขาเช่นนี้

เห็นนายท่านเดินออกไป ฮุยหลางก็เรียก เอ่ยเสียงเบาว่า

“นายท่าน ท่านกลับไปก่อนเถิด ข้าน้อยไม่สบายตัว จะขอพบท่านหมอในหอเสียหน่อย”

นายท่านเหยียนหันกลับไปกวาดมองเขา ตอบรับว่า “อืม”

“ฮึ!”

เฟิ่งจิ่วหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ มองฮุยหลางที่ท่าทางกังวล แล้วส่ายหัวชำเลืองมองเขาอย่างหยอกล้อ

“ผู้ชายนกเขาไม่ขัน ถือเป็นโรค ต้องรักษา”

………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!