Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 276

№ 276 ไม่ปกตินัก!

เฟิ่งจิ่วกดความตกตะลึงในใจไว้ บนใบหน้าไม่เห็นอาการแปลกๆ แม้แต่น้อย กลับผุดรอยยิ้มออกมาแทน “พวกข้าผ่านทางมา ท้องฟ้ามืดพอดี เห็นตรงนี้มีบ้านคนจึงอยากเข้ามาขอค้างแรมสักคืน ไม่ทราบว่าจะสะดวกหรือไม่?”

หญิงสาวครุ่นคิด พินิจมองเฟิ่งจิ่วกับเหลิ่งซวงด้านนอก แล้วมองที่ม้าของพวกเขา ลังเลอยู่เล็กน้อย

“ท่านแม่ ท่านแม่ ให้พี่ชายคนสวยกับพี่สาวอยู่ไปเถอะขอรับ! หยางหยางชอบพี่ชายคนสวย”

เด็กชายตัวน้อยอายุสี่ห้าขวบดึงแขนเสื้อมารดาพลางเขย่าเบาๆ น้ำเสียงเดียงสาช่างอ่อนหวาน ในดวงตาที่ใสกระจ่างงดงามมีความหวัง อ้อนวอน และปรารถนา ทำให้คนเห็นแล้วไม่อาจปฏิเสธได้

หญิงสาวเห็นเช่นนี้ก็เผยท่าทางรักใคร่เอ็นดู ลูบศีรษะลูกชาย บอกกับเหลิ่งซวงและเฟิ่งจิ่วว่า “เชิญทั้งสองท่านเข้ามาเถิด บ้านข้าซอมซ่อ หากมีตรงไหนดูแลไม่ทั่วถึง หวังว่าจะไม่ถือสา”

นางเปิดประตูออก หันข้างทำท่ามือเชื้อเชิญ เพราะประตูเรือนเปิดออก เฟิ่งจิ่วกับเหลิ่งซวงจึงเห็นว่าบนโต๊ะกลางห้องมีเพียงตะเกียงน้ำมันที่ยังคงแสงสว่างไว้

“เช่นนี้คงต้องขอรบกวนด้วย”

เฟิ่งจิ่วประสานมือคารวะ ให้เหลิ่งซวงล่ามเหล่าไป๋กับม้าตัวนั้นไว้ด้านนอกแล้วถึงจะเข้าเรือนไป

ภายในแม้จะซอมซ่อ กลับเก็บกวาดได้เรียบร้อยมาก แต่อาจเพราะมีแสงแดดส่องเข้ามาน้อย ในบ้านจึงหนาวเย็นนิดหน่อย และยิ่งชัดเจนขึ้นเป็นพิเศษในตอนกลางคืน

“พี่ชาย ท่านอยากดื่มน้ำไหม?”

เด็กชายปีนขึ้นบนเก้าอี้มองที่เฟิ่งจิ่ว ชี้ยังกาน้ำบนโต๊ะพลางพูด “ในนี้มีน้ำอยู่ หยางหยางกระหายน้ำก็มีให้ดื่ม”

สายตาเฟิ่งจิ่วกำลังจับจ้องบนร่างหญิงสาวผู้นั้น เห็นว่าฝีเท้าแผ่วเบาเดินไปด้านหลัง ท่วงท่าอ่อนโยนย่างก้าวอ่อนช้อย สิ่งที่เผยออกมาจากกิริยาท่าทางคือการอบรมสั่งสอนที่ดี เพียงคิดก็รู้ได้ว่าต้องไม่ใช่หญิงชาวบ้านทั่วไป

แต่ในสถานที่เช่นนี้ ทำไมถึงมีคนแบบนี้อยู่ได้?

เธอดึงสายตากลับมา ตั้งมั่นดวงจิตมองเด็กชายตรงหน้าที่แม้กระปรี้กระเปร่า ทว่าใต้ตากลับดำคล้ำ ถอนใจอยู่ในใจเบาๆ และถามว่า “เจ้าชื่อหยางหยางรึ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?”

“ขอรับๆ ข้าชื่อหยางหยาง พี่ชาย วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบสี่ขวบของหยางหยางแหละ! ท่านแม่กำลังต้มไข่ไก่แดงให้หยางหยางอยู่ด้านหลัง”

เด็กชายหมอบลงบนโต๊ะอมยิ้มมองเฟิ่งจิ่วผู้มีรูปโฉมหล่อเหลาในชุดสีแดง กล่าวอย่างมีชีวิตชีวาว่า “พี่ชายหน้าตางดงามจริงๆ หยางหยางยังไม่เคยเห็นใครที่งามกว่าท่านเลย”

“โอ้ ที่แท้วันนี้เป็นวันเกิดเจ้า”

เธอมองเด็กชายที่มีดวงตาเป็นประกายใบหน้าตื่นเต้นอย่างแปลกๆ คิดไปคิดมาก็ล้วงเอาไข่มุกราตรีที่เม็ดเล็กเท่าลูกองุ่นมายื่นให้เขา หัวเราะเบาๆ “นี่ให้เจ้าเป็นของขวัญวันเกิด”

“ว้าว! มุกเม็ดนี้สวยมาก ส่องแสงได้ด้วย”

เด็กชายมองไข่มุกเม็ดนั้นอย่างตกใจและยินดี ยื่นมือรับไว้แล้วไถลลงจากเก้าอี้วิ่งไปด้านหลังอย่างร่าเริง พลางตะโกนด้วยความดีใจ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านแม่ พี่ชายให้ไข่มุกที่ส่องแสงได้กับข้าด้วย”

เหลิ่งซวงยามนี้มายังข้างกายเฟิ่งจิ่ว มองไปทางด้านหลัง กดเสียงเบาพูดว่า “นายท่าน รู้สึกว่าที่นี่ไม่ค่อยปกตินัก จะพักที่นี่จริงๆ รึเจ้าคะ?”

ตรงนี้มีเพียงบ้านคนสองหลัง ทางฝั่งนั้นปิดประตูเปิดไฟไว้แต่กลับไม่เห็นเงาคนเลยสักนิด บ้านฝั่งนี้ก็มีเพียงเด็กน้อยที่ค่อยข้างปกติหน่อย ส่วนหญิงคนนั้นก็ดูผิดปกติ ยังมีชายเจ้าของบ้านที่ด้านในอีก ตั้งแต่พวกนางเข้ามาก็ไม่เห็นเลย ว่ากันตามเหตุผล สิ่งเหล่านี้ไม่สมเหตุสมผลนัก

แววตาเฟิ่งจิ่วไหววูบเบาๆ มองทางผ้าม่านด้านหลังแล้วบอกว่า “ไม่ปกติเท่าไหร่ แต่ว่าเด็กคนนั้นปกติมาก ที่ผิดปกติมีแค่พวกผู้ใหญ่เท่านั้น”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!