Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 281

№ 281 ไม้วิญญาณ

เฟิ่งจิ่วเช็ดกระบี่คมพยับในมือจนสะอาดแล้วเก็บกลับเข้าฝัก จากนั้นเดินไปด้านหน้า กวาดค้นสิ่งของบนร่างนักพรตคนนั้นมาจนหมดเกลี้ยง สุดท้ายแม้แต่แส้จามรนั่นยังไม่เหลือไว้ เพราะนั่นเป็นของวิเศษ ถึงเธอไม่ใช้เอามาขายก็ยังได้

“ขอบคุณคุณชายมาก ขอบคุณคุณชายมาก!”

เสียงคุกเข่าขอบคุณที่ลอยมาจากด้านหลังทำให้เฟิ่งจิ่วหันหน้ากลับไป เห็นวิญญาณทั้งสี่ตนคุกเข่าคารวะอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ

“ลุกขึ้นเถอะ! ข้ายังมีเรื่องต้องถามพวกท่าน” ในมือเธอมีเปลวไฟปะทุขึ้นมา เผาร่างนักพรตคนนั้น

“ขอรับ ไม่ทราบว่าคุณชายจะถามอะไร?” พวกเขาประคองกันยืนขึ้น ร่างกายโปร่งแสงเล็กน้อย คล้ายว่าดวงจิตไม่มั่นคงเท่าไหร่นัก

เฟิ่งจิ่วมองพวกเขา กล่าวว่า “ผีก็คือผี ข้าอยากรู้ว่าพวกท่านรักษาร่างไว้โดยที่วิญญาณไม่สลายได้อย่างไร? หากเป็นเพราะความแค้นเคืองและความกังวลในใจจึงก่อตัวเป็นวิญญาณก็สมเหตุสมผลอยู่ แต่นี่พวกท่านครอบครัวสี่คนกระมัง? สามารถรักษาวิญญาณไว้ได้หมด เพราะอะไรกัน?”

“เชิญคุณชายตามพวกเรามา” ทั้งสี่พูดจบ ก็พาเธอมายังด้านหลังบ้านอีกหลังหนึ่ง แล้วขุดเอาไม้สีน้ำตาลแดงออกมาจากใต้ผืนดิน

“พวกเราจะไม่ปิดบังคุณชาย เหตุที่เราสามารถรวมวิญญาณไว้ได้โดยไม่จางหาย นั่นเพราะเมื่อสองปีก่อนมียอดปรมาจารย์ท่านหนึ่งมาขอน้ำดื่ม พวกเราจึงทำอาหารให้ เขาบอกว่าใจพวกเรามีเจตนาดีไม่คิดร้าย และนึกถึงหลานชายข้าหยางหยางที่ยังเป็นทารก จึงมอบไม้วิญญาณให้พวกเราไว้เป็นที่พักพิงหล่อเลี้ยงวิญญาณ ทั้งยังกำชับว่าห้ามทำร้ายผู้คน สองปีมานี้พวกเราจำไว้มั่นทั้งวันคืน ใจสำนึกบุญคุณมิกล้าทำชั่ว เพียงแต่ไม่นึกว่าจะโดนนักพรตคนนั้นเพ่งเล็ง คืนนี้หากไม่มีคุณชาย กลัวว่าแม้แต่ผีอย่างเราก็ยังสู้ไม่ไหว”

ได้ยินคำพูดนี้ แล้วมองไม้วิญญาณนั่นอีกที เธอถึงจะนึกขึ้นได้ ที่แท้โลกนี้ยังมีเรื่องเช่นนี้อยู่ด้วย

แต่เธอยังถามอีกว่า “ในเมื่อยอดปรมาจารย์ผู้นั้นก็มีจิตใจดี ซ้ำพวกท่านยังเป็นผี ทำไมตอนนั้นถึงไม่มอบหยางหยางให้เขาเสียเล่า?”

“เคยแล้วขอรับ”

ครั้งนี้คนที่พูดคือชายหนุ่ม เขามองเฟิ่งจิ่วพลางพูด “ตอนนั้นพวกเราขอร้องให้ยอดปรมาจารย์ท่านนั้นพาหยางหยางไป ถึงอย่างไรกายเราเป็นวิญญาณยากจะเลี่ยงพลังหยินในร่าง กลัวว่าเด็กอยู่ด้วยจะไม่ดีนัก แต่เขาปฏิเสธ บอกว่าเมื่อเวลามาถึงจะมีผู้สูงศักดิ์มาช่วย จนมาคืนนี้ พวกเราถึงรู้ว่าผู้สูงศักดิ์ที่เขาบอกที่แท้คือคุณชาย”

เฟิ่งจิ่วลูบๆ คาง แอบคิดว่าโลกนี้ก็มีผู้เก่งกาจที่สามารถพยากรณ์อนาคตได้ด้วยหรือ?

“นักพรตนั่นตายแล้ว จากนี้ไปพวกท่านมีแผนเช่นไร?” เธอมองพวกเขาพร้อมถาม

“ขอให้คุณชายพาหยางหยางไปเถอะ! พวกเรา พวกเราเป็นผี ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้” หญิงสาวสะอื้นเบาๆ แม้ในใจยังอาลัยอาวรณ์ กลับไม่มีทางเลือกเช่นกัน

“คุณชายโปรดพาหลานชายเราไปเสีย! คุณชายมีพระคุณยิ่ง ไว้ชาติหน้าพวกเราค่อยตอบแทน” ชายชรากับหญิงชราคารวะไปทางเฟิ่งจิ่ว

ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ บอกว่า “ขอแค่หยางหยางมีชีวิตอยู่ได้ นั่นสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด คุณชาย หยางหยางของเราต้องขอความกรุณาท่านแล้ว พวกเราไม่มีของอะไรจะมอบให้ ไม้วิญญาณนั่นเป็นวัตถุวิญญาณชั้นดี เชิญคุณชายเอามันไปด้วยเถอะ!”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วเบาๆ ชำเลืองมองพวกเขา ไม้วิญญาณเป็นของที่ดีจริงๆ เป็นถึงไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณ ยอดปรมาจารย์ที่ทิ้งของไว้ก็ใจกว้างนัก ถึงได้มอบไม้วิญญาณให้พวกเขาเช่นนี้

แต่เธอก็เป็นคนที่มีหลักการ ไม่ใช่ว่าของอะไรๆ ก็เก็บ ของอะไรๆ ก็ต้องการไปหมด

“ผีก็บำเพ็ญตนเป็นวิญญาณผู้ฝึกตนได้ ข้ามีตำราให้พวกท่านไว้ฝึกฝนวิชา พวกท่านยินดีไปด้วยกันหรือไม่?”

……………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!