№ 326 อาหารอ่อนๆ!
“ถอยไปเฝ้านอกเรือน” เหลิ่งซวงขมวดคิ้วมองชายหนุ่มชุดฟ้าที่เดินเข้ามา
ได้ยินเช่นนี้ลัวอวี่แววตาสั่นไหวเล็กน้อย บอกว่า “นายท่านไม่ได้ให้ข้าไปเฝ้านอกเรือนนี่!” เขามองยังประตูห้องที่ปิดสนิท ก่อนจะฉีกยิ้มออกมา “วางใจเถอะ พวกเราเป็นคนกันเองทั้งนั้น”
เหลิ่งซวงขมวดคิ้วเห็นเขาเดินกรีดกรายมานั่งลงข้างโต๊ะในเรือน ดื่มชากินขนมอบบนโต๊ะด้วยตัวเอง นึกถึงคำพูดนายท่านก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ให้เขาออกไป แค่เฝ้าอยู่ในเรือนไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้ห้องแม้แต่น้อย
คนอื่นๆ เห็นท่าทางต่างแปลกใจเล็กน้อย หลังใช้สายตามองวนไปมาบนร่างเหลิ่งซวงก็จับจ้องไปยังประตูห้องที่ปิดแน่นหนา ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย
ภายในห้อง ผู้เฒ่าเข้ามาด้านในด้วยกันกับเฟิ่งจิ่ว ตรงข้างเตียงนั้นมีเหลิ่งหวาเฝ้าอยู่ ส่วนเฟิ่งเซียวที่นอนอยู่บนเตียงก็ยังคงหมดสติ
“นายท่าน” เหลิ่งหวาเห็นนางจึงคารวะด้วยความเคารพแล้วถอยไปข้างๆ
เฟิ่งจิ่วนั่งลงข้างเตียง หลังจับชีพจรท่านพ่อสักพักก็หยิบเข็มเงินออกมาจากห้วงมิติมาแก้จุดชีพจรสองสามแห่งที่เธอปิดเอาไว้ เวลาประมาณครึ่งก้านธูปเฟิ่งเซียวที่เดิมเคยหมดสติจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ผู้เฒ่าเห็นเช่นนี้ท่าทางมีความระรื่นที่ไม่อาจปกปิด ดวงตาแดงน้อยๆ มองที่เฟิ่งจิ่ว ก้อนหินที่หนักอึ้งในหัวใจในที่สุดก็วางลงได้
เช้านี้แม่หนูเฟิ่งบอกเขาว่าท่านพ่อฟื้นแล้ว ตอนเขาเข้ามาดูเฟิ่งเซียวกลับหลับสนิทไปอีก จากนั้นเห็นแม่หนูเฟิ่งใช้เข็มเงินแทงลงไปบนร่างเขาสองสามเข็ม ถึงจะเห็นเขาหมดสติไปจนกระทั่งทุกคนเข้ามาเยี่ยมในจวน
ตอนนั้นแม้เขาไม่เห็นเฟิ่งเซียวฟื้นขึ้นมาด้วยตาตัวเอง แต่ก็เชื่อคำแม่หนูเฟิ่งจึงทำไปตามคำนางว่า ตอนนี้เห็นลูกชายที่หมดสติไม่มีฟื้นตื่นขึ้นมา ความตื่นเต้นในใจแค่คิดก็รู้แล้ว
“เฟิ่งเซียว เจ้าทำพวกเราตกใจแทบตาย” ผู้เฒ่าพูดอย่างสะอึกสะอื้นแต่กลับโล่งอกโล่งใจ
เฟิ่งเซียวอ้าปากจะพูดอะไร ลมหายใจกลับยังอ่อนแรกเล็กน้อยอยู่บ้าง แค่ขยับริมฝีปากโดยไม่มีเสียง
“ท่านพ่อ ท่านว่างใจเถอะ ค่อยๆ รักษาตัวร่างกายก็จะดีขึ้น” เฟิ่งจิ่วพูดเสียงเบา บอกว่า “แม้อาการบาดเจ็บบนร่างจะหนักมาก แต่พอคนฟื้นมาทั้งหมดจะง่ายขึ้น ขอแค่รักษาตัวไปช้าๆ อีกหนึ่งเดือนให้หลังคงลงจากเตียงไปเดินได้แล้วเจ้าค่ะ”
อาการบาดเจ็บรุนแรงของเขาอยู่ตรงซี่โครงที่ถูกกระแทกแตก อวัยวะภายในล้วนเสียหาย หากไม่ใช่เพราะเธอชำนาญการแพทย์ซ้ำยังมีความรู้เรื่องยากับยาอายุวัฒนะ อาการบาดเจ็บเช่นนี้คงช่วยไม่ไหวแน่ แต่ด้วยทักษะการแพทย์เสริมด้วยยาอายุวัฒนะหรือยาอื่นๆ เวลาราวๆ หนึ่งเดือนร่างกายเขาจะฟื้นฟูได้เกินครึ่ง
“ช่วงนี้ให้ท่านพ่อพักผ่อนดีๆ หลังผ่านวันนี้ไปคงจะไม่มีใครมาเยี่ยมอีกแล้ว ถึงมีก็ต้องขวางให้กลับไปนะเจ้าคะ”
“ได้ๆๆ ปู่จะฟังหลานทั้งหมดเลย”
ผู้เฒ่าพยักหน้ารัวๆ สักพักจึงสั่งการลงไปหากมีใครมาเยี่ยมให้ขวางไว้ให้กลับไป
ตอนนี้เองประตูห้องก็ถูกเคาะเบาๆ สองครั้งพร้อมมีร่างหนึ่งก็เดินเข้ามา
“เสี่ยวจิ่ว ข้าเอาข้าวต้มที่ต้มเสร็จแล้วมาให้”
กวนสีหลิ่นยกหม้อใบเล็กเดินเข้ามา เห็นผู้เฒ่าอยู่ด้วยจึงขานเรียกท่านปู่
พอผู้เฒ่าได้ยินว่ากวนสีหลิ่นเอาของกินมาให้ จึงถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“เสี่ยวจิ่ว ตอนนี้พ่อหลานกินข้าวต้มได้รึยัง? ตรงอกเขาบาดเจ็บภายในร้ายแรงเช่นนั้น กลัวว่า…”
เฟิ่งจิ่วยิ้มขึ้นเบาๆ เข้าไปรับหม้อแล้วตักมาหนึ่งถ้วย
“นี่เป็นอาหารที่หลานเตรียมไว้ให้ท่านพ่อ เขาบาดเจ็บถึงอวัยวะภายในทานยาต้องระวังให้มาก อาหารพวกนี้สรรพคุณทางยาค่อนข้างอ่อน มีผลรักษาอวัยวะภายในที่บาดเจ็บได้และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อยาเจ้าค่ะ”
……………………