Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 374

№ 374 เต็มใจจริงรึ?

แต่หากตอนนี้ข่าวที่ผู้เฒ่าโดนจับตัวถูกแพร่ออกไป เกรงว่าภัยพิบัติของจวนตระกูลเฟิ่งใกล้จะมาเยือนแล้ว…

“ท่านผู้นำตระกูล คุณหนูใหญ่จะกลับมาประมาณเมื่อไหร่? ต้องส่งคนออกไปตามหาเสียหน่อยหรือไม่ขอรับ?” คนหนึ่งในองครักษ์เอ่ยปากถาม สถานการณ์ในจวนยามนี้ไม่ค่อยจะมีหวังนัก หากข่าวรั่วไปภายในจวนก็ไม่มีแม้แต่เสาหลัก

“นางคงจะรีบกลับมา เรื่องนี้พักไว้ก่อนพวกเจ้าดูแลภายในจวนดีๆ ก็พอ ทั้งหมดรอนางกลับมาค่อยคุย” เฟิ่งเซียวเอ่ยเสียงเข้ม ก่อนจะโบกมือให้สัญญาณพวกเขาถอยไป

ทุกคนเห็นท่าทางหลังจากมองหน้ากันถึงจะถอยออกไป ยามนี้ภายในจวนผู้เฒ่าหายไป ผู้นำตระกูลยังปรากฏตัวไม่ได้ ซ้ำคุณหนูใหญ่ก็ไม่อยู่ จึงมีเพียงพวกเขาที่จะสามารถเฝ้าอารักขาจวนในช่วงเวลานี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน

“ท่านพ่อบุญธรรม ท่านพักผ่อนก่อนเถอขอรับ ข้าจะไปตลาดมืดหน่อย”

กวนสีหลิ่นพูดจบก็หยิบแผ่นหยกขนาดเท่าเล็บนิ้วเดินออกไป คิดจะตรวจสอบที่มาของแผ่นหยกนี้มีเพียงต้องเริ่มจากตลาดมืด ถึงอย่างไรแคว้นแสงสุริยันที่กว้างขวางก็มีแค่กลุ่มอำนาจตลาดมืดที่ติดต่อกับแคว้นอื่นๆ

“อืม ไปเถอะ!” เฟิ่งเซียวพยักหน้า คิดว่าขั้นต่อไปจะทำเช่นไรดี?

เหลิ่งหวาที่คอยอยู่ข้างๆ ภายใต้การส่งสัญญาณจากพี่สาวจึงปริปากบอกว่า “ท่านผู้นำตระกูล สุขภาพท่านยังไม่ดี กลับไปนอนบนเตียงก่อนเถอะขอรับ!”

“ไม่เป็นไร ข้าขอคิดอะไรหน่อย” เขาโบกๆ มือจะไม่ไปนอนบนเตียง

ก่อนหน้านี้ขยับไม่ค่อยได้ ตอนนี้บาดแผลภายนอกบนตัวเขาหายเร็วมาก ลงจากเตียงมาเดินจึงไม่ใช่ปัญหา แน่นอนว่าไม่อยากไปนอนบนเตียงอีก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องในตอนนี้เขาต้องตั้งใจคิดดีๆ

ท่านผู้เฒ่าถูกคนจับตัวไป? จะจับเขาไปทำอะไรกันแน่?

เจ้าว่าหากคนที่โดนจับไปเป็นลูกสาวเขายังคิดได้ว่าอีกฝ่ายคงต้องตาในความงามน่าหลงใหล แต่ที่ถูกจับดันเป็นผู้เฒ่า เรื่องนี้ช่างแปลกประหลาดอย่างเห็นได้ชัด

เพราะจวนตระกูลเฟิ่งปิดประตูไม่รับแขกและการปกปิดข่าวลือของทุกคนภายในจวน เรื่องที่ผู้เฒ่าโดนจับตัวไปไร้ร่องรอยจึงเก็บไว้อยู่เช่นนี้ นอกจากพวกคนในจวนคนภายนอกต่างก็ไม่รู้ข่าวนี้

ส่วนทางอีกด้านหนึ่งในป่าเก้าหมอบ

เฟิ่งจิ่วที่ฟื้นขึ้นมาหลังหมดสติไปสามวันสามคืนมองทุกคนที่เฝ้าอยู่ข้างกาย แววตาสั่นไหวเล็กน้อย ในห้วงความคิดนึกถึงเรื่องราวตอนนั้นก่อนจะเป็นลมไป คิดจะลุกขึ้นมานั่งพอขยับหลัวอวี่ข้างๆ ที่หลับตารักษาดวงจิตก็รู้สึกถึง

“นายท่าน? ท่านฟื้นแล้ว?” หลัวอวี่มองด้วยความประหลาดใจ เห็นนางฟื้นขึ้นมาแล้วจึงรีบร้อนประคองขึ้น

คนอื่นที่นั่งอยู่ไม่ไกลได้ยินการเคลื่อนไหวจึงลืมตาขึ้น เห็นนางตื่นมาพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินมายังข้างกาย ประสานมือคารวะไปทางนาง “นายท่าน”

การคารวะครั้งนี้หากว่ากันตามเหตุผลพวกเขาคิดว่านางรับไม่ไหว ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน ส่วนพวกเขากลับเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง ทว่าหลังจากรับรู้ถึงพลังและฝีมือนางการคารวะครั้งนี้กลับให้ด้วยความเต็มใจและเลื่อมใสอย่างที่สุด

ได้ยินพวกเขาเรียกว่านายท่านเฟิ่งจิ่วก็ผุดรอยยิ้มออกมา เวลานี้ถึงจะพินิจมองพวกเขาตรงหน้าโดยละเอียด

สี่คนนี้แม้เป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแต่เพราะความแตกต่างด้านกำลังสองคนในนั้นอายุราวๆ ห้าสิบ อีกสองคนนอกนั้นดูแล้วอายุประมาณห้าสิบหกสิบ ทุกคนล้วนแต่งกายชุดคลุมสีเทาดูธรรมดา ทว่ากลิ่นอายผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังกลับทำให้ไม่อาจเมินเฉย

“พวกท่านเต็มใจรับข้าเป็นนายจริงๆ รึ?”

เธอเอ่ยปากถาม แววตาสดใสจับจ้องบนร่างทั้งสี่คน

…………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!