Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 381

№ 381 กลับจวนมารายงาน!

ฟั่นหลินลังเลสักพัก มองพวกเขาแล้วเอ่ยปากบอกว่า “เดิมพวกเราอยากเห็นความสามารถของคุณหนูใหญ่เสียหน่อย แต่ไม่นึกว่าจะประวิงเวลามาตลอด หลัวอวี่ถูกคุณหนูใหญ่ซ้อมไปรอบหนึ่งจึงยอมรับนายทันทีขอรับ”

“หึ! ข้าว่าพวกเจ้าช่างหยิ่งยโสนัก!” ชายวัยกลางคนส่งเสียงหึหนักๆ ไพล่มือบอกว่า “อย่าลืมว่าพวกเจ้าเป็นองครักษ์ประจำตระกูลเฟิ่ง พวกเราทั้งเลี้ยงดูและสั่งสอนพวกเจ้ามาตั้งแต่เล็กก็เพื่อให้กลายเป็นเช่นแขนซ้ายขวาของคุณหนูใหญ่ ตอนนี้ดูพวกเจ้าแต่ละคนสิว่าเหมือนอะไรกันไปหมดแล้ว? นึกไม่ถึงว่าผ่านมานานเพียงนี้ยังไม่ยอมรับนายอีก!”

ได้ยินคำสั่งสอนพวกเขาก็ก้มหน้าลงไม่ปริปาก เรื่องนี้แน่นอนว่าพวกเขาทำเกินไป

“ข้าขอเตือนพวกเจ้า โอกาสต้องไขว่คว้าด้วยตนเอง จะได้ไม่ต้องเสียใจเมื่อถึงคราที่พลาดโอกาส!” ชายวัยกลางคนแค่นเสียงหยัน บอกให้สัญญาณว่า “ออกไปเถอะ! อย่ามัวแต่นิ่งอยู่ตรงนี้!”

“ขอรับ” พวกเขาขานรับถึงจะถอยออกไป

หลังรอจนพวกเขาออกไป ทุกคนในสวนก็ส่ายหน้า “เด็กพวกนี้จิตใจหยิ่งยโสเหลือเกิน”

พวกเขาจะไม่รู้ความคิดฟั่นหลินได้อย่างไร? นึกถึงปีนั้นพวกเขาก็เป็นเช่นนี้ หยิ่งจองหองไม่ยอมรับคนไร้ประโยชน์เป็นนาย แต่สุดท้ายพวกเขายังถูกกำราบอยู่ในเงื้อมมือนายท่าน ไม่เพียงเพราะกำลังเขา ยังเป็นเพราะการกระทำและความภักดี

“เจ้าหนูหลัวอวี่คนนี้ปกติไม่เอาไหนสักเท่าไหร่ ไม่นึกว่าเรื่องนี้กลับมีสายตาเฉียบแหลมกว่าพวกเขา” หนึ่งในนั้นเผยรอยยิ้มออกมา ดูภูมิใจอย่างมากกับการกระทำหลัวอวี่ที่ยอมรับนายแต่เนิ่นๆ

“จริงด้วย นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าพวกเขาแปดคนกลับเป็นหลัวอวี่ที่ยอมรับนายคนแรก สายตาเจ้าหนูนี้ไม่เลวเลย” อีกคนหนึ่งพยักหน้าแล้วยิ้มขึ้นมา

อีกคนหนึ่งก็พูดยิ้มๆ เช่นกัน “พวกเราก็ไม่ได้พบคุณหนูใหญ่เสียเนิ่นนาน หากนายท่านไม่พูดถึงคงไม่รู้ว่าตอนนี้คุณหนูใหญ่มีความสามารถเช่นนี้ ช่างทำให้คนคาดไม่ถึงจริงๆ”

สำหรับเรื่องที่เฟิ่งจิ่วคือตัวตนภูตหมอนายท่านเฟิ่งเซียวเคยบอกกับพวกเขาแล้ว และเพราะเหตุเช่นนี้เองถึงได้รู้สึกขุ่นเคืองยิ่งนักกับเรื่องที่องครักษ์ทั้งเจ็ดยังไม่ยอมรับนาย บอกอยู่ในจวนมาทั้งวัน นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ตัวตนภูตหมอของคุณหนูใหญ่พวกเขายังไม่รู้เรื่อง หนำซ้ำถึงตอนนี้มีเพียงหลัวอวี่ที่ยอมรับนาย ทำไมแต่ละคนถึงตาไม่แหลมเช่นนี้บ้าง?

ส่วนหลัวอวี่ในห้อง ตอนนี้กำลังบอกเรื่องที่พวกเขาพบมาตลอดการเดินทางกับเฟิ่งเซียว

เฟิ่งเซียวฟังอันตรายที่พวกเขาพบเจอในการเดินทางครั้งนี้ หัวใจก็หวั่นๆ ขึ้นมาด้วยความกังวล จนกระทั่งตอนหลังหลังได้ยินว่าพวกเขารอดพ้นอันตราย แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสี่คนนั้นยังยอมรับเสี่ยวจิ่วเป็นนาย หัวใจดวงนี้ถึงจะวางลงได้

“ดีๆ ไม่เป็นไรก็ดี กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว”

เขาถอนหายใจเบาๆ เพียงรู้สึกครั้งนี้พวกเขาออกไปก็มีอันตรายมากมาย หากไม่เพราะโชคร้ายกลายเป็นดีเกรงว่าคิดมีชีวิตรอดกลับมาก็ยากแล้ว

นึกถึงตรงนี้เขาก็กังวลใจ แอบคิดว่า ‘ทีหลังต้องกำชับเสี่ยวจิ่วว่าอีกหน่อยเจอเรื่องเช่นนี้ต้องระวังหน่อย เรื่องที่ไม่มั่นใจว่าชนะจะเข้าไปยุ่งเช่นนี้ไม่ได้อีก อย่างครั้งนี้หากประมาทจนเกิดเรื่องผลที่ตามมาก็ไม่กล้าจะจินตนาการเลยจริงๆ…’

ต่อกรกับหัวหน้าระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด แม่หนูน้อยบอบบางอย่างนางก็หุนหันพลันแล่นเกินไปจริงๆ

หลัวอวี่มองเฟิ่งเซียวแล้วพูดต่อว่า “หลังเข้าเมืองนายท่านกับพวกเขาก็ไป แต่เดาว่านายท่านคงยังไม่รู้ข่าวว่าท่านผู้เฒ่าหายตัวไป แต่นายท่านบอกว่าจะมาถึงบ้านช่วงค่ำๆ ขอรับ”

เฟิ่งเซียวพยักหน้า คิดว่านางคงไปเวิ้งสวนท้อ

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!