№ 421 บังคับแต่งงาน!
เนี่ยเถิงเหลือบมองมู่หรงป๋อแล้ว ก็มองหมอที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจว่า “พรุ่งนี้บาดแผลบนหน้าข้าจะหายดีหรือไม่?”
ได้ยินคำพูดนี้ หมอคนนั้นก็รีบหันมองเนี่ยเถิง หลังเห็นว่าสิ่งที่พอกไว้บนหน้าเขาคือยาทาสีดำ จึงหลุบตารายงานด้วยความเคารพว่า “ยาที่ท่านทาคือยาทาวิญญาณมืดสูตรลับของแคว้นเหินเวหาเรา ยานี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้เลือดไหลเวียนและสลายเลือดคั่ง ไม่ต้องใช้เวลาถึงพรุ่งนี้ เพียงไม่กี่ชั่วยามอาการบวมช้ำและเลือดคั่งบนใบหน้าก็จะหายไป และฟื้นคืนสภาพดังเดิมพ่ะย่ะค่ะ”
ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงป๋อแอบอิจฉา แคว้นใหญ่ระดับหกเป็นอย่างที่คิดไว้ แม้แต่ยากระตุ้นเลือดไหลเวียนและสลายเลือดคั่งยังวิเศษเพียงนี้ เหมือนอย่างเขาที่หน้าโดนซ้อมจนเป็นเช่นนั้น หากเปลี่ยนเป็นยาทั่วไป ไม่ใช้เวลาถึงสองสามวันก็อย่าคิดว่าจะลดอาการบวมได้ แต่นึกไม่ถึงว่าแค่ใช้ยาทาวิญญาณมืดอะไรนั่นไม่กี่ชั่วยามก็ได้ผลแล้ว อยากเห็นจริงๆ ว่ายาทาวิเศษเช่นนั้นจะปรุงมาจากยาทิพย์แบบไหน?
หลังจากเนี่ยเถิงได้ยินคำพูดของหมอ ความเคร่งเครียดบนร่างถึงจะผ่อนคลายลงบางส่วน เขาหลับตาลงสั่งการว่า “ให้คนข้ารับใช้ขนสินสอดลงจากเรือเหาะมา พอฟ้าสว่างข้าจะไปรับคนที่จวนตระกูลเฟิ่ง”
ได้ยินเช่นนี้ ชายวัยกลางคนดวงตาเป็นประกาย รีบร้อนขานรับ “ขอรับ!”
จากนั้นจึงก้าวยาวออกไป ชี้แจงคำพูดของรัชทายาทกับข้ารับใช้ ให้พวกเขาขนย้ายสินสอดลงจากเรือเหาะ รอฟ้าสว่างค่อยตามไปจวนตระกูลเฟิ่งพร้อมนายท่าน
ในความคิดเขา นายท่านออกคำสั่งลงไปว่าจะไปรับคนที่จวนตระกูลเฟิ่ง เช่นนั้นก็ไม่มีทางรับมาไม่ได้!
การเดินทางครั้งนี้พวกเขามีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังติดตามแปดคน สี่คนในนั้นเป็นระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด นอกจากนี้ยังมีทหารอารักขาติดตามอีกร้อยกว่าคน ไม่เชื่อหรอกว่ากำลังพวกเขาจะพาคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเฟิ่งแค่คนเดียวไปไม่ได้!
เมื่อได้ยินคำสั่งเนี่ยเถิง มู่หรงป๋อก็ประสานมือถอยไปด้วยใจระรื่น แอบคิดว่า ครั้งนี้ต่อให้คนของจวนตระกูลเฟิ่งปกป้องอย่างไร ก็ไม่อาจต้านทานความตั้งใจของเนี่ยเถิงที่ต้องการพาเฟิ่งชิงเกอไปได้!
ขอแค่เฟิ่งชิงเกอถูกพาตัวไป จวนตระกูลเฟิ่งก็ไม่มีผู้นำ ถึงเวลานั้นเขาสุมไฟเพิ่ม แล้วยังต้องกลัวว่าตระกูลเฟิ่งจะไม่ล่มสลายอีกรึ?
คิดแล้วในใจก็แอบตื่นเต้นยินดี แม้แต่ใบหน้ายังมีรอยยิ้มปรากฏเพราะเหตุนี้
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น
วันนี้ ตอนฟ้าเพิ่งสางก็ได้ยินเสียงประทัดดังขึ้นสามครั้ง เสียงสนั่นกระจายไปในอากาศ ทำลายความสงบในยามเช้าของเมืองอวิ๋นเยวี่ย…
เมื่อชาวบ้านในเมืองออกมาชมด้วยความอยากรู้ และเห็นสินสอดถูกขนไปยังจวนตระกูลเฟิ่ง แต่ละคนต่างแปลกใจอยู่บ้าง พากันตามหลังขบวนส่งสินสอดนั้นไปผสมโรงด้วย
ระหว่างทางฝูงชนพูดคุยกัน ถึงรู้ว่ารอบๆ นั้นมีผู้ฝึกเซียนแปดคนขี่ม้าคอยอารักขา คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใหญ่หรูหรามีทหารอารักขาทั้งแปดแบกไว้ก็คือเนี่ยเถิงองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเหินเวหา
“รัชทายาทแคว้นเหินเวหาคนนี้จะแต่งคุณหนูใหญ่เฟิ่งเป็นชายารองจริงหรือ คนตระกูลเฟิ่งไม่ยินยอมไม่ใช่รึ หรือนี่คิดจะคลุมถุงชน?”
“คลุมถุงชนแล้วยังไง โลกนี้ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ กลุ่มอำนาจแคว้นเหินเวหาน่ากลัวเช่นนั้น ผู้ครองแคว้นยังไม่กล้าทำอะไรพวกเขาเลย มีหรือจวนตระกูลเฟิ่งจะกล้าต่อต้าน? เมื่อคืนก่อเรื่องนั้นเอาไว้! เช้านี้ยังแบกสินสอดมาจวนตระกูลเฟิ่ง นี่มันบังคับแต่งงานชัดๆ ข้าว่านะ หากรัชทายาทแคว้นเดินเวหาไม่ได้แต่งคุณหนูใหญ่เฟิ่งเข้าวังหลังคงไม่ยอมรามือแน่”
“เฮ้อ! ความงามเป็นเหตุโดยแท้!”
“ก็แน่อยู่แล้ว คุณหนูใหญ่เฟิ่งงามล่มเมืองเป็นที่เลื่องลือ ยามนี้ไม่มีใครปกป้องนางได้แล้ว หากผู้แข็งแกร่งของกลุ่มอำนาจพวกนั้นถูกใจ นางจะหนีพ้นได้หรือ? บอกว่าเป็นชายารอง แต่ใครบ้างไม่รู้ว่าเป็นแค่นางสนม?”
…………………………………….