Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 520

NO 520 รบกวน

เฟิ่งจิ่วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา เอ่ยตอบจริงจัง “ข้ามาสอบระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ! เงินที่ข้าจ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายการสอบประเมินระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ขอรับ!”

พวกเขาดูถูกเธอแน่นอน คิดว่าเธอมาเที่ยวเล่นหรือ?

ก่อนหน้านี้ อาจารย์ที่ช่วยเฟิ่งจิ่วจดบันทึกยังมองเธออย่างไม่เห็นด้วย ทว่าเมื่อเห็นความไร้เดียงสาบนใบหน้าเด็กหนุ่มและท่าทางจริงจัง ดังนั้นจึงสงบอารมณ์ก่อนถามเสียงเข้มว่า “เจ้ามีเหรียญตราระดับยาทิพย์บรรพชนแล้ว?”

เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า “ไม่มีขอรับ”

“เช่นนั้นเหรียญตราระดับยอดนักปรุงยาเล่า?”

“ไม่มีขอรับ” เธอส่ายหน้าอีกครั้ง

อาจารย์ท่านนั้นฟังแล้วใบหน้าเผยความไม่พอใจ แต่ยังคงถาม “แล้วเหรียญตรานักปรุงยาเล่า?”

“ไม่มีเช่นกันขอรับ! ข้าไม่เคยสอบ นี่เป็นครั้งแรกที่มาสมาคมนักปรุงยา” แม้เธอกลั่นยาเซียนเป็น แต่ไม่มีเหรียญตราพวกนั้นเลยจริงๆ! หากมีเธอจะวิ่งตั้งไกลโขมาที่นี่เพื่ออะไร?

ได้ยินคำพูดเฟิ่งจิ่ว อาจารย์อีกสองคนกล่าวด้วยความขุ่นเคืองอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ “เจ้าไม่ใช่แม้แต่นักปรุงยา จะมาสอบระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์อะไร? นี่ไม่เรียกว่าบ้าหรอกหรือ? ชัดเจนว่าคิดเพ้อฝันอยากอยู่ระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์! เสียเวลาพวกเราแต่เช้าตรู่ เจ้า เจ้ารีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

แม้โดนพวกเขาตะคอกใส่ เฟิ่งจิ่วกลับไม่โมโห อาจเพราะเข้าใจความรู้สึกพวกเขา! และคิดว่าที่พวกเขารู้สึกเช่นนี้เป็นเรื่องปกติยิ่งนัก ถึงอย่างไรการที่ไม่มีแม้แต่เหรียญตรานักปรุงยาแต่อยากสอบระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างเพ้อฝันจริง

ดังนั้นเธอจึงยิ้มอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาสาดประกายแวววาว “อาจารย์ทั้งสาม เช้าๆ อย่าเพิ่งอารมณ์เสียเกินไปนัก จะส่งผลเสียต่อสุขภาพเอา! อย่างไรก็ฟังข้าพูดให้จบก่อนเถอะ!”

เห็นพวเขาถลึงตามอง เธอก็ไม่รอให้พวกเขาเอ่ยปาก บอกว่า “ถูกต้อง แม้ข้าไม่มีเหรียญตรานักปรุงยาแสดงตัวตน แต่ข้าเป็นนักปรุงยาจริง ส่วนที่จะสอบเหรียญตรายาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์เลยทันที เพราะคิดว่ามีความสามารถพอจะรับเหรียญตราและเป็นนักปรุงยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ได้ มิเช่นนั้นการสอบประเมินแต่ละด่านนี้ก็เสียเวลาข้ามากเช่นกัน”

ได้ยินเช่นนี้ ทั้งสามที่เดิมทีขุ่นเคืองก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว คิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะไม่รู้เรื่องรู้ราวเกินไปแล้ว! ถึงกล้าพูดจาโอ้อวดในสถานที่อย่างสมาคมนักปรุงยา ซ้ำยังพูดอีกว่าการสอบประเมินแต่ละด่านก็เสียเวลาเขาด้วย

เดิมทีคิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้รูปโฉมโดดเด่น รุกถอยมีจังหวะ มารยาทพร้อม เรียบร้อยน่าเอ็นดู แต่ยามนี้มองอีกครา พวกเขายังไม่เคยเจอใครที่ชั่วร้ายยิ่งไปกว่าคนผู้นี้เลย!

“ได้! พวกเราจะดูซิว่าเจ้าจะปรุงยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้อย่างไร! แต่พวกเราบอกเจ้าไว้ก่อน ยาทิพย์สองตะกร้าที่เจ้าหยิบไป หากปรุงมั่วซั่วจนเสียของ ต้องจ่ายเงินเป็นสิบเท่า!”

เฟิ่งจิ่วเช็ดๆ จมูกอย่างใสซื่อ เธอแค่พูดตามความจริงเท่านั้น ไม่นึกว่าสามคนนี้จะยิ่งโกรธกว่าเมื่อครู่เสียอีก เฮ้อ! เธอใสซื่อมากไปหรือ?

แม้ช่วงนี้จะพักอยู่ที่นี่ ยังมีเวลาอีก แต่เธอไม่อยากเสียเวลาที่สมาคมนี้ต่อไปแล้ว จึงสำรวจมองข้าวของบนลานกลั่นยาสักพัก เห็นว่าอุปกรณ์พวกนั้นไม่มีปัญหากับการปรุงยาทั่วไป แต่หากจะปรุงกลั่นให้เพียงพอสำหรับระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ กลับยังด้อยเกิน

ดังนั้นเธอจึงมองทั้งสามคน “อุปกรณ์ด้อยเกินไป รบกวนเปลี่ยนเป็นระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยขอรับ”

ครั้นได้ยินดังนี้ ทั้งสามคนนอกจากถลึงตามองก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว ทว่าในที่นั้น มีเสียงแก่ชราลอยเข้ามา

“เปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ให้เขาเสีย แล้วให้อวี๋เหล่าเข้ามาคุมสอบเอง”

เมื่อเสียงนี้ดังมา อาจารย์ทั้งสามตกใจโดยพลัน ใบหน้าเผยความตกตะลึง นี่…นี่รบกวนไปถึงผู้อาวุโสสูงสุดแล้วหรือ?

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!