№ 776 จิ้งจอกหน้ามนนักเก็บดอกไม้คือข้า
เวลาช่วงเย็น ไป๋เสี่ยวลากหมูป่าตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บมายังใต้ต้นไม้ ตะโกนว่า “เฟิ่งจิ่ว เจ้าดูสิ แรดนอเดียวจับมาให้ข้า ตัวใหญ่เพียงนี้ เราพอจะย่างกินไปได้หลายวันเลย”
“เจ้าจัดการเถอะ! ข้าจะพักผ่อน” เฟิ่งจิ่วบนต้นไม้เอ่ยอย่างเกียจคร้าน เดินวนภายในนี้มาเกือบทั้งวัน นอกจากเจอสัตว์ร้ายยังไม่เห็นอันธพาลพวกนั้นเลยสักคน
ป่ากว้างใหญ่แห่งนี้ ต่อให้เธอนั่งขนนกบินวนข้างใน เดาว่าสองสามวันคงวนได้ไม่หมด เช่นนั้นจะตามหาเซี่ยงหวาในป่าแห่งนี้ได้อย่างไร? น่าปวดหัวนิดหน่อยจริงๆ
“ได้ เช่นนั้นเจ้าพักผ่อนเถอะ! ข้าย่างสุกแล้วจะเรียกเจ้า” เขากล่าวโดยไม่เงยหน้า พลางจัดการหมูป่าตัวนั้น ทว่าตอนเตรียมจุดไฟกลับพบว่ากิ่งไม้ไม่พอ จึงคิดจะไปเก็บแถวๆ นี้กลับมา
“ข้าจะไปเก็บพวกกิ่งไม้มาทำฟืน สักพักจะกลับมา” เขาเอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว พลางมุ่งไปข้างหน้า
เฟิ่งจิ่วไม่สนใจ แถวนี้เป็นที่ที่ทั้งสองเคยเดินผ่าน ไม่มีอันตรายอะไร ทว่าหลังจากชำเลืองมองแผ่นหลังเขาที่ออกไปและหลับตาลงอีกครั้ง ประมาณไม่กี่ชั่วอึดใจก็ได้ยินเสียงร้องตกใจแว่วมา
เธอลืมตาขึ้นทันที แล้วเรียกพลังพุ่งไปบริเวณเสียง เมื่อมาถึงจุดที่ไป๋เสี่ยวอยู่ และเห็นเขาถูกชายฉกรรจ์ร่างกายบึกบึนสองสามคนใช้ดาบยาวจี้คอ แววตาพลันสั่นไหวเล็กน้อย
“นี่พวกท่านทำอะไรกัน?” เธอเอนพิงต้นไม้ พลางเอ่ยถามเสียงเบาๆ และไม่ได้เดินเข้าไป เพียงสองมือกอดอกมองคนพวกนั้นไปเช่นนั้น
“เจ้าหนู พวกเจ้าสองคนมาใหม่หรือ?” ชายร่างใหญ่คนหนึ่งเอ่ยถามเสียงหยาบกระด้าง
แววตาเธอสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “อืม เพิ่งเข้ามาวันนี้”
“ทางไหน? เข้ามาอย่างไร?” ชายร่างใหญ่คนนั้นยังคงถาม เหมือนกำลังคาดเดาความน่าเชื่อถือจากคำพูดเฟิ่งจิ่ว
“ทางไหน? เข้ามายังต้องแบ่งด้วยหรือว่าทางไหน?” เธอมองชายร่างใหญ่พวกนั้นอย่างแปลกใจเล็กน้อย เห็นกลิ่นคาวเลือดบนร่างพวกเขารุนแรงนัก คิดว่าคงฆ่าคนมาไม่น้อย
“แน่นอน รายงานฉายาเจ้า แล้วเข้ามาอย่างไร? พูดสิ!”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ มุมปากยกเล็กน้อย มือหนึ่งเกี่ยวเส้นผมที่ลู่ลงเล่น พลางกล่าวว่า “ได้ยินแล้ว ข้าหล่อเหลาเป็นสง่า รูปงามไม่ธรรมดา คนเรียกว่าจิ้งจอกหน้ามนนักเก็บดอกไม้ที่ทำลายและเก็บดอกไม้ทั่วหล้าโดยไร้คู่ต่อกร”
ได้ยินชื่อเรียกยาวเหยียดเป็นชุดนั้น ชายร่างใหญ่ท่าทางดุร้ายสองสามคนก็อึ้งไป พินิจมองเฟิ่งจิ่วด้วยท่าทีแปลกๆ แล้วฉีกยิ้มเอ่ยว่า “พูดง่ายๆ ก็แค่โจรเก็บดอกไม้ชั้นต่ำสินะ? แต่เจ้าหนูนี่ล่ะ?” เขาตบๆ หน้าไป๋เสี่ยวพลางถาม
“อืม ประมาณนั้น แต่ข้ามีชื่อ เรียกจิ้งจอกหน้ามน เจ้าหนูนั่นเป็นน้องชายข้า” เธอหรี่ตายิ้มเอ่ย
“ไม่ว่าเจ้าเป็นโจรเก็บดอกไม้หรือจิ้งจอกหน้ามน เข้ามาข้างในนี้ไม่ตายก็ยอมจำนน เจ้าหนูจะเลือกแบบไหนเล่า?” ชายร่ายใหญ่คนนั้นใช้ดาบยาวในมือตบลงบ่าไป๋เสี่ยว ส่งเสียงดังตุบๆๆ เขาตกใจเสียจนหน้าซีดไปหมด
“นี่… คงไม่ใช่ยอมจำนวนพวกเจ้ากระมัง?” เธอลูบๆ คางมองพวกเขาสองสามคนพลางเอ่ยถาม
“เหอะ เจ้าเข้ามาใหม่ยังไม่รู้กระมัง! ภายในนี้มีกฎ ตามพี่ใหญ่ถึงมีเนื้อกิน แม้ติดกับอยู่ในนี้ สักวันจะต้องออกไปฆ่าพวกเขาไม่ให้เหลือซากแน่!”
“โอ้ เช่นนี้เอง! เรายอมจำนนแน่นอน! มีขาใหญ่ใครเล่าจะไม่กอด? ใช่หรือไม่?” เธอกล่าวอย่างยิ้มแย้ม สายตาหยุดลงบนดาบยาวเล่มนั้นที่ตั้งบนไหล่ไป๋เสี่ยว
“พี่ชายทั้งหลาย ตอนนี้ขยับดาบออกไปได้แล้วกระมัง?”
……………………