№ 829 นอนเตียงเดียวกัน
“เสื้อผ้าเจ้าล่ะ?”
“ข้าใส่เองก็ได้” ยมราชน้อยม้วนผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พลางพูด แม้เฟิ่งจิ่วจะเห็นหมดแล้ว แต่เป็นเช่นนางว่า ร่างเล็กๆ นี้ไม่มีอะไรน่ามอง เขาจึงเขินอายเกินกว่าจะเผยออกมา
“ใส่เป็นหรือ?” เฟิ่งจิ่วเผยความสงสัยยิ่ง
“เป็นสิ”
เขากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะเดียวกันยังจ้องมองนางอย่างระมัดระวัง กลัวว่านางจะเกิดคึกเข้ามาดึงผ้าเช็ดตัวที่ห่อร่างเขาไว้
“เอาเถอะ เจ้าใส่เอง แต่ผมเจ้าข้าจะช่วยบิดให้แห้ง” เฟิ่งจิ่วเอ่ยพลางหันไปหยิบผ้าเช็ดตัว
เด็กน้อยเห็นนางออกไป ก็แอบถอนหายใจโล่งอก อาศัยตอนที่นางยังไม่เข้ามารีบร้อนสวมชุดซับในแล้วไปนั่งรอนางตรงขอบเตียง
เมื่อเฟิ่งจิ่วหยิบผ้าเช็ดตัวกลับมา เห็นว่าแม้แต่ชุดซับในเขายังสวมเรียบร้อย ก็เอ่ยชมว่า “ไม่เลว มือเท้าเร็วมาก” ระหว่างพูดก็ใช้ผ้าเช็ดตัวบิดผมเปียกของเขาจนแห้ง ก่อนจะบอก “ถ้าเจ้าง่วงก็ไปนอนก่อนเลย”
“อืม” เขาขานรับ มองหญิงตรงหน้าด้วยแววตาสั่นไหว
“ทำไม? มีอะไรจะพูดหรือ” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วพลางยิ้มถาม
เด็กน้อยได้ยินเช่นนี้ก็หมุนตัวนอนลงบนเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมและหลับตาลงไม่สนใจนาง จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกไปเขาถึงจะลืมตาขึ้นมา ในดวงตาฉายประกายที่ทั้งลึกซึ้งและชาญฉลาด ยังมีความอ่อนโยนและสุขใจอยู่รางๆ เขาห่มผ้าของนางพลางสูดกลิ่นหอมสดชื่นจางๆ เมื่อความง่วงถาโถมเข้ามาถึงจะหลับสนิทไป
หลังอาบน้ำเสร็จเฟิ่งจิ่วสวมชุดซับในเข้ามาพลางเช็ดๆ เส้นผม เห็นเด็กน้อยคนนั้นนอนอยู่ด้านนอกของเตียง ก็ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้ ยิ้มพลางเข้าไปหมายจะขยับเขาไปด้านใน
ขณะที่เธอโน้มตัวแตะเขา เด็กน้อยที่เดิมทีหลับสนิทลืมตาขึ้นมาทันที ความดุดันที่เปล่งจากนัยน์ตานั้นทำให้เธอพลันตกใจ ในชั่วพริบตานั้นเหมือนเห็นว่าเด็กน้อยจะลงมือโจมตี แต่หลังจากเห็นว่าเป็นเธอ ความดุดันในดวงตาถึงจะหายไปแล้วกลับสู่สภาพเช่นก่อนหน้า
“อาบน้ำเสร็จแล้วหรือ?” น้ำเสียงไร้เดียงสาเอ่ยถามด้วยอาการงัวเงีย
“ใช่” เธอขานรับ มองเขาพลางบอก “เจ้านอนข้างใน ข้าจะนอนข้างนอก”
“ข้าเป็นผู้ชายต้องนอนข้างนอก เจ้าเป็นผู้หญิงต้องนอนข้างใน”
เธอได้ยินเสียงเด็กน้อยบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย ก็อดเผยรอยยิ้มไม่ได้ “ข้าเป็นผู้ใหญ่ เจ้าเป็นเด็ก เด็กนอนข้างนอกหากกลิ้งลงเตียงจะตกลงไป เด็กดี ไปนอนข้างในไป”
เห็นเช่นนี้เขาก็คิดๆ ดู แล้วถึงจะขยับไปข้างใน จากนั้นค่อยตบๆ ตรงที่ตนเคยนอน “ข้าช่วยเจ้าอุ่นเตียงอย่างดีแล้ว นอนเถอะ!”
มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุก มองเขาแวบหนึ่งถึงจะนอนลงไป ถามว่า “ใครสอนเจ้า แม้แต่อุ่นเตียงก็ยังรู้?” ระหว่างพูดก็ดึงผ้าห่มมาคลุม หาวแล้วบอกว่า “นอนเร็วหน่อย พรุ่งนี้พวกเราจะไปแล้ว”
“อืม” เด็กน้อยขานรับ พลิกตัวหันหน้ามาทางเฟิ่งจิ่ว และแขนเล็กยื่นออกไปโอบเอวเธอไว้ ถึงค่อยหลับตาอย่างพอใจยิ่ง
ท่าทางสนิทสนมเป็นธรรมชาตินั้นทำให้เฟิ่งจิ่วตกใจเล็กน้อย ดวงตาที่เดิมทีหลับลงแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้ง มองเด็กน้อยที่อิงแอบข้างกาย แขนเล็กๆ นั้นยังโอบกอดเธออย่างสนิทสนมและเป็นธรรมชาติ หัวใจจึงสั่นไหวเล็กน้อย
เด็กคนนี้ให้ความรู้สึกแปลกมากจริงๆ มักจะรู้สึกเหมือนว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง แต่กลับพูดออกมาไม่ถูก
เธอสะบัดหัวไม่คิดอะไรมากอีก เมื่อความง่วงถาโถมเข้ามา ก็กอดคนข้างกายหลับลึกไป…
นอนจนถึงฟ้าสว่าง เมื่อเธอตื่นขึ้นมาลืมตาอย่างงัวเงียและรู้สึกถึงมือตรงเอวก็ตกใจ สักพักถึงจะนึกได้ พอก้มหน้าลงมอง ใบหน้าเด็กน้อยที่งดงามและคุ้นเคยสะท้อนสู่สายตาอีกครั้ง
……………………………….