Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 858

№ 858 จากลาครอบครัวอีกครั้ง

“ซานหยวน จะ เจ้าบรรลุขั้นอีกแล้วหรือ?” ผู้เฒ่าเกิ่งถามอย่างตะลึงไปบ้าง ใบหน้านี้เป็นหน้าตาของอีกฝ่ายตอนหนุ่มๆ ถึงแม้ผ่านการตกตะกอนจากกาลเวลา ก็ยังมีความหนักแน่นมั่นคงที่คนหนุ่มสาวทั่วไปไม่มี

“ไม่ใช่กระมัง เจ้ายังอยู่ระดับจักรพรรดินักรบ แต่ทำไมหน้าตาถึง…” แม้แต่หลินป๋อเหิงยังมองเขาอย่างเหลือเชื่ออยู่บ้าง ชัดเจนว่าพลังยังไม่บรรลุขั้น ทำไมกลับ…

ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในห้วงความคิด สายตาเขาหยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่วที่ยิ้มแย้มอยู่ข้างๆ ทันควัน

จริงด้วย ทำไมเขาถึงลืมนางไปได้! นางคือภูตหมอ แน่นอนว่าต้องมีความสามารถนี้ นี่แสดงว่าแม่หนูเฟิ่งคงกลั่นยาอายุวัฒนะอะไรทำให้ซานหยวนกลับมาหน้าตาอ่อนเยาว์?

ครั้นนึกถึงความคิดนี้ ในใจเขามีความปลงอนิจจังแวบผ่านอย่างอดไม่ได้ ทำไมแม่หนูที่ดีถึงเพียงนี้ไม่ใช่คนตระกูลพวกเขา? หากเขามีหลานสาวเช่นนี้บ้างจะดีสักเพียงไหนกัน!

“ฮ่าๆๆๆ ไม่เลยๆ แค่ของขวัญปีใหม่ที่แม่หนูเฟิ่งนำกลับมาให้ข้าเป็นยาคงรูปลักษณ์ที่ภูตหมอกลั่นออกมาใหม่ล่าสุด ข้าจะบอกให้พวกเจ้าฟัง ยาคงรูปลักษณ์เม็ดนี้น่ะ มันเป็น…”

เขาโอ้อวดกับพวกเขาอย่างทั้งภาคภูมิใจและอิ่มอกอิ่มใจ บอกว่ายาอายุวัฒนะเม็ดนี้วิเศษแค่ไหน ล้ำค่าเพียงใด ทุกคนฟังเสียจนอิจฉาเป็นที่สุด

“มาๆๆ ข้าขออุ้มหลานชายตัวน้อยนี่หน่อย” หลินป๋อเหิงกล่าวพลางรับเด็กน้อยมาจากมือเฟิ่งซานหยวน เด็กน้อยที่อายุหนึ่งเดือนผิวพรรณเปลี่ยนเป็นขาวเนียนนุ่มแล้ว หนำซ้ำแรกเกิดมาตัวใหญ่ ประกอบกับเติบโตมาอย่างดีและกินอิ่มนอนหลับ เด็กคนนี้จึงอ้วนท้วนขาวผ่องชวนให้เอ็นดูแต่แรกเห็น

“คล้ายน้องสาวข้าเลย” หลินป๋อเหิงเอ่ยขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความรักเอ็นดู

คนอื่นเห็นแล้ว แต่ละคนยิ้มมองหน้ากัน จากนั้นถามชื่อเด็กน้อย แล้วถามถึงอาการของซู่ซี พวกพี่ชายของซู่ซีคนนี้อุ้มไปคนนั้นก็รับมา แทบจะอุ้มเด็กน้อยกันอย่างทั่วถึง

แน่นอนว่าคนอื่นๆ ทำแค่มอง ไม่ได้เข้าไปอุ้มเด็ก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ญาติสนิท และเด็กที่เพิ่งครบเดือนอุ้มไม่ง่ายนัก

จนกระทั่งดึกดื่น ทุกคนถึงจะแยกย้ายกันไป หลังจัดแจงที่พักให้ทุกคนในตระกูลหลินเรียบร้อย เฟิ่งจิ่วก็มายังตำหนักของบิดา

“ท่านพ่อ ท่านอาน้อยอายุครบเดือนแล้ว ข้าคิดว่าจะไปพรุ่งนี้เจ้าค่ะ”

“เร็วเพียงนี้เชียว?” เฟิ่งเซียวได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง ลูกสาวเพิ่งกลับมาเดือนเดียวก็จะไปอีกแล้ว จากไปครั้งนี้เกรงว่าต้องรออีกปีถึงจะได้เจอนางอีก

เฟิ่งจิ่วได้ฟังแล้วยิ้มเล็กน้อย “ข้าว่าจะไปเข้าร่วมสมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียน เดินทางครั้งนี้ไม่รู้ต้องนานเท่าไรจึงต้องล่วงหน้าไปก่อน” กล่าวจบเธอคล้องแขนเขา เอ่ยเสียงเบาว่า “ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ภายหน้าข้ามีเวลาจะกลับมาเจ้าค่ะ”

เดิมทีคิดจะบอกข่าวท่านแม่แก่เขา แต่เมื่อคิดๆ ดูก็ให้มันแล้วไป เลี่ยงไม่ให้เขากังวลใจ รออนาคตสักวันหนึ่งเมื่อเธอพาท่านแม่กลับมา ค่อยทำให้เขาประหลาดใจยังดีกว่า

ส่วนตระกูลของท่านแม่ทางนั้น เชื่อว่าขอแค่ในอนาคตฐานะเธอสูงขึ้น แม้เป็นตระกูลใหญ่ของแคว้นระดับหนึ่งก็ต้องพยายามคิดหาทางสานสัมพันธ์กับเธอ ถึงเวลานั้นยังต้องกลัวว่าจะเข้าตระกูลซั่งกวนไปเจอท่านแม่ไม่ได้อีกหรือ?

“เอาเถอะ! เช่นนั้นเจ้าอยู่ข้างนอกต้องระวังตัวด้วย ให้เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาอยู่ข้างกาย พวกเขาสองคนจงรักภักดีต่อเจ้า เหลิ่งซวงช่วยเจ้าดูแลทุกอย่างได้ เหลิ่งหวาก็เอาใจใส่ มีพวกเขาติดตามเจ้าพ่อถึงจะวางใจ”

แม้ใจอาวรณ์ แต่ก็รู้ว่านกน้อยโตแล้วย่อมบินหนีจากข้างกายพ่อแม่ เขาที่เป็นพ่อห้ามปรามไม่ได้ ทำได้เพียงหวังว่ายามนางอยู่ข้างนอกทุกอย่างจะราบรื่นและปลอดภัย

“เจ้าค่ะ ข้ารู้แล้ว” เธอยิ้มน้อยๆ พลางขานรับ

…………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!