ตอนที่ 412 กระเรียนดำ
ร่างแยกนี้หากมองไกลๆ จะเป็นชายร่างกำยำแข็งแรง มีความสูงราวหนึ่งจั้งกว่า ไม่มีผม ทั้งตัวเป็นสีดำทึบ ทั้งยังมีพลังชั่วร้ายแผ่ออกมา
พลังชั่วร้ายนี้มาจากแมลงปีกแข็งเหล่านั้น ขณะเดียวกัน ในพลังชั่วร้ายก็มีพลังชีวิตและพลังความตายที่เข้มข้นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ การผสานความเป็นและความตายเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ผู้พบเห็นเป็นต้องตื่นตะลึง
นี่ไม่ใช่หุ่นเชิดธรรมดา กระทั่งพูดได้ว่าต่างจากหุ่นเชิดของผู้ดูดวิญญาณทั่วไป เพราะมันมีวิญญาณแรกของซูหมิงอยู่ จึงทำให้ร่างแยกนี้แทบจะไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป!
พอร่างแยกซูหมิงเดินหน้า ใต้เท้าเขามีหมอกดำม้วนตลบ พร้อมกับเสียงอื้ออึงดังก้อง หากมีคนเงยหน้ามองจากผืนดินจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
เผ่ากระเรียนดำห่างจากเทือกเขาถ้ำของซูหมิงไม่ไกลเท่าไร ด้วยความเร็วของร่างแยกนี้ ไม่นานก็เข้าใกล้ที่แห่งนั้น หากมองจากไกลๆ จะเห็นยอดเขาเผ่ากระเรียนดำมีควันลอยขึ้น ยามนี้เป็นช่วงเที่ยงวัน เห็นได้ชัดว่าชาวเผ่าส่วนใหญ่กำลังจุดไฟหุงหาอาหาร
เด็กน้อยจำนวนหนึ่งยังเล่นกันอยู่ นักรบเผ่ากระเรียนดำโดยรอบล้วนไม่ตื่นตัว แต่ดูเฉื่อยชา
บนยอดเขาเป็นรูปปั้นหินคล้ายนกกระเรียน มีเงาสะท้อนลงผืนดินภายใต้แสงตะวัน เมื่อเวลาผ่านไป เงานั้นก็ค่อยๆ ขยับตาม
ทั้งชนเผ่าสงบสุข ทว่าเมื่อซูหมิงมาถึงกลับมีเสียงร้องตกใจ เด็กๆ เหล่านั้นรีบวิ่งกลับเรือนพัก นักรบเฉื่อยชาล้วนหน้าเปลี่ยนสี มองท้องฟ้าด้วยความตื่นกลัว
ร่างแยกซูหมิงมาพร้อมกับหมอกดำมหาศาล ปรากฏตัวอยู่บนน่านฟ้าเผ่ากระเรียนดำ ใบหน้าดำทึบ พลังชั่วร้ายทั้งตัว การปรากฏตัวของซูหมิงทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในเผ่ากระเรียนดำ
ซูหมิงมองนักรบเชมันที่กำลังตึงเครียดในเผ่าเล็กแห่งนี้ด้วยความเย็นชา ก่อนวูบไหวตัวลงมายืนอยู่บนมงกุฎนกกระเรียนยักษ์บริเวณยอดเขา เหยียบลงบนนั้น แล้วเปล่งเสียงทุ้มต่ำ
“จ้าวเชมันเผ่ากระเรียนดำ ออกมา!”
แทบจะเป็นช่วงที่ร่างแยกซูหมิงกล่าว มีชายชราหลายคนพุ่งออกมาจากเรือนพักในชนเผ่าด้านล่าง โดยเฉพาะชายชราซูบผอม ในมือถือไม้เท้ากระดูก ใบหน้าเขียวปัดยามจ้องซูหมิง ทว่าในใจกลับตื่นกลัวยิ่งนัก
เขาไม่เคยพบจีอวิ๋นไห่ ยามนี้เห็นรูปร่างหน้าตาของซูหมิง โดยเฉพาะพลังชีวิตกับพลังความตายทั้งตัว และยังมีพลังชั่วร้าย ทำให้ชายชราเหมือนได้กลิ่นคาวเลือด
“ท่านเป็นใคร ข้าคือจ้าวเชมันเผ่ากระเรียนดำ!” ชายชราเดินหน้ามาหนึ่งก้าว เคาะไม้เท้ากระดูกลงพื้น แล้วกล่าวเสียงต่ำ
ร่างแยกซูหมิงยิ้มเยาะ ไม่กล่าวอะไร แต่ชี้นิ้วมือขวาลงไปด้านล่าง ด้านหลังเขาพลันปรากฏศพแห้งเหี่ยวร่างหนึ่งตรงไปยังชายชรา ตกลงสู่พื้นดังตุ้บตรงหน้า เขาก็คือชายร่างกำยำจ้าวเผ่ากระเรียนดำ
ตอนที่เห็นศพนี้ จ้าวเชมันกระเรียนดำพลันหรี่ม่านตา ชาวเผ่าคนอื่นๆ ข้างกายเขาก็พากันมองศพเช่นกัน แต่ละคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี
“ท่านหมายความว่าอย่างไร คนผู้นี้เป็นใคร ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”
จ้าวเชมันกระเรียนดำกัดฟันกล่าวเสียงต่ำ แวบแรกเขาก็รู้แล้วว่านี่คือจ้าวเผ่ากระเรียนดำ ทว่ายามนี้กลับตัดสินใจไม่ยอมรับ เขาไม่แน่ใจว่าชายร่างกำยำสีดำตรงหน้านี้เป็นจีฮูหยินส่งมาหรือว่าเป็นของผู้ครองเทือกเขานั้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ล่วงเกินไม่ได้ ฉะนั้นจึงต้องกัดฟันไม่ยอมรับ
“เจ้าคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับเจ้าอย่างนั้นรึ” นัยน์ตาร่างแยกซูหมิงฉายแววเย็นชา ยกมือขวาขึ้นช้าๆ เผ่าเชมันนี้ทำให้ต้องเผชิญกับภยันตรายเมื่อครึ่งปีก่อน ทุกอย่างหากมิใช่เพราะเขาไม่อยากล่วงเกินใครจนไม่ลงมือสังหารเผ่านี้ แต่เพียงแค่สั่งสอนเท่านั้น เรื่องราวคงไม่เป็นแบบนี้
แม้บอกว่าการปรากฏตัวของหงหลัวกับเหตุการณ์มากมายต่อจากนั้น
สำหรับซูหมิงแล้วมีความหมายอย่างยิ่งก็ตาม แต่ก็ได้สร้างศัตรูในเผ่าเชมันเอาไว้ให้เขาจำนวนมากเช่นกัน ไม่ขอพูดถึงว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ ทว่าต้นตอของเรื่องทุกอย่างนี้ ซูหมิงจะยอมปล่อยไปโดยไม่ต้องชดใช้อะไรเลยได้อย่างไร
แทบทันทีที่ซูหมิงยกมือขวาขึ้น จ้าวเชมันกระเรียนดำเปล่งเสียงคำรามแหลมแล้วพลันพุ่งทะยานเข้ามา ผู้แข็งแกร่งเผ่ากระเรียนดำด้านหลังก็บินขึ้น ตรงไปยังซูหมิงเช่นกัน
ต่างจากความอดกลั้นของเผ่าโคขาว เผ่ากระเรียนดำเลือกลงมือ!
ซูหมิงยิ้มมุมปากเย็นชา แม้ร่างนี้ยังตอบสนองได้ไม่สมบูรณ์ ทว่าเมื่อใช้คู่กับแมลงปีกแข็งสีดำในตัวแล้ว กลับทำให้มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นอีกไม่น้อย
ทันทีที่ชาวเผ่ากระเรียนดำตรงเข้ามา ซูหมิงแค่นเสียงหึ ในตัวเขาพลันเกิดเสียงหึ่งดังสนั่นหู ร่างกายปานแยกออกจากกัน แมลงปีกแข็งสีดำเหล่านั้นบินกระจายออกมากลายเป็นหมอกดำ ขณะเดียวกันก็ยังส่งเสียงร้อง ตรงไปยังชาวเผ่ากระเรียนดำที่พุ่งเข้ามาเหล่านั้นพร้อมกับพลังชั่วร้าย
ในเวลาเดียวกัน ร่างแยกซูหมิงปรากฏขึ้นอย่างแท้จริง เป็นร่างแห้งเหี่ยว ดวงตาสีเทา ผู้พบเห็นเป็นต้องตกใจกลัว
เสียงร้องโหยหวนพลันดังขึ้นระงม คนที่พุ่งขึ้นมาเหล่านั้นถูกแมลงปีกแข็งสีดำกลุ่มใหญ่ปกคลุมร่างกาย กัดฉีกร่างโลหิตสาดกระจาย พวกเขาจึงไม่พุ่งเข้ามาอีก แต่ถอยไปอย่างรวดเร็ว
ร่างแยกซูหมิงยืนอยู่บนมงกุฎของนกกระเรียน มองทุกอย่างด้วยความเย็นชา มือขวาทำสัญลักษณ์มือแล้วชี้ลง พลังฟ้าดินโดยรอบพลันรวมเข้ามา ก่อรูปขึ้นเป็นกระบี่ยักษ์ตรงหน้าเขา กระบี่เล่มนี้ยกขึ้นแล้วฟันลงไปข้างล่าง
จ้าวเชมันแผดเสียงคำราม ผลักสองมือออกไป เมื่อปะทะกับกระบี่ยักษ์โดยมีอากาศคั่นกลาง เขาตัวสั่นสะท้าน ใบหน้าเป็นสีม่วงอมแดง ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะหยุดกระบี่ยักษ์เอาไว้กลางอากาศได้
ร่างแยกซูหมิงยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เพียงกล่าวอย่างเย็นชาหนึ่งคำว่า
“ระเบิด!”
กล่าวจบ กระบี่ยักษ์พลันระเบิดกระจุย ก่อเป็นพายุหมุนประโคมใส่โดยรอบ จ้าวเชมันกระเรียนดำกระอักโลหิต ตัวกระเด็นถอยไป
ทว่าวินาทีที่เขากระเด็นถอย ร่างแยกซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าวแล้วหายวับไป จ้าวเชมันกระเรียนดำเห็นดังนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ดี ตอนที่หมุนตัวกลับทันควัน เขาหรี่ม่านตาลง เห็นนิ้วมือกำลังกดมาทางระหว่างคิ้วตนอย่างรวดเร็ว
นี่คือวิกฤติความเป็นความตาย จ้าวเชมันกระเรียนดำกัดปลายลิ้น พ่นโลหิตคำใหญ่ ร่างเขาซูบผอมอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งชราขึ้นอีกหลายสิบปีในพริบตา รอยเหี่ยวย่นเต็มใบหน้า กลิ่นอายพลังอ่อนแอ ขณะเดียวกับที่ถูกร่างแยกซูหมิงทะลวงระหว่างคิ้ว ร่างเขาค่อยๆ เลือนราง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวเงา
ห่างออกไปหลายสิบจั้งปรากฏร่างชายชราขึ้น ใบหน้าเขาดุจคนตาย สีหน้าหวาดกลัว เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นโดยรอบไม่หยุด นักรบเผ่ากระเรียนดำล้วนถูกแมลงปีกแข็งสีดำที่เป็นอมตะโอบล้อม แมลงเหล่านี้คือแมลงพิลึกที่จีอวิ๋นไห่เลี้ยงด้วยตัวเองในตอนนั้น เรียกได้ว่ามันทำให้เขามีชื่อเสียงด้านความชั่วร้ายในเผ่าเชมัน
เผ่าเล็กแบบนี้จะไปสังหารแมลงง่ายๆ ได้อย่างไร ควรรู้ว่าต่อให้เป็นซูหมิงในตอนแรกก็ต้องกันมันออกจากร่างของจีอวิ๋นไห่ ถึงจะทำให้มันหลับใหลได้
“บรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์กระเรียนดำ ใช้เลือดเนื้อข้าเป็นเครื่องสังเวย ขอท่านจงตื่นขึ้น!” จ้าวเชมันกระเรียนดำมองนักรบในเผ่าตายไปทีละคน ดวงตาแดงก่ำ ฉีกหน้าอกตัวเองอย่างบ้าคลั่งต่อหน้าซูหมิง ไม่สนใจเลือดที่หลั่งไหล ยอมให้ชีวิตดับสูญ ใช้มือควักหัวใจของตัวเองออกมา จากนั้นชูหัวใจที่ยังเต้นอยู่ขึ้น
ซูหมิงมีสีหน้าจริงจัง เขาได้ยินเสียงหลายอย่างดังแว่วมาข้างหู แต่ทันใดนั้น ชาวเผ่าที่กำลังต่อสู้กับแมลงปีกแข็งทยอยกันมีสีหน้าบ้าคลั่ง ฉีกหน้าอกตัวเองตามชายชรา ก่อนควักหัวใจออกมาแล้วชูขึ้นสูง
“บรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์กระเรียนดำ ใช้เลือดเนื้อข้าเป็นเครื่องสังเวย ขอท่านจงตื่นขึ้น…มาเยือนเพื่อลงทัณฑ์บุคคลผู้นี้!” จ้าวเชมันกระเรียนดำกระอักโลหิต กล่าวจบคำ รูปปั้นกระเรียนยักษ์บนยอดเขาเกิดรอยร้าวทันใด พร้อมกับเสียงกึกๆ ดังก้อง ก่อนกลายเป็นเศษจำนวนมากแตกกระจายออกรอบทิศ ขณะเดียวกัน เงาดำเส้นหนึ่งบินมาจากในรูปปั้นหิน กลายเป็นนกกระเรียนสีดำขนาดสิบจั้งหนึ่งตัวกลางอากาศ!
นกกระเรียนตัวนี้ส่งเสียงร้อง ร่างกลายเป็นแสงสีดำตรงมายังจ้าวเชมันกระเรียนดำ ก่อนใช้ปากงับหัวใจ เมื่อกลืนกินแล้วจึงขยับแสงสีดำอีกครั้ง ไม่กี่ลมหายใจก็กลืนหัวใจเซ่นไหว้ลงไปทั้งหมด จากนั้นจึงมองซูหมิงด้วยความเย็นชา
“กับอีแค่หุ่นเชิดวิญญาณหมานเล็กจ้อย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ยังไม่รีบไสหัวไปอีก มิเช่นนั้นแล้วข้าจะกักตัวเจ้าเอาไว้เป็นของเล่น!” หลังจากนกกระเรียนใหญ่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา ก็มีพลังแกร่งกล้าแผ่ขยายมาจากตัวมันในฉับพลัน ความแข็งแกร่งนี้ทำให้ฟ้าดินคล้ายเปลี่ยนสี ชั้นเมฆมืดสลัว
ซูหมิงหรี่ตาจ้องนกกระเรียนสีดำ รู้สึกสงสัยในใจ
“ท่านบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์ จะปล่อยมันไปไม่ได้!” ชายชราเสียหัวใจไป ทว่ากลับไม่ตายอย่างน่าอัศจรรย์ ยามนี้กล่าวคัดค้านอยู่ข้างๆ
“อืม? ได้ ให้เวลาเจ้าสิบลมหายใจ หากเจ้ายังไม่ไป บางทีข้าอาจะเปลี่ยนใจกักตัวเจ้าเอาไว้ ใครๆ ก็รู้ว่าข้าไม่ได้สังหารมาหลายหมื่นปีแล้ว” พลังในตัวกระเรียนดำแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง มันมองซูหมิงด้วยท่าทางโอหังพลางกล่าวช้าๆ
นัยน์ตาซูหมิงวูบไหว พลันแผ่ขยายจิตสัมผัส ทันทีที่ปกคลุมโดยรอบก็กวาดผ่านตัวกระเรียนดำ สุดท้ายก็ไปรวมอยู่ในหินรูปปั้นเกือบครึ่งที่เหลือจากการแตกบนยอดเขา
“จิตสัมผัส!” กระเรียนดำหน้าเปลี่ยนสี ตอนเห็นซูหมิงจ้องรูปปั้นหินเกือบครึ่งนั้น แววตามันกระวนกระวาย ทว่าพริบตาเดียวก็หายไป กลายเป็นอำมหิต
“ยังไม่ไปอีก เช่นนั้นก็อยู่ที่นี่เสีย!” ขณะกระเรียนยักษ์กล่าว พลังในตัวมันแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ฟ้าดินเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น เมฆลมเคลื่อนตัว ร่างกายมันขยายใหญ่ขึ้นอีกจนมีขนาดหนึ่งร้อยจั้ง น้ำเสียงปานน้ำหลาก ก้องกังวานไปทุกสารทิศ
ทว่าซูหมิงกลับไม่สนใจ เขาไม่มองแม้แต่หางตา แต่เดินไปตรงรูปปั้นหินเกือบครึ่งแล้วกดมือขวาลงไป
“จะ…เจ้าจะทำอะไร หยุดมือเดี๋ยวนี้! มีอะไรก็พูดกันดีๆ เถอะ สหาย…”