Skip to content

สู่วิถีอสุรา 590

ตอนที่ 590 ของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นที่เก้า

ระฆังเขาหานกระเด็นถอย!

จิ่วอิงหายไป!

งูน้อยจู๋จิ่วอินเหลือเพียงเศียรกับพลังชีวิตไม่มาก ยามนี้ถูกโยนไกลออกไป!

ตี้เทียนมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว น้อยนักที่จะเห็นเขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้

“กับอีแค่ระฆังปลอมแห่งทะเลทรายรกร้างบูรพา ยังกล้ามาผนึกข้า!” เส้นผมตี้เทียนพาดอยู่บนบ่า เดิมทีมือซ้ายเป็นสีดำทึบ ทว่าตอนนี้ผิวหนังกลับคืนสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว ของเหลวสีดำหยดลงมาจากแผลที่งูน้อยกัด ดูจากลักษณะแล้วอีกไม่นานก็จะฟื้นกลับมาอย่างสมบูรณ์

ช่วงที่ตี้เทียนก้าวเท้ายาวมาด้วยสีหน้าโกรธ หมายจะปิดฉากละครตลกที่เขาคิดขึ้นในครั้งนี้ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเย็นชา ทันใดนั้นก็มีเสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นกลางชั้นเมฆด้านบน

วินาทีนี้เอง ตี้เทียนหรี่ม่านตาอย่างชัดเจนก่อนที่ร่างจะค่อยๆ หายไป ขณะเดียวกันนั้น สายฟ้าดังสนั่นหูก็ผ่าลงมายังจุดที่ตี้เทียนหายไป ทำให้ทุกอย่างพังทลายลง!

ซูหมิงยกมือขวาคว้าอากาศ ภยันตรายร้ายแรงผุดขึ้นทั้งตัวในทันใด เขาเรียกโอสถมอบจิตมาไว้ในมือแล้วกินลงไปอย่างไม่ลังเล

ทันทีที่กินไป ตี้เทียนก็เดินออกมาจากมวลอากาศด้านหลัง ยกมือขวาขึ้นกดฝ่ามือไปยังกลางกระหม่อมของซูหมิงพร้อมด้วยความน่าเกรงขามเป็นหนึ่งซึ่งไม่อาจต่อต้าน!

อีกทั้งขณะวางฝ่ามือลง มวลอากาศโดยรอบซูหมิงยังถูกผนึกไว้ เขาจึงไม่มีโอกาสหลบฝ่ามือแห่งความตายนี้ได้เลย!

หากถูกโจมตีซูหมิงจะเสียความทรงจำทุกอย่าง เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง….บางทีเขาอาจยังเป็นเขา ทว่าก็ไม่ใช่เขาอีก!

ฝ่ามือกำลังเข้ามาใกล้แล้ว นี่คือการลิขิตชะตาของซูหมิง ทว่าเรื่องทั้งหมดใช่ว่าจะเอ่ยออกมาได้ ทุกเรื่องย่อมมีสิ่งที่คาดไม่ถึง! ตอนที่ตี้เทียนคิดว่าฝ่ามือนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดและห่างจากกลางกระหม่อมซูหมิงเพียงสามชุ่น พลันมีแสงสีทองหนึ่งเส้นแผ่ขยายมาจากตัวซูหมิง!

แสงสีทองนี้มีทั้งหมดห้าชั้น กำลังขยายตัวออก เมื่อชั้นแรกปะทะกับฝ่ามือตี้เทียนแล้วก็แตกกระจาย แต่วงในที่อยู่ใกล้ซูหมิงกลับมีเพิ่มมาอีกหนึ่งชั้น

ม่านแสงแตกกระจายและเพิ่มอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ในชั่วพริบตาสั้นๆ ม่านแสงแตกไปมากกว่าหลายหมื่นชั้น ทว่ากลับไม่พังทลายลง และยังคงอยู่ตลอด!

ม่านแสงสีทองห้าชั้นนี้วนเวียนสลับกันไปตลอด มันก็คือผนึกห้าเหลี่ยมที่ผนึกมือซ้ายเทพหมานรุ่นสองไว้!

ผนึกนี้สามารถกำราบมือซ้ายเทพหมานรุ่นสอง อานุภาพย่อมไม่ธรรมดา ร่างแยกตี้เทียนจะไปทำลายมันในเวลาสั้นๆ ได้อย่างไร!

ภายในม่านแสง กลิ่นอายพลังของซูหมิงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง หลังจากกินโอสถมอบจิตไป ตอนนี้ในตัวเขาจึงมีกลิ่นอายพลังเทพหมานรุ่นสอง กลิ่นอายพลังนี้ตี้เทียนคุ้นเคยยิ่งนัก ทำให้หน้าเขาเปลี่ยนสี

ทว่าชั่วขณะที่หน้าเปลี่ยนสีก็ปรากฏหม้อสามขาเก้ารูในชั้นเมฆบนฟ้าอีกครั้ง ภายในตัวมันเดิมทีมีสี่รูถูกสายฟ้าอัดจนแน่น ทว่าตอนนี้มีเพียงสามรูที่ยังมีสายฟ้าอยู่ หลังจากมันเผยตัวก็มีสายฟ้าสีแดงฟาดผ่าลงมายังตี้เทียน

“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะควบคุมสายฟ้าเทพชะตาฟ้าลิขิตได้ ซู่มิ่ง ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าอีกแล้ว! แต่สายฟ้าเทพชะตาฟ้าลิขิตกับผนึกนี้น่าจะเป็นอุบายสุดท้ายของเจ้า!

ข้าอยากรู้นักว่าหลังจากเปิดผนึกห้าเหลี่ยมของเจ้าแล้ว เจ้าจะต่อต้านอย่างไรอีก มรดกเทพหมานรุ่นสองอย่างนั้นรึ….”

ด้วยความที่ตี้เทียนเป็นคนเจ้าแผนการ เขาจึงอ่านออกในแวบแรกว่าผนึกห้าเหลี่ยมนี้ซูหมิงไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้น เหตุที่สิ่งนี้ปกป้องซูหมิงเป็นเพราะกลิ่นอายพลังเทพหมานรุ่นสองจากตัวอีกฝ่าย

บอกว่าปกป้อง ทว่าจริงๆ แล้วคือการผนึกเสียมากกว่า!

คนในออกไม่ได้ คนนอกก็เข้าไม่ได้

แต่สำหรับตี้เทียนในตอนนี้แล้ว ผนึกห้าเหลี่ยมกลับปกป้องซูหมิงจริงๆ ฉะนั้นแม้จะรู้ว่าสิ่งนี้เป็นผนึกก็ยังคงเลือกเปิดมัน!

ด้วยพละกำลังของเขา บางทีเวลาสั้นๆ อาจไม่พอ ทว่าเขาเงยหน้ามองสายฟ้าด้านบนแวบหนึ่งก่อนยิ้มเยาะมุมปาก จากนั้นยกมือขวาขึ้นชี้สายฟ้าสวรรค์ ส่วนมือซ้ายกดบนม่านแสงผนึกห้าเหลี่ยม

ฉับพลันนั้น สายฟ้าสีแดงผ่าลงมายังตี้เทียน ตัวเขาสั่นสะท้าน ถูกสายฟ้าโอบล้อมไว้ในคราเดียว แต่สายฟ้าไหลมาตามตัวเขาผ่านมือซ้ายแล้วระเบิดใส่ผนึกห้าเหลี่ยม

สายฟ้าเส้นหนึ่งผ่าลงมาอีก ตี้เทียนคำรามเสียงต่ำพร้อมกับกำหมัดซ้าย ช่วงที่แสงสายฟ้ารวมอยู่ในทั้งตัวเขาก็ชกหมัดใส่ผนึกห้าเหลี่ยมนั้น

หนึ่งฝ่ามือกดลง ผนึกห้าเหลี่ยมขยับแสงสายฟ้าแล้วเกิดรอยร้าวขึ้น ก่อนจะแตกกระจายไม่หยุดภายใต้การโจมตีนี้ ความเร็วในการฟื้นฟูและเพิ่มจำนวนก็ตามไม่ทันการทำลาย ม่านแสงที่คงอยู่ไม่ใช่ห้าชั้นแล้ว แต่มีเพียงสามชั้นเท่านั้น

ซูหมิงไม่อาจหลบหลีก แม้อยู่ในผนึกห้าเหลี่ยม แต่โดยรอบกลับถูกผนึกเขาจึงถอยไปไม่ได้ ไม่อาจต่อต้านหรือดิ้นรน ทว่าเขาก็ไม่ได้ดิ้นรนอะไร เพียงนัยน์ตาสงบนิ่ง จับจ้องการกระทำของตี้เทียน

เศษหินสีดำตรงคอขยับแสงวูบวาบ ในช่วงปลอดภัยระยะสั้นๆ นี้ เขายังมีเวลาจะปรับแก้แผนของตน

ยามนี้สายฟ้าเส้นสุดท้ายผ่าลงมา ตอนที่ปะทะกับตี้เทียน นัยน์ตาเขาเป็นประกาย แต่ชั่วขณะที่ยกมือขวาเตรียมจะสัมผัสม่านแสง ใช้พลังสายฟ้าเทพสวรรค์ลิขิตเสริมระดับพลังตัวเองก่อนส่งไปยังซูหมิงเพื่อไม่ให้ตนบาดเจ็บ ทั้งยังให้ซูหมิงต้องรับกรรมแทน ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น!

ซูหมิงยกยิ้มมุมปากเย็นชา วินาทีที่ตี้เทียนจะให้เขารับสายฟ้าแทนนั้น ร่างกายซูหมิงก็ถูกแสงอ่อนจางปกคลุมแล้วหายวับไป!

หลังจากเขาหายไป ผนึกห้าเหลี่ยมก็หายตามไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นแผนที่ตี้เทียนเตรียมจะส่งพลังสายฟ้าให้กับซูหมิงจึงสูญเปล่า!

ตี้เทียนพลันหรี่ตา สายฟ้าผ่าลงมาระเบิดบนตัวเขา ทั้งตัวเต็มไปด้วยสายฟ้าไหลเวียน ทำให้เขากระอักเลือดเป็นครั้งแรกในการต่อสู้นี้!

นอกจากนี้เขายังรู้สึกชาภายใต้สายฟ้าที่ไหลเวียนทั่วร่างกาย ระดับพลังในร่างหยุดชะงักไปชั่วพริบตา หากเป็นเวลาอื่นเรื่องนี้จะไม่มีผลอะไรเลย ทว่าขณะเดียวกับที่แผนการของตี้เทียนล้มเหลว ซูหมิงที่หายตัวไปกลับปรากฏตัวอีกครั้ง!

ตอนเขาก้าวเข้าสู่มิติของเศษหินก็ได้คายโอถสมอบจิตออกมา ฉะนั้นการปรากฏตัวครั้งนี้จึงไม่มีผนึกห้าเหลี่ยมมาขวางอีก เคลื่อนตัวตรงไปหาตี้เทียนทันใด

“ตี้เทียน นี่คือของขวัญใหญ่ชิ้นที่เก้าที่ข้าเตรียมเอาไว้ให้เจ้า!” ซูหมิงมีสีหน้าเย็นชา นัยน์ตาเผยจิตสังหาร ก่อนใช้มือซ้ายที่มีเส้นลายมือสีดำกดไปตรงระหว่างคิ้วตี้เทียน

เสียงระเบิดดังกึกก้อง ขณะตี้เทียนคำรามด้วยความเดือดดาล ซูหมิงกระอักโลหิตออกมา จังหวะเดียวกับที่จะถูกแรงสะท้อนกระแทกกลับไป

เขายกมือขวาขึ้น หนามกระดูกสีดำปรากฏขึ้นโดยทันที!

นี่คือหนามเทพหมาน เป็นชิ้นเดียวกับที่ได้มาจากซือหม่าซิ่น!

ชั่วขณะที่กระเด็นถอย ซูหมิงใช้การเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาเอาหนามเทพหมานปักลงบนหน้าอกตี้เทียนอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าต้องบาดเจ็บหรือไม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!