ตอนที่ 1043 เจ้าปกครองแดนประหลาด
ทันทีที่มันหยุดชะงัก ซูหมิงพลันเดินหน้าหนึ่งก้าว ผืนฟ้าสีม่วงสี่แสนแห่งข้างหลังหมุนวนกลายเป็นปากใหญ่ยักษ์ แล้วตามซูหมิงเข้าไปเขมือบชายชราสีเทา
ชายชราร่างแปลงเอ้อชางสีเทานัยน์ตาเผยประกายดุจดั่งความเงียบสงัด จ้อง ซูหมิงตาเขม็ง ช่วงที่ปากใหญ่มหึมาด้านหลังซูหมิงเขมือบเข้ามา เขาก็เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า
“เขียวเข้มและเหลืองสองสี พวกเจ้ายังรออะไรอีก!” สิ้นเสียงคำราม เอ้อชางในผืนฟ้าสีเขียวเข้มพลันตาแวววาว มันขยับวูบไหวพุ่งชนปราการฟ้าของเอ้อชางสีเหลืองข้างๆ
นัยน์ตาเอ้อชางสีเหลืองฉายแววดิ้นรน แต่ไม่นานก็กลายเป็นเด็ดขาด ก่อนจะพุ่งออกไปชนปราการไร้รูปที่ขวางเอ้อชางสีเขียวเข้มเอาไว้
เมื่อเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ปราการพังทลายลง เอ้อชางสีเขียวเข้มกับเอ้อชาง สีเหลืองต่างมองหน้ากันและกัน แล้วต่างเห็นถึงความละโมบในแววตาอีกฝ่าย ต่างฝ่ายต่างเงียบ แต่ก็เข้าปะทะกันทันที นี่คือการหลอมรวมที่ไม่ต้องใช้อภินิหารวิชา ส่วนใครจะเป็นตัวนำนั้นก็ยากจะคาดเดาได้ เพราะพวกมันสองตัวมีพลังสูสีกัน
“นี่ก็คือแผนการของพวกเจ้าอย่างนั้นรึ” ซูหมิงยิ้มเยาะ ปากใหญ่จากฟ้ากระจ่างดาว สี่แสนแห่งข้างหลังตรงเข้ามาใกล้ ความเงียบสงัดในแววตาชายชราสีเทาเข้มข้นขึ้น เขายกสองมือขึ้น ใช้มือซ้ายกำข้อมือขวาไว้ข้างหน้า ส่วนมือขวาตั้งขึ้นเป็นลักษณะดาบ แล้วยกสองมือขึ้นพร้อมกัน ดวงตาเปล่งแสงสว่างแล้วก็มอดดับลงอีกครั้ง ทันใดนั้นมีพลังทำลายล้างที่ทำให้ซูหมิงใจสั่นสะท้านปะทุมาจากตัวชายชราสีเทา
“สีม่วง ในความทรงจำที่เจ้าได้รับไม่มีรูปแบบนี้…เอ้อชางตัดสวรรค์!”
ชายชราสีเทากล่าวเสียงแหลม มือขวาฟันอากาศไปทางซูหมิง!
แสงสว่างสีเทาโผล่มาจากในฟ้ากระจ่างดาว ฉีกแยกมวลฟ้าออกมาตรงหน้า ชายชราสีเทา เหตุการณ์นี้ทำให้ซูหมิงหรี่ตาลง ลักษณะการฉีกฟ้าทำให้เขานึกถึงตรงชายทะเลลำดับห้า ตอนที่เห็น…จูโหย่วไฉใช้ทวนสิ้นสูญที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์วาดผ่านไปแล้วเกิดเป็นรอยแยกมวลอากาศที่กินหลายพันคนรวมถึงยอดฝีมือหลายคน
ยามนี้รอยแยกสีเทาตรงหน้าเขามอบความรู้สึกที่ใกล้เคียงกัน ความรู้สึกอันตรายปรากฏตามขึ้นมาในใจ เขายังเห็นอีกว่าหลังจากชายชราร่างแปลงเอ้อชางสีเทาใช้รูปแบบนี้แล้วร่างกายยังแหลกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นพลังต้นกำเนิดเอ้อชางจำนวนมากกระจายไปรอบๆ
เห็นได้ชัดว่าเขาลบจิตสำนึกตัวเองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนในการโจมตีครั้งนี้!
ขณะเดียวกัน ต้นกำเนิดที่กระจายออกไปของเอ้อชางสีเทาล้วนม้วนตรงไปยังฟ้าของเอ้อชางสีเขียวเข้มและเหลืองที่กำลังหลอมรวมกัน ดูจากลักษณะแล้วคงจะไปหลอมรวมกันที่นั่น ให้เอ้อชางสองตัวสุดท้ายกินเพื่อเพิ่มความเร็วในการผสานรวม เป็นการเร่งให้ร่างจริงเอ้อชางในเพลงกลอนตื่นขึ้นเร็วกว่าเดิม
ต้นกำเนิดของเอ้อชางสีเทาไม่ได้หลอมรวมเข้าไปอย่างเดียว แต่ม้วนต้นกำเนิดหลังจากเอ้อชางสีดำระเบิดตัวเองเข้าไปหลอมรวมกับฟ้าของสีเขียวเข้มกับเหลืองด้วย หากซูหมิงหลบรอยแยกสีเทาที่ตรงเข้ามา เขาก็จะพลาดโอกาสไป ส่งผลให้เมื่อ ต้นกำเนิดเหล่านี้หลอมรวมเข้าสู่ฟ้าสีเขียวเข้มกับเหลืองแล้ว มันไม่เพียงแต่เร่งความเร็วให้ร่างจริงเอ้อชางโผล่มาเท่านั้น แต่ยังทำให้ร่างจริงเอ้อชางที่ตื่นขึ้นมีพลังมากขึ้นไม่น้อย
มีเพียงต้องขวางไว้เท่านั้น อีกทั้งวิธีที่ทำให้ซูหมิงแข็งแกร่งขึ้นก็คือต่อต้านการตัดที่ตรงเข้ามา มีแต่แบบนี้เขาถึงจะมีเวลากินต้นกำเนิดเอ้อชางสีเทากับสีดำ ถึงเอ้อชาง สีเขียวเข้มกับเหลืองจะหลอมรวมกัน ถึงจะตื่นขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาอยู่ดี
นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายรวดเร็วดุดัน เส้นผมยาวเปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างว่องไว ซูหมิงสีเทาเป็นตัวแทนของสติปัญญาและความสงบนิ่งที่สุด เขาในยามนี้แม้ฟ้ากระจ่างดาวพังลงตรงหน้าก็ยังอารมณ์ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย ซ้ำแล้วในตอนนี้ ตรงระหว่างคิ้วยังมีเนตรปีศาจลืมตาออกมา ขณะที่เผยเป็นเส้นดวงตา ภายในยังเปล่งประกายแสงประหลาด
ดวงตาที่สามทำให้ซูหมิงขยายเรื่องราวทุกอย่างได้มากไม่รู้กี่เท่า และมองพิรุธออก ประกอบกับจิตใจของชุดคลุมเทามีสติปัญญาสูงสุด จึงมากพอที่จะปะทุศักยภาพที่เหนือกว่าขั้นพลังเขาในอดีต
พร้อมกันนั้น ฟ้าสี่แสนแห่งข้างหลังเขายังเกิดเสียงระเบิดและกลายเป็นปากใหญ่มายา มันดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม พลังที่รวมออกมาเป็นดั่งสายรุ้งอยู่ข้างหน้าและหลังปากใหญ่มายา กลายเป็นดวงจันทร์ภัยพิบัติสีเทายักษ์ดวงหนึ่ง
การมาของดวงจันทร์ทำให้ฟ้าสั่นสะเทือน โดยรอบเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เสียงครึกโครมดังก้องไปทั้งผืนฟ้า
ซูหมิงใช้มือขวาคว้าอากาศไปข้างๆ ตรงนิ้วมือปรากฏแหวนสีม่วงอมดำวงหนึ่ง ก่อนกลายเป็นทวนสิ้นสูญและถูกคว้าอยู่ในมือ จากนั้นเขาหลับตาลง มีเพียงดวงตา ที่สามที่ลืมขึ้น ช่วงที่เพ่งมองรอยแยกจากการตัดเอ้อชางกลางฟ้าที่พุ่งเข้ามาใกล้ ในความคิดเขาลอยขึ้นมาเป็นการโจมตีครั้งนั้นที่กวาดล้างฟ้าดินนอกทะเลลำดับห้าของ จูโหย่วไฉ!
ชีวิตมีอะไรให้น่าดีใจ!
การโจมตีครั้งนี้ฉายซ้ำไปซ้ำมาในความหัวเขาเป็นพันครั้งในพริบตา มิหนำซ้ำหลังจากดวงตาที่สามใช้วิธีเล็กน้อยขยายมันไม่หยุดแล้ว ก็เห็นว่าระหว่างการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ทุกครั้งจะมีพลังนั้นออกมา
การตัดแห่งเอ้อชางเข้ามาใกล้จนอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงสิบจั้งแล้ว ด้วยความเร็วของมันพริบตาเดียวก็เข้ามาใกล้ แต่ว่ากาลเวลาทุกอย่างช้าลงมากในสายตาดวงตาที่สามของซูหมิง การโจมตีแยกฟ้าของจูโหย่วไฉในความคิดเขาตอนนี้ฉายซ้ำกันเกือบ หมื่นครั้งแล้ว
“หนึ่งจิตใจแน่วแน่ หนึ่งความหมายแห่งความบ้าอำนาจของยอดฝีมือขั้นเกิด นั่นคือ…ตอนที่ใกล้จะก้าวสู่ขั้นดับ จะมองความเป็นตายในใจออก ดังนั้นถึงพูดประโยคนั้นออกมา…
ชีวิตมีอะไรให้น่าดีใจ…
ชีวิตมีอะไรให้น่าดีใจ…” ซูหมิงพึมพำเบาๆ รอยแยกจากการตัดของเอ้อชางมากับการทำลายล้างไปพร้อมกัน มันเข้ามาใกล้เขาในพริบตา ยามนี้ห่างไม่ถึงสามจั้งแล้ว อาภรณ์เขาโบกสะบัด ปากใหญ่จากฟ้าสีม่วงรอบตัวเกิดเค้าลางจะแหลกสลาย ดวงจันทร์ภัยพิบัติสั่นสะท้าน
“ชีวิตมีอะไรให้น่าดีใจ…หากวันหนึ่งสหายข้าจากไปทั้งหมด มารดาข้าไม่ตื่นขึ้น ชั่วนิรันดร์ ซูเซวียนอีก็ยังหายตามไป ท่านปู่ก็ดี เทียนเสียจื่อก็ดี ศิษย์พี่สามคนรวมถึงคนที่ข้ารู้จักทั้งหมด พวกเขา…ทยอยกันหายไปตามกาลเวลา ในฟ้าดินแห่งนี้เหลือเพียงข้าคนเดียว…
เช่นนั้น ชีวิต…มีอะไรให้น่าดีใจ?” ซูหมิงอดเกิดความรู้สึกอ้างว้างขึ้นมามิได้ เขาลืมตาสองข้าง ภายในนั้นมีความเงียบเหงาและสับสน ระหว่างที่การตัดแห่ง เอ้อชางเข้ามาถึงตัว เขายกมือขวาที่กำทวนสิ้นสูญขึ้นแล้วกวาดไปข้างหน้าเบาๆ
ขณะกวาดมอง รูปลักษณ์เขายังให้ความรู้สึกที่แม้จะไม่เหมือนจูโหย่วไฉทุกประการ แต่ก็มีความคล้ายกันสามถึงห้าส่วน จากการกวาดไป ดวงจันทร์ภัยพิบัติข้างหลังเขาพลันแตกออกเป็นเศษนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าไปหลอมรวมยังทวนยาวในมือ
ทำให้ทวนสิ้นสูญของซูหมิงที่กำลังกวาดอยู่เหมือนมีพลังที่สามารถแยกฟ้าออก…จึงเกิดเป็นรอยแยกฟ้าหนึ่งสาย!
ในเวลาเดียวกันปากใหญ่ที่รวมจากฟ้าสีม่วงสี่แสนแห่งข้างหลังก็รวมเข้ามายังทวนสิ้นสูญราวกับทวนยาวเป็นหลุมดำ มันสูบฟ้าสี่แสนแห่งราวกับหมอกเข้าไปตรงปลายแหลมทวนยาว มีผลให้พลังที่สามารถฉีกฟ้าเพิ่มขึ้นทันที และยังทำให้ซูหมิงตัวสั่น เหตุที่เขาใจสั่นสะท้านคือเขารู้สึกว่าขั้นพลังของตน พลังชีวิตของตน แก่นสำคัญทุกอย่างในร่างกายตน ในเวลานี้ถูกทวนมุ่งสิ้นสูญสูบไปไม่น้อย ทวนมุ่งสิ้นสูญวาดเป็นแสงสว่างจ้าตรงหน้าเขา ฉีกออกเป็นรอยแยกฟ้าราวๆ ครึ่งจั้งสายหนึ่ง
ชั่วขณะที่รอยแยกปรากฏ พลังทำลายล้างก็ระบายออกมาจากข้างในแล้วพุ่งไปยังการตัดแห่งเอ้อชาง
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น สั่นสะเทือนทั้งแดนประหลาดวงแหวนบูรพา ทวนสิ้นสูญในมือเขาถูกดีดขึ้น เขากระอักเลือดอึกใหญ่ ร่างถอยหลังไปหลายก้าว ขณะที่เงยหน้าขึ้นนัยน์ตายังฉายแววเย็นชา การโจมตีครั้งนี้พูดได้ว่าเป็นการโจมตีที่แกร่งที่สุดของเขา เป็นการเลียนแบบชีวิตมีอะไรให้น่าดีใจของจูโหย่วไฉ ถึงจะไม่ได้เลียนแบบทั้งหมด แต่เพียงแค่สามส่วนกว่าก็มากพอจะทำให้ยอดฝีมือขั้นชะตาทุกคนบาดเจ็บสาหัส มิหนำซ้ำการตัดแห่งเอ้อชางที่เอ้อชางสีเทาลบจิตสำนึกตัวเองเป็นราคาแลกมาก็ไม่ได้สมบูรณ์ มีเพียงพลังส่วนเดียวของร่างจริงเอ้อชางในตอนนั้นเท่านั้น
ท่ามกลางเสียงโครมคราม ซูหมิงฝืนให้ตัวเองหยุดนิ่ง ความรู้สึกอ่อนแรงกระจายไปทั่วร่าง เขามีสีหน้าเด็ดขาด ร่างฝืนพุ่งไปข้างหน้าพลางอ้าปากกว้างสูบกินต้นกำเนิดเอ้อชางที่กำลังจะหลอมรวมเข้าสู่ฟ้าสีเขียวเข้มกับเหลือง จากการสูบครั้งนี้ พลังต้นกำเนิดของเอ้อชางสีเทากับสีดำจำนวนมากโดยรอบม้วนเข้ามา พริบตาเดียวก็มุดเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายเขา ขณะเดียวกับที่มันบำรุงร่างกายยังทำให้เขาเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ทั่วร่างเกิดเสียงกึกๆ ดังมาจากภายใน เส้นผมยาวจากเอวไปจนถึง ขาสองข้าง ใบหน้าดูชั่วร้ายยิ่งกว่าเดิม ดวงตาเป็นสีม่วงยิ่งกว่าเดิม!
ตอนที่ซูหมิงขวางต้นกำเนิดเอ้อชางสีเทากับดำไม่ให้เข้าฟ้าสีเขียวเข้มกับเหลือง มีเสียงคำรามดังก้องมาจากในฟ้าสีเขียวเข้มและเหลือง ความดุร้ายบ้าคลั่งที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายโบราณดึกดำบรรพ์ปะทุออกมา กลิ่นอายพลังนี้มาพร้อมกับความ คลุ้มคลั่ง ซ้ำยังมีความรู้สึกชำเลืองมองจากเบื้องบนอัดแน่นอยู่เต็มฟ้าสีเขียวเข้มและเหลือง ประหนึ่งเพิ่งตื่นขึ้น
ซูหมิงดวงตาแวววาว เขายกมือขวาขึ้น ทวนสิ้นสูญก็กลับมาอยู่ในมือทันที สายตาจ้องฟ้าสีเขียวเข้มและเหลืองที่ตอนนี้กำลังหมุนตลบ
“เจ้า…อยากกินข้า?” เสียงเลือนรางแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายเก่าแก่โบราณดังก้องมาจากในฟ้าสีเขียวเข้มและเหลือง
แทบเป็นช่วงที่เสียงดังแว่วมา ซูหมิงยังไม่ทันทำอะไร ก็มีแรงระเบิดตัวเองพร้อมกับเสียงครึกโครมแผ่กระจายมาจากในฟ้าสีเขียวเข้มและเหลือง ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ซูหมิงหน้าเปลี่ยนสี ไม่ใช่เพราะขั้นพลังเอ้อชางที่ตื่นขึ้นแข็งแกร่งมาก แต่เป็นเพราะ…ความเด็ดขาดและปลิ้นปล้อนของเอ้อชางในเพลงกลอน!
ช่วงที่มันระเบิดตัวเอง ซูหมิงรู้สึกได้ว่าในแดนแผ่นศิลาแสนอัน แผ่นศิลาสีเขียวเข้มและเหลืองสองหมื่นอันระเบิดออกพร้อมกัน กลิ่นอายพลังเอ้อชางถูกแบ่งเป็นสองส่วน มุดเข้าไปในตัวผู้ฝึกฌานสองหมื่นคนของพวกมัน ทำให้ผู้ฝึกฌานต่างตัวขยายใหญ่ขึ้นมาโดยพลัน ขณะร้องคำราม ทั้งแดนประหลาดวงแหวนบูรพายังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเหมือนกับถูกบีบให้เปิดเป็นทางออก แรงสูบมหาศาลม้วนผู้ฝึกฌานสองหมื่นคนที่มีกลิ่นอายพลังเอ้อชาง….ออกจากแดนประหลาดวงแหวนบูรพา ไปปรากฏอยู่ในแต่ละมุมของฟ้ากระจ่างดาววงแหวนบูรพา!
“สองหมื่นส่วน หากเจ้าไม่ได้กินข้าแม้เพียงส่วนเดียว ข้าเอ้อชาง สักวันหนึ่งจะผงาดขึ้นอีกครั้ง!” ทั้งฟ้ากระจ่างดาววงแหวนบูรพาดังก้องไปด้วยเสียงเปรี้ยงปร้างราวกับฟ้าผ่าสองหมื่นเสียง
เหตุการณ์นี้เหมือนกับตอนที่เอ้อชางสู้กับซุ่ยเฉินจื่อแล้วแยกออกเป็นสิบส่วน เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันเจ็บหนักยิ่งกว่า จึงไม่กล้ายืนอยู่ แต่เลือกแยกออกเป็น….สองหมื่นส่วน!
ซูหมิงมีสีหน้าทะมึน สายตามองฟ้ากระจ่างดาวแดนประหลาดอันกว้างใหญ่ เหตุการณ์นี้อยู่เหนือการคาดเดาแล้ว เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เป็นเจ้าปกครองแดนประหลาดวงแหวนบูรพาแล้ว