ตอนที่ 1281 ไปวิหารเหล่าเทพ
สามรกร้างผู้ร้ายกาจ!
วางแผนเรื่องราวในสองสมัย ค่อยๆ ส่งฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณออกจากมหาโลกสามรกร้างโดยไม่รู้ตัว ให้ไปอยู่ในเขตแดนที่ควรจะเรียกว่าโลกที่สองของสามรกร้าง รอคอยอยู่ที่นั่นเงียบๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่เหมาะสม ก็ใช้ช่องโหว่ ยืดยาวไปถึงมหาโลกซางเซียง และยังหมายจะใช้วิธีนี้ควบคุมสามปีก ให้การซ้อน ทับกันของสี่ปีก…มาถึงก่อนเวลา!
‘เกรงว่าต่อให้เป็นข้าก็ยังถูกสามรกร้างใช้ประโยชน์อยู่หนึ่งครั้ง ที่เกิดภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณที่น้ำวนมรณะหยินก็เพื่อบีบให้ข้าเข้ามาในมหาโลกซางเซียง!
ให้การปรากฏตัวของข้าทำให้มหาโลกซางเซียงเท่ากับสามรกร้าง ทำให้โลก ซางเซียงเกิดช่องโหว่!’ ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาววับ ทั้งยังมีความรวดเร็วและดุดัน หากบอกว่าก่อนหน้านี้เขาจำเป็นต้องร่วมมือกับซางเซียง เช่นนั้นตอนนี้ซูหมิงจะยอมรับทั้งหมด
ในนิสัยเขามีสติปัญญาอยู่!
สติปัญญานี้คือ ความเหี้ยมโหดที่ใช้ประโยชน์เขา ครอบงำชีวิตทุกอย่างของเขาและจ่ายราคาต้องจ่ายออกไป ซูเซวียนอีเป็นเช่นนี้ ตี้เทียนก็เป็นเช่นนี้ ดวงจิตสามรกร้าง…ก็คงจะเช่นกัน!
“เดิมทีการซ้อนทับกันยังเหลือเวลาอีกสามพันเจ็ดร้อยกว่าปี แต่ตอนนี้เหลือ ห้าร้อยปีแล้ว คิดว่าข้าคงยืดเวลาได้แค่ห้าร้อยปี ห้าร้อยปีจากนี้…สี่ปีกจะซ้อนทับกัน มหันตภัยจะมาเยือน” ดวงจิตซางเซียงถอนหายใจเบา ตอนที่เสียงพึมพำดังก้อง ซูหมิงเข้าสู่ความเงียบ
สิ่งที่ทำให้เขาเงียบไม่ใช่เวลาห้าร้อยปี แต่เป็นเวลาที่เดิมทีมหันตภัยจะมาเยือน…สามพันเจ็ดร้อยกว่าปี
กระทั่งซูหมิงยังรู้แน่ชัดว่าหากมองจากจุดหนึ่งในกาลเวลาโดยละเอียด ก็น่าจะเป็นสามพันเจ็ดร้อยกว่าปี
เสียงวิญญาณวงแหวนอาคมจากในวงแหวนอาคมธูปสวรรค์เหมือนดังขึ้นมาในความคิดเขาอีกครั้ง
‘สามพันเจ็ดร้อยยี่สิบเอ็ดปีจากนี้ ข้าจะกลับมาติดไฟอีกครั้ง…’
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะช่วยเจ้า” ความแน่วแน่ววูบผ่านสีหน้าซูหมิง ตอนที่เงยหน้าขึ้นก็มองไปบนฟ้าไกลๆ พร้อมพูดขึ้นราบเรียบ
“ขอบคุณ…เจ้าต้องการยึดร่างดวงจิตของโลกใด?”
“โลกใดที่ตรงข้ามกับโลกจักรพรรดิยมโลกในสามรกร้าง?” นัยน์ตาซูหมิงฉายประกายพิลึกแล้วถามขึ้นเรียบๆ
“โลกแท้จริงดาราโบราณ…ที่เจ้าอยู่ตอนนี้”
“ข้าต้องการดวงจิตของที่นี่!” ซูหมิงตอบกลับไปอย่างเด็ดขาดและไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ทันทีที่สิ้นประโยคนี้ ดวงจิตซางเซียงรอบๆ พลันกลายเป็นพายุคลั่งล้อมซูหมิง ก่อนม้วนตลบไปรอบๆ พริบตาเดียวก็หมื่นลี้ จากนั้นถึงหายไปในทันใด มีเพียง จิตสัมผัสซูหมิงที่ตรวจพบว่าพายุคลั่งนี้กวาดล้างไปทั่วโลกแท้จริงดาราโบราณแล้ว จุดที่ผ่าน ดวงจิตของโลกแท้จริงดาราโบราณเดิมหายไปบัดดล
เพียงไม่กี่ลมหายใจ หลังจากที่พายุคลั่งจากดวงจิตซางเซียงขยายไปเหนือกว่า โลกแท้จริงดาราโบราณแล้ว ภายในโลกแท้จริงดาราโบราณไม่มีดวงจิตใดอีก
กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ราวกับร่างไร้วิญญาณ วิญญาณทุกดวงยึดครองได้ นี่คือการช่วยเหลือซูหมิงโดยดวงจิตซางเซียง ทำให้เขายึดครองหนึ่งโลกแท้จริงได้สบายยิ่ง!
แทบเป็นช่วงที่โลกแท้จริงดาราโบราณไม่มีดวงจิต ซูหมิงพลันแผ่ขยายดวงจิตออกไป ชั่ววูบเดียวก็หลอมรวมเข้าไปข้างใน พริบตาที่ดวงจิตเขาหลอมรวมเข้าไปในโลกดาราโบราณ ดวงจิตเขาเพิ่มขึ้นทันทีเหมือนกับได้รับการเติมเต็มครั้งใหญ่กับ การบำรุงพิเศษ เพียงไม่กี่ลมหายใจ ดวงจิตซูหมิงวนเวียนทั่วทั้งโลกแท้จริง ดาราโบราณ อีกทั้งหลังยึดครองทั้งหมดกลายเป็นร่างแยกตนแล้ว ซูหมิงสังเกตเห็นชัดว่าดวงจิตตน…เพิ่มขึ้นมามากกว่าห้าส่วน!
จากการหลอมรวมดวงจิตโลกแท้จริงสามดวงทำให้ระดับชีวิตเขาเพิ่มสูงขึ้นทันที ส่งผลให้เขาในตอนนี้เหมือนกับเทพเจ้า!
ดวงจิต พลัง ดวงจิตบรรพชนวิญญาณ!
สามสิ่งนี้ล้วนเป็นตัวหลัก ล้วนมีเส้นทางที่ก้าวไปสู่จุดสูงสุด ตอนนี้ดวงจิตซูหมิงแกร่งอย่างยิ่งแล้ว พลังเขาอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ขอเพียงเขายกระดับวิญญาณ อีกหลายครั้งสำเร็จก็จะหลอมรวมกับพลัง ซ้ำยังรวมกับดวงจิตบรรพชนวิญญาณ เข้าไปอีก สุดท้ายจึงกลายเป็นตัวช่วยผลักดันดวงจิตเขา นับจากนี้ไป…ซูหมิงจะไม่ใช่ ผู้ฝึกฌานอีก แต่จะคงอยู่โดยมีดวงจิตเป็นหลัก!
“ช่วยทำตามคำสัญญาของเจ้าด้วย ข้าเอง…ก็จะถ่ายทอดวิชารังไหมกลายเป็นผีเสื้อให้เจ้าตอนยึดร่างสามรกร้างเหมือนกัน…เจ้ามีเวลาเตรียมตัวเพียงห้าร้อยปี ห้าร้อยปีนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว เพราะข้าจะหลับใหล ใช้การหลับใหลต่อต้านกับ สามรกร้าง…เพื่อถ่วงเวลาห้าร้อยปีนี้ให้เจ้ากับข้า
รักษาตัวด้วย!” เสียงซางเซียงค่อยๆ เบาลง จนกระทั่งสี่คำสุดท้ายเป็นเสียงสะท้อนดังก้อง มันเข้าสู่การกลับใหล หายไปในผืนฟ้า เมื่อดวงจิตซางเซียงหายไป มหาโลกซางเซียงที่ถูกหยุดนิ่งไว้ก่อนหน้านี้จึงกลับมาเป็นปกติ
ไม่มีใครรู้ ในความรู้สึกพวกเขาเป็นเวลาเหมือนพริบตา มหาโลกซางเซียงเหมือนไม่อยู่อีก โลกแท้จริงดาราโบราณในอดีตกลายเป็นหนึ่งในร่างแยกของซูหมิง
ขณะอยู่ในความเงียบ ซูหมิงเงยหน้ามองไกลออกไป ขณะก้าวเดินก็หายวับไปในอากาศ มาปรากฏอีกทีอยู่ตรงขอบของโลกดาราโบราณติดกับโลกอาณาจักรพิชัย แล้วเข้าไปในโลกแท้จริงอาณาจักรพิชัย
กลางฟ้าโลกแท้จริงอาณาจักรพิชัย ภายในพระราชวังบุตรแห่งซาง ซูหมิงปรากฏกายขึ้น เขาเดินไปตลอดทาง ไม่มีการขวางใดๆ ต่อให้เป็นผู้ฝึกฌานองครักษ์ นอกพระราชวังพอเห็นซูหมิงแล้วต่างพากันคารวะทันที
ซูหมิงเดินเข้าไปในพระราชวัง มองไปรอบๆ ก้มหน้าลงมองพื้นใต้เท้าเงียบๆ ก่อนยกเท้าขวาขึ้นเหยียบลงไปเบาๆ ทันใดนั้นร่างเขาหลอมรวมเข้าไปในพื้นดิน มาปรากฏอยู่ชั้นใต้ดินของพระราชวังนี้ เป็นแดนหลับใหลของอวี่เซวียนอีกคนในโลกนี้
ซูหมิงมองอวี่เซวียนที่กำลังหลับใหล มองใบหน้าที่เหมือนกับสตรีคนนั้นในความทรงจำทุกประการเงียบๆ
เขาพานางไปไม่ได้ เพราะต่อให้เป็นตัวเขาอีกคนที่ถูกเขาหลอมรวมก็ไม่รู้ความลับเกี่ยวกับมหาโลกซางเซียง ไม่รู้ว่าหากพาอวี่เซวียนไปจากที่นี่แล้วนางจะสิ้นชีพหรือไม่
ซูหมิงไม่กล้าเดิมพัน เขามองสตรีที่หลับใหลเงียบๆ ระหว่างที่ยกมือขวาโบกไป ผนึกมหึมาหลายชั้นพลันตกลงมา ทำให้พระราชวังใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยดวงจิตของ ซูหมิง เมื่อการป้องกันของที่นี่บรรลุถึงจุดสูงสุดแล้ว ซูหมิงมองสตรีที่หลับใหลอย่างลึกซึ้งอีกแวบหนึ่งแล้วหมุนตัวจากไป
เขาจะไปวิหารเหล่าเทพของมหาโลกซางเซียง!
ที่นั่นคือสถานีสุดท้ายที่เขาจะไปในมหาโลกซางเซียง ส่วนบุตรแห่งซางคนที่สามคือใคร ซูหมิงไม่อยากรู้ และก็ไม่จำเป็นต้องรู้ด้วย ไม่ว่าจะคุ้นเคยหรือแปลกตาจะมีประโยชน์อะไร
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สู้ไม่ถาม ไม่รู้ ไม่มองจะดีกว่า
เมื่อเข้าใจทุกอย่าง มองฤดูกาลจนเฉยชาแล้ว ซูหมิงในตอนนี้ในใจสงบนิ่งมาก สงบนิ่งจนเหมือนเด็กหนุ่มไร้ความทุกข์ตอนอยู่ภูเขาทมิฬ เพียงแต่ว่าความสงบนิ่ง ในตอนนั้นเป็นเพียงความบริสุทธิ์ที่ราวกับกระดาษขาวเพราะไม่เคยประสบเรื่อง ทางโลกใดๆ
แต่ตอนนี้ บนกระดานสีขาวถูกวาดเป็นภาพเหลือคณานับ เขียนสิ่งที่คงอยู่มานานแสนนาน มีรอยพับของกาลเวลา แต่สุดท้ายเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพการณ์ กลับทำให้ซูหมิงมีความรู้สึกว่ามองเห็นความจริงทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงสงบนิ่ง
เขาเดินไปในผืนฟ้าช้าๆ ข้ามผ่านโลกอาณาจักรพิชัย ผ่านโลกดาราโบราณ จนมาถึงโลกแท้จริงพรรคเซียน
เขามองโลกแท้จริงพรรคเซียนที่ว่างเปล่าจนกลายเป็นซากปรักหักพังพลางเดินไปเงียบๆ จนกระทั่งมาถึง…วิหารเหล่าเทพที่สอดคล้องกับของโลกแท้จริงดาราสัจธรรมของมหาโลกสามรกร้าง
หรืออาจพูดได้ว่า โลกพรรคเซียนไม่มีวิหารเหล่าเทพ เพราะที่นี่ไม่มียันต์ยักษ์
ซูหมิงมองฟ้าว่างเปล่าแล้วหลับตาลง
ที่นี่ไม่มีจริงๆ แต่ที่นี่…หากซูหมิงต้องการมันจะปรากฏ เพราะในและนอกกระจกนี้ แม้แต่สิ่งมีชีวิตยังปรากฏมาสองสิ่ง ไฉนจะสร้างวิหารเหล่าเทพออกมาไม่ได้
ตอนที่หลับตาลง ซูหมิงเดินหน้าไปทีละก้าว ตอนที่เดินก้าวที่สาม ร่างกายเขาบิดเบี้ยว หายไปในผืนฟ้า มาปรากฏอีกทีอยู่ในโลกที่คุ้นเคย
หมอกขาวอบอวลทั้งโลก มองไม่เห็นสุดปลาย มองไม่เห็นไกลออกไป มองไม่เห็นว่าในหมอกมีสิ่งมีชีวิตหรือไม่
ที่นี่คือวิหารเหล่าเทพ บางทีที่นี่อาจเป็นวิหารเหล่าเทพของสามรกร้าง หรือไม่ก็ของซางเซียง จุดนี้ซูหมิงไม่ได้สืบสาวต่อ ไม่ว่าที่นี่จะเป็นของที่ใด ขอแค่มันอยู่ก็พอ
ขณะก้าวเดิน ซูหมิงกลายเป็นสายรุ้งยาวบินไปข้างหน้าตามทิศทางในความทรงจำ ความเร็วเขาดูเหมือนไม่เร็ว แต่พริบตากลับหายวับไป มิหนำซ้ำขณะพุ่งทะยาน หมอกข้างล่างพลันหมุนม้วนราวกับเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพราะการมาของ ซูหมิง เพียงชั่วพริบตาก็เกิดหมอกแดงขึ้นรางๆ
หมอกแดงคือสัญลักษณ์ที่น่ากลัวที่สุดของโลกวิหารเหล่าเทพ ซูหมิงในตอนนั้นหากเจอกับหมอกแดงจะต้องรีบหลบให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะต้องเจอกับอันตรายเป็นตาย
แต่ยามนี้…
แทบเป็นช่วงที่ปรากฏหมอกแดง ซูหมิงแค่นเสียงหึทีหนึ่ง ก่อนยกมือขวาโบกไปข้างล่าง ทันใดนั้นเกิดพายุสายฟ้าขึ้น เกิดเสียงดังสนั่นฟ้าดิน เห็นเพียงว่าหมอกเหล่านั้นหมุนตลบออกไปรอบๆ เหมือนกับถูกระเบิดออก ซ้ำยังคล้ายคลื่นลูกใหญ่จะถูกลบหายไป
สัตว์ร้ายน่ากลัวในหมอกแดงนับไม่ถ้วนพากันร่างระเบิดกลายเป็นส่วนหนึ่งของหมอกแดง แต่ก็ยังไม่อาจขวางไม่ให้หมอกแดงหายไปได้
ตอนนี้เองมีเสียงคำรามแหลมดังแว่วมา ท้องฟ้าบิดเบี้ยว วิหารใหญ่ที่มาพร้อมกับการผ่านโลกมาเนิ่นนานกับความเสื่อมโทรมโผล่มามุมหนึ่งตรงสุดขอบฟ้า ขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตคล้ายวิญญาณที่มีสีหน้าสับสนจำนวนมากต่างบินออกมาจากในวิหารนี้ พุ่งเข้ามาใกล้ซูหมิง
ในเวลาเดียวกัน ร่างเงาถือหอกยาว ทั่วร่างแห้งเหี่ยวราวกับศพปรากฏกายขึ้นจากวิหารใหญ่พร้อมกับชูหอกยาวในมือขึ้นสูง กลิ่นอายสังหารอัดแน่นอยู่ในฟ้าดินอย่างรุนแรง
แทบเป็นช่วงเสี้ยวพริบตา รอบตัวซูหมิงเต็มไปด้วยวิญญาณและร่างที่กลายมาจากคนที่ล้มเหลวในการยกระดับวิญญาณตลอดไม่รู้กี่ปีมานี้จำนวนมาก พวกมันต่างพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความดุร้าย
ซูหมิงมีสีหน้าปกติ เขามองสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ตนในตอนนั้นทำได้เพียงหนีด้วยสีหน้าปกติ หากมิใช่เพราะเจอกับชายชราวิญญาณสวรรค์ก็เกรงว่าคงตายไปแล้ว เพียงแต่ว่าดวงตาเขารวดเร็วและดุดัน ก่อนสะบัดแขนเสื้อตัวใหญ่พร้อมพูดขึ้นเรียบๆ
“ไสหัวไป!”
ฟ้าดินเกิดเสียงครึกโครม ซูหมิงเอ่ยไปคำเดียวเหมือนกับสายฟ้านับพันล้านสายระเบิดออกพร้อมกัน สร้างเป็นแรงกดดันกวาดล้างฟ้าดิน ทำให้วิญญาณที่สับสนและ ดุร้ายเหล่านั้นรวมถึงศพแห้งถือหอกยาวตัวสั่นสะท้าน ซ้ำยังมีไม่น้อยที่สิ้นชีพไปพร้อมเสียงระเบิด
ทั้งโลกเงียบลงทันทีหลังฟ้าผ่าจบลง…ลมหายใจต่อมา วิญญาณกับศพแห้งทั้งหมดต่างมีสีหน้าตื่นกลัวอย่างเด่นชัด พวกมันต่างถอยไปในพริบตา หายไปพร้อมกันอย่างไม่ลังเลเหมือนกับที่ถูกชายชราวิญญาณสวรรค์ตะโกนใส่ในตอนนั้น