Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 142

Cover Renegade Immortal 1

142. ร่างสมบัติ

 

หวังหลินลอยที่ระดับต่ำใกล้เบื้องล่างทะเลด้วยธงในมือนี่เป็นธงวิญญาณท่ีมีวิญญาณผนึกไว้นับร้อยข้างในรวมไปถึงวิญญาณของซางมู่หยาจากก่อนหน้านี้ด้วยธงวิญญาณนี้เป็นของซางมู่หยางมาก่อนและเขาคงไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นหลุมฝังศพของตัวเอง

หลังจากคุยกับซางมู่หยาหวังหลินจึงได้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งในระยะหนึ่งล้านกิโมตรนี้ถูกนับว่าเป็นขอบนอกของทะเลปิศาจมีสำนักน้อยใหญ่นับไม่ถ้วนในสถานที่แห่งนี้และสำนักปิศาจรบเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ระดับฝึกตนสูงสุดของสำนักคือจ้าวสำนักลิ่วเสินผู้เป็นบรรพชนของซางมู่หยางเขาอยู่ที่จุดสูงสุดขั้นแกนลมปราณระดับกลางและเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในแถบนี้

ขอบนอกของทะเลปิศาจนั้นขาดแคลนทรัพยากรอย่างมากมีเซียนขั้นวิญญาณก่อกำเนิดไม่กี่คนที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่พวกเขาจะอาศัยในส่วนกลางของทะเลปิศาจ

นอกจากนี้แล้วหวังหลินยังได้เรียนรู้อีกว่าไม่มีกระดูกอสูรวิญญาณตัวไหนอยู่ขอบนอกของทะเลปิศาจอสูรวิญญาณอันแข็งแกร่งพวกนั้นจะอาศัยในส่วนกลางทั้งหมดและหากมีสักตัวหลงออกมาที่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เซียนมารที่นี่สามารถสังหารได้

แต่หวังหลินยังคงได้รับความรู้ที่มีประโยชน์อยู่บ้างภายนอกของทะเลปิศาจนั้นมีสามเขตที่เป็นอันตราย หนึ่งในสามเขตนั้นชื่อว่าหุบเขาซากศพ ที่มีกระดูกอสูรจำนวนมาก หากสำนักใกล้ๆต้องการวัตถุดิบพวกเขาจะไปที่นั่น

มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้นบ่อยมากนั่นคือทุกครั้งที่อสูรวิญญาณพึ่งตายไปจะมีศพใหม่ปรากฎขึ้นในหุบเขาซากศพบางตัวก็เป็นอสูรวิญญาณอันทรงพลังตอนที่ยังมีชีวิตทั้งยังไม่มีใครอธิบายว่ามันปรากฎขึ้นที่นี่ได้ยังไงอย่างน้อยก็รู้ว่ามันตายไปแล้วในหุบเขาซากศพ

แม้ว่าหุบเขาซากศพจะเป็นสถานที่ลึกลับ ตราบใดที่ไม่ได้เข้าไปส่วนกลางหุบเขา ปกติจะไม่เกิดอันตรายร้ายแรงขึ้น

ส่วนกระดูกที่ซางมู่หยาใช้เพื่อจัดการกับผู้อาวุโสของตนเองนั้นมันก็มาจากหุบเขาซากศพเช่นเดียวกัน มันสร้างจากกระดูกอีกาเร้นลับหลังจากศึกษาเป็นเวลานานหวังหลินก็พบได้ว่าพิษนี้มีผลเฉพาะเซียนขั้นพื้นฐานลมปราณผลลัพธ์จะอ่อนแอลงมากเมื่อเผชิญกับเซียนที่แข็งแกร่ง

ตอนนี้เป้าหมายของหวังหลินคือหุบเขาซากศพ เขาเหินไปอย่างรวดเร็วตรงไปยังทิศทางที่ซางมู่หยาชี้

เมื่อเขามาถึง สิ่งที่ข้างนอกหุบเขาซากศพก็คือภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วน มีทั้งสูงและต่ำและบริเวณนี้ก็มีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

ที่นี่คือหุบเขาซากศพ

หมอกที่นี่บางมากและไม่ได้มีผลต่อการมองเห็นอีกต่อไปทว่าขณะที่หวังหลินเข้ามาเขากลับรู้สึกว่าพลังงานหยินที่นี่แตกต่างจากคุณภาพพลังงานภายนอก

หวังหลินสร้างผนึกและเริ่มร่ายบทสวดทันทีจากนั้นละอองแสงรวมกันด้านหน้าเขาจนในที่สุดมันก็ก่อร่างเป็นบอลแสงสีขาวไม่นานนักมันก็เปลี่ยนสีจนกลายเป็นสีฟ้า

ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น นี่เป็นวิชาระบุชนิดของพลังงานหยินในบริเวณนี้สีของบอลแสงจะเป็นตัวบอกพลังงานทั้งสี่ระดับ นั่นคือ ม่วง ฟ้า เงินและแดงเทียบเป็น สวรรค์ ปฐพี ลึกลับและหยินแห่งความตาย

นับตั้งแต่ที่แสงเป็นสีฟ้า สถานที่แห่งนี้ถือว่ามีพลังงานหยินปฐพีที่หายากมาก

หวังหลินสูดหายใจลึกและชี้ไปข้างหน้า บอลแสงลอยตรงไปทันทีหวังหลินติดตามด้านหลังบอลแสงช้าๆและตรวจสอบสีของมันขณะที่ค้นหากระดูกอสูรไปด้วย

สัมผัสวิญญาณของหวังหลินพบว่ามีเซียนหลายคนในหุบเขาซากศพแต่ทุกคนกลับเพ่งสมาธิไปที่การหากระดูกอสูร แม้กระทั่งพวกเขาเจอหน้ากันทั้งหมดต่างพยักหน้าให้และผ่านกันไป

หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยหุบเขาซากศพไม่ได้มีเพียงลูกเดียวแต่มีจำนวนนับไม่ถ้วนแตกต่างกันตามขนาดมีเซียนน้อยคนลึกเข้าไปในหุบเขานั่นหมายถึงโอกาสสูงที่จะหากระดูกอสูรพบ

หลังจากผ่านไปเก้าแห่ง มีซากอสูรเรียงรายมากขึ้นบางตัวมีขนาดใหญ่จนน่ากลัว หวังหลินยืนอยู่เหนือซากศพอสูรยักษ์ตนหนึ่งแต่หลังจากตรวจสอบมันชั่วครู่ เขาก็ยกเลิกความคิดที่จะนำมันกลับไปแม้ว่าซากนี้จะขนาดใหญ่ มันกลับไม่มีพลังปราณในกระดูกนั่นมันถึงมันไม่ได้เป็นอสูรวิญญาณ มันเพียงแค่ตัวใหญ่เท่านั้น

ขณะที่เขาเข้าไปใกล้ใจกลางหุบเขาซากศพมากขึ้น สีของบอลแสงก็เข้มขึ้นหลังจากผ่านหุบเขาลูกที่เก้าไป หวังหลินไม่เจอเซียนคนไหนอีกเลยและจำนวนซากศพเพิ่มขึ้นอย่างมาก

หวังหลินหยุดที่หุบเขาลูกที่เก้าอยู่ชั่วขณะเขาระมัดระวังตัวมากและกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาหลังจากมาถึงหุบเขาลูกที่เก้าเขากลับกลับรู้สึกว่ามันแตกต่างจากลูกที่แปดแต่กลับไม่สามารถบอกได้ว่าแตกต่างกันตรงไหนทันใดนั้นรู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องไปที่เขาตั้งแต่เข้ามา

หวังหลินเหยียดยิ้มในใจขณะที่กวาดรอบด้านด้วยสัมผัสวิญญาณขอบเขตจวี่ ดวงตาที่จ้องเขาหายไปทันทีและหุบเขากลายเป็นเงียบสงัดอีกครั้ง

หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยจากนั้นรวบรวมกระดูกอสูรอย่างลวกๆก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปหุบเขาลูกที่สิบเมื่อมาถึงหุบเขาลูกที่สิบสาม บอลแสงแบ่งออกเป็นสองลูก

ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นเขารู้ได้ว่านั่นหมายถึงคุณภาพของพลังปราณหยินได้ผ่านคุณภาพธรรมดาอันดับสิบและเข้าสู่คุณภาพดีอันดับหนึ่งแล้วคลื่นพลังหลินมาจากหุบเขาลูกที่สิบสี่ หวังหลินรู้สึได้ว่าร่างกายแข็งทื่อ

เขามองไปรอบๆและถอนหายใจออกมาความจริงแล้วสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการปิดด่านฝึกตนถึงเช่นนั้นแม้ว่ามันจะดูสงบ การที่ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในสามเขตอันตรายมันต้องมีอันตรายแน่ๆหวังหลินไม่กล้าปิดด่านฝึกตนเป็นเวลานานแม้ว่าเงื่อนไขนี้จะดีแค่ไหนก่อนที่เขาจะเข้าใจสถานที่แห่งนี้ได้เต็มที่เขาไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานเว้นแต่จะมีความจำเป็น

หวังหลินลังเลเล็กน้อย เขารวบรวมกระดูกอสูรมาได้ไม่กี่ชิ้นแม้ว่าคุณภาพของมันไม่ได้สูงมากมันควรจะเพิ่มพลังให้กับค่ายกลเก้าโครงกระดูกได้เพียงเล็กน้อยแต่เขายังไม่ยอมที่จะเดินจากไปตอนนี้ ด้วยตำแหน่งปัจจุบันเขาสามารถดูได้ว่าหุบเขาลูกที่สิบสี่นั้นกว้างใหญ่แค่ไหนหุบเขาลูกที่สิบสี่นั้นเห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากลูกที่สิบสามมันขนาดใหญ่จนแทบจะนำลูกที่สิบสามมารวมกัน

นอกจากนี้สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดในหุบเขาลูกที่สิบสสี่ก็คือไม่มีซากศพในระยะสายตาทั่วทั้งพื้นดินปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งสีน้ำเงินเรืองรองที่ดูลึกลับ

มองไกลๆหวังหลินจะเห็นได้ว่าหุบเขาลูกที่สิบสี่ไม่ได้เป็นใจกลางของหุบเขาซากศพมันถูกนับได้ว่าเป็นครึ่งทางเท่านั้นหวังหลินส่ายศีรษะตัวเองและตัดสินใจหันกลับ

ขณะที่เขากำลังจะกลับ เสียงคำรามหนึ่งดังออกมาจากพื้นที่ห่างไกลและมังกรยักษ์ยาวกว่าพันฟุตปรากฎขึ้นจากในหมอก

หวังหลินเปลี่ยนสีหน้าทันทีขณะที่เขาก้าวถอยหลังและเข้าไปในพื้นดิน สัมผัสวิญญาณกระจายออกมาและจ้องไปที่มังกรยักษ์

ร่างมังกรมีขนาดใหญ่มาก ขณะที่มันเคลื่อนไหวได้สร้างลมกรรโชกขนาดใหญ่เพียงครั้งเดียวมันก็ข้ามหุบเขาลูกที่สิบสามและเข้าไปในหุบเขาลูกที่สิบสี่

เมื่อมังกรยักษ์ผ่านร่างหวังหลินไป หยดเลือดสดๆหล่นจากท้องฟ้าหวังหลินมองขึ้นไปและเห็นได้ว่าท้องมังกรมีแผลขนาดใหญ่แปลนั้นคลุมไปถึงครึ่งหนึ่งของร่างมังกร

หวังหลินมองไปยังทิศทางที่มังกรจากมาและเห็นรอยเลือดเป็นทาง ดูเหมือนว่ามังกรตัวนี้จะเลือดไหลไม่หยุดบนเส้นทางนี้

มังกรหยุดเหนือหุบเขาลูกที่สิบสี่และดูเหมือนว่าเลือดที่ไหลออกมาจะไม่ต่างจากครั้งก่อนขณะนั้นเองเขาก็เห็นมันคำรามครั้งสุดท้าย ขณะที่มันคำรามครั้งนี้ออกมาบรรยากาศรอบด้านกระเพื่อมและปล่อยคลื่นราวกับอยู่ในมหาสมุทรออกมา

เหล่ากระดูกในหุบเขาอื่นกลายเป็นฝุ่นและถูกผลักออกไปภายนอกโดยคลื่นอากาศนี้หวังหลินรู้สึกได้ว่าพื้นดินลึกสามนิ้วกลายล่อนหลุดออกมาเขารู้สึกตกใจสุดขีดมังกรตัวนี้อาจกระทั่งแข็งแกร่งกว่าเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดเสียอีก

มันคำรามเช่นนี้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ดวงตาของมันจะหมองลง มันใช้ความแข็งแกร่งสุดท้ายเพื่อทุบน้ำแข็งฟ้าบนพื้นและขุดลงไป

ขณะเดียวกันหวังหลินกระโดดออกมาบนพื้นและพุ่งเข้าหามังกรโดยไม่ลังเลในพริบตาเดียวเขาก็เข้ามาในหุบเขาลูกที่สิบสี่ขณะที่ลอยอยู่ในอากาศเขาจับหางมังกรที่กำลังจมลงและดึงมันด้วยแรงทั้งหมด

เขาได้ยินเสียงแกร๊กขณะที่ร่างมังกรถูกดึงออกมา หัวใจเขาสั่นระรัวขณะที่จับร่างอันหนักหน่วงขึ้นและลอยออกจากหุบเขาซากศพ

ร่างมังกรนั้นหนักเกินไปแม้เขาจะใช้พลังปราณทั้งหมดในร่างก็แทบจะถือมันไม่ได้หวังหลินได้ยินเสียงกระดูกตัวเองถูกบีบอันภายใต้แรงกดดันนั้นแต่เมื่อเขาคิดว่าได้รับร่างมังกรที่พึ่งตายไปหวังหลินกลับลืมความเจ็บปวดนี้สิ้น

หลังจากเหาะออกจากหุบเขาซากศพด้วยความทุลักทุเลหวังหลินเห็นเหล่าเซียนที่กำลังเก็บกระดูกแนวขอบทะเลปิศาจได้กระตุ้นสมบัติป้องกันทั้งหมดมองมาหาเขาอย่างตะลึงงัน

เหล่าเซียนพวกนี้ต่างใช้สิ่งของพวกนี้เมื่อเกิดเรื่องขึ้นดังนั้นเมื่อมังกรปรากฎตัว ทั้งหมดกระจัดกระจายเปิดใช้สมบัติป้องกันของตัวเอง และหาพื้นที่แข็งแกรงเพื่อซ่อนตัวถึงอย่างนั้นยังมีผู้คนที่ร่างกายแตกสลายจากเสียงคำรามอยู่บ้าง

หลักการเอาตัวรอดไม่เพียงแต่จำเป็นต้องมีระดับฝึกตนในระดับหนึ่งแต่ต้องมีไหวพริบด้วยเช่นกันคนพวกนี้มาที่นี่เพียงปีละครั้งและอาศัยการขายกระดูกจากหุบเขาซากศพเพื่ออยู่รอด

เพราะว่าพวกเขามาที่นี่ปีละครั้งมีบางครั้งที่เห็นอสูรวิญญาณกำลังตายภายในหุบเขาแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นใครสักคนนำร่างอสูรวิญญาณที่พึ่งตายออกมา

พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ทว่าคนผู้นี้ไม่เพียงแต่ทำมันเท่านั้น แต่ยังนำศพที่สมบูรณ์ของมังกรออกมาด้วย

ร่างอันสมบูรณ์นั้นไม่ได้บุบสลาย! ขณะเดียวกันเหล่าเซียนส่วนใหญ่สูญเสียเหตุผลของตัวเองและเผยความโลภ

หวังหลินรับรู้ได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จ้องมองเขาเขาปล่อยลมหายใจเยือกเย็นออกมาขณะที่ก้าวไปบนพื้นและลงไปใต้ดินด้วยวิชาหลบหนีปฐพีรวมทั้งมังกรทั้งตัว

ขณะที่เขาจมลงไป สัมผัสวิญญาณขอบเขตจวี่พุ่งออกมาเหล่าเซียนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ระดับขั้นต่ำกว่าแกนพลังปราณดังนั้นคนที่อยู่โดดเดี่ยวตายทันที

ร่างมังกรนั้นใหญ่เกินไปถึงแม้ว่าเขาจะดื่มน้ำพลังปราณไปด้วยก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วนักหวังหลินเพียงเคลื่อนไหวได้อย่างเชื่องข้าไปข้างหน้าถ้ำพร้อมกับจับร่างมังกรไปด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!