Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 278

Cover Renegade Immortal 1

278. ทัณฑ์สวรรค์

แต่มันสายเกินไป!

ก่อนหน้านี้ตอนที่หวังหลินนำหุ่นเชิดออกมาจึงตัดสินใจทำสิ่งหนึ่ง เนื่องจากตอนนี้หวังหลินอยู่ในจุดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย หญิงชราเห็นได้ชัดแล้วว่าไม่ใช่เซียนขั้นตัดวิญญาณระดับต้น นางมีโอกาสเป็นระดับกลางขั้นสูงสุด วิชาเซียนของนางต้องบรรจุเขตแดนไปด้วย ดังนั้นหากเขาสัมผัสเข้านับว่าอันตรายเกินไป

ช่องว่างระหว่างระดับฝึกตนของเขากว้างมากเกินไป หากหวังหลินหลบหนี เขาจะไปไม่ได้เร็วเท่าไหร่นัก

สายตาหวังหลินตัดสินใจแน่วแน่ เขาต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นเมื่อเซียนคนอื่นของเฉว่ยี่มาถึง การหลบหนีจะยากมาก

ต้องเอาชนะให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ก่อนที่นางจะคิดว่าเขาเป็นภัยคุกคาม

หวังหลินไม่ลังเลที่จะโยนหุ่นเชิดวิญญาณเซียนออกไป เขาสูดหายใจลึกและเส้นด้ายบางออกมาจากฝ่ามือ

เศษเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์!

นอกเหนือจากนี้ เขาสามารถซ่อนตัวในมิติลูกปัดได้ด้วย ทว่านั่นจะเป็นวิธีการสุดท้าย

ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเป็นสิ่งที่เขาเก็บความลับไว้มากที่สุดและไม่ควรจะเปิดเผย แต่หากเขาไม่มีเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์นี้ หวังหลินคงไม่มีทางเลือกที่จะเข้าไปในลูกปัด

หวังหลินใช้จังหวะที่หญิงชราสายตาพร่ามัวด้วยขอบเขตจวี่เพื่อกระตุ้นเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์

เสี้ยวทัณฑ์สวรรค์ชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้หวังหลินรอดตายในภาวะวิกฤตหลายครั้ง แต่จนแล้วจนรอดเขายังเก็บมันมาใช้จนถึงวันนี้

เพราะมีเหล่าเซียนของเฉว่ยี่มากมายที่นี่ หวังหลินสามารถข่มขู่นางได้แต่เมื่อนางจากไปและกลับมาพร้อมกับกองกำลังเสริม หวังหลินจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเกินไป

ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้สถานการณ์อันเหมาะสมเพื่อสังหารนางด้วยทัณฑ์สวรรค์ก่อนที่นางจะทันรู้ตัว

แม้ว่าหวังหลินจะรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อยตอนที่ใช้มัน หวังหลินไม่ใช่คนลังเล เสี้ยวทัณฑ์สวรรค์หายไปและเมฆสีแดงปรากฎในท้องฟ้าทันที

เมฆเหล่านี้ปรากฎขึ้นอย่างลึกลับแทบในเวลาเดียวกันมันก็ปกคลุมทั่วทั้งน่านฟ้า ส่วนรัศมีน้ำเงินเข้มนั้นไม่สามารถเทียบได้กับก้อนเมฆสีแดง รัศมีน้ำเงินเข้มเคลื่อนออกจากทางไปราวกับไม่กล้าขวางเส้นทาง

นี่เป็นฉากเหตุการณ์ที่หญิงชราเห็นเมื่อนางฟื้นฟูจากการโจมตีของหวังหลินได้

นางนึกไม่นางในทันทีว่ามันคืออะไร แต่ขณะที่เห็นเมฆสีแดงนางรู้สึกกลัวจึงไม่ลังเลที่จะซ่อนตัวในหอคอยน้ำแข็ง

ณ ขณะนี้ผีเสื้อแดงในชุดคลุมสีขาวมองก้อนเมฆแดงด้วยสายตาอย่างรู้อยากเห็น

ชายวัยกลางคนท่าทางอมโรคเบื้องหลังนางพลันตื่นตัวมาก ท่าทางอมโรคหายไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อจ้องเหล่าก้อนเมฆสีแดง

เขาไม่ได้พูดสิ่งใดทว่าทิ้งงานปกป้องผีเสื้อแดงอย่างสิ้นเชิงเพื่อเข้าไปหาก้อนเมฆสีแดง

ใบหน้าหวังหลินซีดขาวและฝ่ามือขวาสั่นเทาขณะที่เฝ้ามองหญิงชราหลบหนีเข้าไปในหอคอยน้ำแข็ง สายตาเขาสว่างขึ้นขณะควบคุมก้อนเมฆสีแดงและชี้ไปที่หอคอยน้ำแข็งนั้น

ทันใดนั้นเกลียวสายฟ้าสีแดงปรากฎในเหล่าก้อนเมฆ สายฟ้าสีแดงนี้รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ เมื่อมันปรากฎขึ้นก็ร่อนลงปะทะกับหอคอยน้ำแข็งแทบในทันที ประกายสายฟ้าสีแดงนั้นดูเหมือนจะไปกระตุ้นก้อนเมฆที่เหลือ เสียงเสียดสีดังออกมาจากในก้อนเมฆขณะที่สายฟ้าแดงรวมกันเป็นสายฟ้าสีม่วงหนาเท่าลำแขนก่อนจะกระแทกลงมาจากฟากฟ้า

หญิงชรากำลังจะหลบข้างในหอคอยน้ำแข็ง เมื่อนางตระหนักรอบข้างได้ว่าถูกพลังทำลายล้างเพ่งลงมาทำให้นางไม่อาจะเคลื่อนไหวได้สักหนึ่งก้าว

สายตาสิ้นหวังปรากฎบนใบหน้า นางไม่เคยคาดคิดว่าจะดึงดูดทัณฑ์สวรรค์ออกมาได้เพียงแค่ไล่ล่าเจ้าหนูขั้นวิญญาณแรกกำเนิดเท่านั้น

ไม่ว่านางจะโง่แค่ไหนรู้ว่านี่คือทัณฑ์สวรรค์ในตำนาน

ทัณฑ์สวรรค์ม่วงกระแทกลงบนหอคอยน้ำแข็ง หอคอยน้ำแข้งและหญิงชราหายไปโดยไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยคงอยู่ที่นี่มาก่อน

หวังหลินสูดหายใจลึกมองตรงเข้าไปที่ทัณฑ์สวรรค์อย่างเศร้าใจ แต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาเอ้อระเหยจึงหันตัวกลับและหลบหนีไป

แต่หลังจากเคลื่อนที่มาได้เพียงร้อยฟุต หวังหลินรับรู้ถึงสัมผัสวิญญาณทรงพลังกวาดผ่านเขาไป ขณะนั้นหมวกฟางบนศีรษะส่องแสงและสัมผัสวิญญาณนั้นถอยกลับอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นพลังงานร้อนแรงออกมาจากหมวกฟางและเข้าไปในศีรษะเขา มันแสดงภาพชายวัยกลางคนผู้ซึ่งทำลายล้างมังกรที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

หวังหลินหวาดกลัวและไม่มีเวลาสนใจความสามารถของหมวกฟาง เขารีบชี้นิ้วไปที่ระหว่างคิ้วและหายเข้าไปในมิติลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าทันที

หลังสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ม่วงทำลายหอคอยน้ำแข็งและหญิงชรา มันเริ่มกระจายตัวอย่างช้าๆ ก้อนเมฆสีแดงในท้องฟ้าก็เริ่มกระจายตัวเช่นกัน แต่ขณะนั้นเองชายวัยกลางคนจากซูซาคุก็มาถึง สายตาเขาจ้องมองก้อนเมฆแดงอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นส่งเสียงคำรามและรัศมีเหนือล้ำเกินจินตนาการพลันกระจายออกจากร่างกายเขา

ทันใดนั้นก้อนเมฆสีแดงที่กำลังจะกระจายไปเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ราวกับมันพยายามควบแน่นมากขึ้น ทว่าการไร้ซึ้งเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์นำทาง ก้อนเมฆสีแดงจึงไม่สามารถควบแน่นได้อีก

ชายวัยกลางคนกังวัลเกี่ยวกับก้อนเมฆแดงอย่างมาก เขารู้ว่าสิ่งนี้เป็นโอกาสหายาที่จะเกิดขึ้นสำหรับเขา หากพลาดโอกาสนี้ไปเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญเรื่องดีๆในชีวิตนี้อีกครั้งหรือไม่

ทว่าเหล่าก้อนเมฆสีแดงไม่สามารถควบแน่นได้อีกต่อไปและเขาทำได้เพียงแค่มองมันแตกกระจาย มันเหมือนก้อนภูเขาทองคำเบื้องหน้า แต่เมื่อมือยื่นออกไปคว้ามันเขาจึงรับรู้ว่ามีช่องว่างที่ไม่อาจข้ามผ่านระหว่างมันกับเขาได้

ด้วยความร้อนใจ ชายวัยกลางคนกัดนิ้วและวาดสัญลักษณ์โลหิต มันลอยออกไปทีละหยดเข้าใส่ก้อนเมฆแดง

สัญลักษณ์โลหิตค่อยๆเข้าไปในก้อนเมฆแดงมากขึ้นและมากขึ้น ในที่สุดความเร็วการกระจายตัวของก้อนเมฆดูเหมือนจะช้าลง ชายวัยกลางคนผ่อนคลายชั่วขณะก่อนที่ใบหน้าเขาจะเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอีกครั้ง

เหล่าก้อนเมฆแดงอ่อนแอมากและใกล้แตกกระจาย แต่พวกมันคงที่ด้วยสัญลักษณ์โลหิต ทว่ารัศมีน้ำเงินเข้มพุ่งเข้ามาทันทีเนื่องจากมันแข็งแกร่งขึ้นและดันเพิ่มความเร็วกระจายตัวของก้อนเมฆแดงไปเสียอีก

การเห็นก้อนเมฆแดงกระจายตัวอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเหลือทิ้งไว้เพียงแค่จุด ชายวัยกลางคนร้องคำรามอย่างโกรธแค้นพร้อมกับพุ่งเข้าไปในใจกลาง

ขณะที่ร่างกายเขาเข้าไปในก้อนเมฆแดง กระแสสายฟ้าม่วงเข้าไปในร่างกายราวสายฟ้าฟาดทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดแต่ก็รู้สึกสบายไปด้วย ทว่ามันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นก่อนที่ก้อนเมฆแดงกระจายหายไปอย่างรวดเร็ว

ชายวัยกลางคนจ้องมองท้องฟ้าอย่างโง่งม ใบหน้าหม่นหมอง ก่อนหน้านี้ตอนที่สัมผัสวิญญาณของเขากวาดผ่านไป พบเพียงแค่หอคอยน้ำแข็งและแสงสีทอง แสงนั้นทำให้สัมผัสวิญญาณของเขารู้สึกเจ็บปวดจึงรั้งกลับไป ต่อจากนั้นเขาก็สัมผัสแสงสีทองนั้นไม่ได้อีกเลย

หลังครุ่นคิดเล็กน้อยเขาคำนับและตะโกนขึ้น “สหายเซียนผู้ดึงดูดทัณฑ์สวรรค์ ข้าโอวจื่อจากแคว้นซูซาคุ ข้าอยากให้สหายเซียนดึงดูดทัณฑ์สวรรค์อีกครั้งและจะตอบแทนรางวัลอย่างงาม”

เวลาผ่านไปพักใหญ่และยังไม่มีการตอบสนอง ชายวัยกลางคนถอนหายใจ เขายื่นมือออกและคว้าอากาศที่ว่างเปล่า เสียงกรีดร้องโพล่งออกมาขณะที่แขนยักษ์ซึ่งปกคลุมในรัศมีน้ำเงินลอยเข้าหาเขา แขนยักษ์วางลงในฝ่ามือและเปลี่ยนไปเป็นฝุ่นผง

สิ่งมีชีวิตอสรพิษเหลือเพียงแขนข้างเดียว ใบหน้าผีเสื้อแดงสงบนิ่งแต่กลับซ่อนร่องรอยความโกรธเอาไว้

ชายวัยกลางคนพ่นลมหายใจเย็นและเอ่ยอย่างช้าๆ “หากไม่ใช่ว่าเจ้าอสูรสารเลวตัวนี้ทำลายอนาคตของข้าไป เช่นนั้นวันนี้ข้าคงสำเร็จวิชาเซียนอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ข้าใจกว้างแล้วที่ตัดแขนมันออกไปข้างเดียว ผีเสื้อแดง จดจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี”

ผีเสื้อแดงไม่ได้เอ่ยอะไร ทั้งเจ็ดคนเบื้องหลังนางทำได้เพียงโกรธอย่างเงียบๆ พวกเขาไม่เปล่งคำพูดอะไรออกมา

ชายวัยกลางขยับร่าง พลันปรากฎตัวเบื้องหลังผีเสื้อแดงและกลับมาดูอมโรคอีกครั้ง

เหล่าเซียนของพันธมิตรสี่สำนักแทบทั้งหมดตายในปีนี้หลังการต่อสู้ มีเพียงไม่กี่คนที่โชคดีพอจะซ่อนตัวในพื้นที่ใหม่ของเฉว่ยี่

วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หลังจากอาศัยอยู่ที่นี่มาหนึ่งปี ผีเสื้อแดงจึงติดตามชายวัยกลางคนไปแคว้นซูซาคุ

ส่วนหม้อพิรุณ ไม่ว่าเหล่าเซียนของเฉว่ยี่จะค้นหามากแค่ไหนพวกเขาก็ไม่สามารถหามันเจอได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่ามันตกอยู่ในกำมือของเหล่าเซียนพันธมิตรสี่สำนักที่เอาตัวรอดไปได้

หลังเฉว่ยี่ยึดครองแคว้นแห่งนี้ เหล่าคนทั่วไปจำนวนหนาแน่นจากแคว้นเฉว่ยี่เดิมได้อพยำเข้ามา หิมะยังคงตกอย่างต่อเนื่องทำให้เฉว่ยี่แห่งใหม่กลายสภาพเป็นหนาวเย็นตลอดไป

หอคอยน้ำแข็งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเฉว่ยี่ปรากฎออกมาทีละแห่ง หลังจากผ่านไปสามปีที่แผ่งนี้จึงกลายเป็นของเฉว่ยี่อย่างสมบูรณ์

วันเวลาผ่านไป ห้าปีก็นับตั้งแต่ตอนนั้นได้ผ่านไปแล้ว ณ สถานที่หนึ่งห่างจากเขตแดนเฉว่ยี่ไปสามหมื่นลี้ แสงสายรุ้งค่อยๆควบแน่นขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!