Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 418

Cover Renegade Immortal 1

418. พลังที่แท้จริงของธงวิญญาณล้านดวง

เมื่อเฉียนเฟิงปรากฎตัวขึ้น เขาสังหารสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะที่แข็งแกร่งไปหลายคนและต่อสู้กับปรมาจารย์น้อยของเผ่าละทิ้งอมตะด้วย เรื่องทั้งหมดนี้ต่างทำให้ทั้งดาวเคราะห์ตื่นตะลึง

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนเป็นการต่อสู้ระหว่างหัวหน้ารุ่นถัดไปของแต่ละฝ่าย

แม้ว่าเฉียนเฟิงจะไม่ชนะแต่จบลงด้วยผลเสมอกัน ชื่อเสียงของเขาดังกระฉ่อนไปทั้งสวรรค์ หลังการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นศิษย์พี่ของหลิวเหมยและเป็นศิษย์ของซูซาคุคนปัจจุบัน เขาเป็นอันดับสองรองจากหลิวเหมยเท่านั้น

นอกเหนือจากนั้นเขายังมีอีกสถานะอีกอย่างหนึ่งซึ่งได้รับความสนใจจากทุกคน

เขาเป็นลูกหลานของซูซาคุรุ่นก่อนหน้านี้

เฉียนเฟิงเป็นเสมือนดวงจันทราที่เจิดจรัสในการต่อสู้กับเผ่าละทิ้งอมตะ ท้ายที่สุดเขาทำข้อตกลงกับปรมาจารย์น้อยของเผ่าละทิ้งอมตะ แคว้นซูซาคุยกแคว้นระดับสามทั้งหมดให้เพื่อให้เผ่าละทิ้งอมตะเลื่อนการโจมตีออกไป

ดวงตาของตุ้นเทียนสว่างวาบขณะจ้องไปยังก้อนเมฆยักษ์ที่กำลังเข้ามาจากระยะไกล เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำ “เผ่าละทิ้งอมตะเริ่มการโจมตีครั้งที่สอง เซิ่งหนิว ข้ารู้สึกได้ว่ามีชาแมนที่แข็งแกร่งเทียบเท่าเซียนขั้นแปลงวิญญาณระดับกลางอยู่ภายในก้อนเมฆดำนั้นด้วย ข้าไม่รู้ว่าจะมีเซียนขั้นเทวะหรือไม่ จงนำธงวิญญาณรองออกมาและเราจะเข้าไปหามัน!”

หวังหลินมองก้อนเมฆดำด้วยท่าทางสงบนิ่ง เขายื่นมือออกไปทำให้ธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงผืนย่อยปรากฎขึ้น หลังคว้ามันไว้ สายหมอกสีดำหลุดออกมาและห่อหุ้มรอบหวังหลิน

ตุ้นเทียนนำธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงออกมาเช่นกัน เพียงสะบัดหนึ่งครั้งห่อหุ้มไว้ในสายหมอกดำและพุ่งเข้าไปหาก้อนเมฆดำพร้อมกับหวังหลิน ขณะเดินทางไปทั้งสองห้อมล้อมด้วยคลื่นเสียงอัดกระแทกและเสียงครวญครางของเหล่าดวงวิญญาณ

คลื่นเสียงคำรามออกมาจากก้อนเมฆดำพร้อมกันนั้นชนเผ่าละทิ้งอมตะพุ่งออกมาจำนวนมากโดยทันที จังหวะนั้นตุ้นเทียนและหวังหลินพุ่งตรงเข้าไปในก้อนเมฆดำ

ฝ่ายตรงข้ามกำลังจะโจมตี เสียงตะโกนดังขึ้นจากภายในก้อนเมฆดำและเหล่าสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะหยุดลงพร้อมกับเปิดทางให้

ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสูงศักดิ์ไร้รอยสักบนร่างกายพลันเดินออกมาจากก้อนเมฆดำ ชายชราหลังค่อมติดตามมาด้านข้าง ใบหน้ามืดมัวและกระแอมเป็นพักๆ

หวังหลินจดจำชยชราคนนี้ได้ทันทีเนื่องจากเป็นคนที่ไล่ตามเขาเข้าไปในรอยแยกอวกาศและถูกขังทิ้งไว้ข้างใน

แรงอาฆาตระหว่างทั้งสองคนมีมากมาย หากเขาจำหวังหลินได้คงไม่ยอมยกเลิกจนกว่าจะตาย แต่ว่าหวังหลินสวมหมวกฟางและถูกหุ้มไว้ในธงวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจำแนกออก

“สำนักหลอมวิญญาณ!” ชายวัยกลางคนกระซิบขึ้น ดวงตาสว่างวาบ เขาเคลื่อนไหวไปข้างหน้าและขัดขวางตุ้นเทียนและหวังหลิน

“เจ้าทั้งสองจากสำนักหลอมวิญญาณ อยู่ที่นี่!” ชายวัยกลางคนยิ้มและโบกสะบัดแขน

ตู้มมม!

เกิดเสียงดังสนั่น เพียงแค่คลื่นธรรมดา พลังล่องหนสายหนึ่งปรากฎขึ้นและขังตุ้นเทียนกับหวังหลินไว้ราวกับอยู่ในกรง

สีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ภายในพลังล่องหนเขาสัมผัสอันตรายอันแข็งแกร่งได้ทันที

“ชาแมนเก้าใบไม้!” เสียงตุ้นเทียนออกมาจากข้างในธงวิญญาณ

อย่างไรก็ตามธงวิญญาณรอบตัวตุ้นเทียนปลดปล่อยดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนและวิญญาณหลักม่วงทองทั้งสิบสามดวงปลดปล่อยออกมาราวกับเทพเจ้า

ตุ้นเทียนตะโกน “โจมตี!”

ดวงวิญญาณแปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งออกไปทุกทิศทาง โดยเฉพาะวิญญาณขั้นแปลงวิญญาณของจริงทั้งสิบสามดวง เหล่าสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะทั้งหมดที่มีความแข็งแกร่งต่ำกว่าขั้นแปลงวิญญาณจะตายในทันทีเพียงถูกวิญญาณสิบสามดวงสัมผัส

ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วแน่น เขาพึ่งบรรลุขั้นเก้าใบไม้ดังนั้นจึงมีพลังเทียบเท่ากับเซียนขั้นเทวะระดับต้น ทว่าเขาไม่เคยเห็นพลังอำนาจอันน่าหวาดกลัวของธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงมาก่อน เขาเพียงแค่อ่านเรื่องราวในบันทึกสงครามเมื่อหลายหมื่นปีก่อนเท่านั้นและรู้ได้ว่ามันเป็นอาวุโสที่สังหารชนเผ่าละทิ้งอมตะไปจำนวนมากที่สุด

ตอนนี้เมื่อเห็นมันแล้วใบหน้าจึงมืดมัว เขาโบกแขนทำให้ก้อนเมฆดำถดถอยกลับไป เหล่าสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะที่อยู่ในก้อนเมฆพลันเปิดออกห่าง

ตุ้นเทียนหัวเราะและพาหวังหลินพุ่งออกไปจากก้อนเมฆดำออกไปไกล

“มู่เยว่ เจ้าพาสมาชิกเผ่าไปพบกับปรมาจารย์น้อย ข้าจะไปทดสอบพลังของธงวิญญาณหนึ่งล้านดวง” ชายวัยกลางคนออกคำสั่งก่อนจะไล่ตามหลังตุ้นเทียนไป

ชายชราหลังค่อมพยักหน้าและนำสมาชิกเผ่ากลับกลายเป็นก้อนเมฆดำ เมื่อเสร็จสิ้นจึงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อไป

ตุ้นเทียนเหาะเหินจากนั้นหยุดชะงักทันที “ชาแมนเก้าใบไม้กำลังตามเรามา เซิ่งหนิวจงมองดูให้เต้มตาว่าทำไมเซียนขั้นเทวะถึงได้กลัวธงวิญญาณหนึ่งล้านดวง”

เมื่อพูดจบเขาหันกลับไปเผชิญหน้ากับสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะ สายรุ้งโค้งข้ามผ่านท้องห้าและมาถึงเบื้องหน้าเขา ปรากฎตัวเป็นชายวัยกลางคน

ตุ้นเทียนไม่เสียเวลาพูด ฝ่ามือสร้างผนึกและพ่นโลหิตออก “สิบสามวิญญาณหลักและวิญญาณห้าร้อยล้านดวง จงปรากฎ!”

ท้องฟ้ามืดลงทันทีทันใดราวกับท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยบางสิ่งบางอย่างและพื้นดินแปรเปลี่ยนเป็นนรก

เสียงร้องไห้ครวญรางจากเหล่าดวงวิญญาณจำนวนไร้ที่สิ้นสุดเริ่มดังก้องรอบตัวพวกเขา

เหล่าดวงวิญญาณลอยออกมาจากธงวิญญาณทีละตัวปกคลุมไปทั้งพื้นที่ วิญญาณม่วงทองจดจ้องชายวัยกลางคนที่พึ่งปรากฎตัวขึ้น

“จงดูให้ดี นี่คือวิธีการใช้ธงวิญญาณที่ถูกต้อง ค่ายกลสิบสามวิญญาณ!” ตุ้นเทียนตะโกนพร้อมกับสายหมอกรอบตัวเขาเปลี่ยนกลับเป็นธงสูงสามสิบฟุต จากนั้นโบกสะบัด

ดวงวิญญาณห้าร้อยล้านดวงเริ่มเคลื่อนไหวอย่างลึกลับรอบวิญญาณหลักทั้งสิบสามดวงและสร้างเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ล้อมรอบหวังหลิน ตุ้นเทียนและชายวัยกลางคน

แม้หวังหลินจะเข้าใจเรื่องค่ายกล เขามองมันออกได้เล็กน้อยและไม่สามารถรู้รายละเอียดเชิงลึกได้

“หลอมวิญญาณ!” ตุ้นเทียนตะโกนพร้อมยื่นมือออกไป

ค่ายกลสั่นเทาขณะเดียวกันดวงวิญญาณทั้งหมดส่งเสียงแบบเดียวกัน น้ำเสียงราวกับค่ายมนต์คาถา

หลังจากนั้นไม่นานรัศมีสีดำพวยพุ่งออกมาท่ามกลางเหล่าดวงวิญญาณก่อเกิดเป็นแขนยักษ์หนึ่งข้าง แขนยักษ์ข้างนี้ทำสิ่งเดียวกับที่ตุ้นเทียนกำลังทำอยู่ราวเป็นร่างอวตารของเขา

ขณะที่ตุ้นเทียนยื่นมือออกไป ร่างสีขาวปรากฎตัวล้อมรอบชายวัยกลางคน มันเป็นวิญญาณของเขาเองซึ่งขณะนั้นมือยักษ์คล้อยต่ำลงมา

ดวงตาชายวัยกลางคนสว่างวาบ เขาไม่ได้ใช้สมบัติอันใดขณะชี้กลางอากาศและเอ่ยขึ้นมาคำเดียว “หยุด!”

เสียงดังปัง มือยักษ์หยุกกึกทันทีไร้การเคลื่อนไหว

ชายวัยกลางคนยื่นแขนตัวเองออกมาและลำแสงห้าสีแตกต่างกันรวบรวมในฝ่ามือ

“หม้อน้ำ!” ลำแสงทั้งห้าแตกกระจายก่อเกิดเป็นหม้อน้ำห้าชิ้นรอบตัวเขา

จากนั้นพึมพำ “หลอม!” หม้อน้ำขนาดใหญ่ทั้งห้าสั่นเทาพร้อมกับรอยสักประหลาดปรากฎรอบพวกมัน รอยสักกระพริบถี่หมุนไปรอบๆหมอ้น้ำ

หม้อน้ำใหญ่ทั้งห้าชิ้นสร้างวังวนห้าจุดข้างในค่ายกล

กลิ่นอายโบราณพวยพุ่งอยู่เต็มค่ายกลจากนั้นเหล่าวิญญาณบางส่วนถูกดึงเข้าไปในวังวนพวกนั้น

สีหน้าท่าทางของตุ้นเทียนสงบนิ่งขณะเอ่ยขึ้น “เจ้าเป็นชาแมนเก้าใบไม้จริงๆและเจ้าพอมีวิชาอยู่บ้าง เหล่าวิญญาณหลักทั้งสิบสามรวมตัว!”

ค่ายกลเปลี่ยนอีกครั้งทันทีขณะที่ดวงวิญญาณห้าร้อยล้านดวงรวบรวมไปทางวิญญาณหลักสิบสามดวงจากนั้นวิญญาณหลักเหล่านั้นเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

วิญญาณห้าร้อยล้านดวงรวมเข้ากับวิญญาณหลักสิบสามดวงส่งพลังให้แก่เซียนขั้นแปลงวิญญาณแต่ละคน รวมถึงยังมีพลังปราณสวรรค์อยู่ในร่างกายด้วย

ครั้งนี้ในที่สุดใบหน้าชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนไป

ตุ้นเทียนเอ่ยขึ้นด้วยสายตาเย็นเฉียบ “มันยังไม่จบ วิญญาณหลักสิบสามดวงรวมเป็นหนึ่ง!”

วิญญาณหลักทั้งสิบสามดวงพลันเคลื่อนไหวเกิดเป็นภาพติดตานับไม่ถ้วน เมื่อภาพติดตาหายไปวิญญาณจึงรวมกลายเป็นหนึ่ง

ดวงวิญญาณทั้งห้าร้อยล้านดวงและวิญญาณหลักสิบสามดวงกลายเป็นวิญญาณดวงเดียว

เมื่อวิญญาณดวงนี้ปรากฎขึ้น ท้องฟ้าพลันเปลี่ยนสี

“ขั้นเทวะ…” ชายวัยกลางคนสูดหายใจอันหนาวเหน็บ

วิญญาณหลักทั้งหมดในธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงคือเหล่าบรรพชนขั้นแปลงวิญญาณของสำนักหลอมวิญญาณ หนึ่งความเสียใจเดียวที่ทั้งหมดมีนั่นก็คือไม่อาจบรรลุขั้นเทวะได้ พวกเขาไม่สามารถทำได้ตอนที่ยังมีชีวิตและแรงปรารถนานี้เติบโตรุนแรงขึ้นแม้แต่ในความตายของพวกเขา

ท้ายที่สุดแล้วแรงปรารถนาของดวงวิญญาณทั้งหมดทำให้พวกเขาหลอมรวมกันสร้างพลังอำนาจที่เทียบเท่ากับเซียนขั้นเทวะได้

นี่ยังไม่ใช่พลังเต็มที่ของธงวิญญาณหนึ่งล้านดวง มันเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น

พลังนี้เพียงพอจะต่อสู้ต้านทานเหล่าเซียนขั้นเทวะระดับต้นได้แต่ไม่อาจเทียบได้กับเซียนเทวะระดับปลายเช่นเดียวกับซูซาคุคนปัจจุบัน สิ่งที่ซูซาคุคนปัจจุบันหวาดกลัวจริงๆก็คือพลังของวิญญาณหลักทั้งหมดสามสิบหกดวง โดยเฉพาะดวงที่สี่

ตุ้นเทียนจ้องชายวัยกลางคนและเอ่ยเยือกเย็น “ไปซะ วันนี้ข้าจะไม่สังหารเจ้า สำนักหลอมวิญญาณของข้าจะไม่เข้าร่วมสงครามระหว่างพวกเจ้ากับแคว้นซูซาคุ!”

สีหน้าชายวัยกลางคนมืดมัวอย่างมากและความโกระในใจปะทุขึ้น ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาแล้วหากตุ้นเทียนไม่มีธงวิญญาณผืนนี้เขาสามารถสังหารตุ้นเทียนได้ง่ายๆไปแล้ว

เขาจ้องตุ้นเทียนพร้อมกับครุ่นคิด หลังจากนั้นเอ่ยขึ้น “พลังเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอจะคุกคามข้าได้ แต่ธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงจะมีพลังแค่นี้ได้อย่างไรกันเล่า?”

ตุ้นเทียนหัวเราะขณะดวงตาส่องสว่างและเอ่ยขึ้น “สิบดวงวิญญาณหลัก จงปรากฎ!”

เขาโบกธงวิญญาณในมือและจากนั้นวิญญาณหลักขั้นแปลงวิญญาณอีกสิบดวงลอยออกมา

คราวนี้ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างขมขื่น ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเผ่าของเขาถึงหวาดกลัวธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงกันนัก

ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น “เมื่อสำนักหลอมวิญญาณจะไม่เข้าร่วมในสงคราม เช่นนั้นข้าจะพูดกับเผ่าของข้าและสัญญาว่าเราจะไม่ก้าวย่างเข้าไปในสำนักหลอมวิญญาณแม้แต่เพียงก้าวเดียว!”

สิ้นคำเขาคำนับฝ่ามือให้กับตุ้นเทียนและจากไปอย่างระมัดระวัง

ตุ้นเทียนโบกธงวิญญาณเพื่อรับเหล่าวิญญาณทั้งหมดและจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหวังหลิน

“ธงวิญญาณหนึ่งล้านดวง…” หลังเป็นพยานเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น ดวงตาหวังหลินเต็มไปด้วยแรงกระตุ้น โลกช่างกว้างใหญ่และเมื่อมีธงนั้นเขาสามารถไปที่ไหนก็ได้ตามต้องการ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!