453. ผู้ส่งสาส์นของต้าวเสิน
ขณะที่คว้ามวลหยดน้ำไว้ได้เขารีบถอยกลับทันที แต่รอยแยกมิติหนึ่งปรากฎเบื้องหลังอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงฉีกขาด เสื้อผ้าหวังหลินขาดหายไปกำมือใหญ่ราวกับโดนเขมือบ
เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบปกคลุมหน้าผากพร้อมกับหลบเลี่ยงรอยแยกอย่างระมัดระวังและในที่สุดเขาก็ออกจากหุบเขาได้
การสั่นสะเทือนนี้กินเวลาแค่สิบลมหายใจเท่านั้น แต่ภายในเวลาเท่านี้ทั้งสุสานซูซาคุถึงกับตกอยู่ในความโกลาหล รอยแยกนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าและผืนดิน หลายสถานที่บนเกือบจะล่มสลาย ความผันผวนของพลังปราณจำนวนเล็กๆนับไม่ถ้วนนั้นสามารถทำให้เกิดหายนะได้ ใครก็ตามที่ถูกเข้าไปในรอยแยกจะตายทันที
สุสานซูซาคุกลายเป็นสถานที่อันตรายอย่างยิ่งในชั่วขณะ
การพังทลายของผลึกดาวเซียนไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีแต่มันค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทั้งหมดถูกจูเซว่จื่อควบคุมเอาไว้ซึ่งเป็นเกมของเขา
หลังพื้นดินหยุดสั่นไหว เทือกเขาที่หวังหลินพึ่งจากมาพลันกลับเป็นเหมือนเดิมราวกับเหตุการณ์สั่นสะเทือนก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
สายลมอุ่นพัดระเหยเม็ดเหงื่อบนหน้าผากหวังหลินให้หายไปและแทนที่ด้วยความร้อน เขามองสิ่งย่อยยับเบื้องล่าง รอยแยกหลายแห่งยังคงเปิดและปิดอยู่
หวังหลินเสี้ยววิญญาณของลี่มู่หวานเข้ากับหน้าผากตัวเองและมันเข้าไปในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า
จากนั้นสูดหายใจลึกและเหาะเหินออกไปไกล
ขณะที่เหาะเหิน ดวงตาพลันสว่างวาบและมองทางเทือกเขาที่ล่มสลาย ชายชราหลังค่อมอยู่บนก้อนกรวดแต่มีเพียงครึ่งร่างเท่านั้น วิญญาณดั้งเดิมที่อ่อนแอของเขาพยายามดิ้นรนเพื่อออกจากร่างกาย
ภัยพิบัติที่พึ่งเกิดขึ้น เขาสูญเสียร่างกายครึ่งส่วนและรวมถึงวิญญาณรอยสักดั้งเดิมไปด้วย
ขณะที่สายตาหวังหลินจรดลงบนตัวเขา ดวงตาชายชราเผยอาการตื่นตระหนก เขารีบออกจากร่างกายและกำลังหลบหนี
ดวงตาหวังหลินเยือกเย็น เขาพ่นลมหายใจและรีบไล่ตามชายชราอย่างรวดเร็ว วิญญาณดั้งเดิมของเขาอ่อนแอมากจึงไล่ตามได้ไม่ยาก แต่รอยแยกหนึ่งพลันปรากฎเบื้องหน้าเขาโดยไร้เสียง
ชายชราพยายามกรีดร้องโหยหวนและถอยกลับทว่าช้าเกินไป ดวงวิญญาณทั้งดวงถูกรอยแยกทรงกลมกลืนกิน ขณะที่รอยแยกหายไปก็เป็นตอนที่วิญญาณเขาเข้าไปแล้ว
หวังหลินรีบหยุดกึก เขาครุ่นคิดอย่างเงียบๆและเงยศีรษะขึ้นมองออกไปไกล หลังเกิดการพังทลายไปหนึ่งรอบ สุสานซูซาคุแห่งนี้ไม่มั่นคงอย่างที่สุด หากเขาไม่ระมัดระวังเพียงชั่วขณะอาจทำให้ตายได้ ดังนั้นหวังหลินจึงเริ่มลังเล
ชั่วครู่ต่อมาหวังหลินถอนหายใจและเหาะเหินออกไปไกล
ดาวซูซาคุ ทะเลปิศาจ
ทะเลปิศาจเป็นหนึ่งในสถานที่แรกๆที่ถูกเผ่าละทิ้งอมตะโจมตี นอกจากนั้นแล้วมันยังใกล้กับฐานที่มั่นของเผ่าละทิ้งอมตะอีกด้วย รวมถึงหมอกที่เป็นม่านกำแพงกั้นโดยธรรมชาติมาหลายหมื่นปีพลันหายไป เนื่องจากการโจมตีจากหลายแคว้น ทะเลปิศาจจึงโกลาหล สถานะปัจจุบันไม่มีทางที่จะต่อต้านเผ่าละทิ้งอมตะได้ดังนั้นพวกเขาจึงจบลงด้วยการพ่ายแพ้
ตอนนี้มีคนผู้หนึ่งยืนอยู่นอกพื้นที่ดาราล่มสลายในทะเลปิศาจ เขาปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและร่างกายมิอาจเห็นได้ชัด ภาพโครงกระดูกอันเลือนลางปรากฎรอบตัวเขาแทบเกิดเป็นป่าโครงกระดูกไปแล้ว
เขามองไปยังพื้นที่ดาราล่มสลายด้วยใบหน้าลังเล
“ทัณฑ์สวรรค์ไม่ได้มาจากเซียนโบราณ มันเป็นการหลอมสมบัติโบราณไว้เล็กน้อยเท่านั้น ข้าเดินทางไปทั้งดวงดาวตลอดหลายร้อยปีไม่อาจค้นพบเซียนโบราณคนใดได้ ท้องไส้ข้าเริ่มหิวเล็กน้อย มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่ข้าได้กลิ่นของพวกเซียนโบราณ แต่ที่นี่อันตรายเกินไป ข้าควรจะไปดีหรือไม่?!”
คนผู้นี้ครุ่นคิดเล็กน้อย ดวงตาสว่างขึ้นก่อนจะเริ่มส่ายศีรษะและพึมพำกับตัวเอง “ช่างเถอะ ข้าไม่อาจทิ้งชีวิตของข้าไปให้ตัวเองหิวได้ เมื่ออาการบาดเจ็บของข้าฟื้นตัวได้บ้างนั่นจะเป็นเวลาที่ออกจากซูซาคุ หากข้าถูกซือถูหนานค้นพบ ด้วยสภาพปัจจุบันไม่มีทางที่ข้าจะเอาชนะเขาได้ ”
ดวงตาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขณะพึมพำ “ข้าสงสัยว่าสหายเก่าเซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวจะเป็นอย่างไรบ้างบนดาวเทียนหยุน ข้าควรออกไปหาเขา ข้าค่อยไปขอให้เขาช่วยจัดการกับซือถูหนานและสอบถามว่าลูกลึกลับอยู่ที่ไหน”
ขณะนั้นดวงตาเขาพลันสว่างขึ้นมองออกไปไกล “แม้แต่ตอนนั้นถึงเจ้าจะซ่อนหัวเอาไว้แต่หางเจ้ายังเผยอยู่เลยนะ ไม่เจอกันนาน โป้จุน!”
เสียงหัวเราะแหบพร่าดังออกมาจากความว่างเปล่า หลังจากนั้นไม่นานนักท้องฟ้าจึงมือลง น้ำทะเลจำนวนมากปรากฎกลางท้องฟ้าและเคลื่อนไหวราวกับกองทัพที่มีทหารม้านับหมื่น
ชายสวมชุดสีฟ้ายืนอยู่บนยอดคลื่นและเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว
มีลวดลายดอกไม้ถักไว้บนผ้าคลุม ลวดลายสลับซับซ้อน
“เจ้าโลภมาก! เจ้าคิดเรื่องสถานที่แห่งนี้เหมือนกันหรือ?!” แม้ว่าชายผู้นี้จะดูธรรมดาแต่ดวงตาแฝงความชั่วร้ายเอาไว้
คนที่มีรัศมีแห่งความตายล้อมรอบพลันพ่นลมหายใจและเอ่ยขึ้น “เพียงแค่เจ้ามาหาข้าก็ถือว่าก่อกวนแล้ว ถ้าเจ้าชอบที่นี่ก็เข้าไปข้างในเลย ข้าจะไปแล้ว!” เช่นนั้นเขาหายตัวและเหาะเหินออกไปสู่เส้นขอบฟ้า
ชายบนคลื่นทะเลเริ่มขบคิดและกระโดดลงมา เขาร่อนลงด้านนอกพื้นที่ดาราล่มสลาย คลื่นทะเลของเขากลายเป็นผลึกจากนั้นกลืนมันลงไป
“ประหลาดนัก เจ้าโลภนี่ไม่เคยไปที่ที่ไม่มีสมบัติมาก่อน ทุกที่ที่เขาไปจะต้องมีสมบัติสักสองสามชิ้น หมื่นปีที่แล้วข้ามาที่ดาวซูซาคุเขาก็อยู่ที่นี่มานานมากแล้ว แม้ตอนนี้กำลังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บอยู่แต่ว่ามันพักอยู่ที่นี่แทน?”
ชายคนนั้นครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในพื้นที่ดาราล่มสลาย…
ในะเลปิศาจส่วนลึกของดินแดนเทพโบราณบนเสาที่เหลืออยู่มีชายศีรษะยุ่งเหยิงผมสีแดงโลหิตอยู่คนหนึ่ง ทันใดนั้นเงยศีรษะขึ้น สายตาดุร้ายภายใต้เรือนผมนั้น ดวงตาสีแดงเข้มสามารถทำให้จิตใจสิ่งมีชีวิตทุกตนสั่นสะเทือน เขายิ้มอย่างโหดเหี้ยมออกมา
“มาอีกคนแล้ว…วันที่ข้าต้าวเสินจะหนีออกไปกำลังใกล้เข้ามาในไม่ช้า…หวังหลิน เจ้าต้องเก็บมรดกแห่งปัญญาของข้าให้ปลอดภัย หากไร้ซึ่งมรดกแห่งพลังแล้วมรดกแห่งปัญญานับว่าไร้ประโยชน์! อีกทั้งมรดกแห่งปัญญาของเจ้าไม่สมบูรณ์เพราะมันมีผลึกแห่งปัญญาอยู่ในมือข้าหนึ่งชิ้น!”
“ข้าใช้เวลาหลายปีและในที่สุดก็ใข้ความพยายามไปมากค้นคว้าหาความลับที่ซ่อนอยู่ในผลึก หลังจากรวมกับมันข้าก็นึกอะไรหลายอย่างได้มาก”
“ตลอดหลายปีมานี้ข้ารู้สึกถึงพลังลึกลับกำลังเติบโตขึ้นภายในแกนดาวเคราะห์แห่งนี้ พลังนี้คล้ายกับการเติบโตของทารกเทพโบราณ พลังที่พวกเซียนเรียกขานกันว่าผลึกดาวเซียน ข้าสามารถใช้ของสิ่งนี้ทำลายผลึกของข้าและใช้วิชาแลกเปลี่ยนวิญญาณเพื่อออกจากที่นี่ได้”
“ข้าจะต้องขอบคุณตู่ซือ ตอนเขาเลือกที่นี่สำหรับแบ่งจิตสำนึก พวกชนเผ่าบางส่วนแต่งตั้งให้เขาเป็นเทพ บันทึกทั้งหมดนี้อยู่ในผลึกปัญญาชิ้นสุดท้าย ตู่ซือตอบรับพวกเขาโดยการยกพื้นที่บูชายัญของเทพโบราณให้”
“แม้ว่าจะผ่านมานานหลายพันปีและชนเผ่าพวกนั้นล้มหายตายจากไปหมดแล้ว ที่มั่นสุดท้ายของเผ่าละทิ้งอมตะคือพื้นที่บูชายัญของเทพโบราณที่หลงเหลืออยู่ หากข้าไปที่นั่นจะสามารถใช้วิชาบางส่วนของข้าได้”
“เจ้าเด็กเผ่าละทิ้งอมตะกำลังหลับไหลอยู่ที่นั่นและการได้ผลึกดาวเซียนมาข้าต้องเสียสละผลักดันเขาให้เลื่อนจากขั้นสิบเอ็ดใบไม้ไปสู่ขั้นสิบสองใบไม้ นี่จะทำให้เขาทำลายผนึกของเผ่าและสังหารผู้คนในโลกแห่งเซียน”
“ทั้งหมดนี้กำลังดำเนินการไปตามแผนของข้าและสุดท้ายตำแหน่งของผลึกดาวเซียนจะเปิดออก หวังหลิน ในที่สุดผู้ส่งสาส์นของข้าได้พบเจ้าอีกครั้ง แม้เจ้าจะเปลี่ยนไปมากแต่ข้าต้าวเสินจะลืมเจ้าได้อย่างไร? สัมผัสวิญญาณของเจ้าได้สลักไว้ในใจข้า ไม่ว่าเจ้าจะวิ่งหนีไปไหน ข้าก็หาเจ้าพบ!”
ต้าวเสินเงยหน้าขึ้นหัวเราะ เสียงหัวเราะดังไปทั้งทะเลโลหิตทำให้เกิดคลื่นรุนแรงแตกกระจาย
ดวงตาเรืองแสงสีแดง แสงสีแดงนี้ดูเหมือนจะเข้มข้นกว่าทะเลโลหิตหลายเท่า
“หวังหลิน วันที่ข้าหลบหนีออกไปได้ใกล้มาถึงแล้ว! เมื่อข้ากลืนกินเจ้าข้าจะได้กลายเป็นเทพโบราณ เทพโบราณแปดดาว! ถึงตอนนั้นใครที่อยู่ในวงโคจรนี้จะเปรียบกับข้าได้!?!”
ขณะที่ต้าวเสินหัวเราะ เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากทะเลโลหิต ลิงน้อยสองตัวปรากฎขึ้นและเคลื่อนเข้าหาต้าวเสิน
ดวงตาลิงน้อยสองตัวเรืองแสงสีแดงปิศาจ
ตอนนี้ในสุสานซูซาคุ ดวงตาชายชราเรืองแสงสีแดงพร้อมกับเผยรอยยิ้มน่าขนลุก ดวงตาเจ้าลิงบนบ่าเขายิ่งแดงมากขึ้น
ตอนที่เจ้าลิงน้อยร้องเสียงแหลม ชายชราหยุดกึกชั่วขณะและมองออกไปไกล สายตาเรืองแสงสีแดงยิ่งขึ้น
“เขามาแล้ว!” ชายชรากำลังจะเคลื่อนไหวออกไปแต่เจ้าลิงบนบ่ากลับส่งเสียงคำราม
ชายชราหยุดกกึกก่อนจะหันกลับไป เป้าหมายของเขาคือใจกลางสุสานซูซาคุ
ขณะที่ชายชราเหาะเหินไป เจ้าลิงน้อยมองไปเบื้องหน้าและดวงตาเรืองแสงสีแดงเจิดจ้า
ชายชรารวดเร็วมาก เขาดูเหมือนจะสามารถตรวจจับรอยแยกที่จะปรากฎขึ้นได้ดังนั้นจึงหลบเลี่ยงพวกมันอย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเคลื่อนไหวเร็วมากแต่ไม่มีอันตรายใดต่อเขาเลย
หลังจากชายชราจากไปไม่นาน ลำแสงหนึ่งลอยออกมาจากระยะไกลและหวังหลินลงมาถึง เขามองตำแหน่งที่ชายชราออกไปและเริ่มครุ่นคิด