559. การต้อนรับ
มีร่องรอยบางส่วนบนพื้นตรงจุดที่โต๊ะและเก้าอี้เคยอยู่ รอยเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากการที่วิชาป้องกันฝุ่นได้ถูกทำลายไปพร้อมกับการปิดผนึกที่นี่
หลังจากสังเกตบ้านทั้งหลังอย่างละเอียด หวังหลินพบข้อมูลจำนวนมาก
เรื่องแรกมีอยู่สามคนที่เข้ามาบ้านหลังนี้ก่อนเขา! แน่นอนว่ามีโอกาสเสมอที่คนอื่นจะเข้ามาเพื่อหาร่องรอยกฏเกณฑ์เหมือนที่เขาทำ
ท่ามกลางสามคนนี้ คนแรกที่ปรากฎออกมาคือคนที่ใช้กฏเกณฑ์สิบแปดดอกพลัม คนผู้นั้นต้องเป็นคนหยิ่งยโสยอย่างยิ่งและสิ่งธรรมดาทั่วไปไม่อยู่ในความสนใจเขา จากการสังเกตของหวังหลิน ทุกตำแหน่งที่ดูมีมูลค่าจะมีสัญลักษณ์ของกฏเกณฑ์สิบแปดดอกพลัมเอาไว้
หลังจากคนผู้นี้จากไป มีอีกสองคนเข้ามาและวิธีการแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญน้อยกว่ามาก โต๊ะและเก้าอี้จึงถูกหนึ่งในสองคนนี้เอาไป
เหตุผลหลักมาจากร่องรอยที่หวังหลินเห็นบนพื้น
มีเศษขี้เลื่อยเล็กๆบนร่องรอยสีเทาพวกนี้และหากไม่ได้สังเกตอย่างละเอียดก็คงไม่ดูไม่ออก
หวังหลินนั่งย่อเข่า ปาดนิ้วไปที่ขี้เลื่อยและมองใกล้ๆ
“ทำลายกฏเกณฑ์ด้วยกำลังจึงทำให้โต๊ะและเก้าอี้ได้รับความเสียหาย…” หวังหลินสะบัดขี้เลื่อยและออกมาจากบ้าน
มีทางเดินยาวด้านหลังบ้านพร้อมกับรั้วหินหยกสวรรค์กั้นเอาไว้ อีกด้านหนึ่งเป็นบ่อน้ำแห้ง
มีเศษแตกหักของกฏเกณฑ์หลงเหลืออยู่จำนวนมาก ในบ่อน้ำหวังหลินยังพบกฏเกณฑ์รูปแบบสิบแปดดอกพลัมอีกครั้ง
หวังหลินสังเกตรอบๆอย่างระมัดระวังพร้อมกับเดินตรงผ่านเข้าไปที่ทางเดิน รั้วรอบๆตัวเขาหลายแห่งเผยจุดกำลังแตกหัก
หวังหลินเข้าไปลึกขึ้นก็ยิ่งเห็นเศษกฏเกณฑ์แตกหักน้อยลง หลังจากเดินเข้ามาได้ห้าลี้เขาก็เห็นจุดสิ้นสุดทางเดิน ที่จุดนั้นแบ่งออกเป็นทางเดินสามเส้นทาง
หวังหลินหยุดตัวลงที่จุดตัดกันทั้งสามและมองสามเส้นทางอย่างละเอียด เขาจำเป็นต้องหาว่าทางไหนที่คนใช้กฏเกณฑ์สิบแปดดอกพลัมเข้าไป กฏเกณฑ์ของเขาทรงพลังอย่างยิ่ง ดังนั้นหากหวังหลินตามรอยเขาก็คงไม่สามารถหาสมบัติอันใดได้
คนผู้นั้นเหมือนกับโจรมีชื่อเสียงที่หยิบจับแต่สิ่งดีดี ขณะที่สองคนที่ตามมาทีหลังเหมือนกับโจรกระจอกที่เอาทุกอย่างที่สามารถเอาไปได้ อย่างไรก็ตามความสามารถแต่ละคนมีขีดจำกัด ดังนั้นสมบัติดีดีบางอย่างจึงยังถูกทิ้งไว้
หลังจากมองเส้นทางทั้งสามเส้น หวังหลินเดินเข้าเส้นทางแต่ละเส้นลึกหลายสิบฟุตก่อนจะกลับมาที่ทางแยกเดิม ดวงตาส่องสว่างขึ้นและเดินลงไปที่เส้นทางขวา
แม้ว่าทัศนียภาพยังดูเหมือนเดิม แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งพันฟุต หวังหลินเห็นกฏเกณฑ์แตกหักอยู่ทุกที่ กฏเกณฑ์พวกนี้ถูกทำลายด้วยกำลังและกระทั่งมีบางส่วนที่แตกหักไปครึ่งเดียวนั่นหมายความว่าคนที่มาได้ยกเลิกกลางคัน
ทุกครั้งที่เขาเผชิญกับกฏเกณฑ์หักครึ่ง หวังหลินจะหยุดลงและสังเกตมันอย่างละเอียด หวังหลินไม่เร่งรีบทำลายมันและเคลื่อนตัวไปอีกชิ้นหลังจากสังเกตดูแล้ว
เส้นทางด้านขวายังยื่นออกไปอย่างต่อเนื่องและมีรั้วอยู่ด้านข้างเช่นเดิม ทว่าไม่มีบ่อน้ำอีกฝั่งเสียแล้วแต่กลับกลายเป็นป่าไผ่แทน
ขณะที่หวังหลินเดินตรงไปอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นหวังหลินหยุดกึก ฝ่าเท้าขวายกขึ้นช้าๆกลับคืนตำแหน่งตั้งต้น หวังหลินไม่ขยับเขยื้อนแต่ในแววตามีกฏเกณฑ์กระพริบถี่หลายครั้ง
มีคฤหาสน์แห่งหนึ่งสูงราวร้อยฟุตอยู่ด้านหน้า ในวังแห่งนี้มีโต๊ะกลมและม้านั่งสี่ตัว อีกทั้งมีไหเหล้าพร้อมกับถ้วยไม่กี่ใบบนโต๊ะ
สายตาหวังหลินหรี่ลงและเผยความระมัดระวัง มองรอบตัวอย่างรอบคอบ กฏเกณฑ์รอบๆคฤหาสน์มีอยู่ครบถ้วน ไม่มีร่องรอยแตกหักเสียหายอันใด
“ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวกับไหเหล้าบนโต๊ะตรงนั้น! ข้าติดตามคนล่าสุดที่ทำลายกฏเกณฑ์ด้วยกำลังจนมาถึงที่นี่ แต่ดูเหมือนเขาจะถูกกฏเกณฑ์หยุดไว้ตรงนี้!”
หวังหลินครุ่นคิดและจากนั้นก้าวถอยหลังสองสามก้าว กฏเกณฑ์ในดวงตากระพริบวาบขณะที่สังเกตการณ์อย่างละเอียดและใบหน้าค่อยๆเคร่งเครียดขึ้น
“เป็นเช่นนี้เอง กฏเกณฑ์ข้างในวังมีความแตกต่างกันหมื่นรูปแบบ หากไม่สามารถหาทางได้ เมื่อข้าเข้าไปภายในระยะหนึ่งร้อยฟุตมันจะกระตุ้นทันที หากใครพยายามทำลายกฏเกณฑ์หมื่นรูปแบบด้วยกำลัง คงยากนักที่จะล่าถอยได้เว้นแต่จะมีระดับบ่มเพาะต่อต้านลิขิตสวรรค์”
“นอกไปจากนี้ส่วนสำคัญที่สุดคือกฏเกณฑ์ตรงตรงคฤหาสน์ซึ่งล้อมรอบกฏเกณฑ์ทั้งหมดและสามารถกระตุ้นทุกอย่างรอบตัวมันได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่มาก่อนหน้าถึงตัดสินใจยอมแพ้!”
“แม้ว่ากฏเกณฑ์จะทรงพลัง หากคนที่ใช้กฏเกณฑ์สิบแปดดอกพลัมมาที่นี่เขาเพียงแค่เสียเวลาเล็กน้อยเพื่อทำลายมันเท่านั้น ดูเหมือนข้าจะเลือกทางที่ถูกต้อง ยังไม่มีใครผ่านมาถึงจุดนี้!”
หวังหลินสูดหายใจลึกและเผยอาการตื่นเต้น หลังจากเขามาที่นี่ สิ่งที่เห็นทั้งหมดคือกฏเกณฑ์ที่ถูกคนอื่นทำลาย เสมือนกับว่าท่านเข้าไปในภูเขาสมบัติแต่กลับพบว่าสมบัตินั้นถูกคนอื่นเอาไปนานมาแล้ว
แต่สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้คือคฤหาสน์ที่มีสมบัติอยู่เต็มภูเขา!
หวังหลินระงับอาการตื่นเต้นในใจ เขาเริ่มการสังเกตคฤหาสน์อีกครั้งจากนั้นตัดสินใจนั่งสมาธิและเริ่มศึกษา
กฏเกณฑ์ล้อมรอบคฤหาสน์เสมือนกับใยแมงมุม คนธรรมดาคงไม่เห็นสิ่งใดแต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญกฏเกณฑ์แล้วเขาเห็นทุกสิ่งอย่างแตกต่างกันซึ่งทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญคนนั้นๆ
หากต้องการทำลายกฏเกณฑ์ที่นี่ อันดับแรกคือการสังเกต
หวังหลินนั่งอยู่เป็นเวลาสามวัน ในสามวันนี้ดวงตาหวังหลินปรากฎเส้นโลหิตและเริ่มแสดงอาการเมื่อยล้า
“ข้าเห็นแต่เพียงการเปลี่ยนแปลงสามพันรูปแบบเท่านั้น ข้ายังมีหลายทางก่อนจะทำลายมัน! แต่ว่าด้วยกฎเกณฑ์ปัจจุบันที่ยังไม่เปิดใช้งานดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างที่ไม่อาจมองเห็นได้…” หวังหลินขบคิด ทันใดนั้นยกฝ่ามือขึ้น ปราณสวรรค์เส้นหนึ่งรวบรวมที่ปลายนิ้วและสะบัดเข้าหาคฤหาสน์
หลังจากสะบัดนิ้ว หวังหลินถอยกลับอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพติดตา
ขณะที่ปราณสวรรค์เข้าไปใกล้คฤหาสน์ในระยะร้อยฟุต มันแตกสลายกระจัดกระจายเป็นจุดแสงเล็กๆทันที ราวกับส่งน้ำกลายเป็นน้ำมันเดือดพร้อมกับเกิดการระเบิดภายในระยะร้อยฟุตนั้น
เมื่อคลื่นเริ่มเกิดระลอก แรงกดดันอย่างบ้าคลั่งออกมาจากระยะร้อยฟุต จากนั้นพลังรุนแรงสายหนึ่งพุ่งพล่านออกมาและขยายตัวทันที
หากหวังหลินไม่เตรียมการมาก่อนและตอบสนองรวดเร็วพอ เขาคงถูกคลื่นนี้กลืนกินไปแล้ว
หวังหลินหยุดลงหลังจากออกห่างได้หนึ่งพันฟุต แม้ว่าเขากำลังล่าถอยแต่สายตายังคงจดจ้องคฤหาสน์หลังนั้นและตอนนี้ดวงตาหวังหลินส่องสว่างวาบ
“มีการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าหมื่นรูปแบบในกฎเกณฑ์นั้น!” หวังหลินนั่งลงเงียบๆและคิดคำนวณต่อไป
เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆและเพียงกระพริบตา หนึ่งเดือนก็ผ่านไป
ช่วงระหว่างหนึ่งเดือนหวังหลินได้ศึกษาโดยใช้ปราณสวรรค์เพื่อกระตุ้นกฏเกณฑ์อยู่หลายครั้ง เขาเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแต่ละครั้งได้อย่างมหาศาลและค่อยๆได้รับความรู้บางอย่างในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้างในคฤหาสน์
ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยหยุดพักเลย ตอนนี้ดวงตาหวังหลินแดงก่ำและกำลังมีโลหิตซึมออกมา!
หวังหลินลืมเลือนทุกสิ่งอย่าง เขาลืมเลือนแม้กระทั่งว่าตนเองอยู่ในถ้ำของคนอื่น ตอนนี้สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดเขาคือการทำลายกฏเกณฑ์นี้!
ยิ่งหวังหลินศึกษาก็ยิ่งไม่ลดความย่อท้อ หวังหลินสัมผัสถึงสิ่งอันยิ่งใหญ่ตอนที่เขากำลังเก็บเกี่ยวเช่นนี้ กฏเกณฑ์แฝงการเปลี่ยนแปลงหมื่นรูปแบบและขณะที่เขาเรียนรู้มันก็ยิ่งเข้าใจได้ลึกล้ำขึ้นไปอีก
หวังหลินเรียนรู้เรื่องกฏเกณฑ์ตอนอยู่ในดินแดนเทพโบราณ และรูปแบบกฏเกณฑ์ที่เรียนมาคือกฏเกณฑ์โบราณ จากนั้นเขาก็พบถ้ำแห่งหนึ่งบนดาวซูซาคุและบังเอิญไปเจอหนังสือจำนวนมาก หลายร้อยปีของการใช้กฏเกณฑ์และรวมเข้าด้วยกัน ความเข้าใจกฏเกณฑ์ของหวังหลินยิ่งขยายกว้างออกมากขึ้น ความเชี่ยวชาญด้านกฎเกณฑ์เพิ่มขึ้นโดยการเรียนรู้กฏเกณฑ์อื่นๆและเมื่อเขาสร้างธงกฏเกณฑ์ 999 รูปแบบได้เสร็จสิ้น ความเชี่ยวชาญด้านกฏเกณฑ์ก็มาถึงคอขวด
ใครก็ตามที่เรียนรู้ศึกษากฏเกณฑ์จะเผชิญกับคอขวดหลายครั้งในตลอดชั่วอายุขัย และหากไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ การเรียนรู้จะจมอยู่ตรงนี้ คอขวดเป็นสิ่งมองไม่เห็นและเป็นสิ่งที่มีปัจจัยหลายรูปแบบแตกต่างกัน
หวังหลินศึกษาเรียนรู้อย่างมากมายตลอดทั้งเดือน ทักษะด้านกฏเกณฑ์ของเขาเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล การเปลี่ยนแปลงหลากหลายแบบในกฏเกณฑ์ได้ทำให้เขาทะลวงผ่านคอขวดโดยไม่รู้ตัวและเดินลงสู่ถนนอันยิ่งใหญ่ข้างหน้า!
ตอนนี้เขามีโอกาสเพียงสี่ในสิบส่วนในการทำลายกฏเกณฑ์ข้างหน้า แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงสี่ส่วนแต่ต้องกล่าวว่าคนที่ศึกษากฎเกณฑ์มาหลายพันปียังมีโอกาสเพียงหนึ่งถึงสองส่วนเท่านั้น
มีเพียงเซียนเฒ่าที่มีชีวิตอยู่มาหลายหมื่นปีโดยมีความรู้และปัญญามหาศาจถึงกล้าพูดว่ามีโอกาสสี่ในสิบส่วน!
“หากคนที่ควบคุมกฏเกณฑ์สิบแปดดอกพลัมมาที่นี่ ข้ากลัวว่าเขาจะมีโอกาสถึงเจ็ดในสิบส่วน!” หวังหลินขบคิด เขาไม่ได้เคลื่อนไหวแต่มุมานะต่อไป
อีกหนึ่งเดือนผ่านไป แม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์นี้ทั้งหมด หวังหลินมั่นใจถึงห้าในสิบส่วน
ในวันนี้เองหวังหลินยืนขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม แม้สายตาจะแดงฉานแต่หวังหลินยังมีสติดี เขาเข้ามาถึงระยะหนึ่งร้อยฟุตในทันทีและหลังจากคาดคำนวณเล็กน้อยจึงเดินก้าวไปข้างหน้า!
ก้าวแรกนี้หวังหลินไม่ได้กังวลเลย เขามั่นใจในก้าวแรกว่าจะไม่ทำให้เกิดสิ่งใดขึ้นและจะไม่กระตุ้นกฏเกณฑ์ออกมา
หลังจากก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นบริเวณโดยรอบ จากนั้นก้าวไปอีกก้าวโดยใบหน้าเป็นธรรมชาติ
สามก้าวมีระยะสิบฟุต หวังหลินก้าวไปอีกเก้าก้าว ตอนนี้เขาผ่อนคลายตลอดเวลาเหมือนกำลังเดินผ่านสวนหลังบ้านของตัวเอง ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้น
หวังหลินหยุดลงหลังจากก้าวไปเก้าก้าวและกฏเกณฑ์หลายชุดกระพริบในดวงตาเขา จากนั้นมองคฤหาสน์ที่อยู่ห่างออกไปเจ็ดสิบฟุต หวังหลินบีบนิ้วเข้าด้วยกันพร้อมกับคำนวณเล็กน้อยและเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
คราวนี้เขาเดินมาอีกเก้าก้าว! เบ็ดเสร็จเดินมาแล้วหกสิบฟุต
ระยะห่างหกสิบฟุตไม่ได้ไกล แต่หวังหลินใช้เวลาสองเดือนเพื่อคำนวณเส้นทางที่ปลอดภัยให้ผ่านระยะหกสิบฟุตนี้ ซึ่งแม้กระทั่งเซียนเฒ่าหมื่นปีก็ไม่สามารถผ่านได้ง่ายๆ!