560. หลับลึก
ผ่านมาแล้วหกสิบฟุต สายตาหวังหลินหรี่แคบ เขาหยุดลงและถอยหลังสามก้าว เดินไปข้างหน้าเก้าก้าวและถอยสามก้าว จากนั้นก้าวตรงอีกครั้ง!
หวังหลินเข้ามาเกือบจะถึงวงกลมเล็กที่อยู่ห่างออกไปสามสิบฟุตหน้าคฤหาสน์!
หวังหลินสีหน้าสงบนิ่งเพราะทั้งหมดนี้คือความพยายามของเขา การเปลี่ยนแปลงหมื่นรูปแบบถูกจดจำไว้ในจิตใจแล้ว ทุกก้าวได้ผ่านการคำนวณมานับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งมั่นใจที่สุดแน่นอน
ที่หวังหลินก้าวเท้าไปได้อย่างสบายๆก็เราะเขามั่นใจมาก หวังหลินรู้ดีว่าหากไม่ระมัดระวังและก้าวผิดแม้แต่ก้าวเดียวจะทำให้เกิดการตีกลับอย่างร้ายแรง
หกสิบฟุตแรกนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่ดูเหมือนสี่สิบฟุตสุดท้าย ด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลินตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นหายนะ!
อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ มีเส้นทางที่ปลอดภัยอยู่ภายในกฏเกณฑ์เสมอ หากสามารถก้าวบนเส้นทางนั้นได้ในช่วงเวลาคับขันก็จะทำให้รักษาชีวิตเอาไว้ได้
ซึ่งรวมถึงกฏเกณฑ์เทพอันพิเศษเช่นนี้ด้วย!
ทว่าทางเดินที่ปลอดภัยไม่เคยถูกสร้างเอาไว้และขยับเคลื่อนไหวภายในกฏเกณฑ์อย่างต่อเนื่อง สองเดือนที่ผ่านมา นอกจากการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์นี้ หวังหลินยังเพ่งสมาธิในการค้นหาตำแหน่งที่ปลอดภัยอีกด้วย
เหตุผลที่หวังหลินเข้ามาในระยะวงกลมจากหกสิบฟุตมาถึงเจ็ดสิบฟุตก็เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางปลอดภัย เขาพาตัวเองให้อยู่ห่างจากมันหนึ่งก้าวเสมอ
ในตอนนี้หวังหลินเดินมาได้เจ็ดสิบฟุตพร้อมกับคำนวณไปด้วย ร่างกายขยับเคลื่อนไหวและก้าวข้ามสิบฟุตในครั้งเดียว
หลังร่อนข้ามระยะสิบฟุตมาได้ จังหวะที่เท้าสัมผัสกับพื้น ใบหน้าหวังหลินก็เปลี่ยนไป เขาขยับเท้าครึ่งก้าวไปทางซ้ายโดยไม่ลังเล พายุทอร์นาโดสีดำลูกหนึ่งปรากฏขึ้นห่างออกไปสิบฟุต!
พายุทอร์นาโดปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าพร้อมกับพลังทำลายรุนแรงพร้อมกับมีสายฟ้าสีดำเคลื่อนไหวอยู่ภายใน พื้นที่ระยะสิบฟุตถูกปกคลุมด้วยพลังทำลายล้าง สายลมรุนแรงพุ่งผ่านพื้นที่พร้อมกับกระแสไฟฟ้าโหมกระหน่ำ พลังทำลายล้างเช่นนี้แม้แต่เซียนขั้นเทวะก็ไม่อาจต้านทานได้ นับประสาอะไรกับหวังหลิน!
โดยเฉพาะสายฟ้าซึ่งเคลื่อนไหวราวกับมังกรที่สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้!
หวังหลินขยับร่างเคลื่อนตัวไปด้านข้างพายุที่ปกคลุมพื้นที่รัศมีสิบฟุตโดยระมัดระวังเกลียวสายฟ้าเหล่านั้น ทุกก้าวที่เขาเข้าไปคือเส้นทางที่ปลอดภัย และผิดพลาดเพียงครึ่งเดียวคือการจบชีวิตพร้อมกับวิญญาณดั้งเดิมแตกสลาย!
ก้าวก่อนหน้านี้ไม่ได้คำนวณผิดพลาด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง กฏเกณฑ์ได้ทำการย้อนกลับ!
หลังผ่านไปชั่วเวลาสิบลมหายใจ พายุทอร์นาโดก็หายไปราวกับไม่เคยคงอยู่มาก่อน และสายฟ้าสีดำก็หายไปพร้อมกับมันด้วย หวังหลินเคลื่อนร่างเป็นแสงกระพริบและข้ามผ่านพื้นที่สิบฟุตสุดท้าย ร่อนลงข้างในคฤหาสน์ แม้เขาจะก้าวข้ามผ่านระยะสิบฟุตสุดท้าย หน้าผากยังปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ
ชั่วขณะที่ก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ พื้นที่รอบๆหนึ่งร้อยฟุตพลันส่องสว่างขึ้น มันส่องสว่างเจิดจ้าไปทั้งพื้นที่ทำให้วิวทิวทัศน์เปลี่ยนแปลงไปทันที
เมื่อหวังหลินมองเข้าไปในคฤหาสน์แห่งนี้ มันราวกับมีก้อนเมฆกระจายตัวออกมาเผยเป็นพื้นที่ที่มีภูเขามายา ใบไม้ใบหญ้ามีอยู่ทุกแห่งหน ป่าไผ่ในนั้นเชื่อมต่อกับป่าไผ่ที่มีอยู่ตรงนี้ไว้ด้วยกัน
ฉากการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ราวกับได้ผ่านประตูแห่งความตายและเข้าสู่โลกอีกใบ
ในขณะเดียวกัน น้ำเสียงเยือกเย็นดังออกมาจากความว่างเปล่าและเข้าสู่โสตประสาทของหวังหลิน
“ทำลายหนึ่งกฏเกณฑ์ทำให้เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าของถ้ำแห่งนี้ชั่วคราว ตราบใดที่เจ้าไม่ตาย จะไม่มีใครคนอื่นเข้ามาได้!” ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้นมา ลำแสงสีทองเส้นหนึ่งลอยออกมาจากระยะไกลและหยุดลงตรงหน้าหวังหลิน
มันคือป้ายสิทธิ์ผลึกแก้ว มีขนาดเพียงแค่นิ้วมือเท่านั้น มันลอยกลางอากาศพร้อมกับปลดปล่อยแสงเจ็ดสี
“นี่คือป้ายสิทธิ์ ถือมันเอาไว้แล้วเจ้าจะสามารถเข้าไปในถ้ำได้!”
หวังหลินสูดหายใจลึกพร้อมกับคว้าป้ายสิทธิ์ผลึกแก้วเล็กๆนี้เอาไว้และมองเข้าไปที่คฤหาสน์ โต๊ะและเก้าอี้หินทุกตัวมีกฏเกณฑ์ป้องกันเอาไว้จึงไม่สามารถแตะต้องมันอย่างลวกๆได้
ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกฏเกณฑ์ที่ครอบคลุมรัศมีหนึ่งร้อยฟุตนอกคฤหาสน์ กฏเกณฑ์เหล่านี้ถือว่าอ่อนแอกว่ามาก
หวังหลินไม่ได้สนใจโต๊ะหรือเก้าอี้ สายตาของเขาจ้องไปที่เหล้าที่ตั้งอยู่บนนั้น
แม้ว่ากฏเกณฑ์บนไหเหล้านับได้ว่ายอดเยี่ยม แต่สำหรับหวังหลินกลับทำลายได้ไม่ยาก หลังจากขบคิดเล็กน้อย ฝ่ามือชี้ไปทางไหเหล้าและระลอกราวกับคลื่นน้ำปรากฎห่างออกมาสามนิ้ว
หวังหลินชี้นิ้วไปที่ระลอกคลื่นจสร้างมันออกมาหลายคลื่น ขณะเดียวกันก็ยกนิ้วขึ้นอย่างรวดเร็ว กฏเกณฑ์มายาพุ่งออกมาปะทะเข้าใส่ระลอกคลื่นน้ำตรงนั้น
ระลอกน้ำเริ่มเดือดและเกิดเป็นน้ำวน กระแสน้ำวนเริ่มหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้นจนกระทั่งเกิดเป็นวงกลมที่มีช่องว่างตรงกลาง
หวังหลินเอื้อมมือขวาออกไปราวกับสายฟ้าผ่านกระแสน้ำวนเพื่อคว้าไหเหล้าและดึงมันออกมาในทันที
หวังหลินขยับมือรวดเร็วราวกับสายฟ้าพุ่งตรงผ่านผ่านน้ำวน คว้าไหเหล้าและดึงมันกลับออกมาในเสี้ยววินาที
จากนั้นระลอกคลื่นก็หายไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ
หวังหลินตื่นเต้นมาก เพราะไหเหล้าในมือมีน้ำหนักซึ่งต้องมีอะไรอยู่ภายในอย่างแน่นอน! หวังหลินสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเปิดฝาออก กลิ่นหอมสดชื่นเต็มฟุ้งเต็มอากาศ หวังหลินมองไปที่ก้นไหซึ่งเห็นหยดเหล้าอยู่สิบหยด!
“ไหเหล้าค่อนข้างหนักแต่กลับมีอยู่เพียงสิบหยดเท่านั้น…ถึงกระนั้นนี่คือเหล้าของเทพ มันไม่ใช่สิ่งของธรรมดา!” หวังหลินจดจ้องไหเหล้าและเริ่มออกอาการ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กัดฟันแน่น รินหยดเหล้าออกมาหนึ่งหยดและสูดมันเข้าปากทันที
ขณะที่หยดเหล้าเข้าไปในร่างกาย ทั้งร่างหวังหลินเปลี่ยนเป็นสีแดงส่องสว่าง ปราณสวรรค์จำนวนมากพุ่งพล่านเติมเต็มร่างกายทันที
ความรู้สึกมึนเมาค่อยๆปรากฎในร่างกายหวังหลินพร้อมกับพลังปราณสวรรค์
จำนวนพลังปราณสวรรค์ในร่างเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านเส้นชีพจรราวกับน้ำท่วม จากนั้นเกิดการกระตุ้นอันร้อนแรงที่จุดตันเถียนและพุ่งผ่านร่างกาย
ขณะเดียวกันอาการมึนเมาก็ยิ่งค่อยๆรุนแรงขึ้น สายตาหวังหลินไม่แจ่มชัดอีกและเกิดอาการปวกเปียก
ร่างกายค่อยๆไถลลงด้านข้าง ศีรษะตกกระแทกและฟุบหลับลงไป
เวลาผ่านไปสามเดือน … หกเดือน … เก้าเดือน … หนึ่งปี!
หวังหลินหลับมาตลอดทั้งปี เสียงกรนเล็กๆดังออกมาจากปาก นับตั้งแต่ที่หวังหลินเริ่มฝึกเซียน หายากมากที่เขาจะหลับได้ขนาดนี้และนี่เป็นครั้งที่เขาหลับได้ยาวนานที่สุดในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา!
แม้ว่าเขากำลังหลับไหล ปราณสวรรค์ในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับความเร็วนี้แม้แต่เทียนหยุนก็ต้องตกใจหากเขาอยู่ที่นี่
เมื่อปราณสวรรค์ในร่างบรรลุถึงจุดหนึ่ง ผลึกปิศาจในจุดตันเถียนของหวังหลินพลันแตกกระจายและหลอมรวมอย่างเงียบเชียบ ปราณปิศาจเติมเต็มร่างกายในทันทีแต่ถูกปราณสวรรค์กลืนกินทั้งหมดและกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา
ปราณสวรรค์หลายเส้นออกมาจากร่างกายและแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่รอบๆหนึ่งร้อยฟุต ในหนึ่งปีที่หวังหลินหลับไป พลังปราณสวรรค์ในตัวเขาแพร่กระจายออกมาในพื้นที่นี้อย่างหนาแน่น
ขณะที่หวังหลินหลับ มือยังคงกำไหเหล้าเอาไว้แน่น
ณ วันนี้ หวังหลินลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เขาเรอออกมาเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนขณะมองรอบๆด้วยอาการงุนงง แต่ความงุนงงนั้นหายไปทันทีและเต็มไปด้วยความกระจ่างชัด
หวังหลินรีบลุกขึ้นทันทีด้วยท่าทางระมัดระวัง จากนั้นมองไปรอบด้านและค่อยๆขมวดคิ้วมองไหเหล้าในมือ หวังหลินจดได้ว่าหลังจากดื่มไปหนึ่งหยด พลังปราณสวรรค์ในร่างกายเพิ่มขึ้นและจากนั้นเขาก็สูญเสียการควยคุมและหลับลงไป!
เมื่อคิดเรื่องปราณสวรรค์ หวังหลินตรวจสอบร่างตัวเองทันที หลังจากนั้นสายตาก็เปลี่ยนเป็นอาการตกตะลึง
“นี่…ข้า…ข้าหลับไปนานแค่ไหนกัน?” หลังจากหวังหลินเริ่มฝึกเซียน หายากมากที่เขาจะเกิดอาการตกตะลึงแบบนี้ได้
“พลังปราณสวรรค์ในร่างกายข้าได้เหนือขั้นแปลงวิญญาณระดับปลายไปไกลมาก ข้าเพียงต้องเข้าใจเขตแดนให้มากขึ้นอีกก้าวเท่านั้นเพื่อบรรลุขั้นเทวะในบททดสอบชีวิตและความตาย!” หวังหลินมองไปที่ไหเหล้าด้วยอาการไม่เชื่อสายตา
“นี่มันเหล้าอะไรกัน?!” หวังหลินเก็บเหล้าไว้ในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง ทว่ายังรู้สึกกังวลจึงนำมันออกมาวางกฏเกณฑ์ลงไปอีกหลายชั้นและค่อยนำกลับไปใส่ในกระเป๋าเหมือนเดิม
“ข้าต้องค้นที่นี่ให้แน่ชัด!” ความสนใจของหวังหลินในสถานที่แห่งนี้เพิ่มขึ้นจนจุดสูงสุด!
หลังจากตื่นเต้น หวังหลินก็รู้สึกกลัว
“โชคดีนัก เขตแดนของข้ายังไม่ได้บรรลุระดับเทวะ ไม่เช่นนั้นข้าคงได้พยายามทะลวงผ่านขั้นเทวะขณะที่กำลังหลับอยู่ ข้าไม่สามารถใช้ผลึกเทวะที่โจวยี่ให้มาได้ หากข้าล้มเหลวข้าก็คงตายอย่างน่าสมเพชไปด้วย!” หวังหลินครุ่นคิดแต่สายตาส่องสว่างขึ้นทันที
“ด้วยระดับบ่มเพาะปัจจุบันของข้า ไม่มีเซียนขั้นแปลงวิญญาณคนใดสามารถสู้กับข้าได้ ตอนนี้ข้าต้องการเพียงให้เขตแดนของข้าบรรลุระดับเทวะ จากนั้นจึงหาสถานที่ลับสักแห่งที่บรรลุขั้นเทวะ…ที่นี่คือสถานที่ลึกลับที่สุด ดังนั้นเมื่อเขตแดนของข้าได้ทะลวงผ่าน ข้าจะกลับมาที่นี่อีกเพื่อบรรลุขั้นเทวะ!”
“ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกขึ้นอยู่กับโชคชะตาจริงๆ ข้าบังเอิญโชคดีได้เข้ามาที่นี่ หากไม่เช่นนั้นแม้จะมีหินหยกสวรรค์ก็คงใช้เวลาหลายปีเพื่อบรรลุสภาวะนี้ หรือนี่จะเป็นสิ่งที่พวกคนเรียกกันว่าการพบความบังเอิญ…” หวังหลินกำลังอารมณ์ดีเพราะหลังจากหลับมาหนึ่งปี เขาก็อยู่ในสภาวะยอดเยี่ม ตอนนี้เขามองไปรอบๆพร้อมที่จะทำลลายกฏเกณฑ์รอบตัว ทว่าเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
“ข้าหลับไปนานแค่ไหนกัน…หากข้าหลับไปเป็นสิบหรือกระทั่งหลายร้อยปี ทุกอย่างด้านนอกคงเปลี่ยนไปมาก หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าคงต้องหยุดการฝึกฝนด้วยตัวเองเสียก่อน…” หวังหลินขบคิดเล็กน้อยขณะเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์ ดวงตาหรี่แคบทันที สายตาจรดลงป่าไผ่ที่ห่างออกไปไกล
มุมรั้วสามารถมองเห็นป่าไผ่ได้ แม้ว่าส่วนในจะปกคลุมด้วยไม้ไผ่ แต่หลังจากสังเกตมันอย่างละเอียดหวังหลินจึงพบเบาะแสบางอย่าง
“ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้สังเกตมัน แต่มีบ้านอีกหลังอยู่ที่นี่ มันดูเหมือนลานกว้างของอารามมนุษย์!”
หลังขบคิด หวังหลินไม่ได้เข้าไปตรวจสอบอารามแห่งนั้น เขานำป้ายผลึกแก้วออกมาและใส่สัมผัสวิญญาณเข้าไปข้างใน พลันเกิดคลื่นแสงออกมาและร่างหวังหลินก็หายไปจากถ้ำ