Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 597

Cover Renegade Immortal 1

597. กลองปิศาจ

“บัดซบทัณฑ์สวรรค์ เจ้าตัวร้ายกล้ามาทำลายเมืองหลวงของแคว้นปิศาจฟ้าของข้าเชียวหรือ?”

“บัดซบ เจ้าบัดซบ! เจ้าควรต้องตายและทัณฑ์สวรรค์นี่จะสูญสิ้น!”

“ฮ่าฮ่าทัณฑ์สวรรค์ เยี่ยม! บรรพชนของข้ารอดพ้นผ่านทัณฑ์สวรรค์มาได้ ข้าอยากเห็นเสียจริงว่าทัณฑ์สวรรค์นี่มันทรงพลังแค่ไหน!”

เสียงระเบิดโกรธแค้นดังออกมาจากใต้ดิน จากนั้นเสียงดังสนั่นที่ออกมาจากเบื้องล่างไม่ได้อ่อนแอไปกว่าฟ้าร้องคำรามของทัณฑ์สวรรค์เลย

คลื่นกระแทกอันทรงพลังห้าสายพุ่งออกมาจากใต้ดิน แม้ว่าอำนาจสวรรค์พยายามสะกดข่มเอาไว้แต่คลื่นกระแทกยังสามารถฝืนตัวเองให้ขึ้นมาบนอากาศหนึ่งร้อยฟุตได้

ชายชราผมขาวห้าคนดวงตาเต็มไปด้วยปราณปิศาจพุ่งออกมาพร้อมกับคลื่นกระแทกทั้งห้านั้น!

เพียงแค่มองพวกเขาก็สามารถสัมผัสถึงการผ่านกาลเวลาได้ ท่อนบนผอมแห้งเปลือยเปล่าแต่ร่างผอมลีบนั้นแทบปลดปล่อยกลิ่นอายดั้งเดิม

ก้อนเมฆแดงในท้องฟ้าหมุนปั่นรุนแรงและคล้อยลงมาเพิ่มอีกสามนิ้ว!

พื้นดินเมืองหลวงแตกกระจาย หยดโลหิตออกมาจากรูขุมขนทั้งหมดบนร่างหวังหลิน เกิดเสียงเลือดเนื้อและกระดูกกำลังบดขยี้ เขารู้สึกเหมือนมีภูเขานับไม่ถ้วนกำลังทับอยู่บนตัว

ขาหวังหลินยืนตั้งตรงขณะที่พื้นดินใต้ฝ่าเท้าพังทลาย เท้าของเขาจมลึกเข้าไปจนเลยเข่า

แรงกดดันจากอำนาจสวรรค์ตรงเข้าสู่วิญญาณของเขา ราวกับมีเสียงแห่งอำนาจกำลังคำรามอยู่ข้างในวิญญาณ

หวังหลินฝืนอดทนเงยศีรษะขึ้นมองไปบนท้องฟ้าและไม่ได้กล่าวสิ่งใด!

ไม่เพียงแต่ชายชราทั้งห้าคนที่รู้สึกดีเมื่ออยู่ใต้อำนาจสวรรค์แต่พวกเขาทั้งหมดยังเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แต่ละคนลอยขึ้นไปอยู่กลางท้องฟ้าภายใต้แรงกดดันแบบนี้

“สบายมาก! ไม่ต้องสงสัยเลยที่ท่านบรรพชนได้บอกว่าอำนาจสวรรค์เป็นเพียงแค่ลมตด แรงกดดันแบบนี้สบายพอที่ทำให้ข้าอยากสาปเสียจริงๆ!”

“สวะ เหล่าบรรพชนพูดเรื่องนั้นตอนไหนกัน? พวกเขาพูดว่าเต๋าแห่งสวรรค์คือสาวสวยชัดๆ หากเจ้าไม่ต้องการให้มันกดทับบนตัวเจ้าก็เพียงแค่ผลักนางลงแล้วกดอยู่บนตัวนางสิ!”

“พวกเจ้าทั้งสองพูดเรื่องเหลวอะไรกัน! ข้าอ่านบันทึกที่ท่านบรรพชนทิ้งไว้หลายร้อยรอบ ทำไมข้าไม่เคยอ่านเรื่องพวกนั้น?!”

ชายชราทั้งห้าคนเริ่มทะเลาะกัน

อำนาจสวรรค์ยิ่งโกรธเกรี้ยวขึ้นและก้อนเมฆแดงคล้อยเพิ่มลงมาอีกแปดนิ้ว!

พื้นปฐพีส่งเสียงคำรามและพื้นดินทั้งเมืองจักรพรรดิถูกบดขยี้ แม้ว่าคลื่นกระแทกไม่อาจกระจายบนผิวหน้าได้ มันกระจายไปใต้ดินราวกับมังกรกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านใต้และกระแทบไปเกือบครึ่งเมือง

ชายชราห้าคนหยุดพูดคุยทันที ร่างกายถูกตีเข้ากับมือล่องหนและตบตีไปที่พื้นดิน

หวังหลินอยู่ตรงกลางอำนาจสวรรค์ เสียงบดขยี้ออกมาจากร่างกายและเขาจมลึกลงยิ่งขึ้นไปอีก คราวนี้ร่างจมไปครึ่งท่อน

ชายชราห้าคนลุกขึ้นมาทันที ชี้ไปที่ท้องฟ้าและเริ่มสาปแช่ง

“ข้าเป็นลูกหลานของปิศาจโบราณซึ่งอยู่นอกเหนือกฏแห่งสวรรค์ เจ้าเป็นแค่ทัณฑ์สวรรค์แท้ๆกลับทำตัวบัดซบ!”

ขณะที่ทั้งห้าคนสาปแช่ง พวกเขาลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง ครั้งนี้ปราณปิศาจพรั่งพรูออกมาจากร่างกายแต่ละคน ปราณปิศาจหนาปกคลุมไปทั้งเมืองปิศาจฟ้าโดยที่ทั้งห้าคนยืนตรงเข้าใส่ก้อนเมฆแดง

อำนาจสวรรค์สั่นไหวและร้อนเมฆแดงคล้อยลงมาอคกรั้ง คราวนี้มันคล้อยลงมาถึงสิบฟุต!

ในจังหวะนั้นราวกับมีมือยักษ์ทุบลงมาที่เมืองปิศาจฟ้า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นฝุ่นผงในพริบตา….

รอยร้าวปรากฏบนพื้นพร้อมกับเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รอยร้าวนี้มีขนาดใหญ่มากและพื้นดินด้านใต้เมืองปิศาจฟ้าถูกฉีกขาดสะบั้น!

หวังหลินกระอักโลหิตคำโตออกมาจากปากและร่างกายส่งเสียงกำลังพังทลาย ตอนนี้เขาถูกไว้ใต้ดินไปเรียบร้อย ทิ้งไว้เพียงหลุมลึกบนพื้นเท่านั้น

ชายชราห้าคนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ก้อนเมฆสีแดงได้ตกลงบนพื้นอีกครั้ง ทิ้งหลุมลึกห้าหลุมไว้บนพื้น

หนึ่งในนั้นกราดเกรี้ยว ปีนขึ้นมาและตะโกนอย่างแค้นเคือง “เจ้าสวะทัณฑ์สวรรค์! เจ้าทำลายเมืองปิศาจฟ้าของข้า มาสู้กันให้ถึงตายไปเลย!”

ตอนนี้หวังหลินไม่รู้สึกอะไรข้างนอกอีกแล้ว เขาจมอยู่ใต้ดินและสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดในร่าง เส้นชีพจรหวังหลินเสียหายและกระดูกมีอาการกำลังแตกหัก

หากคนไม่ยอมแพ้เมื่อสวรรค์ต้องการฆ่าเขา ไม่มีทางที่จะรอดไปได้!

ดวงตาหวังหลินเบิกกว้าง แม้กระทั่งตอนนี้สายตายังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายไม่ยอมแพ้ ร่างกายหวังหลินสามารถบดขยี้ วิญญาณดั้งเดิมสามารถบดขยี้ได้แต่หัวใจแห่งเต๋าของเขาจะไม่มียอมพ่าย!

“ตราบใดที่มีเซียนต้องการฝืนลิขิตสวรรค์และบ่มเพาะ พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษของสวรรค์…” เสียงเบาๆเสียงหนึ่งพลันดังก้องในใจหวังหลิน

“เต๋าสวรรค์ไม่ได้กลัวพวกเซียนที่กำลังซ่อนเอาไว้แต่เมื่อพวกเขาซ่อนมัน จิตใจจะไม่มีการต่อต้านอีกต่อไป…”

“สิ่งที่เต๋าสวรรค์กลัวจริงๆก็คือคนที่ไม่หลีกเลี่ยงแต่เผชิญหน้ากับมัน…พวกสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ สวรรค์จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถลบมันออกไปได้…เจ้าไม่ใช่คนแรกและเจ้าไม่ใช่คนสุดท้าย…”

“เมื่อเผชิญหน้ากับขั้นเทวะคนอื่นๆ พวกเขาจะคล้อยตามสวรรค์หรือไม่ก็หลีกเลี่ยงมันดังนั้นทัณฑ์สวรรค์จึงไม่มาถึง แต่เจ้าเลือกเผชิญหน้ากับมันจึงทำให้ทัณฑ์สวรรค์ได้ลงมาหา…”

“เต๋าแห่งสวรรค์ไม่ยอมให้เกิดการฝืนลิขิตฟ้ารูปแบบที่สาม…นานมาแล้วเมื่อยามที่จักรวาลถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกมีเผ่าที่เก่าแก่เท่าเทียมเต๋าแห่งสวรรค์ สมาชิกของเผ่ามีพลังอย่างมาก พวกเขาใช้พลังพลังนั้นเพื่อสร้างเต๋าของตนเองและใช้พลังนั้นเพื่อต่อสู้กับสวรรค์เช่นกัน บางคนมีวิชาอันน่าอัศจรรย์ซึ่งสามารถทำลายเต๋าและใช้วิชานั้นเข้าต่อกรสวรรค์ มีคนที่เดินบนเส้นทางแห่งการเข่นฆ่าด้วยเช่นกัน พวกเขามีชีวิตอยู่ในการเข่นฆ่าและใช้ความตายเพื่อเข้าสู้ต่อต้านสวรรค์!”

“พวกเขาเรียกตัวเองว่าบัญชาโบราณ!”

“ทัณฑ์สวรรค์ไม่อาจทำลายร่างพวกเขาได้และอำนาจสวรรค์ก็ไม่มีผล พวกเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกที่ฝึกฝนไปพร้อมกับการฝืนลิขิตสวรรค์…”

“หลังผ่านไปอีกหลายปีนับไม่ถ้วน บัญชาโบราณแยกตัวออกจากกัน! กลุ่มคนที่มีพลังอำนาจสุดขั้วเรียกตัวเองว่าเทพโบราณ…ส่วนคนที่เดินบนเส้นทางแห่งการฆ่าฟันเรียกตัวเองว่ามารโบราณ…กลุ่มคนที่ควบคุมวิชาทรงพลังเรียกตัวเองว่าปิศาจโบราณ! พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตกลุ่มที่สองที่บ่มเพาะไปพร้อมกับฝืนลิขิตสวรรค์!”

เสียงเบานั้นดังก้องในใจหวังหลิน แม้ว่าร่างหวังหลินได้พังทลายไปแล้วแต่ใจเขายังสงบนิ่งโดยสิ้นเชิง

“ท่านเป็นปิศาจโบราณหรือ?”

“ข้าเป็นปิศาจโบราณ”

หวังหลินขบคิด

“ทว่าข้าไม่สมบูรณ์…ตอนที่ข้าตื่นขึ้นมาข้าอยู่ภายในกลองปิศาจ ข้ารู้สึกว่ากลองปิศาจนี้เคยเป็นของข้ามาก่อน นานมากแล้วที่ข้าไม่สามารถออกไปได้ไกลกว่ากลองปิศาจ ข้าจึงใช้วิชาเพื่อสร้างทะเลสาบมังกรและสั่งสอนผู้คน…”

“ข้ารู้สึกว่าในดินแดนวิญญาณปิศาจแห่งนี้มีตัวตนที่เหมือนกับข้าอีกแปดคนในต่างแคว้น พวกเขาทั้งหมดเลือกวิธีเดียวกันกับข้า สร้างบางอย่างคล้ายกับทะเลสาบมังกรและเริ่มสั่งสอนผู้คน…”

“ข้าสื่อสารกับตัวตนที่คล้ายกับข้าพวกนั้นมานานมากแต่เราไม่เคยตัดสินกันอย่างลงตัว ทุกตัวตนเหมือนข้าต้องการกลืนกินคนอื่นเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งมากขึ้น…บางทีนั่นเป็นหนทางเดียวเพื่อให้เราสมบูรณ์!”

“นั่นเป็นเหตุผลสงครามรบระหว่างเก้าแคว้นที่มีต่อเนื่องกันมานานในดินแดนวิญญาณปิศาจ…การปรากฏตัวของเซียนได้ขยายสงครามที่ไม่มีวันจบนี้ออกไปมากขึ้น เป็นเหตุผลที่เซียนเช่นเจ้าได้ถูกยอมให้เข้ามาในดินแดนวิญญาณปิศาจ…”

หวังหลินส่งข้อความสัมผัสวิญญาณออกไป “ท่านต้องมีเหตุผลในการปรากฏตัวและบอกข้ากับเรื่องทั้งหมดนี้”

“ถูกต้อง ข้าสามารถช่วยเจ้าซ่อมแซมร่างกายและช่วยเจ้าทะลวงผ่านทัณฑ์สวรรค์นี้ไปได้ ข้ายังสามารถให้พลังอำนาจกับเจ้าในแคว้นปิศาจฟ้าแต่เจ้าต้องทำบางอย่างให้ข้า เจ้าต้องไปเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แปดชิ้นของทั้งแปดแคว้นมา!”

หวังหลินครุ่นคิด เขาตอบช้าๆในเวลาไม่นาน “ข้าเป็นแค่เซียนฝืนลิขิตสวรรค์ในดินแดนวิญญาณปิศาจที่คงอยู่มานานแสนนาน…”

หวังหลินยังพูดไม่จบแต่เสียงที่ขัดเขาได้ถอนหายใจและเอ่ยช้าๆ “เจ้าไม่ใช่เซียนฝืนลิขิตสวรรค์คนแรกเจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่ฝึกฝนเส้นทางของเทพโบราณ! ข้าสามารถสัมผัสกลิ่นอายของเทพโบราณได้…กลิ่นอายนี้เบาบางมากแต่ว่ามันบริสุทธิ์ยิ่ง!”

“ผู้คนของดินแดนวิญญาณปิศาจที่รู้แจ้งมาจากข้าไม่อาจทนพลังของข้าได้ ร่างกายแต่ละคนไม่สามารถทนต่อพลังของข้า หากพวกเขาแข็งแกร่งมันมันไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่เพราะข้าเป็นเผ่าที่แตกต่างกัน!”

“แม้ร่างกายของเซียนจะดีกว่าร่างผู้คนที่นี่เพียงเล็กน้อยแต่มันยังมีขีดจำกัด มีน้อยคนมากที่สามารถทนพลังข้าได้…”

“เจ้าเหมาะสมมากกว่าใครอื่น นั่นคือเหตุผลที่ข้าเลือกเจ้า…”

หวังหลินขบคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ซ่อมแซมร่างกายข้าและส่งพลังที่ต่อต้านทัณฑ์สวรรค์มา!”

เสียงนั้นดังขึ้น “ตามที่เจ้าขอ…”

ในวินาทีนั้น ร่างกายหวังหลินที่จมอยู่ใต้ดินส่วนลึกกลับล้อมรอบด้วยพลังมหาศาล ร่างกายฟื้นฟูด้วยความเร็วสูงจนมองเห็นด้วยตาเปล่า เส้นชีพจรกลับมาเชื่อมต่อกันและกระทั่งทนทานมากกว่าก่อน!

กระดูกประสานต่อกันและฟื้นฟูมาได้อย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งแต่ละส่วนเพิ่มมาได้มากกว่าเดิมหลายเท่า!

โลหิตและเลือดเนื้อฟื้นฟูมาได้ในทันที เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น!

ปราณสวรรค์เคลื่อนไปตามเส้นชีพจรของหวังหลินและท่องผ่านไปทั้งร่างกาย ในเวลาเดียวกันพลังมหาศาลที่ล้อมรอบเขาอยู่นั้นได้หดลงและแทรกไปในร่างกายด้วย

บนพื้นผิว ชายชราห้าคนเพียงแค่ปีนออกมาจากหลุมลึกและกำลังจะสาปแช่งอีกครั้ง ทว่าขณะนั้นทั้งห้าคนต่างตกตะลึงและทั้งหมดจ้องไปที่หลุมที่หวังหลินอยู่

หนึ่งในนั้นดวงตาเบิกกว้างและพึมพำกับตัวเอง “นี่…นี่มันกลิ่นอายท่านบรรพชนใช่ไหม?”

“ดูเหมือนจะเป็นกลิ่นอายท่านบรรพชน…”

ร่างหวังหลินลอยออกมาจากหลุม เส้นผมสะบัดพริ้วโดยไร้แรงลม ดวงตาหลับสนิทแต่กลับมีปราณปิศาจจำนวนเหนือจินตนาการกระจายออกมาจากร่าง

หวังหลินลอยขึ้นไปกลางอากาศข้างใต้แรงกดดันของอำนาจสวรรค์ ราวกับว่าในตอนนี้แรงกดดันไม่มีผลกระทบต่อหวังหลินเลย หวังหลินลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า ปราณปิศาจที่ออกมาจากร่างควบแน่นด้านหลังและก่อเกิดเป็นภาพลวงตาขนาดยักษ์สูงกว่าพันฟุต!

ภาพลวงตานี้มีสองเขา ปลดปล่อยกลิ่นอายทะมึนและมีผิวหนังสีม่วงเข้ม ขณะที่มันปรากฏตัว ก้อนเมฆสีแดงปลดปล่อยเสียงคำรามระเบิดรุนแรงและดังสนั่นไปทั่วชั้นฟ้า

นี่มันราวกับปิศาจได้ถือกำเนิดขึ้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!