656. ไขความลับของคัมภีร์
“ข้าขอร้องเจ้าให้ลงไป…พาข้าลงไป…” ในน้ำเสียงมีทั้งความเศร้าและความเร่งรีบ
หวังหลินหยุดคิด น้ำเสียงที่หายไปสิบสามปีได้พลันดังสะท้อนในจิตใจเขาอีกครั้ง สิบสามปีที่ผ่านมาหวังหลินได้ทำการเข้าใจพลังดึงดูด สตรีนางนี้ไม่เคยเอ่ยขึ้นมาเลย แต่ทว่าตอนนี้คำพูดนางกลับแฝงด้วยอารมณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
หวังหลินจับกระเป๋านำม้วนคัมภีร์ออกมา มันส่องแสงอ่อนๆ พลังดึงดูดไม่มีผลกับมัน ม้วนคัมภีร์เปิดขึ้นมาเผยให้เห็นแต่ด้านหลังของสตรี
เป็นครั้งแรกที่หวังหลินมองสตรีภายในม้วนคัมภีร์อย่างละเอียด แม้ว่าจะเป็นเพียงร่าง แต่นางกลับแฝงกลิ่นอายของคนที่สง่างามได้
“ข้าขอร้องเจ้าให้พาข้าลงไป…ข้าไม่สามารถออกไปจากม้วนคัมภีร์นี้ได้ ดังนั้นเจ้าจะไม่เป็นอันตราย ข้าเพียงต้องการ…เฝ้ามอง…”
หวังหลินขบคิดและไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
“ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าทุกอย่างได้ ข้าไม่สามารถให้อะไรเจ้าทุกอย่างได้ แต่ข้าอ้อนวอนขอให้เจ้าพาข้าไปที่นั่น…”
หวังหลินก้มศีรษะมองที่เบื้องล่าง ที่นั่นมืดมิดและมีความเย็นยะเยือก
“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ หากเจ้าต้องการออกไปจากที่นี่ก็ไปเองเถอะ” หวังหลินส่ายศีรษะและหันศีรษะมองขึ้นบน ไม่มองม้วนคัมภีร์อีก เขามีหลายสิ่งที่ต้องทำ หวังหลินต้องเปิดกฎเกณฑ์ในถ้ำให้หมดก่อนที่เทียนหยุนและพรรคพวกจะมาถึงดินแดนวิญญาณปิศาจและให้เขาเข้าไปในถ้ำของจริงได้
แม้จะไม่รู้ว่าเทียนหยุนและคนอื่นๆจะมาถึงเมื่อไหร่ ด้วยการสนทนากับเหยาซีเชว่แล้วหวังหลินจึงได้รับเบาะแสสองสามอย่างและดูเหมือนว่าพวกนั้นจะมาถึงในเร็วๆนี้
ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง หวังหลินต้องเตรียมการของตัวเองให้เสร็จสิ้น หวังหลินมีเวลาน้อยนิดและต้องไม่เสียเวลาไปกับความอยากรู้อยากเห็นเรื่องอื่น
ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องมั่นใจว่าเทียนหยุนจะมองทะลุเขาไม่ออกจนหวังหลินสามารถออกจากดินแดนวิญญาณปิศาจได้อย่างปลอดภัย หากเขาทำผิดพลาดเพียงจุดเดียว ราคาที่ต้องจ่ายคือชีวิตของตนเอง
เขามีเวลาน้อยเกินไป
สตรีข้างในม้วนคัมภีร์สั่นเทา นางต้องการหันกลับมาแต่ถูกผนึกควบคุมเอาไว้ ไม่ว่านางจะพยายามเช่นไรก็ไม่สามารถหันตัวกลับมาได้
เมื่อเห็นหวังหลินกำลังเหาะเหินสูงขึ้นและสูงขึ้นจนเขากำลังเลือนหายไป นางกัดริมฝีปากและเอ่ยเบาๆ “เจ้า…เจ้าไม่อยากรู้ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของลูกปัดในวิญญาณดั้งเดิมของเจ้าหรือ…”
แม้ว่าเสียงของนางจะเบามากแต่หวังหลินยังได้ยินชัดเจน ประโยคนั้นดุจสายฟ้าผ่าลงกลางจิตใจทำให้หวังหลินหยุดชะงักทันที
“เจ้าไม่ต้องการให้วิญญาณที่แตกสลายของนางฟื้นคืนกลับมาหรือ…”
หากสายฟ้าที่ผ่าลงกลางจิตใจหวังหลินคือสายฟ้านับหมื่นสาย เช่นนั้นนี่คือสายฟ้านับแสน นับล้าน นับสิบล้านสายที่ระเบิดลงกลางจิตใจ ทำให้แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็สั่นสะท้าน
วิญญาณดั้งเดิมของเขา ความทรงจำของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างระเบิดขึ้นมาราวกับน้ำท่วมใหญ่ยักษ์ในประโยคที่สอง ราวกับท้องฟ้าทั้งหมดทั้งมวลพังทลาย แม้หวังหลินจะมีจิตใจแข็งแกร่งเขาก็ไม่สามารถหยุดให้ร่างกายสั่นเทาได้ หวังหลินกลับมามองนาง ดวงตาดุจสัตว์ป่าและไร้ความเยือกเย็นจากการฝึกฝนมาแปดร้อยปีอีก!
ณ ตอนนี้ เทียนหยุนอะไร ถ้ำอะไร บรรพชนโลหิตอะไร ดินแดนวิญญาณปิศาจอะไร!? ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดพังทลายและมีเพียงสิ่งเดียวที่มีตัวตนคือสายตาอันบ้าคลั่งของหวังหลินที่จับจ้องไปยังนาง!
“เจ้าพูดอะไรนะ…” น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นมาจากหวังหลิน
ประโยคง่ายๆนี้ได้เผยความรู้สึกที่อาจอธิบายออกมาได้ ตอนนี้แม้แต่เสียงหวีดหวิวจากพลังดึงดูดซึ่งมีอยู่มาหลายปีกลับดูอ่อนลง
นางเอ่ยเสียงเบาอีก “ข้าจะบอกเจ้าถึงต้นกำเนิดของลูกปัด ข้าจะบอกวิธีการชุบชีวิตวิญญาณข้างในลูกปัด ข้าให้กระทั่งโอกาสเจ้าออกไปจากที่นี่…”
หวังหลินหลับตา เขาไม่ต้องการคิดว่าคำพูดของนางจริงหรือโกหก เขาไม่ต้องการรู้ว่าทำไมนางถึงรู้ความลับทั้งหมดเของเขา เขาไม่ต้องการจะ…
เมื่อหวังหลินลืมตาขึ้น เขาก้าวเท้าออกมาคว้าม้วนคัมภีร์และลอยเข้าหาด้านล่างของหลุมอย่างรวดเร็ว
แม้จะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยก็จะสู้
มนุษย์มีสิ่งที่ไม่ว่าเขาฉลาดแค่ไหนก็ตาม แม้จะเผชิญกับอันตรายไม่มีที่สิ้นสุด เผชิญกับความเป็นความตาย เขาก็จะรักษาความสงบเอาไว้ได้!
หวังหลินยังคงเป็นคน เขาไม่ใช่เทพไร้ความสงสารหรือเทพไร้ปราณี…
หลังจากฝึกเซียนมามากกว่าแปดร้อยปี ความสงบนิ่งของเขาได้ฝังลึกลงกระดูกดำและกลายเป็นสภาวะธรรมชาติ หวังหลินสามารถออกมาจากดาวซูซาคุและทิ้งกระเป๋าให้โจวลี่ได้ด้วยความสงบนิ่งของเขาเพื่อรอให้ถึงวันที่นางเปิดมันออกมา…
เขาสามารถสงบนิ่งเผชิญกับศัตรูทุกตน ไม่ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้เต๋าแห่งจิตใจหวังหลินสั่นคลอนแม้แต่เพียงน้อยนิดไปได้
ทว่ากลับมีพลังอำนาจหนึ่งเดียวที่ทำบดขยี้ความสงบนิ่งของเขาได้!
เพียงหลังสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าต้องการอะไร เพียงสูญเสียสิ่งที่ตระหนักได้ว่าต้องการหวงแหนมาตลอด…
หากคนผู้หนึ่งสงบนิ่งมาเสมอ มีเหตุผลและเด็ดเดี่ยว คนผู้นั้นยังถือว่าเป็นคนอยู่อีกหรือ? หวังหลินไม่สามารถทำแบบนั้นได้
สายตาพร้อมกับความเศร้านั้น หวังหลินคว้าม้วนคัมภีร์และพุ่งลงไปที่หลุมราวกับอุกกาบาต ขณะนี้เขาไม่ต้องการคิด ไม่ต้องการพยายามหาความแตกต่างว่ามันจริงหรือโกหก
สตรีที่อยู่ในม้วนคัมภีร์พลันถอนหายใจออกมาและกล่าวเสียงเบา “เจ้าสบายใจได้ ข้าจะไม่หลอกลวงเจ้า…ข้าตัดสินใจไว้แล้วว่าจะบอกเรื่องทั้งหมด…”
หวังหลินไม่ได้กล่าวอะไรออกมา มือที่กำม้วนคัมภีร์พลันแน่นขึ้นราวกับเขาไม่ต้องการปล่อยความหวังให้หลุดลอยไป
ความหนาวเย็นออกมาจากผนังพลันรุนแรงขึ้นและแรงดึงดูดก็มีมากขึ้น
ผ่านไปไม่รู้เวลาและหลุมนี้ดูเหมือนจะไร้ก้นบึ้งจริงๆ ไม่ว่าเขาจะลงไปได้ไกลแค่ไหนก็มีแต่ความมืดมิดที่ขยายออกไปมากขึ้น
“ใกล้แล้ว…ใกล้แล้ว…” นางเอ่ยเสียงสั่น
ตอนนี้มีพลังดึงดูดรุนแรงเหนือจินตนาการ ร่างหวังหลินลอยไปตามแรงดึงดูดด้วย หลังจากนั้นเวลาผ่านไปอีกยาวนาน บางทีเป็นวัน บางทีเป็นเดือน บางที…ยาวนานนับปี…
ทางเดินเล็กๆหนึ่งปรากฏด้านใต้ความมืดมิดเบื้องล่าง
ในทางเดินนี้มีวังวนขนาดยักษ์อยู่ด้วย วังวนกำลังหมุนอย่างเชื่องช้าและมีพลังดึงดูดออกมาจากวังวน…
ที่ลึกลับก็คือพลังดึงดูดดูเหมือนจะถูกผนึกอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าระยะจากวังวนจะมีพลังดึงดูดรุนแรงขึ้นทันที
ขณะที่หวังหลินมองไปที่วังวนนั้น พลังประหลาดโผล่ออกมาจากภายในม้วนคัมภีร์และเข้าสู่ร่างกายเขา พลังนั้นควบแน่นในสายตาหวังหลินและชั่วขณะนี้เองดวงตาก็สามารถมองทะลุวังวนจนเห็นข้างในได้
น่านฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวเซียนนับไม่ถ้วน…ดูเหมือนจะเป็นโลกอีกใบ อีกจักรวาลหนึ่ง
“นี่มัน…” หวังหลินมองไปที่วังวน ณ ตอนนี้เขาก็ฟื้นฟูความสงบนิ่งกลับมาได้
สตรีข้างในม้วนคัมภีร์เอ่ยอย่างบางเบา “บ้านเกิดของข้า…ดาราจักรทุกชั้นฟ้า…”