Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 661

Cover Renegade Immortal 1

661. เม่ยเอ๋อ

“ผู้ส่งสาส์นเทพสายฟ้า…” หวังหลินมองคนทั้งสี่โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไป เขาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

แม้ว่าจิตใจของรานเยว่จะอยู่ในอาการตกใจ นางก็รีบสงบท่าทีของตัวเองอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เห็นหวังหลินไม่ได้กล่าวอะไร นางก็เริ่มคาดเดา แม้ว่าวิชาของหวังหลินจะน่าตื่นตะลึง แต่สถานะของผู้ส่งสาส์นเทพสายฟ้าถือเป็นสิ่งที่พิเศษอย่างยิ่ง ดังนั้นนางจึงสงสัยไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจจริงๆคือนางไม่สามารถมองทะลุระดับบ่มเพาะของหวังหลินได้ นี่ยิ่งทำให้นางสงสัยในตัวตนของหวังหลินมากขึ้น

ส่วนที่เหลืออีกสามคน โดยเฉพาะซุนเชว่ชานที่ตื่นเต้นจนบ้าคลั่งไปแล้ว หลังได้ยินคำพูดของรานเยว่เขาจึงมั่นอกมั่นใจว่าคนผู้นี้ต้องเป็นผู้ส่งสาส์นเทพสายฟ้าแน่นอน

ซุนเชว่ชานกล่าวอย่างน้อบน้อมว่า “หากผู้อาวุโสต้องการไปดาวรานหยุน ผู้น้อยยินดีนำทางให้”

หวังหลินพยักหน้าพลันนั่งลงบนมังกรเงินและทะยานไปทางทิศเหนือ ซุนเชว่ชานรีบติดตามไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับรานเยว่และคนอื่นๆ

หลังจากเหาะมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ คิ้วหวังหลินก็ขมวดเป็นปม ทั้งสี่คนช้าเกินไป ความเร็วระดับนี้คงต้องใช้เวลาอีกเจ็ดวัน หวังหลินขบคิดก่อนจะชะลอความเร็วของเข็มทิศดวงดาวลงและรักษาระยะกับคนทั้งสี่

เขาเป็นคนต่างถิ่นในดาราจักรทุกชั้นฟ้า ดังนั้นจึงไม่ได้เร่งรีบไปให้เร็วนัก คงดีกว่าที่เขาจะเข้าใจดาราจักรแห่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางในอนาคต

หวังหลินถามอย่างสงบนิ่ง “มีดาวเคราะห์เซียนดวงอื่นรอบดาวรานหยุนไหม?”

ซุนเชว่ชานลอบมองเข็มทิศดวงดาวมังกรเงินใต้ฝ่าเท้าหวังหลิน และเผยสายตาชื่นชม เมื่อได้ยินหวังหลินถามออกมา จึงตอบอย่างรวดเร็ว “ดาวรานหยุนสังกัดอยู่กับดาวพันมายาซึ่งเป็นหนึ่งในห้าดาวสำคัญในขอบเขตทางเหนือ มีดาวอื่นอีกหลายดวงที่อยู่ในสังกัดกับดาวพันมายาเช่นเดียวกัน” เขาสงสัยว่าทำไมหวังหลินถึงไม่รู้สิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อคิดว่ามีดวงดาวมากมายแค่ไหนในดาราจักรทุกชั้นฟ้า เขาจึงไม่คิดมาก

ท่าทีของหวังหลินยังคงเหมือนเดิมแต่จิตใจสั่นระรัว

“ดาวพันมายา…พันมายา…ชื่อนี้ช่างคุ้นเคยเสียจริง ตอนนั้นจูเซว่จื่อมีศิษย์ชื่อหลิวเหมยซึ่งฝึกฝนเขตแดนพันมายาไร้ปราณีด้วย ไม่ควรมีอะไรเชื่อมต่อกัน..นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นดาราจักรอื่น

“เขตเหนือ ดูเหมือนว่าดาราจักรทุกชั้นฟ้าจะแบ่งเขตออกเป็น ตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ ซึ่งตอนนี้ข้าอยู่ในเขตทิศเหนือ”

แม้จะเพียงแค่ประโยคเดียวจากซุนเชว่ชาน หวังหลินกลับได้รับความเข้าใจของดาราจักรแห่งนี้มากมาย

ช่วงจังหวะนั้น รานเยว่ได้เอ่ยเสียงอ่อนนุ่ม “ผู้อาวุโสช่วยพวกเราเอาไว้ แต่พวกเรายังไม่ทราบชื่อท่าน..”

หวังหลินกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ซิ่วมู่” หวังหลินไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เทียนหยุนและคนอื่นๆจะไล่ตามมา ดังนั้นจึงซ่อนชื่อจริงของตัวเองเอาไว้

“แซว่ซิ่ว” ดวงตารานเยว่ส่องประกายจางๆ ความคิดสั่นเทา นางรู้สึกว่าตัวตนของหวังหลินยิ่งดูลึกลับขึ้นไปอีก

“ตระกูลซิ่วเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดบนดาวพันมายา ตระกูลซิ่วเสมือนต้นไม้ยักษ์ หากเขามาจากตระกูลซิ่ว…” หากนางไม่เดาตัวตนของหวังหลินก่อนหน้านี้ คงไม่สำคัญอะไรนักเมื่อได้ยินว่าเขาชื่อซิ่ว แต่ว่าก่อนหน้านี้หวังหลินทำให้นางตกตะลึงไปมากเกินไปและจึงทำให้นางตั้งคำถามต่อตัวตนของหวังหลิน ตอนนี้จิตนาการของนางตะเลิดเปิดเปิงไปไกลแล้ว

หลังได้ยินหวังหลินเรียกตัวเองว่าซิ่วมู่ แม้แต่รูม่านตาของซุนเชว่ชานยังหดเล็กลงและเริ่มแสดงความยำเกรง

รานเยว่ยกศรีษะขึ้นและเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสซูมาจากที่ใด?” หลังจากนางถามขึ้นมาก็พลันเสียใจทันทีในฐานะผู้เยาว์ การถามแบบนี้อาจทำให้บางคนโกรธเกรี้ยวเอาได้ นางรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ผู้อาวุโสโปรดอย่าถือสา ผู้น้อยรู้ว่าตัวเองผิดพลาดไป”

หวังหลินมองนางอย่างสงบนิ่ง สตรีคนนี้ฉลาดและสุภาพอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้นำของกลุ่มสี่คนนี้

“เจ้ารู้จักดาวตงหลินไหม?” หวังหลินถอนสายตาออกมา น้ำเสียงสงบนิ่งจนไม่อาจบอกได้ว่าเขามีความรู้สึกแบบไหน

“ตงหลิน!” ท่าทีของซุนหยุนชานเปลี่ยนไปอย่างมาก สายตาที่จ้องหวังหลินเปลี่ยนจากความตกใจกลายเป็นความหวาดกลัว พลันก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวและใบหน้าซีดเผือด

ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น นอกจากรานเยว่แล้ว ใบหน้าของอีกสองคนก็เริ่มซีดลงเช่นกัน สายตาจากความตกใจกลายเป็นความหวาดกลัวไปด้วย

แม้กระทั่งรานเยว่ก็สูดลมหายใจเย็นเข้าไป การคาดเดาทั้งหมดในใจนางเกี่ยวกับตัวตนของหวังหลินได้ถูกลบล้างออกไป

ท่าทีของแต่ละคนดูไม่เหมาะสมกับระดับบ่มเพาะเลย แม้ว่าขั้นแปลงวิญญาณจะไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมเท่าเซียนขั้นเทวะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ เทียบกันแล้วสี่คนนี้ดูเหมือนคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย

เมื่อรวมกับความเข้าใจของเขาแล้ว หวังหลินเกิดความรู้สึกว่าเขาได้เข้าใจบางอย่างขึ้นมา ราวกับว่าภายในตระกูลเซียนเหล่านี้มีน้อยคนนักที่จะพบเจอประสบการณ์เฉียดตาย

เมื่อไร้ประสบการณ์เฉียดเป็นเฉียดตายมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าพวกเขาจะมีระดับบ่มเพาะสูงส่งแค่ไหนก็ไม่อาจกลายเป็นผู้ทรงอำนาจได้อย่างแท้จริง

หวังหลินมองทั้งสี่อย่างใจเย็น “พวกเจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับดาวตงหลินบ้าง?!”

สีหน้าของรานเยว่ค่อยๆซีดเผือดและกล่าวอย่างสุภาพ “ผู้อาวุโส ดาวตงหลินเป็นดาวอันดับหนึ่งในเขตทิศเหนือ มันมีอีกชื่อว่า นักฆ่าตงหลิน ทั้งยังมีเรื่องประหลาดเกี่ยวกับดาวดวงนี้ซึ่งบางครั้งมันก็มีบางครั้งมันก็หายไป…” รานเยว่ไม่ได้กล่าวอะไรมากอีก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าทุกคนที่มาจากดาวตงหลินต่างเป็นคนไร้ปราณี ครั้งนึงมีเซียนมาจากดาวตงหลินและฆ่าล้างไปทั้งตระกูลเซียน

ดาวตงหลิน คือฝันร้ายสำหรับคนส่วนใหญ่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้า

หลังจากนั้น แม้กระทั่งซุนเชว่ชานก็ไม่กล้ามองหวังหลิน ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยลังเล เขาไม่รู้ว่าทำไมซิ่วมู่คนนี้ถึงต้องการไปที่ดาวรานหยุน

ในใจของทั้งสามคนเริ่มหวาดระแวงมากขึ้น ความสงสัยนี้มีมากขึ้นจนทำให้พวกเขาชะลอตัวลงอย่างช้าๆ ทำให้พวกเขาไม่อยากพาหวังหลินไปที่ดาวรานหยุนเสียแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ในกรณีนี้ทั้งสี่ก็ไม่กล้าปฎิเสธ แม้จะไม่เต็มใจแต่ทิศทางก็ยังตรงไปยังดาวรานหยุนอยู่ดี

ในดวงตาของพวกเขา แม้หวังหลินจะแทบไม่พูดอะไรเลย ซิ่วมู่ผู้นี้ก็ดูเหมือนจะรอบรู้ไปหมดทุกสิ่ง หลายครั้งที่ทั้งสี่ต้องการเปลี่ยนทิศทาง ทุกครั้งก็จะเจอกับสายตาเย็นชาของหวังหลิน

หลายวันต่อมา ดาวเคราะห์สีน้ำปรากฏเบื้องหน้าหวังหลิน มันดูเหมือนพื้นที่ส่วนใหญ่ในดาวดวงนี้ถูกปกคลุมเต็มไปด้วยมหาสมุทร มองระยะไกลแล้วดาวรานหยุนดูสวยงามอย่างยิ่ง มันปล่อยพลังปราณหนาแน่นออกมากหล่อเลี้ยงทุกอย่าง

มองสีหน้าทั้งสี่คน หวังหลินจึงรู้ว่าดาวดวงนี้คือดาวรานหยุน

พลังปราณในดาวนี้แตกต่างกับดาวซูซาคุบ้านเกิดของหวังหลินลิบลับ หวังหลินเคลื่อนไหวก่อนเป็นสิ่งแรก เข็มทิศดวงดาวกลายเป็นลำแสงสีเงินพุ่งเข้าไปในดาวรานหยุน เมื่อลำแสงสีเงินเลือนหายไปหวังหลินก็ลอยตัวขึ้นบนท้องฟ้าข้างในดาวแล้ว

พลังปราณล้นทะลักออกมาจากมหาสมุทรด้านล่าง อีกทั้งยังหนาแน่นมากขึ้นไปด้วย

หวังหลินสูดลมหายใจลึก ร่างกายเริ่มเลือนรางและหายไป

ทั้งสี่คนที่นำทางมากลับมีสีหน้าซีดเซียว พวกเขามุ่งหน้ากลับตระกูลของตนเองทันทีและอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ตอนที่หวังหลินเข้ามาในดาวรานหยุน ลำแสงสีแดงเข้มน่าหวาดกลัวก็ลอยผ่านดาราจักรพันธมิตรเซียน ลำแสงสีแดงนี้ส่งกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่นออกมา มันดูเหมือนประกายสายฟ้าบินว่อนทั่วจักรวาลแห่งนั้นและยังปลดปล่อยแรงกดดันสะเทือนฟ้าดิน

ในลำแสงสีแดงมีชายชราอยู่คนหนึ่ง ใบหน้าผอมและสายตาดุดัน สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ เขาไม่ได้ใช้สมบัติวิเศษชิ้นใดในการเหาะเหินผ่านอวกาศ ทุกย่างก้าวของเขาราวกับกำลังเคลื่อนที่พริบตา

เขาไม่ได้มาเพียงลำพัง มีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ข้างๆกัน นางงดงามเกินอธิบาย ริมฝีปากแดงอมชมพู คิ้วไม่หนาหรือบางเกินไป ดวงตาเรียวคมสีดำสนิท ความงามของนางที่ไม่มีใครเปรียบ ดวงตาเปล่งประกายของนางอาจทำให้ผู้คนลืมหายใจ

เส้นผมยาวเกือบสามฟุตแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งม้วนขึ้นหลังศีรษะเหน็บด้วยปิ่นหยกขาวรูปผีเสื้อ อีกสองส่วนปล่อยเสมอไหล่ ส่วนบนสวมชุดลายดอกไม้ส่องสว่างงดงาม ด้านล่างสวมกระโปรงดอกไม้สีเขียวอ่อน เมื่อนางเคลื่อนไหว มักจะโดดเด่นและเป็นที่ดึงดูด

นางไม่ได้สวยน้อยไปกว่าผีเสื้อสีชาดเลย แต่ก็ไม่เกินเลยนักถ้าจะเรียกความงามของนางว่า ความงามล่มเมือง นอกเหนือจากรูปลักษณ์ของนางแล้ว นางยังมีกลิ่นอายที่น่าหลงใหลออกมาซึ่งทำให้ยิ่งมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจมากขึ้น

นางติดตามชายชรามาดังนั้นจึงไม่ได้ใช้ความเร็วของตนเอง ไม่เช่นนั้นแม้จะบรรลุขั้นเทวะ นางก็ไม่สามารถไล่ตามชายชราทันได้

ขณะที่พวกเขาเหาะเหินอยู่นั้น นางหันกลับมามองจักรวาลด้านหลัง แววตาเผยแสงส่องสว่างราวกับกำลังนึกถึงอดีต นางถอนหายใจแต่สัมผัสความรู้สึกอันซับซ้อน

“ข้ากำลังจะจากไป…” นางถอนหายใจ

“เม่ยเอ๋อเจ้ายังลังเลอยู่หรือ??” ชายชราหันมามองด้วยความเมตตา

“ศิษย์เติบโตที่นี่และรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่จะจากไป” นางเล่นผมตัวเองและกัดริมฝีปากแน่นขึ้น

ชายชราหัวเราะ “ไม่จำเป็นต้องรู้สึกลังเลใจ เมื่อการบ่มเพาะของเจ้าสูงขึ้น เจ้าก็สามารถกลับมาได้ แม้ว่าข้าไม่ได้พบสมบัติที่กำลังค้นหา การรับเจ้าเป็นศิษย์ก็ทำให้การเดินทางสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียนครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว”

นางยิ้มรับแต่ไม่พูดอะไร อย่างไรก็ตามสายตาที่จ้องมองไปยังจักรวาลด้านหลังกลับเริ่มกลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้น

ชายชราถอนสายตาออกมา หญิงสาวคนนี้เขาพบเจอโดยบังเอิญเมื่อหลายร้อยปีก่อน เขาสังเกตได้ทันทีว่านางบ่มเพาะเขตแดนพันมายาไร้ปราณีและกำลังอยู่ในกระบวนการไปถึงเขตแดนหมื่นมายามารสวรรค์ การค้นพบครั้งนี้ทำให้ตกใจอย่างมาก

เขตแดนไร้ปราณีไม่ใช่สิ่งพิเศษที่มีในจักรวาลเดียวและมีหลากหลายวิธีในการบ่มเพาะ กุญแจสำคัญคือการควบคุมจิตใจ อย่างไรก็ตาม คนที่สามารถบรรลุระดับพันมายาด้วยตัวเองกลับหาได้ยากยิ่งแต่นั่นไม่ใช่ความประทับใจแรก การที่เขายอมรับนางเป็นศิษย์เพราะมีสัญญาณเลือนลางว่านางกำลังพัฒนาไปสู่ขั้นหมื่นมายา

เขาคือผู้นำตระกูลฮวนบนดาวพันมายา ซึ่งเป็นหัวเรือหลักในดาราจักรทุกชั้นฟ้าทิศเหนือ เขาเห็นผู้เยาว์หลายคนในตระกูลมากมาย นอกจากคนไม่กี่คนแล้วไม่มีใครสามารถเทียบพรสวรรค์ของนางได้ แม้ในหมู่คนน้อยนิดนั้นก็ยังเทียบกับนางไม่ได้ในแง่ศักยภาพ

จึงเป็นเหตุผลที่ชายชราคิดขึ้นในใจว่าจะยอมรับผู้หญิงคนนี้เป็นศิษย์ของเขาทันที!

หลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายร้อยปี เขาเริ่มรักศิษย์คนนี้มากยิ่งขึ้น เขาล้มเลิกการค้นหาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเพื่อพานางกลับสู่ดาราจักรทุกชั้นฟ้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!