Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 721

Cover Renegade Immortal 1

721. การเรียกหาของลูกปัด

ผิวหนังของเทพโบราณหยาบกร้านและปกคลุมด้วยรอยแตกร้าว ทว่าแขนที่ก่อขึ้นจากแสงสีม่วงนั้นเรียบลื่น แม้มันจะใหญ่แต่ก็เกิดขึ้นจากวิชาเซียน

มันทำท่าทางเรียกหาหวังหลินราวกับผู้อาวุโสกำลังเรียกหาเด็กน้อย การกระทำเชื่องช้าแต่วนซ้ำกันไปมา

กลิ่นอายที่ออกมาจากแขนยักษ์ไม่มีอันตรายใดๆ มันให้ความรู้สึกธรรมดาทั่วไป เป็นเพียงการเรียกหาหวังหลินเท่านั้นราวกับกำลังจะพาเขาผ่านประตูยักษ์บานนี้

อย่างไรก็ตามหวังหลินก็ระมัดระวังตัวไว้และเส้นผมเส้นขนบร่างกายตั้งชูขึ้น ฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าเขาช่างประหลาดเกินไป เขาไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อลูกปัดเสร็จสมบูรณ์

หวังหลินจ้องมือที่กำลังเรียกหาเขาอย่างนิ่งเฉย แสงเยือกเย็นกระพริบผ่านแววตา

แขนข้างนั้นเคลื่อนไหวเหมือนเดิม ยังคงเรียกหาหวังหลินเงียบๆ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปประตูด้านหลังค่อยๆพร่าเลือนราวกับมันสามารถหายไปได้ทุกเวลา

เขาคงไม่มีโอกาสเข้าไปได้อีกครั้งหากไม่รีบเร่ง

หวังหลินกัดฟันแน่นและก้าวไปข้างหน้า ฝ่ามือขวายื่นออกมาหาสิ่งที่ยังไม่แตกสลายไป กระดูกอสรพิษ

แม้ว่ากระดูกอสรพิษจะสูญเสียธาตุโลหะไป มันยังคงแข็งเช่นเดิมเหมือนก่อน นอกจากนั้นแล้วมันก็ยังเป็นของอสรพิษพิฆาตจันทร์ด้วย!

หลังจากคว้ากระดูกอสรพิษมา หวังหลินร้องคำราม พลังปราณสวรรค์พรั่งพรูผ่านร่างกายโยนกระดูกขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างโหดร้าย กระดูกยักษ์เปลี่ยนทิศทางบนอากาศพร้อมกันหันหัวตรงไปที่ประตู

ขณะที่กระดูกอสรพิษกำลังกระแทกประตู แขนที่กวักเรียกหาหวังหลินก็จับกระดูกได้ง่ายๆ

หวังหลินอ้าปากค้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อแขนบีบอย่างง่ายๆ กลิ่นอายทรงพลังปรากฏขึ้นมาและทั้งกระดูกแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผง!

แรงบีบนี้ทำให้ทั้งโลกสั่นไหว รอยร้าวนับไม่ถ้วนปรากฏบนพื้นดินแม้แต่ที่หวังหลินอยู่ เสียงดังสนั่นออกมาจากหมู่มวลดาวเคราะห์พร้อมกับหมู่ดาวน้อยใหญ่กระจัดกระจาย

มันสร้างสูญญากาศขึ้นมาภายในพื้นที่และแม้กระทั่งดาวเคราะห์น้อยนอกระยะแสงสีม่วงก็ยังได้รับผลกระทบและเริ่มพังทลาย

ราวกับแรงบีบนี้บรรจุพลังอำนาจเหนือจินตนาการ ราวกับทั้งโลกแตกสลายเพียงแค่การบีบนั้น

แขนนั้นค่อยๆลู่ลงและกวักเรียกหวังหลินอีกครั้ง

หนังศีรษะหวังหลินชาด้านและใบหน้าซีดเผือดจ้องแขนข้างนั้น เขาไม่มีความคิดว่าทำไมแรงบีบถึงได้ทรงพลัง แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าดัชนีเทพโบราณจากอสรพิษพิฆาตจันทร์เลยแม้แต่น้อย!

แขนข้างนี้ทำให้หวังหลินรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดในโลกสามารถต่อต้านแรงบีบได้

แรงบีบนี้ไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งแต่เป็นสิ่งที่คล้ายกับกฏของหวังหลินที่แสดงอำนาจด้วยตัดสวรรค์! อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับตัดสวรรค์แล้ว พลังนี้แข็งแกร่งกว่ามากนัก

หลังผ่านไปพักใหญ่ แขนยักษ์ค่อยๆหายไป มันทำท่าเรียกหาจนกว่าจะถึงตอนจบ ประตูยักษ์ด้านหลังมันเลือนหายไปพรอมกับแขน…

แสงสีม่วงรอบๆพื้นที่ควบแน่นอีกครั้ง พริบตาเดียวแสงสีม่วงทั้งหมดที่รวบรวมมาก็หายไปอย่างช้าๆ กลับคืนสู่ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

ราวกับว่ามันได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของมันออกมา ลูกปัดตกลงจากอากาส หวังหลินลังเลเล็กน้อยก่อนจะใช้แขนยื่นออกมา ลูกปัดลอยเข้ามาบนฝ่ามือเขาทันที

มันกลับเป็นลูกปัดธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ทว่าตอนนี้ไม่มีร่องรอยพลังธาตุทั้งห้าออกมาแล้ว มันหมดเกลี้ยงกว่าตอนที่หวังหลินเจอลูกปัดครั้งแรกเสียอีก

หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปข้างในลูกปัด วิญญาณของลี่มู่หวาน หวังผิงและฉิงยี่คงอยู่ข้างใน

เทียบกับก่อนหน้านี้ พวกเขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากโดยเฉพาะวิญญาณของลี่มู่หวานที่ดูมั่นคงขึ้น

“พลังของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคืออะไรกันแน่…ประตูยักษ์นั่นนำทางไปที่ไหน…และแขนที่ออกมาจากประตูด้วย…” หวังหลินขบคิด

เดาได้ไม่ยากว่าเขาไม่ใช่คนแรกที่ได้รับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าซึ่งก็นับว่ามันคงอยู่มานานมาก ต้องมีคนอื่นที่สะสมพลังห้าธาตุได้สำเร็จแน่ๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นประตูบานนั้น เหล่าผู้คนต้องเลือกเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือครั้งต่อไปที่ประตูเปิด

“พวกผู้อาวุโสถูกแขนบดขยี้หรือว่าพวกเขาเข้าไปในประตูจริงๆ…” หวังหลินขมวดคิ้ว

ก่อนหน้าที่ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าจะเสร็จสมบูรณ์ หวังหลินงุนงงกับมันอย่างแท้จริง ทว่าหลังจากธาตุทั้งห้าสมบูรณ์แล้ว ไม่เพียงแต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป เขากลับงุนงงยิ่งกว่า

“หรือว่าประตูบานนี้นำทางไปสู่แดนเทพโบราณ…แต่หากเป็นกรณีนั้น ทำไมถึงมีแขนข้างนั้นอยู่? แม้ว่ามันดูเหมือนกำลังเรีกยหา มันอาจจะบดขยี้ได้จริงๆ…”

“ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคืออะไรกันแน่…” หวังหลินขมวดคิ้วจ้องลูกปัดเป็นเวลานาน เขาวางมันเข้าต้านกับหน้าผากและมันหายเข้าไปในวิญญาณดั้งเดิม

เมื่อไม่เข้าใจตอนนี้ หวังหลินจึงตัดสินใจหยุดคิดก่อน เห็นได้ชัดว่ากุญแจสำคัญคือประตู แต่เพียงเขาแค่ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ด้านหลัง!

“พลังธาตุทั้งห้าของลูกปัดได้หายไปหมดแล้ว จำเป็นต้องรวบรวมมันอีกครั้ง!” หวังหลินมองไปรอบๆ จากสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น ดาวดวงนี้ไร้ค่าไปแล้ว ไม่มีค่าอะไรให้พักอยู่ที่นี่อีก

“โชคร้ายนัก สถานที่สมบัติเช่นนี้ได้หายไปแล้ว แต่ที่ที่ทำให้วิญญาณดั้งเดิมของข้ารู้สึกสบายกลับอยู่ลึกเข้าไปในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย หากมีสายฟ้ามากขึ้นข้าจะสามารถฝึกฝนวิชาอัสนีดั้งเดิมได้”

หลังจากคิดในใจแล้วหวังหลินก็เคลื่อนไหวพุ่งออกไปจากที่แห่งนี้ดุจลำแสงสายฟ้า ดาวเคราะห์ใกล้เคียงส่วนใหญ่หายไปหมดแล้ว หวังหลินนำราชรถสังหารเทพออกมาโดยไม่ได้หยุดชะงักและเจ้าอสูรสายฟ้าปรากฏขึ้น

เมื่อมันออกมาพลันร้องคำรามราวกับระงับไว้มาหลายปีและมองมาที่หวังหลิน ทว่าเจ้าอสูรสายฟ้าประหลาดใจ มันมองหวังหลินอย่างละเอียด สายตาเผยความงุนงง

หวังหลินนั่งลงบนอสูรสายฟ้าจากนั้นตบศีรษะมันและหัวเราะ “ไม่ต้องมาจ้องหรอก ด้วยสติปัญญาของเจ้าก็ต้องรับรู้ถึงสถานที่พิเศษข้างหน้าแล้ว เจ้ายังไม่มุ่งหน้าไปอีกหรือ?”

เจ้าอสูรสายฟ้าร้องคำราม ในสายตามันราวกับว่าหวังหลินไม่มีตัวตนอยู่เลย ทว่าสายฟ้าที่ออกมาจากเขากลับให้ความรู้สึกจริงใจ เป็นความรู้สึกที่มันไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว

การตบศีรษะของหวังหลินบนหัวมันได้ทำให้เกิดความรู้สึกสบายอย่างยิ่ง มันอดไม่ได้ที่จะร้องคำรามออกมา

อสูรสายฟ้าท่องผ่านกลุ่มดาวเคราะห์น้อยอย่างรวดเร็ว ยิ่งพวกเขาเข้าไปลึกก็ยิ่งมีกลุ่มดาวเคราะห์หนาแน่น มีบางกลุ่มที่ปลดปล่อยสายฟ้ากระพริบวาบออกมาบ้าง

สภาพแวดล้อมนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกไม่สบายต่อหวังหลินหรือแม้แต่อสูรสายฟ้า เจ้าอสูรสายฟ้ากลับยินดีอย่างยิ่งและร้องคำรามอย่างมีความสุข

ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนอสูรสายฟ้า หวังหลินยังคงคิดเรื่องลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ลึกลงในใจเขายังคงผิดหวัง นอกจากนั้นเขาใช้เวลาเกือบพันปีเพื่อรวบรวมธาตุทั้งห้าและการเดินทางไปหาอสรพิษพิฆาตจันทร์เกือบเอาชีวตไปทั้ง เดิมทีเขาคิดว่าจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นประโยชน์มหาศาลต่อเขาเสียอีก

ทว่าตอนนี้ความเป็นจริงไม่ต่างกันนักและความหวังของเขาใหญ่เกินไป

“ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคืออะไรกันแน่…” หวังหลินจับหน้าผากและขบคิด

อสูรสายฟ้ามีสัมผัสว่องไวต่อพลังอำนาจแห่งสายฟ้า มันเดินทางเข้าไปในส่วนลึกของกลุ่มดาวเคราะห์น้อย

เสียงสายฟ้าดังอู้อี้ขัดความคิดหวังหลิน ดวงตาเขาส่องสว่างขึ้น สถานที่ตรงหน้าคือจุดที่วิญญาณดั้งเดิมของเขารู้สึกสะดวกสบาย สายฟ้าที่นี่หนาแน่นมาก

“เป็นที่นี่เอง!” หวังหลินขมวดสายตา

อสูรสายฟ้าท่องผ่านดาวเคราะห์น้อยจากนั้นหยุดชะงักลงทันที ดวงตากลมโตของมันเผยอาการตกใจ

เมื่อหวังหลินเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาอ้าปากค้าง สายตาเริ่มส่องประกายเจิดจ้า

เบื้องหน้าไม่มีดาวเคราะห์ใดแต่มันคือทะลสาปสายฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยลำแสงสายฟ้า มันเหมือนกับสายฟ้านรกของจริง!

ดาวเคราะห์สายฟ้าก่อนหน้านี้เทียบไม่ได้สักนิดกับที่แห่งนี้

ทะเลสาปสายฟ้าไร้ขอบเขต ประกายลำแสงเคลื่อนไปรอบๆดุจมังกรและปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังกึกก้อง

อสูรสายฟ้าร้องคำรามและมองทะเลสาปสายฟ้าด้วยความลังเล พลังอำนาจสายฟ้าที่นี่แข็งแกร่งเกินไป แม้ว่ามันจะเป็นอสูรสายฟ้ามันยังแทบรู้สึกว่าไม่สามารถทนได้

ร่างกายหวังหลินขยับเคลื่อนไหวและออกมาจากอสูรสายฟ้า ดวงตาขมวดและเคร่งขรึม เขาส่งองครักษ์เทพออกไปก่อนเพื่อยืนเฝ้าระวังใกล้ๆ จากนั้นก็มาถึงขอบปลายของทะเลสาปสายฟ้า หวังหลินสังเกตการณ์อยู่ชั่วครู่ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไป

เมื่อย่างเท้าเข้าไป สายฟ้าเข้าสู่ร่างกายผ่านฝ่าเท้าทันทีและเติมเต็มไปทั่วทั้งตัว แม้ร่างกายหวังหลินจะรู้สึกด้านชา เขาสูดหายใจลึกและก้าวเท้าเข้าไปอีก

หวังหลินก้าวไปได้ยี่สิบก้าวในครั้งเดียวก่อนจะหยุดลง ทั้งร่างถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้าและวิญญาณดั้งเดิมปลดปล่อยอำนาจแห่งสายฟ้าออกมา

ตรงนี้เป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว หวังหลินนั่งลงอย่างช้าๆและหลับตาฝึกฝน

อสูรสายฟ้ากระวนกระวายอยู่รอบๆขอบทะเลสาปเป็นเวลานานก่อนที่จะก้าวเท้ามาข้างหน้าอย่างระมัดระวัง มันรู้สึกถึงสายฟ้าทันทีและจากนั้นหมอบลง มันเริ่มดูดซับและปรับแต่งสายฟ้าโดยใช้วิธีที่อสูรสายฟ้ารู้จักเท่านั้น

ที่นี่ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงสายฟ้าปะทุ หนึ่งบุรุษและหนึ่งอสูรพึ่งจะเริ่มฝึกฝนกันเช่นนี้เอง

หวังหลินค่อยๆปรับตัวเข้ากับพื้นที่แห่งนี้และจิตใจก็ตกอยู่ในอาการตะลึง สายฟ้าที่นี้เหนือว่าร่างกายของเขา หากไม่ใช่เพราะว่าร่างกายหยาบถูกสร้างขึ้นจากสายฟ้า คงยากย่งที่เขาจะอยู่ตรงปลายขอบได้

“สถานที่แห่งนี้เหมาะสมที่สุดที่จะฝึกฝนวิชาอัสนีดั้งเดิม!” แววตาหวังหลินเต็มไปด้วยสายฟ้าขณะฝึกฝนวิชาอัสนีดั้งเดิมอย่างเงียบๆ

ตอนนี้ ณ อวกาศที่อยู่ห่างไกลนอกกลุ่มดาวเคราะห์น้อย สายฟ้าหนึ่งเส้นหวีดหวิวผ่านมา มันคืออสูรสายฟ้า และแม้ว่าจะไม่มีเขาแต่ก็มีนูนๆออกมาจากศีรษะมัน

อสูรสายฟ้าสวมเกราะสีดำทำให้ดูดุร้ายอย่างยิ่ง ชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่บนหลังของอสูรสายฟ้า เส้นผมพริ้วไหวไปด้านหลังและเขามุ่งหน้าเข้าสู่กลุ่มดาวเคราะห์น้อยด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“แดนสวรรค์อัสนีกำลังจะเปิด ข้าต้องดูดซับพลังดั้งเดิมให้มากขึ้นจากทะเลสาปสายฟ้า…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!