722. การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ
*เปลี่ยนจากวิชาอัสนีดั้งเดิม เป็น อัสนีต้นกำเนิด*
ชายผมดำลูบศีรษะใหญ่โตของอสูรสายฟ้า ดวงตาเผยแววประหลาดพร้อมกับพึมพำ “ข้าไม่รู้ว่าจะมีสมบัติแบบไหนปรากฏขึ้นในแดนสวรรค์อัสนี ข้ากลัวว่าผู้ส่งสาส์นของอารามเทพอัสนีจะต่อสู้กันและกันอย่างโหดเหี้ยม!”
เขาเผยใบหน้ามืดมนต่ออสูรสายฟ้าเบื้องล่าง จากนั้นเปลี่ยนเป็นลำแสงสายฟ้าและเหาะเหินออกไปไกล
“มีข่าวลือว่าลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอันลึกลับปรากฏครั้งแรกในส่วนลึกของกลุ่มดาวเคราะห์น้อยทางฝั่งใต้ดาราจักร เพราะการปรากฏตัวของลูกปัดจึงทำให้สายฟ้าที่นี่เปลี่ยนไปและสร้างทะเลสาปสายฟ้าขึ้น ที่นั่นยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการฝึกฝนวิชาสายฟ้าอีกด้วย!”
ดวงตาบุรุษส่องสว่างวาบและเคลื่อนไหวเร็วมากกว่าเดิม
หวังหลินอยู่ในทะเลสาปสายฟ้าพึมพำคำร่ายวิชาอัสนีต้นกำเนิดอีกครั้งและอีกครั้ง หลังจากเข้าใจมัน ฝ่ามือหวังหลินสร้างผนึกขึ้นมาและวางไปบนเข่าตนเอง หวังหลินสูดหายใจลึกและหลับตาลง
วิชาอัสนีต้นกำเนิดใช้กรรมวิธีลึกลับเพื่อแยกพลังดั้งเดิมออกมาจากสายฟ้าสวรรค์และทำให้มันเป็นของผู้ใช้เอง
วิชาเช่นนี้หายากยิ่ง มีเพียงเซียนระดับสองเท่านั้นที่มีวิชานี้ บ่อยครั้งมันยังถือว่าเป็นสมบัติที่จะไม่ยกให้ใครได้ง่ายๆ
กรรมวิธีนี้เป็นการเพ่งสมาธิไปบนสายฟ้าที่กำลังเข้าสู่ร่างกาย หากระดับบ่มเพาะไม่สูงส่งเพียงพอ ไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายร่างของตนเอง หากไม่ระมัดระวัง วิญญาณดั้งเดิมจะได้รับความเสียหาย ซึ่งหากกรณีที่แย่กว่านั้นคงถูกทำลายได้ทันที
ทว่ากรรมวิธีนี้ไม่เหมาะสมกับหวังหลิน วิญญาณดั้งเดิมของเขาคือสายฟ้าและร่างกายใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นจากสายฟ้า ในสายตาของอสูรสายฟ้า ทุกส่วนของหวังหลินเป็นสายฟ้า
หลังจากนั้นไม่นาน หวังหลินเลื่อนมืออย่างช้าๆสร้างผนึกขึ้นมา เพียงสะบัดก็เกิดระลอกคลื่นจำนวนมากกลางอากาศ ระลอกคลื่นพวกนี้ถูกสร้างขึ้นจากสายฟ้าและแพร่กระจายออกไป
การสะบัดนี้ความจริงได้บรรจุผนึกที่แตกต่างกันเก้าแบบซึ่งสร้างขึ้นมาด้วยความเร็วขีดสุด ผนึกที่สร้างขึ้นมาพวกนี้มีความสามารถในการดึงดูดสายฟ้า
ภายใต้เสียงดังสนั่นกึกก้องของทะเลสาปสายฟ้า สายฟ้าหนึ่งเส้นดูเหมือนจะถูกดึงดูดเข้ามา ดูเหมือนมันพบเจอจุดปลดปล่อยแล้วและพุ่งเข้ามาในทันที พยายามกลืนกินทุกสิ่งอย่างตามทาง
ทว่าขณะที่มันสัมผัสหวังหลิน มันก็หายไปและพุ่งเข้าไปในร่างกายเขา
สายฟ้าที่นี่แข็งแกร่งมาก เหนือล้ำเกินกว่าสายฟ้าธรรมดา ในจังหวะที่มันเข้าสู่ร่างกายหวังหลินมันก็พรั่งพรูผ่านทั่วร่าง ฝ่ามือหวังหลินรีบใช้วิชาอัสนีต้นกำเนิดอย่างรวดเร็ว วังวนขนาดยักษ์ปรากฏภายในร่างกายและหมุนวนอย่างต่อเนื่อง การหมุนวนทุกครั้งมันจะบีบเอาพลังดั้งเดิมออกมาจากสายฟ้า
กระบวนการนี้กินเวลายาวนานมาก ข้อมูลเบื้องต้นได้บอกว่าการใช้วิชานี้ในครั้งแรกจะยากมาก ทางหนึ่งร่างกายต้องต่อต้านสายฟ้าและอีกทางหนึ่งคือการดูดซับพลังดั้งเดม มันจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวทั้งหมด
อย่างไรก็ตามหวังหลินไม่ได้กังวลเรื่องทั้งหมดนี้เลย เลือดเนื้อและวิญญาณของเขาถูกสร้างขึ้นมาจากสายฟ้าอยู่แล้ว อย่างมากสายฟ้าเพียงแค่ทำให้เขารู้สึกไม่สะดวกสบายแต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ
ตอนนี้หวังหลินเพ่งสมาธิไปที่การบีบเอาพลังดั้งเดิมออกมาโดยไม่คิดถึงความรู้สึกไม่สะดวกสบายที่ออกมาจากร่างกาย
หลังผ่านไปเวลาสักพัก สายฟ้าเส้นนั้นก็ค่อยๆพังทลายภายใต้ผลของวิชาสายฟ้าต้นกำเนิด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยพลังดั้งเดิมไม่บริสุทธิ์จำนวนมาก มีพลังดั้งเดิมน้อยมากเกินไปจนตรวจสอบแทบไม่ได้หากไม่ได้เฝ้ามองอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตามหวังหลินสะสมมันไว้ราวกับเป็นสมบัติและความตื่นเต้นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ สำหรับเซียนระดับแรกแล้ว พลังดั้งเดิมคือสิ่งเลอค่า มีเพียงการบรรลุขั้นเทวะเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้รับมาบ้างและเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับเพิ่มหรือฟื้นฟูมัน!
การสร้างพลังดั้งเดิมจากโลกใบนี้จำเป็นต้องใช้วิชาจากเซียนระดับสอง
หากไม่ใช่ด้วยเรื่องบังเอิญ หวังหลินคงไม่มีโอกาสทำแบบนี้ได้
เขาระงับความยินดีและตื่นเต้นในใจเอาไว้และโคจรพลังดั้งเดิมที่ไม่บริสุทธิ์นี้เข้าหาวิญญาณดั้งเดิมของตัวเองอย่างระมัดระวัง เมื่อถึงตรงนั้นมันจะต้องหลอมสิ่งเจือปนอีก แม้ว่าพลังดั้งเดิมที่เหลือทิ้งไว้จะน้อยลง มันก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถใช้ได้
นี่คือช่วงวิกฤตอย่างยิ่ง ดังนั้นหวังหลินจึงไม่กล้าคลายความระมัดระวัง เขาควบคุมพลังดั้งเดิมที่ไม่บริสุทธิ์เข้าหาวิญญาณของตัวเองอย่างช้าๆ
ทว่าขณะนั้นเองเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทันที!
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่หวังหลินไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาควบคุมมัน ขณะที่ร่องรอยของพลังดั้งเดิมไม่บริสุทธิ์เข้าสัมผัสวิญญาณของเขา ดูเหมือนว่ามันจะวิ่งเหมือนม้าพยศและเคลื่อนไหวรุนแรง
มันเจาะเข้าไปในวิญญาณหวังหลิน แต่แทนที่จะผสานเข้ากับวิญญาณดั้งเดิม มันพุ่งเข้าหาตำแหน่งลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า!
ร่องรอยพลังดั้งเดิมไม่บริสุทธิ์นี้ผสานเข้ากับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าในทันที!
เสียงดังสนั่นกึกก้องที่ผู้คนภายนอกไม่อาจได้ยินแต่หวังหลินได้ยินชัดเจนกลับกังกึกก้องในร่างกายเขา ราวกับเขาถูกภูเขายักษ์กระแทกใส่รุนแรง ใบหน้าหวังหลินซีดเผือดทันที วิญญาณดั้งเดิมสั่นสะท้านและแม้กระทั่งร่างกายก็สั่นเทาไม่หยุด
ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าในร่างกายไม่ฟังคำสั่งหวังหลิน มันลอยออกมาจากระหว่างคิ้วช้าๆ
หวังหลินจ้องฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าและความคิดตะลึงงัน
ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เมื่อมันออกมา ทั่วทั้งทะเลสาปสายฟ้าก็โหมกระหน่ำ มังกรสายฟ้าจำนวนมากพุ่งออกมาทันที
แรงผันผวนขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ทำให้กลุ่มดาวเคราะห์น้อยได้รับผลกระทบและปลดปล่อยสายฟ้าทรงพลังออกมา องครักษ์เทพล่าถอยออกไปไกลห่างจนไม่ถึงจุดที่โดนกระทบ
แม้กระทั่งอสูรสายฟ้าก็ตื่นขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในสายฟ้า มันล่าถอยโดยไม่รู้ตัวและไม่กล้าเข้ามาใกล้
หวังหลินมองลูกปัดฝืนลิขิตฟ้ากลางอากาศ แววตางุนงงมากยิ่งกว่าเดิม
มังกรสายฟ้านับไม่ถ้วนหวีดหวิวออกมาจากทุกทิศทาง มังกรสายฟ้าพุ่งเข้าหาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าทีละตัว ฉากเหตุการณ์นี้ตกตะลึงอย่างยิ่งและหวังหลินจ้องมองตกตะลึงสิ้นเชิง
ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเปลี่ยนไปอย่างช้าๆและทุกครั้งที่มันเปลี่ยนจะดูดซับสายฟ้าจำนวนมากเข้าไป แสงสีม่วงก่อเกิดขึ้นนรอบลูกปัดไปอย่างช้าๆด้วย
หวังหลินคุ้นเคยกับฉากเหตุการณ์นี้ นี่มันสิ่งเดียวกับที่เกิดขึ้นไม่นานนัก
แสงสีม่วงกำลังพร่าเลือนและแพร่กระจายออกมาทันที กฏเกณฑ์ลึกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง! ในเวลาเดียวกันประตูบานยักษ์ก็ปรากฏเบื้องหน้าสายตาหวังหลิน
ทั้งหมดนี้แปลกประหลาดเกินไปและทำให้หวังหลินตกใจมหาศาล
เขาไม่รู้ว่าลูกปัดสวรรค์ปรากฏตัวครั้งแรกที่นี่! การเปลี่ยนแปลงลึกลับทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่ก็เนื่องมาจากการปรากฏตัวของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า
หวังหลินมาถึงที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจและพาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้ากลับมายังตำแหน่งดั้งเดิมที่มันปรากฏ กล่าวได้ว่ามีกรรมมาเกี่ยวข้องกับเขา
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นโดยเจตนาอย่างสิ้นเชิง ความจริงตอนที่หวังหลินอยู่ในอาการบาดเจ็บและค้นหาที่นี่เจอ มันไม่ใช่เนื่องมาจากความสามารถของมังกรสายฟ้าโฐราณ เหตุผลลึกลับยิ่งกว่านั้นก็คือลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า
ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ได้ผสานเข้ากับวิญญาณดั้งเดิมหวังหลินและไม่มีตัวตนเป็นรูปร่างอีกแล้ว ดังนั้นความสามารถของมันจึงมีอิทธิพลต่อวิญญาณหวังหลิน ความจริงความรู้สึกสะดวกสบายก็ออกมาจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า!
หากเป็นเพียงแค่กรณีนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าที่ไม่สมบูรณ์ยังไม่ได้จดจำเจ้าของ ดังนั้นแม้หวังหลินจะพามันมาที่นี่มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามเมื่อธาตุทั้งห้าเสร็จสมบูรณ์ ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อประตูยักษ์เปิดขึ้นมานั่นหมายความว่าหวังหลินได้เปิดใช้งานลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเป็นครั้งแรก
การเปิดใช้งานนี้หมายความว่าลูกปัดจดจำผู้เป็นเจ้าของ
หลังจากนั้นหวังหลินก็ดูดซับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าและมาที่นี่ เมื่อมันสัมผัสเข้ากับสายฟ้าที่แห่งนี้มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น!
หากมีปัจจัยใดขาดหายไป ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ที่มีลูกปัดมา หวังหลินเป็นเพียงคนเดียวที่มาถึงขั้นนี้
ประตูยักษ์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แสงสีม่วงทำให้แม้กระทั่งทะเลสาปสายฟ้ยังเปลี่ยนเป็นสีม่วง สายฟ้ากลายเป็นสายฟ้าม่วงไปแล้ว!
การปรากฏตัวของประตูได้ทำสัมผัสแห่งความกลัวในร่างกายขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าหวังหลินเคยต่อต้านมันไปครั้งหนึ่งแล้ว ร่างกายยังคงสั่นเทาเล็กน้อยแต่ดวงตาไม่ยอมแพ้เช่นเดิม
ขณะที่แสงสีม่วงส่องสว่างไปทั่วทุกที่ แขนยักษ์โผล่ออกมาจากประตูอีกครั้ง อย่างไรเสียคราวนี้มันได้ทำให้หัวใจหวังหลินเต้นกระดอน
เมื่อแขนปรากฏขึ้นมา สายฟ้าสีม่วงจำนวนมากก็พุ่งเข้าหามันทันที เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนห่อหุ้มไปรอบๆแขนราวกับพวกมันทำให้แขนสงบลง!
หวังหลินจ้องแขนข้างนั้นด้วยแววตาส่องสว่าง เขาขบคิดเล็กน้อย กัดฟันแน่น กระโดดขึ้นไปกลางอากาศและพุ่งเข้าหาประตูยักษ์
หากแขนข้างนี้ไม่ได้ถูกสายฟ้าขังเอาไว้ หวังหลินคงไม่เลือกที่จะเข้าไป เขารู้สึกว่าหากเขาพลาดโอกาสครั้งนี้ในชั่วชีวิต เขาคงไม่มีโอกาสได้เห็นความลับที่อยู่หลังบานประตู!
แม้ว่าความเร็วจะแย่นักแต่เลือกที่จะออกมาแล้ว หากแขนเป็นอิสระจากสายฟ้า เขาจะหันกลับและหนีทันที!
หวังหลินกำลังเข้าใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้น!
แขนข้างนั้นเริ่มขยับ แต่สายฟ้ารอบๆมันราวกับเป็นโซ่ล่ามจับกุมมันเอาไว้ ซึ่งทำให้มันเชื่องช้าลง
หวังหลินเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นด้วยแววตาส่องสว่าง พุ่งไปที่ประตูดุจลำแสงสายฟ้า ในจังหวะที่เขาเข้าไปใกล้ ประตูก็ได้เปิดช่องว่างเล็กๆขึ้น!
ขณะที่ช่องว่างเปิด โลกพลันหยุดชะงัก…
ร่างหวังหลินหยุดอยู่ข้างนอกช่องว่างด้วยเช่นกัน ดวงตาเบิกกว้างและตอนนี้เองราวกับความคิดเขาถูกดูดเข้าไปในประตู
ทุกสิ่งทุกอย่างที่หวังหลินเห็นได้ทำให้เขาสั่นสะท้านรุนแรง!
ราวกับว่าวิญญาณดั้งเดิมหลุดออกจากร่างกาย ราวกับเขาไม่รู้สึกถึงกายหยาบอีกต่อไป ทั้งร่างดูเหมือนจะคงอยู่ในความโกลาหลไร้ที่สิ้นสุด…