Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 739

Cover Renegade Immortal 1

739. ตระกูลซิ่วแห่งตงหลิน

สิ่งที่ตามเสียงนั้นมาคือเปลวเพลิงมารปกคลุมไปทั่วน่านฟ้า เปลวเพลิงสีดำปลดปล่อยความร้อนจนสามารถเผาไหม้ดวงวิญญาณดั้งเดิมได้และมันปกคลุมด้านบนทั้งหมดทั้งมวลในทันที

ราวกับว่าก้อนเมฆบางในท้องฟ้าถูกเปลวเพลิงมารกัดกร่อนและเต็มไปด้วยพลังมาร ดุจสายน้ำที่เพียงแค่รวบรวมกันก็ทำให้เกิดพายุฝนกระหน่ำได้

เปลวเพลิงเคลื่อนไหวไปพร้อมกับสายลมและพุ่งเข้าหาพื้นดิน เพลิงมารล้อมรอบพื้นดินในพริบตา หากเฝ้ามองอยู่ไกลๆจะเห็นได้ว่าพลังมารนี้ได้ก่อเกิดเป็นรูปร่างอสูรกายตัวใหญ่ยักษ์หนึ่งเขา

ชายหนุ่มชุดม่วงปรากฏตัวอยู่บนศีรษะของอสูรกายตัวนั้น สายตาเรืองแสงสีแดงกระหายเลือด เส้นผมสีดำขลับพัดพริ้วด้านหลัง

หวังหลินยืนอยู่บนพื้นมองท้องฟ้าด้วยความสงบนิ่ง เขาโบกแขนขวาและเก็บด้ามแตกหักนั้นเข้าไปในกระเป๋า

เมื่ออสูรกายตัวนั้นเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านบนมองหวังหลินและเอ่ยเสียงเย็นเฉียบ “เจ้ารนหาที่ตาย!” เขาไม่ได้ขยับตัวแต่สายฝนข้างๆควบแน่นอย่างรวดเร็วพุ่งออกมา สายฝนก่อเกิดเป็นลูกศรเจาะทะลวงผ่านอากาศ พุ่งลอยเข้าหาหวังหลินพร้อมกับสร้างเสียงหวีดหวิวประหลาด

ชายหนุ่มเป็นเซียนขั้นมายาหยินและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนหน้าใหม่ในโลกแห่งเซียน แม้จะไม่ได้เป็นระดับสูงสุดแต่ยังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ

ระดับบ่มเพาะของเขาเทียบได้กับผู้ส่งสาส์นเต๋าสายฟ้า วิชามารของเขาได้ทำให้ดูโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น แม้แต่ผู้ส่งสาส์นเต๋าสายฟ้ายังไม่ต่อต้านเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

ลูกศรที่สร้างจากสายฝนบรรจุเจตนาฆ่าฟันรุนแรง ดวงตาหวังหลินเย็นเยียบและล่าถอยไปหลายก้าว ฝ่ามือยกขึ้นมาและเกิดระเบิดสายฟ้าพุ่งพล่าน ในเวลาเดียวกันทรงกลมสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นหลายก้อน เชื่อมต่อกันด้วยประกายแสง

เพียงแค่ชี้นิ้วออกไป ทรงกลมสายฟ้าพวกนี้ก็พุ่งเข้าหาลูกศร เข้าปะทะกันจนเกิดการระเบิดทันที แรงระเบิดรุนแรงจนทำให้ลูกศรแตกสลายไปทั้งหมดเบื้องหน้าหวังหลินหนึ่งร้อยฟุต

ชายหนุ่มผู้อยู่เหนืออสูรกายเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งเฉย “น่าสนใจเล็กน้อย…”

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะทันพูดจบ ไม่เพียงแต่หวังหลินไม่ล่าถอยแต่ยังก้าวไปข้างหน้า หวังหลินโกรธอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ถูกขังอยู่ในอุโมงค์ ตอนนี้มาเจอชายหนุ่มที่โจมตีเขาด้วยจิตสังหารอีก ราวกับว่าในสายตาทุกคนเขาอ่อนแอจนสามารถโจมตีได้ตามใจชอบกระนั้น

“ดูเหมือนข้ามีสถานะต่ำเกินไปในดาราจักรทุกชั้นฟ้า” หากเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นขั้นรูปธรรมหยาง หวังหลินอาจจะลังเลและเลือกล่าถอย ทว่าหวังหลินเคยฆ่าเซียนขั้นมายาหยินมาก่อน ดังนั้นจึงได้ก้าวตรงเข้าไปหาอสูรกาย

“ใช้วิชามารเบื้องหน้าข้า! ข้าแม้แต่เคยต่อสู้กับเศษมารมาแล้ว!” หวังหลินก้าวขึ้นไปในอากาศเพียงหนึ่งก้าว ยกแขนขวาขึ้นและกระตุ้นวิญญาณดั้งเดิม สายฟ้าจำนวนมากออกมาจากร่างกายและรวบรวมอยู่ในแขนขวา

ทันใดนั้นเกิดทรงกลมสายฟ้าสีน้ำเงินขึ้นมาและมันบรรจุสายฟ้ามากมายเกินไป ขณะที่มันปรากฏจึงทำให้รอบด้านเปลี่ยนแปลง

ที่นี่คือแดนสวรรค์อัสนี ดังนั้นมันจึงไม่ขาดแคลนสายฟ้า ขณะที่ทรงกลมสายฟ้าของหวังหลินปรากฏ เส้นสายแห่งสายฟ้าปรากฏขึ้นบนพื้นและกระทั่งท้องฟ้ายังได้รับผลกระทบ สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทรงกลมสายฟ้าของหวังหลินดึงดูดเข้าไป

หวังหลินถือทรงกลมสายฟ้าไว้ในมือและกระโจนผลักทรงกลมออกไป

ทรงกลมสายฟ้าพุ่งตรงเข้าหาชายหนุ่มที่อยู่บนอสูรกายตัวยักษ์

สีหน้าท่าทางของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่เพียงแต่จิตสังหารในแววตาไม่ลดลง มันกระทั่งเข้มข้นขึ้น ฝ่ามือสร้างผนึกอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทรงกลมเข้ามาใกล้เขาจึงร้องตะโกน “มาร กลืนกิน!”

แสงมารกระหายเลือดสองจุดพลันปรากฏขึ้นบนเจ้าอสูรกายตัวยักษ์ซึ่งแต่เดิมทีเป็นเพียงภาพเบลอ จากนั้นเกิดรอยร้าวกว้างขึ้นและกว้างขึ้นก่อนที่มันจะกลืนกินทรงกลมสายฟ้าเข้าไป

“ก็แค่สายฟ้าอ่อนๆ ไม่มีคุณสมบัติพอให้ข้าใช้เพลิงมารหรอก!” เจ้าหนุ่มยกแขนขวาขึ้นมาและรวบรวมสายฝนทั้งหมด สายฝนเคลื่อนไปรอบภายในแขน

พริบตานั้นสายฝนได้สร้างหอกยาวขึ้นมาแต่ดูเหมือนจะถูกสร้างมาจากน้ำหมึก หอกนั้นเป็นสีดำและกำลังไหลเฉื่อยๆ ชายหนุ่มสะบัดแขน ทว่าไม่ใช่หอกที่พุ่งออกไปแต่กลับกลายเป็นม่านวารีซึ่งพุ่งเข้าหาหวังหลินด้วยพลังมารหนาแน่น

หวังหลินตบกระเป๋าด้วยท่าทีสงบ ปรากฏบางอย่างขึ้นในมือ มันคือภูเขาเทพ เมื่อมันปรากฏจึงพลันขยายขนาดจนเท่าภูเขาใหญ่ทันที

ตอนที่ม่านวารีเข้ามาถึง หวังหลินประทับฝ่ามือขวาลงบนภูเขาด้วยสายตาส่องแสงลี้ลับ จากนั้นยกแขนขึ้น วิญญาณภูเขาหลายเส้นสายถูกดึงออกมาราวกับพวกมันกำลังถูกวาดออกไป

หลังมือขวาหวังหลินยกออกมาได้สมบูรณ์ วิญญาณภูเขาได้เปลี่ยนเป็นสายหมอกทรงกลมบนฝ่ามือและปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณออกมา

ร่างหวังหลินส่องประกาย เขาขยับเคลื่อนไหวรวดเร็วจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่น หวังหลินพุ่งออกไปตอนที่ม่านวารีเข้ามาใกล้พอดี สายน้ำแทงเข้าไปในร่างเขาและเปลี่ยนกลายเป็นหยดน้ำหนาวเย็นมากมายเหลือคณานับทั้งยังล้อมรอบหวังหลินไว้ในพริบตา

ทว่าในไม่นานที่มันล้อมรอบหวังหลิน สายหมอกในมือเขาก็ปลดปล่อยพลังปราณสวรรค์ผันผวนขึ้นมามหาศาลซึ่งทำให้หวังหลินพุ่งผ่านสายน้ำไปได้ เมื่อไร้สิ่งกีดขวางหวังหลินจึงพุ่งไปข้างหน้า ประทับสายหมอกเข้าหาชายหนุ่มบนอสูรกายปิศาจ

ขณะที่สายหมอกปรากฏ สีหน้าท่าทางของชายหนุ่มจมดิ่งลง เขาโยนหอกพุ่งออกไปดุจมังกรทันที สายหอกพุ่งทะลวงผ่านอากาศและแทงเข้าไปในหมอกทรงกลม

หวังหลินไม่ได้หยุดชะงักแต่พุ่งไปข้างหน้าและตะโกน “กระจายตัว!”

ทรงกลมหมอกแพร่กระจายทันทีและบวมป่องหลายเท่ากลายเป็นหมอกหนาแน่นปกคลุมหอกทั้งด้าม ชายหนุ่มท่าทีเปลี่ยนไปและกำลังจะใช้อีกวิชา

ทว่าขณะนั้นแววตาหวังหลินเย็นเฉียบ “สายฟ้า ระเบิด!”

ทรงกลมสายฟ้าที่ถูกเจ้าอสูรกายปิศาจกลืนกินไปไม่ได้แตกสลาย มันซ่อนตัวอยู่ภายใน เมื่อหวังหลินร้องตะโกน สายฟ้าทรงพลังระเบิดออกมาภายในร่างอสูรกายตัวนั้น!

แสงสีฟ้าพลันปรากฏภายในร่างของมัน แสงนั้นส่องสว่างขึ้นและสว่างขึ้นเรื่อยๆจนถึงขีดจำกัดในพริบตา ท้ายที่สุดจึงเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนระเบิดออกมาจากร่างอสูรกาย ร่างมายาขนาดใหญ่ของมันพังทลายอย่างสมบูรณ์!

การเปลี่ยนแปลงรุนแรงนี้ได้ทำให้ท่าทางชายหนุ่มมืดมนมากขึ้น ณ ลมหายใจก่อนที่อสูรกายจะพังทลาย ชายหนุ่มก็ออกไปจากร่างอสูรกายแล้ว ทว่าหวังหลินเข้าใกล้ได้ทัน เงาหวังหลินกระพริบวาบส่งองครักษ์เทพก้าวออกมา

ในสายตาของชายหนุ่มราวกับหวังหลินแยกร่างเป็นสอง ทั้งร่างองครักษ์เทพเรืองแสงสีทอง เคลื่อนไหวดุจสายน้ำเข้าหา ในตอนนี้ราวกับองครักษ์เทพกำลังถือดวงอาทิตย์อยู่อย่างนั้น

หนึ่งหมัดโยนออกไป!

ด้วยเพราะระดับหวังหลินบรรลุขั้นเทวะระดับปลายสูงสุด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเห็นได้ว่าองครักษ์เทพกำลังซ่อนอยู่ในเงา

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นมาก มันเกิดขึ้นเร็วจนชายหนุ่มไม่มีแม้แต่เวลาคิด เขาไม่คาดคิดว่าแค่เซียนขั้นเทวะระดับปลายสูงสุดจะสร้างทรงกลมสายฟ้าที่ทรงพลังขึ้นมาได้และยังดึงวิญญาณภูเขาออกมาได้อีก สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากที่สุดคือกำปั้นจากหุ่นเชิด!

พายุที่ก่อเกิดจากกำปั้นนี้ทรงพลังเกินไป ไม่เพียงแค่แสงสีทองทำให้ตาพร่ามัว แม้กระทั่งวิญญาณดั้งเดิมของเขายังรู้สึกเจ็บปวดเมื่อแสงนั้นส่องกระทบลงมา

กำปั้นนี้คือพลังสูงสุดขององครักษ์เทพ มันคือกำปั้นที่สามารถทำให้โลกพังกระจาย ทั้งยังเร็วเกินอธิบายและร่อนตรงเบื้องหน้าชายหนุ่ม

การเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องกันนี้เขาไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ ตั้งแต่การโจมตีเชื่องช้าตอนเริ่มต้นจนถึงการเปลี่ยนแปลงฉับพลันหลังจากนั้น ชายหนุ่มรู้สึกถึงช่วงวิกฤตความเป็นความตายที่ไม่เคยสัมผัสได้มานานมาก เขารีบล่าถอยโดยไม่ลังเลเนื่องจากกำปั้นนี้ทำให้เขาหนังศีรษะเสียวซ่าน

เขารู้สึกว่าหากไม่ล่าถอยและถูกกำปั้นนี้ปะทะเข้าใส่ แม้จะมีระดับขั้นมายาหยินเขาก็คงตายโดยไม่ต้องสงสัย!

ขณะชายหนุ่มล่าถอย กำปั้นองครักษ์เทพระเบิดขึ้นมา ชายหนุ่มกัดปลายชิ้นโดยไม่ลังเลและพ่นโลหิตแฝงพลังดั้งเดิมเอาไว้

เขาตะโกนขึ้นด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม “ม่านแห่งตงหลิน!”

โลหิตระเบิดขึ้นราวกับน้ำมันเดือด สายหมอกโลหิตรวมตัวกันเบื้องหน้าชายหนุ่มเพื่อขัดขวางกำปั้นหุ่นเชิด

กำปั้นร่อนลงใส่หมอกโลหิตจนเกิดเสียงดังสนั่นทั่วชิ้นส่วนแดนสวรรค์ เสียงนี้ดังเกินและส่งผลกระทบแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับทั้งโลกถูกคลื่นกระแทกหนาสิบฟุตพัดใส่

ฝุ่นผงจำนวนมากลอยขึ้นไปกลางอากาศและเศษที่ปลดปล่อยแรงผันผวนปราณสวรรค์ปรากฏในทันที

หมอกโลหิตเลือนหายไป หุ่นเชิดตกลงไปบนพื้นก่อนจะก้าวถอยกลับมาหลายก้าวเพื่อทำตัวเองให้มั่นคง ทว่าแสงสีทองหายไปอย่างสิ้นเชิงราวกับใช้พลังงานไปจนหมด

ใครก็ตามต่างเห็นชัดว่าร่างกายองครักษ์เทพสั่นไหวเล็กน้อย

ชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับเจตนาเข่นฆ่ากลับพุ่งเข้าไปบนพื้นดุจอุกกาบาตและกระแทกใส่เสียงดังปัง เพลิงมารสีดำทรงพลังพร้อมกับปลดปล่อยภาพมายาดอกบัวสีดำได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะเขา

“ในเวลาห้าพันปี เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ข้า ซิ่วเฟิงหาน…”

แต่ว่าก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ พลันเกิดเสียงระเบิดดังอูอี้ขึ้นมาจากข้างในสายหมอกวิญญาณภูเขา เสียงกังก้องจนสายหมอกเลือนหายไป เส้นใยกลับคืนสู่ภูเขาเทพ หอกข้างในสูญเสียพลังอำนาจของมันและแตกสลาย สายฝนพลันตกลงสู่พื้นดิน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!