879. เทพประทาน
เซียนหกนิ้วหวาดกลัวยิ่งโดยมีสายฟ้าไล่ล่าเขาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังถอยหนีอยู่นั้น หวังหลินยืนขึ้นและก้าวเท้าออกไป
วินาทีที่หวังหลินเคลื่อนไหว สายฟ้าพุ่งออกไปปะทุระเบิดขึ้นสองครั้ง ส่งเสียงสนั่นและตกตะลึง พริบตาเดียวหวังหลินก็ไล่ทันเซียนหกนิ้ว
สองดัชนีก่อรูปกระบี่และชี้เข้าใส่ สายฟ้าหนึ่งสายรวมตัวกันจากทุกทิศทางเข้าหาเซียนหกนิ้ว ขณะที่สายฟ้าตกลงมา ใบหน้าเซียนหกนิ้วก็ซีดเผือดและต้องการต่อต้าน ทว่าดัชนีหวังหลินดูดซับสายฟ้าทั้งหมดคล้ายสายฟ้าจากยุคโบราณ
มันทะลุผ่านวิชาทั้งหมดและพุ่งตรงเข้าใส่ร่างเซียนหกนิ้ว สายฟ้าฉีกกระชากร่างกายอย่างโกรธแค้น ทำให้วิญญาณดั้งเดิมแตกสลาย เขากรีดเสียงร้องโหยหวน พลังดั้งเดิมรั่วไหล จากนั้นร่างกายก็พังทลาย
อักขระรูนสีทองกระพริบวาบ หนึ่งในนั้นผสานเข้ากับวิญญาณของเซียนหกนิ้วเปลี่ยนกลายเป็นจิตวิญญาณเต็มตัว กลับคืนสู่ตราประทับผนึกเทพ
ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา เซียนหกนิ้วถูกหวังหลินฆ่าไปแทบเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาถูกลอบโจมตี
ใบหน้าหวังหลินซีดเผือดเล็กน้อย ดวงตาที่สามระหว่างคิ้วค่อยๆปิดตัวลง แสงสีแดงหายไปอย่างช้าๆ จากนั้นหันกลับมาจ้องหนานกงหานที่ปรากฏตัวขึ้นห่างออกไปร้อยฟุต
“เจ้าก็อยากต่อสู้กับข้าด้วยหรือ?”
หนานกงหานสีหน้าเคร่งเครียด จ้องหวังหลินอย่างระมัดระวัง วินาทีถัดมาเขาก็หัวเราะและส่ายศีรษะ “ข้าเอาชนะเจ้าไม่ได้ ข้ามาเพราะข้าอยากจะช่วยเจ้าจัดการคนที่ลอบโจมตี”
หวังหลินถอนสายตาและนั่งลงฝึกฝน วินาทีนั้นก้อนเมฆเริ่มรวมตัวกันในท้องฟ้า แสงห้าสีโผล่ออกมาจากก้อนเมฆและแบ่งออกเป็นสามเส้น หนึ่งเส้นร่อนลงหวังหลิน อีกหนึ่งบนหนานกงหานและเส้นสุดท้ายบนเฉินกงฮู่ ร่างเฉินกงฮู่สั่นเทาและหายตัวไป
มีเพียงหวังหลินและหนานกงหานเท่านั้นที่ถูกแสงห้าสีรับเอาไว้และลากออกไปหาท้องฟ้า
ครั้งนี้หวังหลินไม่ได้สิ้นสติ เขาเห็นรอยร้าวปรากฏกลางอากาศและถูกดึงเข้าไปข้างใน
วิสัยทัศน์พร่ามัว เมื่อชัดเจนอีกครั้งเขาก็เห็นเหล่าเซียนบนลาน
ร่างหวังหลินกระพริบวูบวาบและร่อนลงบนพื้น หนานกงหานร่อนลงแทบในเวลาเดียวกัน
เซียนร้อยแปดคนบนสนามต่างก็ตื่นกันทั้งหมด ซิ่วถิงสีหน้ามืดมนจ้องมองหวังหลินอย่างเงียบเชียบ
เซียนหกนิ้วมองหวังหลินด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเช่นกัน
ปรมาจารย์จงเฉินยิ้มขึ้นและยืนกล่าว “อารามเทพอัสนีขอประทานตำแหน่งเทพร้อยแปดตน!” สิ้นคำพูด แขนขวายื่นออกไปข้างหน้า เสียงเพลงจากแดนสวรรค์อัสนีเริ่มจะดังกึกก้องขึ้นในทันที
เสียงเพลงไพเราะยิ่งราวกับออกมาจากสรวงสวรรค์
ก้อนเมฆจำนวนมากเริ่มรวมตัวกัน พลังปราณสวรรค์ในอากาศพรั่งพรูขึ้นทำให้สถานที่แห่งนี้ดุจแดนสวรรค์
กระเรียนบินเหาะเหิน เสียงร้องของมันทำให้คนได้ยินรู้สึกบางเบา
หากมองไกลๆ ผสมผสานกับอารามเทพอัสนีแล้วที่นี่ไม่ต่างอะไรกับแดนสวรรค์ของจริง
เซียนรอบด้านทั้งหมดต่างยืนขึ้นพร้อมกับบรรพชนตระกูลตนเอง พวกเขามีท่าทีเคารพและกลายเป็นฝูงชนหนาแน่น
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น แม้กระทั่งเซียนเฒ่าบนเสื่อสมาธิก็ยังยืนขึ้น มีท่าทีเคร่งขรึม อีกด้านหนึ่งผู้ส่งสาส์นของอารามเทพอัสนีทั้งหมดยืนอยู่ที่นี่ด้วยท่าทีนอบน้อม
วินาทีนั้นไม่ได้มีเพียงแค่อารามเทพอัสนีที่เป็นแบบนี้ อารามเทพอัสนีใช้วิธีพิเศษบางอย่างเพื่อส่งต่อฉากเหตุการณ์ไปทั้งดาราจักร
เหล่าเซียนจากแต่ละตระกูลบนดาวต่างก็ได้ยินเสียงจากหินสื่อสารของอารามเทพอัสนี
หินสื่อสารของอารามเทพอัสนีไม่ได้ส่งได้แค่เสียงเท่านั้นมันยังส่งภาพที่กำลังเกิดขึ้นไปได้ด้วย อารามเทพอัสนีมอบให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากจะใช้เพื่อการประทานตำแหน่งเทพแล้วมันยังใช้เพื่อระดมพลสงครามต่อสู้กับดาราจักรพันธมิตรเซียนเช่นกัน
วินาทีนี้เซียนเกือบทั้งหมดต่างก็เห็นเหตุการณ์พิธีประทานตำแหน่งเทพจากรูปภาพที่ส่งต่อมาในหินสื่อสาร
อารามเทพอัสนีตั้งอยู่ใจกลางดาราจักรทุกชั้นฟ้า วินาทีนี้กลิ่นอายฆ่าฟันเริ่มปรากฏขึ้นมาจากสี่เขตทิศรอบอารามเทพอัสนี
ทางด้านตะวันออก เหล่าเซียนเริ่มรวมตัวกันก่อเกิดเป็นฝูงชนอย่างน้อยนับหมื่น! ทั้งหมดนี้ต่างสวมเสื้อผ้าแตกต่างกัน เห็นได้ชัดว่ามาจากตระกูลเซียนต่างกันออกไป ขณะนี้ทั้งหมดมองข้างหน้าด้วยความเงียบงัน
ด้านหน้าพวกเขามีคนผู้หนึ่งสวมชุดเกราะแดงเต็มยศ เส้นผมสีขาวพริ้วสะบัดด้านหลัง ใบหน้าไร้ความรู้สึกพลางถือหินสื่อสารไว้ในมือ ฉากเหตุการณ์ในอารามเทพอัสนีกำลังส่งต่อมาจากก้อนหิน
ทางด้านทิศใต้ก็เช่นเดียวกัน เซียนนับหมื่นนั่งอยู่ในอวกาศโดยมีชายชราคนหนึ่งเป็นผู้นำจ้องมองไปยังดวงดาว
ด้านทิศเหนือและตะวันตกต่างก็มีกองกำลังเซียนแบบนี้เช่นกัน
พิธีเทพประทานที่อารามเทพอัสนีกำลังถูกทุกคนเฝ้าดู!
ในอารามเทพอัสนี กระเรียนตัวหนึ่งบินเข้ามาพร้อมกับเศษคัมภีร์สีเหลืองในปาก มันหมุนวนรอบตัวปรมาจารย์จงเฉินก่อนจะทิ้งคัมภีร์นั้นให้ปรมาจารย์จงเฉิน
เขารับมันไว้และเปิดขึ้นเบื้องหน้า ม้วนคัมภีร์ปลดปล่อยพลังปราณสวรรค์พุ่งพล่าน ชัดเจนแล้วว่ามันคือสมบัติสวรรค์!
“หลงเหลืออยู่ทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบคน เดิมทีเจ้าสองคนไม่ผ่านคุณสมบัติแต่หลังจากทดสอบอย่างหนักหนาสาหัส สวรรค์ให้โอกาสพวกเจ้าทั้งหมด สองคนที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นเทพสายฟ้าและรองเทพสายฟ้า ที่เหลือร้อยแปดคนจะแบ่งกลายเป็นเทพสวรรค์ 36 คนและเทพปฐพี 72 คน!”
ปรมาจารย์จงเฉินหยุกชะงักที่นี่ สายตาหวาดกผ่านเหล่าเซียนเบื้องหน้าและร้องตะโกน “ซิ่วมู่ มาข้างหน้า!”
หวังหลินขมวดสายตา จากนั้นลอยขึ้นไปและคำนับฝ่ามือ “ขอรับ!”
ปรมาจารย์จงเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าคืออันดับหนึ่งในบททดสอบมนุษย์ ปฐพีและสวรรค์ ทั้งยังอันดับหนึ่งในเส้นทางสู่สวรรค์ ซิ่วมู่ ข้าประทานตำแหน่งเทพสายฟ้าให้กับเจ้า! เจ้าจะได้นำกองทัพสามพันนายพร้อมกับเป็นทัพหน้าในการจู่โจมดาราจักรพันธมิตรเซียน!”
ขณะที่ปรมาจารย์จงเฉินเอ่ยขึ้น แขนขวายื่นออกไปปรากฏพู่กันสวรรค์สีทอง เขาโบกสะบัดและเขียนบรรทัดแรกบนคัมภีร์สีเหลืองอร่าม
“ยืนยัน เทพสายฟ้า : ซิ่วมู่”
ขณะที่เขียนบรรทัดนี้จบ แสงสีทองกระพริบวาบและเกิดเสียงคำรามออกมาจากข้างในคัมภีร์ ประโยคนั้นลอยออกมาและผสานเข้าด้วยกันจนก่อเกิดเป็นพยัคฆ์ที่สร้างจากสายฟ้า!
พยัคฆ์ตัวนี้สูงร้อยฟุต มันร้องคำรามและพุ่งหาหวังหลิน มันหยุดห่างหวังหลินไปสิบฟุตและหดลงจนกลายเป็นธงสูงสามนิ้ว ภาพพยัคฆ์กระพริบอยู่บนผืนธง!
“ข้าขอมอบสมบัติเทพ ธงพยัคฆ์สวรรค์ ให้เจ้า ด้วยสิ่งนี้เจ้าสามารถออกคำสั่งเซียนดาราจักรทุกชั้นฟ้าจำนวนสามพันคนและกลายเป็นกองทัพของเจ้า!” คำพูดของปรมาจารย์จงเฉินดังสนั่นแพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
หวังหลินรับธงพยัคฆ์สวรรค์เอาไว้ สูดหายใจลึกและคำนับฝ่ามือ “น้อมรับคำสั่ง!”
วินาทีนั้นภาพลักษณ์ของหวังหลินก็ถูกถ่ายทอดให้กับเซียนทุกคนในดาราจักรได้เห็น พายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นในดาราจักรทุกชั้นฟ้า!
“เขาคือซิ่วมู่!”
“จ้าวปิศาจซิ่วมู่ เทพสายฟ้า!”
“เขาก้าวล้ำเหนือกว่าเทพร้อยแปดคน ระดับบ่มเพาะต้องสูงส่งและไม่ใช่คนที่จะไปล้อเล่นได้!”
บนดาวรานหยุน สตรีสุดสวยนางหนึ่งมองเข้าไปยังพิธีประทานตำแหน่งเทพที่กำลังแสดงอยู่ในท้องฟ้า เดิมทีนางไม่ได้สนใจและกำลังถอนสายตา ทว่าในจังหวะนั้นนางก็ตกตะลึง! เมื่อนางทอดสายตาไปบนหวังหลินนางรู้สึกเคลิ้ม คนผู้นั้นช่างคุ้นเคยอย่างยิ่งราวกับนางเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่งมาก่อน
ไม่ใช่แค่นางเท่านั้นแต่เซียนทุกคนบนดาวรานหยุนกำลังจ้องมองท้องฟ้า คลื่นมหึมาก่อตัวอยู่ในใจทุกคนเมื่อพวกเขามองหวังหลิน ไม่อาจสงบจิตใจได้อยู่นาน
บนดาวฉิงหลิง เซียนหลายคนต่างก็มองไปบนท้องฟ้า ทว่าวินาทีนั้นผู้อาวุโสทุกคนของตระกูลต่างก็อุทานออกมา
“บรรพชน!”
บนยอดเขาเหิงหยุน เซี่ยฉิงตื่นจากความมึนงง มองออกไปบนท้องฟ้า สายตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พึมพำขึ้นมา “อาจารย์!”
ณ ดวงดาวห่างออกไปไกล เหยาปิงหยุนกำลังนั่งอยู่บนยอดน้ำแข็งสูงเสียดฟ้า นางเลื่อนศีรษะและมองไปบนท้องฟ้า สายตาเผยความซับซ้อนยิ่ง
“ข้าไม่คาดคิดว่าเขาจะกลายเป็นเทพสายฟ้า…”
ณ แดนเหนือ บนดาวเซียนกึ่งรกร้าง ปีที่ผ่านมามีกลิ่นเหม็นหึ่งเกิดเกิดขึ้น แม้เหล่าเซียนจะค้นหาไปทั่วก็ไม่อาจเจอต้นตออะไรได้ วินาทีนั้นภายในหุบเขาหนึ่งบนดาวเคราะห์ กรีดมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผยสายตาชั่วร้าย
“เขาประสบผลสำเร็จได้ตำแหน่งสูงส่งในดาราจักรทุกชั้นฟ้าเข้าแล้ว!”
วินาทีนั้นเซียนทุกคนในดาราจักรที่รู้จักหวังหลินต่างก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้งหมดต่างมีสายตาตกตะลึง
ในอารามเทพอัสนี ปรมาจารย์จงเฉินตะโกนขึ้น “ซิ่วถิง ออกมาด้านหน้า!”
ซิ่วถิงสูดหายใจลึก จากนั้นเหินขึ้นมายืนอย่างเคารพ
“ข้าขอประทานตำแหน่งรองเทพสายฟ้าและกองทัพเซียนสองพันนาย เจ้าจะกลายเป็นแนวหน้าที่สอง!”
แม้ซิ่วถิงจะไม่ยอมอยู่ในใจ เขาก็ต้องยอมจำนน ขบคิดเล็กน้อยและเอ่ยด้วยความเคารพ “น้อมรับคำสั่ง!”
หลังจากนั้นปรมาจารย์จงเฉินก็เรียกหาออกไปอย่างต่อเนื่อง ตำแหน่งเทพร้อยแปดคนถูกมอบให้อย่างเสร็จสมบูรณ์! เซียนแต่ละคนได้รับธงและกลายเป็นเทพ!
“เทพสายฟ้า รองเทพสายฟ้า เทพสวรรค์สามสิบหกคนและเทพปฐพีเจ็ดสิบสองคน จงเข้าไปสระเทพ!” ปรมาจารย์จงเฉินโบกแขนเสื้อ ม้วนคัมภีร์สีเหลืองหายไป จากนั้นก้อนเมฆเปลี่ยนทิศ ควบแน่นกลายเป็นสระน้ำที่ค่อยๆลอยลงมาจากฟากฟ้า
น้ำในสระมีสีฟ้า ปลดปล่อยกลิ่นอายสั่นสะเทือนจิตใจ!
“เข้าไปในสระเทพเพื่อทำให้เขตแดนของเจ้าหลอมละลาย นำพาให้เจ้าก่อเกิดต้นกำเนิดเทพ จากนั้นพวกเจ้าจะกลายเป็นเทพอย่างแท้จริง!” ปรมาจารย์จงเฉินเอ่ยน้ำเสียงสะท้อนไปทั่วฟ้าดิน