883. ดาวตงหลิน
วินาทีที่ทางผ่านสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียนเปิดขึ้น รอยแยกก็ถูกฉีกเปิดออก ขยายตัวข้ามผ่านน่านฟ้าอย่างรวดเร็ว
วินาทีนั้นเซียนทั้งหมดในดาราจักรทุกชั้นฟ้าต่างก็มองใกล้ๆ สายตาแห่งความโลภมุ่งออกมาจากดาวเคราะห์เซียนทุกดวงในดาราจักร ราวกับสายตาพวกนั้นสามารถทะลุผ่านหินสื่อสารและตรงเข้าไปในดาราจักรพันธมิตรเซียน
“การรบระหว่างดาราจักรทุกชั้นฟ้าและดาราจักรพันธมิตรเซียน เริ่มต้น!” ปรมาจารย์จงเฉินยิ้มพลางร้องกึกก้องไปทั่วดาราจักร
เอ่ยเสียงสะท้อนขึ้นอีกครา “มหากองทัพเซียนแห่งแดนตะวันออก ตะวันตก เหนือและใต้ จงเข่นฆ่าทุกคนที่ขวางทางพวกเจ้าในดาราจักรพันธมิตรเซียน ในอีกสามวันจงยึดครองดาวเคราะห์เซียนสามดวงเป็นฐานให้กับดาราจักรของเรา!”
สิ้นเสียงสั่งการ กองทัพเซียนหมื่นคนทางฝั่งตะวันออกพลันมองขึ้นไป ชายในชุดเกราะด้านหน้าออกคำสั่ง ทั้งหมดพุ่งเข้าหารอยแยกดุจอุกกาบาต
ทั้งหมดพุ่งสุดแรงเข้าสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียนพร้อมด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม!
เซียนนับหมื่นตนทางฝั่งเหนือต่างก็เคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน!
กองทัพทางฝั่งตะวันตกและใต้ก็ตามกันไปติดๆ ท้องฟ้าปกคลุมอยู่ในปราณกระบี่ เหล่าเซียนเข่นฆ่าสังหารระหว่างทางเข้าสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียน!
“เทพสายฟ้า รองเทพสายฟ้าและเทพร้อยแปดตน ทั้งหมดนำธงคำสั่งของตนเองไปเข้าสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียน!”
ข้างในอารามเทพอัสนี เหล่าเทพร้อยแปดตนพลันพุ่งเข้าหารอยแยกในท้องฟ้าทันที จิตสังหารเต็มไปทั่วบริเวณอย่างแข็งแกร่ง!
“ฆ่า!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนแต่ทำให้เจตนาสู้รบของเซียนรอบด้านพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด
“ดาราจักรทุกชั้นฟ้า เปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย!” ขณะปรมาจารย์จงเฉินร้องตะโกน หินสื่อสารซึ่งอยู่บนดาวเคราะห์เซียนทั้งหมดพลันแตกสลายก่อตัวเป็นค่ายกลเคลื่อนย้าย
เหล่าเซียนเดินเข้าไปในค่ายกลทีละคนภายใต้การนำของบรรพชนตนเอง เมื่อพวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งจึงอยู่ถัดจากรอยแยกที่จะนำทางสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียนแล้ว
วินาทีที่พวกเขาปรากฏตัว จึงพลันพุ่งเข้าไปในรอยแยกทันที สายตาเต็มไปด้วยความโลภโมโทสัน
เหล่าเซียนเข้าไปในดาราจักรพันธมิตรเซียนมากขึ้นและมากขึ้น ภัยพิบัติค่อยๆเริ่มก่อตัว
ปรมาจารย์จงเฉินยิ้ม ก้าวเท้าเข้าไปในรอยแยกและมาถึงในดาราจักรพันธมิตรเซียน ใบหน้าเผยความเกลียดชังสุดขั้ว!
“จงกวนซือ ข้ากลับมาแล้ว!”
รอยแยกกว้างหมื่นฟุตปรากฏขึ้นทางฝั่งทิศตะวันตกของดาราจักรพันธมิตรเซียนและปลดปล่อยกลิ่นอายเย็นเยียบไร้ก้นบึ้ง เซียนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปเต็มทั่วท้องฟ้า
การต่อสู้ระหว่างสองดาราจักร ไม่แตกต่างอะไรกับเทพและปิศาจ!
ห่างออกไปไม่ไกล กองทัพเซียนหนึ่งกำลังผ่านเข้ามา พวกเขาพึ่งได้รับการอนุมัติกลายเป็นแคว้นเซียนระดับหก พวกเขากำลังมุ่งไปที่ดาวเคราะห์เซียนที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อให้กลายเป็นแคว้นเซียนของตนเอง!
ฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าทำให้สีหน้าของเซียนดาราจักรพันธมิตรต้องเปลี่ยนไปมหาศาล!
ผู้นำเป็นชายวัยกลางคน สีหน้ามืดมนร้องตะโกนออกมาโดยไม่ลังเล “กระจายตัว! ทุกคนถอยกลับไปที่ดาวซวนถิงด้วยตัวเอง!” จากนั้นเขารีบล่าถอย!
สีหน้าของเซียนฝั่งพันธมิตรทั้งหมดเปลี่ยนไป ขณะเดียวกันสายตาแต่ละคนมืดมน ไม่มีร่องรอยตื่นตะหนก นี่เป็นส่วนพื้นฐานระหว่างเซียนฝั่งทุกชั้นฟ้าและฝั่งพันธมิตร
ในดาราจักรพันธมิตรเซียน การเข่นฆ่าถือเป็นเรื่องปกติ คนที่สามารถเอาชีวิตรอดได้จนถึงตอนนี้ต่างก็ผ่านอะไรมามาก ทุกคนคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์และเหลี่ยมจัด
ขณะนี้ยามที่สายตาแต่ละคนมืดมน พวกเขาก็สงบนิ่งไปด้วย ไม่จำเป็นต้องให้ชายวัยกลางคนสั่งการ ทั้งหมดก็หยุดลงและรีบกระจายตัวกันออกไป เซียนแต่ละคนหนีรอดด้วยวิธีการของตนเองโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร!
เซียนบางส่วนดวงตาส่องสว่างขึ้นขณะหลบหนีไปด้วย พวกเขาหวังจะล่อคนที่ไล่ล่ามาและฆ่าพวกเขาเสียเพื่อฮุบสมบัติ แผนชั่วร้ายทั้งหมดแล่นผ่านความคิดแต่ละคน
เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้ายังไม่รับรู้ บางส่วนสังเกตได้และรีบไล่ล่าตามหลังเซียนฝั่งพันธมิตรไป
หนึ่งในเซียนฝั่งทุกชั้นฟ้ารีบใช้วิชาขณะกำลังไล่ล่าทำให้เซียนพันธมิตรซึ่งกำลังหลบหนีต้องกระอักโลหิตออกมาคำใหญ่ เขาเริ่มท้อแท้กระทั่งความเร็วตกลง ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เซียนฝั่งทุกชั้นฟ้าหัวเราะ ก้าวเท้าไปข้างหน้าเข้าใกล้เซียนพันธมตร ทว่าวินาทีที่เขาเข้าไปใกล้ แววตาสิ้นหวังหายไป ถูกแทนที่ด้วยการเยาะเย้ยและเอาคืน!
เสียงปะทุดังขึ้นหลังจากนั้นเกิดเสียงร้องโหยหวนดังสะท้อน ท้ายที่สุดเซียนฝั่งพันธมิตรก็รีบเหาะเหินออกไปไกลพร้อมกับกระเป๋าใบหนึ่งในมือ
ด้านหลังเขาเป็นร่างเซียนฝั่งทุกชั้นฟ้าที่พังทลายและหายไป
ฉากเหตุการณ์นี้วนซ้ำกับนักล่าคนอื่นๆเช่นกัน
หวังหลินมองเหล่าเซียนที่กำลังเข้าไปในรอยแยก แต่เขาไม่ได้เคลื่อนไหว ผู้เฒ่าเซี่ยงแห่งตระกูลเซี่ยงมองไปที่รอยแยกและเผยสายตาเย็นชา ร่างกายกรพริบวาบร่อนลงบนสนามพลางกล่าวกับหวังหลิน “ซิ่วมู่ ตามข้ามา ด้วยวิถีของเจ้าแล้ว ข้าเดาได้ว่าเจ้าไม่อยากเข้าร่วมในคลื่นลูกแรกนักหรอก!”
สิ้นคำพูด ก้อนเมฆหนึ่งปรากฏใต้ฝ่าเท้าและเขาก็ลอยตัวออกไปไกล หวังหลินดวงตาสงบนิ่ง อันที่จริงแล้วแม้เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับลี่มู่หวานเขาก็จะไม่เป็นคลื่นลูกแรกที่เข้าไปหรอก ในการต่อสู้ระหว่างสองดาราจักร เขาจะต้องระมัดระวัง!
เมื่อเขามองกลับไปที่ฉิงชุ่ย ฉิงชุ่ยยืนขึ้นและเคลื่อนกายมาข้างหวังหลิน มองหวังหลินหนึ่งคราและติดตามหลังผู้เฒ่าเซี่ยงไปด้วย
ลี่หยุนจื่อเห็นแบบนี้ เขาลังเลเล็กน้อยจากนั้นถอนสายตากลับมาสู่รอยร้าวเบื้องบน
ระดับบ่มเพาะของผู้เฒ่าเซี่ยงนับว่าแข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด ก้าวเท้าไม่กี่ครั้งเขาก็ออกมาจากอารามเทพอัสนี มุ่งตรงเข้าหาฝั่งตะวันออก ฉิงชุ่ยติดตามด้านหลังอย่างระวัง สายลมทมิฬล้อมรอบหวังหลินดังนั้นเขาจึงไม่ช้าเลย
ระหว่างทางผู้เฒ่าเซี่ยงไม่พูดอะไรเลย หลังจากผ่านไปไม่กี่วันเมื่อเข้าใกล้ดาวตงหลินเขาจึงเอ่ยปาก “ซิ่วมู่ ด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้าตอนนี้มันไม่ง่ายนัก เจ้าต้องมั่นใจว่าทั้งหมดนี้มันคุ้มค่า! ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่มั่นใจว่าบรรพชนจะช่วยเจ้า ดังนั้นเจ้าควรเตรียมตัวไว้”
หวังหลินกล่าวท่าทีสงบ “ผู้น้อยเข้าใจ!”
ผู้เฒ่าเซี่ยงได้ยินเช่นนี้เขาก็ไม่พูดอะไรอีก
ดาวตงหลินคงอยู่อย่างลี้ลับในดาราจักรทุกชั้นฟ้า ดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิมและเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่อง ขณะผู้เฒ่าเซี่ยงเหาะเหินเขามักจะนำหินหยกแดงออกมาเป็บางครั้งเพื่อหาอะไรบางอย่าง
ณ วันนี้เองภายใต้การนำทางของผู้เฒ่าเซี่ยง หวังหลินจึงได้เห็นดาวที่น่าจับตามองที่สุดห่างออกไปไกล
ดาวดวงนี้ขนาดใหญ่มาก กระทั่งใหญ่กว่าดาวเทียนหยุนอีกเล็กน้อย บนดวงดาวมีหลุมขนาดใหญ่จำนวนมากและมีสีเหลืองเข้ม หากมองไกลๆจะเกิดกลิ่นอายแจ็งแกร่งกดดันเข้าใส่
นี่คือดาวตงหลิน มีดาวเคราะห์เซียนเล็กๆหลายสิบดวงกำลังหมุนวนรอบอย่างช้าๆ
บางครั้งก็มีแสงกฏเกณฑ์กระพริบวาบออกมาจากดาวตงหลิน ชัดเจนว่าดาวดวงนี้มีกฏเกณฑ์ทรงพลังยิ่งอยู่ภายใน หากเข้าไปโดยไม่มีวิธีการทำลาย คงตายโดยไม่ต้องสงสัย!
ผู้เฒ่าเซี่ยงสร้างผนึกบนแขนขวาและชี้ออกไป ดาวเล็กๆที่โคจรรอบดาวตงหลินพลันหลุดจากวงโคจรและลอยเข้าหาผู้เฒ่าเซี่ยง
เมื่อมันเข้ามาใกล้พลันเกิดแสงกระพริบและก่อตัวเป็นค่ายกลเคลื่อนย้าย
“ขุนนางเทพฉิงชุ่ย ซิ่วมู่ ตามข้ามา!” ขณะเอ่ยขึ้นเขาก็ก้าวเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย ฉิงชุ่ยเข้าไปพร้อมกับหวังหลิน วินาทีที่ทั้งสามเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้าย เกิดแสงกระพริบขึ้นมาและทั้งสามก็หายวับไป
พวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งบนดาวตงหลิน สายลมพัดอ่อนๆเผยกลิ่นคาวเลือด ทั้งดวงดาวปลดปล่อยสัมผัสความรุนแรง
หวังหลินสูดหายใจลึกยืนบนดาวตงหลิน กลิ่นอายที่นี่แตกต่างจากดาวเคราะห์อื่นในดาราจักรทุกชั้นฟ้า
ผู้เฒ่าเซี่ยงไม่ได้พาพวกเขาไปที่บ้านตระกูล แต่กลับมุ่งไปทางทิศตะวันตกแทน พื้นที่ฝั่งทิศตะวันตกห่างออกไปนับพันลี้มีสุสานอันยุ่งเหยิงกองไม่เป็นระเบียบ!
พื้นดินบนสุสานเป็นสีแดงเข้มและปล่อยกลิ่นคาวเลือดเข้มข้น แขนขาแห้งเหี่ยวกระจัดกระจายไปทั่วและมีแร้งหัวโล้นบินเป็นวงกลมด้านบน บางครั้งพวกมันก็ลงมาฉีกเศษเนื้ออกไป สายตาไม่หวาดกลัวผู้คนและเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งมีแขนขาน้อยลง หลุมฝังศพไม่สมประกอบมีอยู่ทุกที่กองเป็นชั้นๆอย่างหนาแน่น แม้สีหน้าหวังหลินยังคงสงบนิ่งแต่จิตใจตื่นตระหนก
เขาบ่มเพาะวิธีฝึกของสำนักหลอมวิญญาณดังนั้นจึงมีความรู้สึกไวต่อเหล่าดวงวิญญาณ ที่นี่มีวิญญาณไม่สมบูรณ์นับไม่ถ้วน กระทั่งธงวิญญาณหนึ่งพันล้านดวงยังมีวิญญาณน้อยกว่าสถานที่แห่งนี้
‘ถ้าข้าดูดซับวิญญาณที่นี่ ข้าคงสามารถสร้างธงวิญญาณได้ในพริบตา!’ หวังหลินมองไปรอบๆและขบคิดเงียบๆ
“พื้นที่สุดขอบฝั่งตะวันตกของดาวตงหลินคือพื้นที่ต้องห้ามและคนภายนอกไม่อนุญาตให้เข้าไปได้ ที่นี่คือตำแหน่งหนึ่งในบรรพชนตระกูลเซี่ยงคนสุดท้ายปิดด่านฝึกตน!” น้ำเสียงผู้เฒ่าเซี่ยงสงบนิ่งแต่ก็มีสัมผัสแห่งความเคารพอยู่ในนั้น
ฉิงชุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางมองไปรอบๆแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
ขณะที่พวกเขาเคลื่อนตัวไป ทั้งสามค่อยๆเข้าไปในส่วนลึกของสุสาน รอบด้านเปลี่ยนจากพื้นที่สีแดงเข้มไปเป็นสีดำสนิท
พื้นดินสีดำและไร้ร่องรอยแห่งชีวิต ราวกับดินแดนแห่งความตายที่ที่พลังชีวิตมิอาจย่างกรายเข้าไปถึง!
ขณะที่ยืนอยู่ที่นี่ หวังหลินรู้สึกอ่อนแรงทันทีราวกับพื้นดินกำลังดูดซับพลังชีวิตเขา ถ้าเขาอยู่ที่นี่นานเกินไปพลังชีวิตเขาคงจะสูญสิ้นไปหมด!
บนพื้นดินสีดำไม่มีของอันใด เป็นเพียงแค่พื้นที่โล่งเตียน ทว่ามีบางอย่างที่ทำให้จิตใจหวังหลินสั่นเทา ราวกับมีกลิ่นอายแห่งความตายซ่อนอยู่ใต้ดินรุนแรงพอจะเข่นฆ่าสวรรค์!
ผู้เฒ่าเซี่ยงสูดหายใจลึก เอ่ยกล่าวด้วยสีหน้าเคารพยิ่ง “เซี่ยงหยุนตง สมาชิกตระกูลเซี่ยงเรียนขอเข้าพบบรรพชน!”