1001. อวตารร่างที่สอง 1
ความคิดแรกที่หวังหลินมียามเผชิญหน้ากับรูปปั้นนี้ ‘ของชิ้นนี้เป็นลางไม่ดี!’
นิ้วชี้ขวาเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าเข้าหาระหว่างคิ้วของรูปปั้นหิน วินาทีนั้นแสงสีดำส่องประกายออกมาจากดวงตารูปปั้นและเกิดเป็นอักขระประหลาดตรงระหว่างคิ้ว
อักขระปลดปล่อยหมอกสีดำแฝงพลังประหลาดเอาไว้ พลังเข้าสู่อักขระและขัดขวางดัชนีหวังหลิน
นิ้วชี้หวังหลินเข้าสัมผัสอักขระโดยไม่ลังเล เกิดระลอกคลื่นตรงนั้น พลังลึกลับที่ผสานเข้ากับสัมผัสวิญญาณหวังหลินคล้ายจะตื่นขึ้นและแพร่กระจายทั่ววิญญาณดั้งเดิมดุจน้ำหมึก
แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ เขาคิดไว้แล้วว่ารูปปั้นหินนี่มีบางอย่างประหลาดและเป็นไปตามคาด พลันพ่นลมหายใจเย็น เกราะหนังเทพโบราณล้อมรอบดวงวิญญาณพลางระเบิดเป็นแสงสีเขียว!
ขณะเดียวกันวิญญาณดั้งเดิมมังกรเทพโบราณก็ปลดปล่อยเสียงคำรามอู้อี้ สายฟ้านับไม่ถ้วนปรากฏใจกลางท้องฟ้าเหนือหุบเขาที่วหังหลินอยู่
ไม่เพียงแค่หุบเขานี้เท่านั้น วินาทีนี้ทั้งท้องฟ้าเหนือแคว้นปิศาจอัคคีถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าไร้ก้นบึ้ง
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้สมาชิกเผ่าหลอมวิญญาณในแคว้นปิศาจอัคคีต้องหันขึ้นไปมองด้วยความงุนงง
ยามสายฟ้าดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลก ไม่เพียงแต่แคว้นปิศาจอัคคีแต่แคว้นรอบๆก็ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าไปด้วย เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนกำลังตกลงมาเพื่อแสดงอำนาจสายฟ้า
พริบตาเดียวดินแดนวิญญาณปิศาจมากกว่าครึ่งก็ถูกห่อหุ้มไว้ในสายฟ้า การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ประชากรของดินแดนเกิดความตื่นตระหนก
แม้กระทั่งแม่ทัพปิศาจและหัวหน้าแม่ทัพยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาสัมผัสได้อย่างเลือนลางว่าสายฟ้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติและถูกสร้างขึ้นจากวิชา!
ถึงทั้งหมดนี้จะดูยืดยาวแต่มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ด้วยเสียงร้องคำรามของวิญญาณมังกรสายฟ้าโบราณหวังหลิน สายฟ้าทั้งหมดที่ปกคลุมกว่าครึ่งดินแดนพลันพุ่งเข้าใส่หุบเขาด้านหลังเมืองหลวงของแคว้นปิศาจอัคคี
สายฟ้ากระพริบวาบทำให้เกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนสรวงสวรรค์ ราวกับความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์กำลังลงมาเพื่อลงโทษ หากใครมองจากเบื้องบนคงจะเห็นสายฟ้านับไม่ถ้วนรวมกันข้างในร่างหวังหลินที่อยู่ในหุบเขา!
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!
สายฟ้าดังสนั่นต่อเนื่องเข้าไปในวิญญาณหวังหลิน พลางเริ่มร้องคำรามเริ่มต่อสู้กับหมึกสีดำ!
แม้หมึกสีดำนี้จะเหนียวแน่น แต่ก็ต้องขอบคุณสายฟ้ามากมายที่ตกลงมามันจึงแทบพังทลาย อีกทั้งพลังลึกลับนี้ก็ไม่ได้เข้าสู่สัมผัสวิญญาณหวังหลินมากนัก ตอนที่ปรากฏครั้งแรกหวังหลินก็ล้อมรอบมันด้วยพลังดั้งเดิมไว้แล้ว
หลังจากสูญเสียไปเรื่อยๆ หมึกดำจึงถอนตัวอย่างรวดเร็วจนควบแน่นกลายเป็นจุด ขณะที่กำลังจะออกไปจากวิญญาณหวังหลิน แสงสีเขียวจากเกราะหนังเทพโบราณพลันผนึกทางหนีทีไล่ไว้จนหมด
จากนั้นสายฟ้าทั้งหมดที่ดูดซับมาพลันพุ่งออกไปเป็นหนึ่งสาย โจมตีเข้าใส่จุดสีดำจนมันแตกสลายไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในร่างหวังหลินเพียงเสี้ยววินาที นิ้วชี้ขวาผลักไปข้างหน้า
อักขระรูนแตกสลายกลายเป็นคลื่นกระแทกแพร่กระจาย ในที่สุดนิ้วชี้หวังหลินก็สามารถกดลงระหว่างคิ้วรูปปั้นได้
เมื่อนิ้วชี้เข้าสัมผัส ระดับบ่มเพาะขั้นส่องสวรรค์ชั้นกลางพร้อมกับสัมผัสวิญญาณอันแข็งแกร่งจึงพุ่งเข้าไปในรูปปั้น
‘ข้าอยากเห็นว่ามันคืออะไรกันแน่!’
เมื่อระดับบ่มเพาะและสัมผัสวิญญาณส่งเข้าไป หวังหลินรู้สึกถึงแรงกระทบบนวิญญาณดั้งเดิม สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าสัมผัสวิญญาณคือดินแดนประหลาด
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหมอกสีขาวแทบจะเป็นทะเลหมอก แค่หวังหลินชำเลืองมองก็นึกออกว่ามันคือหมอกสีขาวที่โผล่ออกมาจากศีรษะเผ่าหลอมวิญญาณทุกคนตอนที่พวกเขาทำความเคารพบูชารูปปั้นตลอดหลายร้อยปี
หวังหลินแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปทั่วดินแดนประหลาด จากนั้นดวงตาหรี่แคบ สัมผัสวิญญาณจับเข้ากับบางอย่างตรงหน้า
สัมผัสวิญญาณและระดับบ่มเพาะผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นภาพมายารูปหวังหลิน และมาถึงจุดที่สัมผัสวิญญาณเขาได้จับเอาไว้ ที่นี่คือใจกลางรูปปั้น ดังนั้นมันคงจะเป็นจุดตันเถียนของรูปปั้นนี้
หมอกเบื้องหน้าหวังหลินตรงหน้าหนาแน่นยิ่งกว่าเดิมและมีร่างหนึ่งนั่งอยู่ภายในหมอกจนแทบจะมองไม่เห็น แม้จะมันโดนหมอกล้อมจนขุ่นมัวแต่หวังหลินก็สามารถบอกได้ว่ามันมีรูปร่างเหมือนเขาไม่ผิดเพี้ยน!
ยกเว้นเขาหนึ่งคู่บนศีรษะ!
หลังจากเห็นเขาหนึ่งคู่ ดวงตาหวังหลินส่องประกาย
‘ปิศาจโบราณ!’
ปิศาจโบราณที่เหมือนกับหวังหลินกำลังหลับตาและนั่งนิ่งไม่ไหวติง เศษเสี้ยวหมอกสีขาวล้อมรอบมันบางครั้งก็เข้าไปในร่าง
หวังหลินประหลาดใจเล็กน้อย นอกจากเขาตรงศีรษะแล้วปิศาจโบราณตนนี้แทบไม่ต่างจากเขาเลย แม้แต่กลิ่นอายโดดเดี่ยวและเยือกเย็นจากการอยู่ตัวคนเดียวและทำความเข้าใจเต๋ามากกว่าพันปียังเหมือนกัน หวังหลินยังพบอีกว่าการสลายสิ่งพวกนั้นจากตัวเองก็ยังยากยิ่ง
‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!’ ดวงตาส่องสว่างจ้องมองปิศาจโบราณที่ดูเหมือนตัวเอง หวังหลินโบกแขน เกิดสายลมกรรโชคพัดหมอกทั้งหมดรอบปิศาจโบราณออกไป
หวังหลินค่อยๆเข้าไปใกล้และสังเกตจุดสำคัญบางอย่าง
เหล่าเทพโบราณสามารถดูดซับพลังดั้งเดิมผ่านทาสแห่งเทพได้เพื่อเพิ่มระดับบ่มเพาะ เหล่าปิศาจโบราณมาจากเผ่าบัญชาโบราณ ดังนั้นจึงต้องมีวิธีการคล้ายๆกัน
เห็นได้ชัดว่าดินแดนวิญญาณปิศาจแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้พวกปิศาจโบราณดูดซับพลังดั้งเดิมได้ ปิศาจโบราณเป้ยหลัวครั้งนึงได้บอกว่าเขาถูกแบ่งออกเป็นเก้าส่วนและนั่นจึงเกิดเป็นเก้าแคว้น!
ผู้คนของเก้าแคว้นค่อยๆเปลี่ยนไปภายใต้การสั่งสอนของปิศาจโบราณและเรียนรู้วิชา จากนั้นเก้าแคว้นปิศาจค่อยๆเกิดขึ้นจากตรงนั้น
วิญญาณปิศาจโบราณแต่ละตัวกลายเป็นตัวตนอำนาจอันสูงสุดของแต่ละแคว้นปิศาจ พวกมันดูดซับพลังปิศาจจากผู้คนที่นี่เพื่อฟื้นฟูอย่างช้าๆหวังจะทะลวงกฏเกณฑ์ของตนเอง จากนั้นกลืนกินวิญญาณปิศาจตนอื่นเพื่อกลับเป็นปิศาจโบราณตัวจริง!
การมาของหวังหลินและร่วมมือกับปิศาจโบราณเป้ยหลัวทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสั่นสะเทือนสวรรค์ การค้ำยันกันที่ยังต้องใช้เวลาอีกนานถึงกับจบลง!
ปิศาจโบราณเป้ยหลัวพร้อมกับการช่วยเหลือของหวังหลินได้ออกมาจากแคว้นปิศาจตนเองและกลืนกินวิญญาณปิศาจในแคว้นปิศาจอัคคีได้สำเร็จ เป้ยหลัวจึงแข็งแกร่งที่สุดจากวิญญาณปิศาจที่เหลือและได้รับพลังอำนาจจะออกไปจากแคว้นแห่งนี้!
หากไม่มีเหตุอื่นใดเกิดขึ้น เมื่อมันย่อยวิญญาณปิศาจที่ได้กลืนกินลงไปจนหมด เขาก็จะกลืนกินปิศาจที่เหลืออีกเจ็ดตนทีละคนจนกระทั่งกลายเป็นปิศาจโบราณที่แท้จริง!
หวังหลินไม่รู้ว่าเป้ยหลัวจะสำเร็จหรือไม่ แต่หลังจากดูปิศาจโบราณตนนี้ที่ดูเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยนแล้ว เขารู้ว่าเป้ยหลัวไม่สำเร็จอย่างสมบูรณ์!
การเป็นเทพโบราณห้าดาวสายเลือดราชวงศ์ หวังหลินจึงบอกได้เพียงแค่ชำเลืองมองว่าปิศาจโบราณตนนี้ไม่ได้สมบูรณ์ มันยังอ่อนแอมากกว่าหนึ่งในเก้าส่วนเมื่อตอนนั้นเสียอีก
กล่าวให้ถูกก็คือปิศาจโบราณตนนี้เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยว!
‘เศษเสี้ยววิญญาณปิศาจโบราณก็ยังรู้จักการดูดซับพลังปิศาจเพื่อฟื้นฟูตนเอง…’ หวังหลินเหยียดยิ้ม ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าหมอกสีขาวที่ออกมาจากศีรษะเผ่าหลอมวิญญาณคือพลังปิศาจอันเจือจาง!
‘สมาชิกเผ่าหลอมวิญญาณทั้งหมดถือกำเนิดขึ้นในดินแดนวิญญาณปิศาจ…’ หลังจากเห็นปิศาจโบราณ หวังหลินก็เข้าใจเหตุผล
ขณะขบคิด หวังหลินมาอยู่ข้างๆปิศาจโบราณที่ดูเหมือนตนเอง ดวงตามันยังคงปิดสนิทไร้สัญญาณการตื่น
หวังหลินกดลงระหว่างคิ้วปิศาจโบราณเข้าตรงๆ สัมผัสวิญญาณตนเองเข้าไปในปิศาจโบราณเพื่อค้นหาความทรงจำของมัน
เขาเห็นท้องฟ้าสว่างเหนือแคว้นปิศาจเมฆาพลันมืดลง พายุก่อตัวขึ้นและก้อนเมฆรวมตัวกัน ร่างสีโลหิตพุ่งผ่านท้องฟ้าเข้าหาหอคอยปิศาจเมฆาที่มีเก้าชั้น
เสียงกรีดร้องแหลมดังออกมาจากหอคอยและมีน้ำเสียงไม่เชื่อแฝงอยู่ในนั้น
“เก้าวิญญาณจำเป็นต้องรวมเป็นหนึ่ง มีเพียงการกลายเป็นปิศาจโบราณอีกครั้งเท่านั้นเราถึงจะสลายความเสียใจออกไปได้ ปิศาจเมฆา เดิมทีเราเป็นหนึ่งเดียวกันและเราแยกกันนานเกินไปแล้ว วันนี้เราจะรวมกันอีกครั้ง! ชื่อของปิศาจโบราณจะกลายเป็นเป้ยหลัว!” น้ำเสียงชั่วร้ายโผล่ออกมาจากร่างเงาโลหิตพร้อมกับพุ่งเข้าไปในหอคอยปิศาจเมฆาอย่างรวดเร็ว
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลก ทุกคนข้างในเมืองหลวงต่างก็ตื่นตระหนก ทว่าเสียงกึกก้องนั้นหายไปแต่ที่ตามมาหลังจากนั้นคือหอคอยปิศาจเมฆาล่มสลาย!
เงาร่างขุ่นมัวลอยออกมาและห่อหุ้มด้วยแสงสีโลหิต จนกระทั่งมันถูกกลืนด้วยแสงโลหิตจากนั้นกลับเป็นเป้ยหลัว
“นี่มันก็นานแล้วแต่ระดับบ่มเพาะของปิศาจเมฆานี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย เสียเวลาจริงๆ! เป็นความอัปยศต่อการเป็นปิศาจโบราณยิ่งนัก!” เป้ยหลัวพ่นลมหายใจเย็นและหายวับไป
แคว้นปิศาจเมฆาล่มสลายเนื่องจากไม่มีวิญญาณปิศาจอยู่!
อย่างไรก็ตามหลังจากเป้ยหลัวจากไปได้เพียงสามวัน เงาร่างอ่อนแอยิ่งก็ลอยออกมาจากซากปรักหักพังของหอคอยปิศาจเมฆา มันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและยุ่งเหยิง พลางเหินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง