Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1021

Cover Renegade Immortal 1

1021. การตื่นของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

พลังดั้งเดิมเต็มไปด้วยเปลวเพลิงเข้าสู่วิญญาณดั้งเดิมของหวัหลิน หวังหลินออกคำสั่งให้วิญญาณดั้งเดิมมังกรสายฟ้าโบราณให้ดูดซับมัน จังหวะที่ดูดซับ ความเจ็บปวดเข้มข้นผุดออกมาจากดวงวิญญาณ

หวังหลินกัดฟันและอดทนทั้งหมดเอาไว้ สูญเสียสัมผัสไปชั่วคราว

เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่ ความเจ็บปวดในวิญญาณค่อยๆหายไป พลังดั้งเดิมในเปลวเพลิงค่อยๆหลอมเข้ากับวิญญาณดั้งเดิมและเริ่มไหลอย่างปกติ

หวังหลินลืมตาขึ้นอย่างเหน็ดเหนื่อย ทะเลเพลิงภายในระยะสามสิบฟุตรอบตัวกลับเข้าไปในร่างกายผ่านรูขุมขน

ทว่าหวังหลินรู้สึกร่างกายร้อนขึ้นตลอดเวลา เปลวเพลิงเข้าผสานกับพลังดั้งเดิมของเขาอย่างรวดเร็ว

“พลังดั้งเดิมของข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย…แม้วิธีนี้จะอันตราย แต่ใช้การได้!” หวังหลินสูดหายใจลึกและหลับตา ผ่านไปสิบห้านาทีพลันยืนขึ้น แม้ยังดูเหน็ดเหนื่อยเขาก็เดินออกไปนอกหอคอยทมิฬอีกครั้ง!

ด้านนอกคือโลกแห่งเปลวเพลิง ควันสีดำปกคลุมน่านฟ้า ครั้งนี้หวังหลินยืนข้างนอกได้นานกว่าเดิมเล็กน้อย แขนขวายื่นออกมาและคว้าเปลวเพลิงขนาดเท่ากำปั้นทารกก่อนจะกลับเข้าไปในหอคอย

หวังหลินเมินเฉยเปลวเพลิงที่ล้อมรอบหอึอยอีกครั้ง จากนั้นนั่งลง จ้องมองเปลวเพลิงในมือและกลืนเข้าไป!

การฟื้นฟูพลังดั้งเดิมในร่างกายเป็นไปอย่างเชื่องช้า เขาอดทนต่อความเจ็บปวด แยกเปลวเพลิงจากทะเลเพลิงออกมาและผสานมันเข้ากับวิญญาณดั้งเดิม

ตอนแรกเขาดูดซับได้แต่เปลวเพลิงขนาดเล็กเท่ากำปั้นทารกเท่านั้นแต่ตอนนี้เขากำลังดึงเปลวเพลิงขนาดเท่าศีรษะออกมา หวังหลินไม่จำเป็นต้องกลืนกินมันเข้าไปแล้ว ที่เขาต้องทำตอนนี้คือสูดลมหายใจเพื่อดูดซับเปลวเพลิงทั้งหมด

คนที่รู้จักหวังหลินคงจำเขาได้ยากขึ้นขณะอยู่ในหอคอยทมิฬ หวังหลินผอมบางเนื่องจากดูดซับพลังมารมานาน ตอนนี้บนผิวหนังมีแต่รอยร้าวทำให้ภาพลักษณ์ดูน่าหวาดกลัวยิ่ง

เส้นผมแห้งเหี่ยวไร้แสงอันใด แต่ดวงตาสุกสกาวและส่องสว่างขึ้น หากมีใครมาเห็นสายตาหวังหลิน คงรู้สึกถึงความร้อนที่อาจจะเผาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

เรื่องประหลาดจริงๆก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคิ้วของหวังหลิน สองสามวันก่อนหลังจากดูดซับเปลวเพลิงไปจำนวนหนึ่ง หวังหลินรู้สึกเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างระหว่างคิ้ว ความรู้สึกนี้ออกมาจากรอยวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!

“ไม่คิดว่าการดูดซับเปลวเพลิงนี้ไม่เพียงแต่จะฟื้นฟูพลังดั้งเดิมแต่ยังสร้างความร้อนขึ้นด้วย…ทว่าความร้อนในร่างกายคล้ายจะแตกต่างจากความร้อนในวิชาเทพของฉิงหลิน…” หวังหลินลืมตาและสัมผัสบริเวณระหว่างคิ้ว

“เดิมทีข้าตั้งใจดูดซับเปลวเพลิงเพื่อฟื้นฟูพลังดั้งเดิม แต่ตอนนี้ดูเหมือนยิ่งข้าดูดซับมากขึ้นก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อข้ามากขึ้น…” ดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้นพลางลุกยืนและเดินไปข้างหน้า

หวังหลินก้าวเท้าออกไปนอกหอคอยทมิฬ เปลวเพลิงพุ่งเข้าใส่ดุจคลื่นโกรธเกรี้ยว หวังหลินสงบนิ่งและปล่อยให้เปลวเพลิงกวาดผ่านล้อมรอบเขาไป

หวังหลินยืนอยู่ภายในเปลวเพลิงและก้าวเดินอย่างสงบนิ่ง

หวังหลินไม่ได้เร็วนักแต่การเดินผ่านทะเลเพลิงนี้เป็นเรื่องอัศจรรย์มาก หากหลิงเทียนโฮวอยู่ที่นี่คงตกใจที่เห็นหวังหลินตอนนี้!

แม้แต่หลิงเทียนโฮวก็ไม่สามารถเดินผ่านทะเลเพลิงแห่งนี้โดยไม่ระมัดระวังได้!

หวังหลินเดินอยู่สิบห้านาทีก่อนจะหยุดลงซึ่งเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว ยิ่งออกไปไกลก็ยิ่งมีเปลวเพลิงรุนแรงและร้อนแรงกว่า

หลังมองทะเลเพลิงเบื้องหน้า หวังหลินนั่งลงและยืดแขนตรง จากนั้นเปลวเพลิงสองสายเริ่มรวมกันจากสองฝั่ง ก่อตัวเป็นก้อนเพลิงขนาดเท่าร่างเขา

หวังหลินอ้าปากและสูดเข้าไป ก้อนเพลิงหดเล็กลงจนหายเข้าไปในปากหวังหลิน ความร้อนจำนวนมากผุดออกมาจากร่างกายทำให้เปลวเพลิงรอบด้านบ้าคลั่งและจมเข้าไปอย่างสิ้นเชิง

ผ่านไปอีกสามวัน เปลวเพลิงรอบหวังหลินพลันขยายออกไปข้างนอก หวังหลินค่อยๆยืนขึ้น ผิวหนังแตกระแหงมากกว่าเดิม ดวงตาส่องประกายเจิดจ้า กลิ่นอายน่าหวาดกลัวผุดออกมาจากร่างกายและผสานเข้ากับเปลวเพลิงรอบๆ สร้างความร้อนมิอาจจินตนาการได้

‘ยังขาดอีกเล็กน้อย…’ หวังหลินพึมพำกับตนเองพลางสัมผัสจุดระหว่างคิ้วและเดินไปข้างหน้า หอคอยทมิฬหายวับจากสายตา

วันเวลาผ่านไปอีกครั้ง เมื่อเขามาถึงขีดจำกัดก็จะนั่งลงฝึกฝน และเมื่อแข็งแกร่งพอจะต่อต้านเปลวเพลิงได้หวังหลินก็เคลื่อนตัวต่อไป

พริบตาเดียวก็ผ่านไปสี่เดือน!

ตอนนี้หวังหลินอยู่ไกลจากหอคอยทมิฬ มองไปรอบตัวเขาถูกห้อมล้อมด้วยทะเลเพลิงมหึมา ความร้อนที่เกิดขึ้นจากทะเลเพลิงนี้สามารถเผาทุกชีวิตให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

ผิวหนังแตกร้าวของหวังหลินสลายไปและเกิดผิวใหม่ขึ้นข้างใต้ ทว่าในไม่นานรอยร้าวก็ปกคลุมผิวอีกครั้ง

“ความร้อนที่นี่น่าจะเพียงพอ” ในวันนี้หวังหลินหยุดลงและสูดหายใจลึก ขณะสูดเข้าไปทะเลเพลิงเบื้องหน้าพลันเคลื่อนไหว เปลวเพลิงจำนวนมากเข้าไปตามร่างกาย

ทว่าครั้งนี้หวังหลินไม่ได้ผสานเปลวเพลิงกับพลังดั้งเดิมหรือวิญญาณดั้งเดิม เขาเคลื่อนพวกมันทั้งหมดเข้าหารอยระหว่างคิ้วโดยไม่มีเก็บเอาไว้!

พลังทั้งหมดเข้าไปในรอย ทำให้มันดูชัดเจนและเหมือนมีชีวิต! รอยวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!

รูปทรงของรอยนี้เปลี่ยนไปตลอดตั้งแต่ที่มันปรากฏขึ้นครั้งแรก ยิ่งหวังหลินดูดซับเปลวเพลิงมากขึ้น รอยก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรกเริ่มเป็นเพียงแค่รอยแล้วจึงค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นวิหคเพลิงจริงๆ!

ราวกับวิหคเพลิงนั้นกำลังเติบโต เป็นรูปเป็นร่างและพร้อมจะทำลายรอยให้เป็นอิสระ!

“ไม่พอ!” หวังหลินอ้าแขนและกวาดผ่านพื้นที่ เปลวเพลิงทั้งหมดถูกดึงเข้าหาเขาและล้อมรอบร่างกาย ในไม่นานเปลวเพลิงก็เข้าไปในร่างผ่านรูขุมขน

ขณะเปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุดเข้าไปในร่างกาย หวังหลินดึงทั้งหมดนั้นเข้าสู่รอยตรงระหว่างคิ้ว ร่องรอยเรืองแสงสีแดงเข้ม

หวังหลินกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับแสงสีแดงส่องสว่าง เปลวเพลิงจากพื้นดินติดตามเขาไปและเข้าไปในร่างอย่างต่อเนื่อง หากมองไกลๆมันเป็นฉากที่น่าตกตะลึงยิ่ง!

“ยังไม่พอ!” หวังหลินเผยแสงประหลาดพลางอ้าแขนออกและยื่นออกไป ราวกับเขากำลังกอดทะเลเพลิง พลังดั้งเดิมแพร่กระจายออกมาจนมีทะเลเพลิงอีกหนึ่งปรากฏในท้องฟ้า

ทะเลเพลิงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังดั้งเดิมในร่างหวังหลิน มันก่อเกิดพลังดึงดูด คล้ายสะท้อนกับเปลวเพลิงบนพื้น เปลวเพลิงบนพื้นพุ่งขึ้นมาเข้าไปในร่างหวังหลิน

ขณะที่เปลวเพลิงบนพื้นเคลื่อนไหว เปลวเพลิงไม่มีที่สิ้นสุดเริ่มรวมกันจากทุกทิศทาง ราวกับมีหลุมดำอยู่ที่นี่ ดูดซับเปลวเพลิงทั้งหมดในทะเลทรายสีดำ

เปลวเพลิงจำนวนมากเข้าไปในร่างเขาอย่างต่อเนื่อง เคลื่อนเข้าหารอยระหว่างคิ้วของหวังหลิน เมื่อแสงสีแดงจากรอยได้ถึงขีดสูงสุด วิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีแดงเผ็ดร้อนได้ก่อตัวขึ้น!

เมื่อวิหคเพลิงปรากฏ จึงเกิดเสียงร้องสั่นสะเทือนสวรรค์ฉีกกระชากมิติภายในโลกแห่งขวด

นี่คือเสียงร้องของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เสียงร้องที่สั่นสะเทือนสวรรค์ เป็นเสียงร้องการตื่นขึ้นของรุ่นวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์เพื่อหวังหลิน!

วิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีแดงเร่าร้อนตัวนี้มีบารมียิ่งและเต็มไปด้วยสติปัญญา จังหวะที่มันปรากฏจึงร้องออกมา เปลวเพลิงทั้งหมดภายในทะเลทรายจึงบ้าคลั่ง

เปลวเพลิงไร้ขอบเขตพุ่งเข้าใส่วิหคเพลิงข้างๆหวังหลินด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ!

ร่องรอยตื่นขึ้นและจิตวิญญาณวิหคเพลิงปรากฏ! ในอดีตนั้นการตื่นขึ้นมาถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่ในสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์! ใครก็ตามที่มีส่วนหนึ่งของวิหคเพลิงซึ่งตื่นขึ้นมา หากไม่เกิดเหตุผิดพลาดคงเหมือนกับการได้เป็นหนึ่งในสี่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!

ณ ตอนนี้หวังหลินคือหนึ่งในวิหคเพลิงคนเดียวได้ตื่นขึ้นมาแล้ว! เป็นที่เข้าใจได้ว่าไม่มีใครในกลุ่มวิหคเพลิงจะตื่นขึ้นมาอีกแล้ว!

เสียงร้องของวิหคเพลิงไม่เพียงแต่จะสั่นสะเทือนดินแดนที่หวังหลินอยู่ข้างในเท่านั้น! ตอนนี้ดินแดนอื่นๆภายในโลกแห่งขวดทั้งหมดพลันได้ยินเสียงร้องของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!

หลิงเทียนโฮวกำลังนั่งอยู่ในหอคอยทมิฬของดินแดนตัวเองและกำลังบ่มเพาะ ทว่าในตอนนี้เสียงร้องวิหคเพลิงดังกึกก้องไปทั่วดินแดนจนแม้แต่โลกยังสั่นเทา

หลิงเทียนโฮวพลันลืมตาขึ้นและเผยอาการตกตะลึง!

“เสียงร้องของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!”

เทียนหยุนกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศด้วยชุดสีขาว มองออกไปยังท้องฟ้าและคาดคำนวณ ดวงตาส่องประกายขึ้นและสว่างขึ้น ใบหน้าประดับรอยยิ้มพลางพึมพำ “เป็นเช่นนี้เอง…”

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ เสียงร้องของวิหคเพลิงก็เข้ามาถึงและดังก้องรุนแรง

เสียงร้องทันทีทันใดของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้ทำให้การคำนวณของเทียนหยุนต้องแตกสลาย ดินแดนที่เขาอยู่เกิดการสั่นเทา ท้องฟ้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง เทียนหยุนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างหาได้ยากยิ่ง!

“เป็นไปไม่ได้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!