Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1030

Cover Renegade Immortal 1

1030. ถูกและผิดอันเป็นนิรันดร์

ในความกว้างใหญ่ไพศาลของอวกาศ นอกจากกลุ่มก๊าซส่องสว่างและอุกกาบาตมากมายนับไม่ถ้วนแล้วยังมีฝุ่นผงไร้ขอบเขตอีกด้วย อนุภาคของฝุ่นมักจะเล็กมาก แม้จะมองเห็นได้ด้วยสัมผัสวิญญาณแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถตรวจจับได้ชัดเจน

ณ มุมหนึ่งของจักรวาล มีอนุภาคฝุ่นบางส่วนที่เล็กจนแม้แต่เซียนขั้นทลายสวรรค์ก็ไม่อาจตรวจเจอได้ด้วยสัมผัสวิญญาณ

อนุภาคฝุ่นพวกนี้เล็กมากแต่กลับมีอีกโลกหลายโลกอยู่ข้างใน!

ดินแดนวิญญาณปิศาจ อดีตดินแดนสวรรค์วิญญาณเทพและถ้ำของจักรพรรดิฉิงหลินก็อยู่ที่นี่

นอกจากทะเลวิญญาณปิศาจตะวันออกซึ่งระยะทางไกลเกินจะวัดได้ ไม่มีทางเข้าอื่นสู่สถานที่เหล่านี้ ภายในอนุภาคฝุ่นมีปราสาทใหญ่โตตั้งอยู่ใจกลางถ้ำจักรพรรดิเทพ

ปราสาทใหญ่โตแห่งนี้เป็นสีม่วงทั้งหมดและส่งกลิ่นอายแห่งบารมีออกมา บนพื้นมีเทียน 99 แท่งวางเป็นค่ายกล ตอนนี้แท่งเทียน 64 มอดดับไปแล้ว…

ในห้องโถงไม่มีใครอยู่นอกจากเถ้าถ่านบนพื้น เทียนที่เหลือสามสิบห้าแท่งกระพริบวูบวาบ แสงแต่ละดวงกระจัดกระจายในห้องโถงส่งกลิ่นอายน่าขนลุก

วินาทีนี้ราวกับสายลมพัดมาจากข้างนอกและกวาดผ่านไป เปลวเพลิงกระพริบรุนแรง เทียนที่เหลือยี่สิบสามแท่งสั่นสะท้านอย่างรุนแรงพลางดิ้นรนเพื่อให้ไฟคงอยู่ อย่างไรก็ตามสายลมหนาวเย็นเกินไป ขณะที่พัดมา รอยสักนับไม่ถ้วนกระพริบอยู่ภายในสายลมนี้ด้วย

ท้ายที่สุดเปลวเพลิงยี่สิบสามแท่งก็ดับทีละดวง เมื่อดับจนหมดห้องโถงก็มืดยิ่งขึ้น ควันจากเปลวเพลิงเปลี่ยนกลายเป็นร่างเงามารพลางหัวเราะเงียบๆ

เมื่อควันจางหาย เปลวเทียนยี่สิบสามแท่งก็มอดดับ ร่างหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่ในห้องโถงที่คล้ายกันพลางสั่นสะท้านรุนแรงและกระอักโลหิตสีดำ

โลหิตผุดออกมาจากรูขุมขนช่างดูน่าตกตะลึงนัก

สภาพแวดล้อมที่นี่เหมือนกันกับห้องโถงด้านบน ทว่าไม่มีเปลวเทียนแต่กลับมีบัลลังก์ยักษ์แทน ชายซึ่งปกคลุมตัวเองอยู่ในหมอกสีดำพลันสั่นสะท้านและลืมตาขึ้นมา

ดวงตามืดมัว หากหวังหลินมาเห็นสถานที่แห่งนี้คงจดจำได้ทันทีว่ามันคือสถานที่ที่วิชาชี้ทางเทพเปิดออกมาหลังจากมันถูกดัดแปลง!

ชายลึกลับคือคนที่มอบผลึกสีเหลืองให้หวังหลิน!

“เทียนยี่สิบสามได้มอดดับ…เหลือเพียงสิบสองเท่านั้น ฉิวเย่า แม้เจ้าจะตายก็ต้องทำร้ายข้ากระนั้นหรือ…ข้าทำให้เจ้าเกลียดมากขนาดนี้สินะ…” ใบหน้าเขามีความขมขื่นอย่างลึกล้ำ

“ตอนที่เผ่ารอยสักของเจ้ามาถึงดินแดนเขตนอก เผ่าของเจ้าต้องการเป็นพันธมิตรกับเรา ข้าเปิดดินแดนหนึ่งให้เผ่าของเจ้าอยู่อาศัย…แต่หลังจากพวกเจ้ามาถึง เหล่าเทพจำนวนมากกลับหายตัวไป ทั้งหมดนี้บ่งชี้ให้เห็นว่าเผ่าของเจ้าเกี่ยวข้องกับการหายไปของเทพพวกนั้น”

“ทีแรกข้าไม่เชื่อ แต่ตอนที่ข้าเข้าไปในดินแดนของเผ่ารอยสัก ข้าเห็นเผ่าของเจ้าเอาวิญญาณของเหล่าเทพมากระตุ้นรอยสักศักดิ์สิทธิ์…”

“เมื่อพวกเจ้าทำเช่นนี้ เราจะไม่เกิดสงครามได้อย่างไร? ข้าฉิงหลินจะไม่โกรธเกรี้ยวได้อย่างไร? หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น สงครามที่เศร้าที่สุดตั้งแต่ข้ากลายเป็นจักรพรรดิเทพจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? หากไม่ใช่เรื่องนั้น แดนสวรรค์จะสูญเสียพลังชีวิตจนเราไม่อาจต่อต้านหายนะที่เกิดขึ้นจนแดนสวรรค์ล่มสลายได้อย่างไร?”

“ยิ่งไปกว่านั้น การล่มสลายของแดนสวรรค์คือหนึ่งในแผนของเจ้า!”

“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสักเป็นแค่ร่างอวตาร ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าคือลูกสาวของอำนาจสูงสุดแห่งดินแดนเขตนอก จุดประสงค์ที่เจ้ามาที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าพูดในตอนเริ่มต้น มันคือการทำลายขั้วอำนาจทั้งหมดภายในดินแดนปิดผนึก” ฉิงหลินใบหน้าขมขื่นขึ้นอีก ดวงตาขุ่นมัวและแฝงการหวนรำลึก

“เจ้ากลายเป็นนางสนมถ้ำเทพของข้าและบังคับนางสนมดอกไม้จักรพรรดิให้กลายเป็นดอกไม้สวรรค์เพราะนางค้นพบเรื่องราวของเจ้า ข้าเป็นพยานรู้เห็นกับตาตัวเองจากความสงสัยของข้า เจ้าล้มเหลวแต่ไม่เพียงจะไม่สำนึกพิด เจ้ายังต้องการให้ข้าพาไปดินแดนเขตนอกพร้อมกับเจ้าและกลายเป็นศิษย์ของพ่อเจ้า ผู้สูงสุด ข้าเป็นจักรพรรดิผู้ทรงเกียรติแห่งแดนสวรรค์ ปกครองและเป็นคนของดินแดนปิดผนึก ข้าจะทรยศบ้านตัวเองได้อย่างไร?!”

“ดวงตาเจ้ามีพลังแรกเริ่ม แต่เพราะเจ้าเคยกระตุ้นมันตอนที่อยู่กับข้า พลังแรกเริ่มนี้คือเมล็ดพันธุ์ที่พ่อเจ้าวางเอาไว้ให้ทำลายดินแดนปิดผนึก หากมันแพร่กระจายออกไป ทุกคนภายในดินแดนปิดผนึกจะถูกทำลายไปหมดสิ้นพร้อมกับพวกคนธรรมดา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่เจ้าจะได้ทำให้ดินแดนปิดผนึกกลายเป็นเศษซากจนค้นหาประตูสวรรค์ได้ง่ายขึ้น”

“ข้าควักตาเจ้า แต่ความเจ็บปวดที่เจ้ารู้สึกจะเทียบได้กับความเจ็บปวดนับหมื่นเท่าที่ข้ารู้สึกได้อย่างไร!?”

“แม้กระทั่งตอนนั้น ข้าแทบไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ ดังนั้นจึงผนึกเจ้าไว้กับสระฝังเทพแทน ข้าบอกทุกคนว่าเจ้าตาย เจ้ารู้ความเจ็บปวดในใจข้าไหม?”

“ฉิวเย่า เจ้ามีสิทธิ์เกลียดข้าด้วยหรือ? แม้กระทั่งวันนี้เจ้ายังไม่ลังเลทำลายร่างอวตารของตัวเองเพื่อให้คนที่ข้าล่อมาที่นี่สับสน เจ้ากระทั่งยืมพลังทำลายล้างอวตารของตัวเองเพื่อดับเทียนไขชีวิตข้าไปถึงยี่สิบสามแท่ง!” ฉิงหลินใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ควันสีดำล้อมรอบใบหน้าเปลี่ยนเป็นเงามารคล้ายกับต้องการกลืนกินเขา

“เจ้าไม่มีสิทธิ์เกลียดข้า ความเคียดแค้นของเผ่ารอยสักเจ้าเป็นอันตรายต่อดินแดนปิดผนึก ข้าจะทิ้งพวกมันให้สร้างปัญหาต่อคนรุ่นหลังได้อย่างไร!? พวกมันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่ต้องเป็นทาสให้แก่เหล่าเทพไปชั่วนิรันดร์เท่านั้น! ข้าให้พวกมันรอดไว้เพื่อเตือนความจำ ไม่ให้ลืมจิตสังหารทรงพลังจากดินแดนเขตนอก”

ควันรอบใบหน้าฉิงหลินยิ่งรุนแรงขึ้น มันรวบรวมระหว่างคิ้วราวกับต้องการทะลวงออกมา ทว่าขณะนั้นแสงสิบสองจุดก็ปรากฏขึ้นป้องกันควันไม่ได้ทำลายออกมาได้

“ข้ายังมีเวลาพอใช่ไหม…” เขาถอนหายใจและค่อยๆหลับตาลง

ขณะนี้ดวงตาหวังหลินมองไปข้างหน้าอย่างดุร้าย เขาอยู่ในมหาสมุทรไร้ก้นบึ้งที่ไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุดได้เลย มีแต่คลื่นเบื้องหน้าเขาเท่านั้น หวังหลินยืนอยู่บนผิวมหาสมุทรและครุ่นคิด

หลังจากเขาไปกระตุ้นกฏเกณฑ์ที่อยู่ในดอกไม้ จึงเคลื่อนย้ายมาที่นี่ สิ่งแรกที่เห็นคือทะเลสีฟ้าแห่งนี้

‘ตอนที่ข้าถูกเคลื่อนย้ายมานี่ ข้าเห็นอีกคนก็ตกลงมาในดอกไม้ไม่ไกลจากข้า…เป็นคนที่ปกคลุมด้วยพลังปิศาจ ข้ารู้สึกคุ้นเคยจากกลิ่นอายนาง’

ขณะขบคิด สีหน้าหวังหลินพลันเปลี่ยนไปและเงยศีรษะขึ้นทันที เขาเห็นคลื่นโกรธเกรี้ยวแทบก่อตัวเป็นกำแพงอยู่ไกลๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!