Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1062

Cover Renegade Immortal 1

1062. พลังของมารโบราณ

ปราสาทพังทลายดุจพายุพลันหยุดชะงักทันที จากนั้นพลังทั้งหมดกระจายออกไปข้างนอก ชายวัยกลางคนยืนขึ้น เขาคืออดีตหมายเลขหนึ่งผู้ไร้เทียมทานในสี่แดนสวรรค์ จักรพรรดิเทพฉิงหลิน!

ทว่าตอนนี้ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงมารและถูกห่อหุ้มอยู่ในชุดเกราะสีดำปกคลุมทั้งร่างกาย

พลังมารมหาศาลก่อตัวเป็นเสื้อคลุมพริ้วไหวโดยไร้แรงลม ปลายสุดมีเงาของมารโบราณอันน่าประทับใจปรากฏขึ้น

ชุดเกราะหนาปกคลุมรูปร่างเหลือเพียงแต่ดวงตาเรืองแสงสีแดงเพลิงมาร พอปราสาทพังทลาย เขาก็ก้าวออกมา

ด้านนอกปราสาท วิชามหาสมุทรอันงดงามของหวังเว่ยปกคลุมผืนฟ้า ปราสาทพังทลายเกินไปจนหวังเว่ยไม่มีเวลาหยุดยั้งวิชาตนเอง คลื่นอันรุนแรงจึงกระแทกเข้าใส่ปราสาทที่พังทลายไปแล้ว

ณ นาทีนี้ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกถูกแทนที่ด้วยมหาสมุทร หยดน้ำเต็มไปทั่ว พลังปราณสวรรค์จำนวนมหาศาลไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่ราวกับของจริงและทำให้ความคิดสั่นสะเทือนได้

แค่วิชานี้วิชาเดียวก็เพียงพอให้หวังเว่ยเป็นหนึ่งในเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดในวันนี้ได้ ทั่วโลกดูเหมือนจะจมดิ่งอยู่ในทะเลเกรี้ยวกราด

หวังหลินสูดลมหายใจหนาวเหน็บ จากสิ่งที่เขาเห็น ความแข็งแกร่งของหวังเว่ยเทียบได้กับฉิงชุ่ยหากไม่รวมขอบเขตจวี่!

แต่ขณะที่ทะเลโกรธเกรี้ยวมาถึง จักรพรรดิเทพฉิงหลินก้าวเท้าและลอยตัวอยู่กลางอากาศ

“ก็แค่กลหลอกตาเล็กๆ!” เขายกแขนขึ้นและโบกมือแบบสุ่มๆ ควันสีดำจำนวนมากผุดออกมาจากแขนและไหลขึ้นไปทั่วท้องฟ้าปกคลุมทะเลในทันที ทะเลที่หวังเว่ยสร้างเอาไว้พลันระเบิดกลายเป็นเม็ดฝนสาดกระจายไปทั่วทุกที่ ราวกับวิชาของหวังเว่ยเป็นแค่ของเด็กเล่น!

“อาจารย์ ศิษย์ช้าเกินไป…” หวังเว่ยหน้าซีด ก้าวถอยไปหลายร้อยฟุตและมาอยู่ข้างโจวยี่ เขามองฉิงหลินตรงหน้าด้วยสายตาเจ็บปวดแต่ก็รีบระงับเอาไว้และเผยความมุ่งมั่น โจวยี่ยังไม่ได้ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บและยังตกอยู่ในอันตราย หวังเว่ยโบกแขน โจวยี่รู้เจตนาของหวังเว่ยในทันที พลางมองหวังหลินก่อนจะเปลี่ยนเป็นลำแสงและถูกเก็บไว้ในกระเป๋า

หลังจากทะเลของหวังเว่ยกระจัดกระจาย ดัชนีของเทียนหยุนค้ำจุนสวรรค์ก็ตกลงมา มันเต็มไปด้วยพลังดั้งเดิมอันแข็งแกร่ง แม้จะดูเชื่องช้าแต่รวดเร็วยิ่งนัก

เสียงดังสนั่นกึกก้องราวกับท้องฟ้าถูกเปิดเป็นหลุม แม้แต่หมอกสีดำก็ยังถูกแทงทะลุผ่าน พุ่งกระแทกใส่ฉิงหลินเบื้องล่าง

เสียงหวีดหวิวประหลาดดังกึกก้อง แต่ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้ได้ ฉิงหลินยื่นแขนขวาออกไปเสียงดังปัง ดัชนีเริ่มแตกสลายจากตรงกลาง

ราวกับมีพลังที่แข็งแกร่งกว่ามากเข้าทำลายมันจากตรงกลางทำให้ดัชนีพังทลายทีละนิ้ว

เสียงดังสะท้านฟ้า ดัชนีที่ทำให้หวังหลินหนังศีรษะด้านชาพลันพังทลายและหายไปในพริบตา

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที ขณะที่ฉิงหลินก้าวเดินออกมา วิชาของหวังเว่ยและเทียนหยุนก็แตกสลาย

อย่างไรก็ตามฉิงหลินสวมเกราะไม่หยุดแค่นั้นและก้าวอีกครั้ง เคลื่อนไหวด้วยความเร็วเกินอธิบายและปรากฏตัวด้านหน้าปิศาจโบราณเป้ยหลัวในทันที ดาวแปดดวงในตาซ้ายกระพริบวูบวาบ ยกแขนขวาขึ้นมาโบกสะบัดอย่างลวกๆใส่ภาพมายาที่ผืนธงอัญเชิญขึ้นมา

หมอกสีดำที่ปกคลุมท้องฟ้าพลันหดเล็กลงและล้อมรอบตัวเขากับเป้ยหลัว ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินจะตอบสนอง พวกเขาเห็นแต่เพียงหมอกสีดำเท่านั้น

ข้างในหมอกเกิดคลื่นเสียงดังคะนองกึกก้อง หมอกสีดำหมุนปั่น เป้ยหลัวร้องเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวจนได้ยินออกมา

“ต้าเจีย แม้เจ้าได้ครอบครองร่างฉิงหลิน หากเจ้าไม่มีเวลามากพอก็ไม่สามารถกลืนกินวิญญาณของฉิงหลินหรือแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาได้!”

“แล้วอย่างไรเล่า!? แค่นี้ก็พอจะฆ่าเจ้าทั้งหมดได้แล้ว!” น้ำเสียงแหบพร่าดังออกมาพร้อมกับเกิดวิชาปั่นป่วนมากมาย เมื่อเสียงร่อนถึงหูทุกคนราวกับกระดูกกำลังถูกบดขยี้เข้าด้วยกัน ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเกิดความเย็นเยียบภายในใจ

เทียนหยุนเผยแววตาแสงประหลาด จากนั้นพุ่งเข้าไปในสายหมอกสีดำอย่างไม่คาดคิด เสียงจากภายในหมอกสีดำดังขึ้นไปอีก หวังเว่ยกัดฟันแน่นและพุ่งเข้าไปด้วยเช่นเดียวกัน

สามผู้ทรงอำนาจเข้าไปในสายหมอก การปะทะของเหล่าสรรพวิชาสั่นสะท้านสวรรค์ดังกึกก้อง พลังดั้งเดิมและพลังปราณสวรรค์เกิดการแพร่กระจายผันผวนออกมาอย่างรุนแรง

ปรมาจารย์ชีกงมองสายหมอกสีดำด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ชายชุดดำด้านข้างก็เช่นเดียวกัน ชายชราบนน้ำเต้าเกิดการลังเลและหยุดอยู่ที่ปลายขอบของหมอกสีดำ

ส่วนหลิงเทียนโฮวมองออกไปด้วยใบหน้ามืดมน

หวังหลินล่าถอยออกมาทันทีโดยไม่ลังเล แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชายสวมเกราะที่โผล่ออกมาจากปราสาทคนนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่มอบผลึกสีเหลืองให้

เมื่อหวังเว่ยตะโกนว่า “อาจารย์” จึงเป็นการยืนยันการคาดเดาของหวังหลิน คนผู้นั้นคือชายที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ จักรพรรดิเทพฉิงหลิน!

‘เชื่อมกับข้อมูลทั้งหมดตรงหน้านี้ เวรกรรมทุกอย่างกำลังจะเผยตัวตนออกมา!’

‘ในอดีต จักรพรรดิเทพฉิงหลินได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากการล่มสลายของแดนสวรรค์และถูกบังคับให้ปิดด่านฝึกตน ทว่ามารโบราณต้าเจียและปิศาจโบราณเป้ยหลัวใช้โอกาสนี้ซุ่มโจมตีฉิงหลิน พวกเขาต้องการขโมยร่างฉิงหลินเพื่อได้ระดับบ่มเพาะและความทรงจำมา’

‘แต่ฉิงหลินแข็งแกร่งมาก แม้จะบาดเจ็บสาหัสเขาก็ยังแข็งแกร่งเกินคาด ถึงจะมีมารโบราณและปิศาจโบราณช่วยกันโจมตี ก็ไม่อาจชนะฉิงหลินได้อย่างสมบูรณ์ สุดท้ายฉิงหลินก็มาที่ดินแดนสวรรค์จิตวิญญาณเทพ ที่ซึ่งการต่อสู้ถึงขีดสูงสุด’

‘ในการต่อสู้นั้น เป้ยหลัวถูกแบ่งร่างออกไปเก้าส่วน เขาไม่มีทางเลือกจึงต้องกลายเป็นจิตวิญญาณปิศาจและซ่อนตัวเองไปอีกนานจนกระทั่งก่อร่างขึ้นมาใหม่ได้’

‘ส่วนมารโบราณต้าเจีย เขาสามารถเข้าไปในร่างฉิงหลินได้และพยายามเข้าครอบงำ แต่ฉิงหลินก็สามารถมาถึงชั้นที่เก้าในถ้ำนี้ได้ เมื่อเขานั่งลงจึงใช้เทียน 99 แท่งเข้าต่อต้านมารโบราณ!’

‘อย่างไรมารโบราณต้าเจียก็ทรงพลังเช่นกัน เขาไม่คาดว่าในถ้ำจะมีพลังชั่วร้ายอยู่มากมายและทำให้องครักษ์บางส่วนของฉิงหลินก้าวเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งมาร ท้ายที่สุดพวกมันก็จบชีวิตลงภายใต้คำสั่งเขา’

‘ส่วนเศษมารที่หลุดออกไปในดินแดนวิญญาณปิศาจและมีร่างกายเหมือนหลิงเทียนโฮว ข้ากลัวว่ามันต้องมีบางอย่างซ่อนไว้เบื้องหลังแน่’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ด้วยไหวพริบและสติปัญญาจึงพอจะคาดเดาสถานการณ์ในถ้ำอย่างหยาบๆได้ในทันที

ในหัวหวังหลินมีความคิดหลายร้อยอย่างแล่นผ่านขณะที่ล่าถอยอย่างรวดเร็ว เสียงการต่อสู้ดังออกมาจากสายหมอก ขณะเดียวกันหมอกสีดำก็แพร่กระจายออกไปข้างนอก

ร่างหวังเว่ยพุ่งออกมาจากสายหมอกที่กำลังขยายตัว เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ กระอักโลหิตและดูสิ้นหวัง ใบหน้าเศร้าหมองและเจ็บปวดอยู่ในใจ

ขณะที่หวังเว่ยถูกบังคับให้ออกมา หมอกที่แพร่กระจายพลันรวมตัวกันเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งเข้าใส่หวังเว่ย มันแทงทะลุผ่านหน้าอกหวังเว่ยอย่างฉับพลันทันที

โลหิตสาดกระจายออกมาจากหน้าอกและเขาพุ่งตกลงมาจากท้องฟ้า การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้สีหน้าทุกคนต้องเปลี่ยนไปมหาศาล

ชายชุดดำอ้าปากค้างก่อนจะเก็บความโลภทั้งหมดกลับไปและล่าถอยทันที ปรมาจารย์ชีกงเช่นเดียวกันแต่ดวงตาส่องสว่าง เขาพุ่งเข้าใส่หวังเว่ยที่บาดเจ็บสาหัส

‘ข้าจะใช้โอกาสนี้จบชีวิตมันและระบายความเกลียดชังในใจข้า!’

แม้ปรมาจารย์ชีกงจะบาดเจ็บสาหัสเขาก็ยังอยู่ในขั้นทลายสวรรค์ วินาทีนี้เคลื่อนตัวดุจสายฟ้าปรากฏข้างหวังเว่ย จากนั้นยกแขนขึ้นกระแทกเข้าใส่ศีรษะหวังเว่ยอย่างรุนแรง ใบหน้ายิ้มและร้องตะโกน “เมื่อเจ้ากล้าช่วยไอ้หนูนั่น ก็จงตายซะ!”

ตอนที่หวังหลินล่าถอย เขาเห็นหวังเว่ยถูกโยนออกมาด้วยอาการสาหัสเช่นเดียวกัน หวังหลินหยุดชะงักและพุ่งเข้าหาหวังเว่ย ทว่าเขาไม่ได้เร็วเท่าปรมาจารย์ชีกงซึ่งอยู่ใกล้และยกมือขึ้นไปแล้ว แขนขวาปรมาจารย์ชีกงเรืองแสงสีเหลืองปฐพี แฝงพลังขั้นสูงสุดของเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับต้น

วินาทีนั้นหวังหลินไม่มีเวลามาคิดมาก เตาหลอมเทพโบราณปรากฏขึ้นรอบตัวเอง ชี้นิ้วใส่หวังเว่ยและตะโกน “สลับตำแหน่ง!”

ลำแสงปกคลุมหวังเว่ย ช่วงจังหวะฝ่ามือของปรมาจารย์ชีกงกระแทกลงไป เขาก็หายวับและถูกแทนที่ด้วยหวังหลิน!

ดวงตาขวาหวังหลินกระพริบสีฟ้า โล่ห์ฟ้าครามปรากฏขึ้นคั่นกลางและฝ่ามือของปรมาจารย์ชีกงเข้ากระแทกใส่โล่ห์

โล่ห์ถูกดลงทับกับหน้าอกหวังหลินจนเขาต้องกระอักโลหิต ร่างกายถูกผลักดันกลับไป ดวงตาแดงฉาน จากนั้นมาอยู่ข้างหวังเว่ยที่ไร้สติ คว้าหวังเว่ยและล่าถอย ขณะนั้นก็ยื่นแขนเข้าไปในเสื้อหวังเว่ยเพื่อคว้าเม็ดยา บดขยี้ฝาปิดและโยนเข้าปากหวังเว่ย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!