Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1065

Cover Renegade Immortal 1

1065. สามเผ่าบัญชาโบราณพบกันอีกครั้ง

หลังเปลี่ยนกลายเป็นร่างเทพโบราณที่แท้จริง หวังหลินร้องคำรามก่อเกิดพายุเข้าปะทะกับเสียงคำรามของมารโบราณ

ขณะเดียวกันเป้ยหลัวที่กำลังหลบหนีพลันหยุดชะงัก ดวงตาเผยแสงปิศาจ

‘วันนี้ทั้งสามเผ่าบัญชาโบราณอยู่ในที่เดียวกัน ช่างเป็นภาพน่าตื่นเต้นอะไรเช่นนี้ ข้าเป็นปิศาจโบราณที่ตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่นัก!’ เป้ยหลัวร่างกระพริบวูบวาบและขยายขนาดทันที ร่างปิศาจโบราณเจ็ดดาวสูงหลายสิบฟุตแทบจะเท่าเทียมกับร่างเทพโบราณของหวังหลิน

วินาทีนั้นการต่อสู้ก็ไม่ใช่รูปแบบของเหล่าเซียนอีกแล้ว แต่เป็นเผ่าบัญชาโบราณที่คงอยู่มาตั้งแต่ยุคบรรพกาล!

เป้ยหลัวร้องเสียงคำรามปิศาจ ก่อเกิดพลังไร้ตัวตนเข้าร่วมกับเสียงคำรามของหวังหลินและกวาดเข้าหามารโบราณต้าเจีย

‘ไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์!’ ต้าเจียจ้องหวังหลิน เขาเห็นร่องรอยสีทองภายในดวงดาวห้าดวงตรงกลางหน้าผาก

ร่องรอยสีทองนี้หมายความว่าเป็นสายเลือดราชวงศ์!

เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของทั้งสามเผ่าพันธุ์บัญชาโบราณได้สร้างพายุรุนแรงเกินกว่าคำอธิบาย มันกวาดไปทั่วชั้นแปดและทำให้สิ่งก่อสร้างทั้งหมดพังทลาย แม้กระทั่งท้องฟ้าดูเหมือนกำลังแตกสลาย เกิดรอยร้าวบอบบางและควันร้อนเต็มไปทั่วพื้นที่

เป้ยหลัวก้าวออกมาและร้องตะโกน “เทพโบราณ เจ้ากล้าสู้กับมารโบราณกับข้าไหม!?”

หวังหลินยื่นแขนออกไปข้างหน้าทำให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่ขึ้น แสงสีม่วงโผล่ออกมาจากรอยแยกและลากหอกสังหารเทพเจ้าขนาดยาวพันฟุตออกมา “ทำไมข้าจะไม่กล้า!?”

เป้ยหลัวหัวเราะพลางยื่นแขนขวาเข้าไปในความว่างเปล่าเช่นเดียวกัน ธงผืนใหญ่ปรากฏขึ้นมาและดูเหมือนปกคลุมโลกได้ทั้งใบ มันลอยตรงเข้าใส่ต้าเจีย

หวังหลินสืบเท้าและพุ่งเข้าหาต้าเจียเช่นเดียวกัน

ต้าเจียเผยแววตาเยาะเย้ยและยกดาบในมือ คลื่นดาบมหึมาปรากฏขึ้นด้านหลัง “แค่เทพโบราณห้าดาวและปิศาจโบราณเจ็ดดาว กล้าสู้กับข้า?”

ปราณดาบสั่นสะเทือนสวรรค์พุ่งออกไปพร้อมเสียวหัวเราะ ในนั้นมีปราณดาบสองสาย หนึ่งกวาดผ่านท้องฟ้าและอีกหนึ่งกวาดไปเหนือพื้นดินเป็นตัวแทนแห่งฟ้าดิน เมื่อตัดผ่านกันจะสร้างพลังทำลายล้างสูงยิ่ง

เป้ยหลัวสะบัดแขน พลังปิศาจผุดออกมาจากผืนธงและพุ่งใส่ปราณดาบในท้องฟ้า พลังปิศาจระเบิดออกมาจากร่างกาย ภาพที่เห็นทำให้สั่นสะเทือนปฐพีจนเกิดการสั่นคลอน

หวังหลินโยนหอกสังหารเทพเจ้าในมือออกไป สายฟ้าม่วงเต็มไปทั่วโลก หอกสังหารเทพเจ้าพุ่งเข้าปะทะกับปราณดาบบนพื้นดิน

เสียงกึกก้องดังสนั่น คลื่นกระแทกทรงพลังกวาดผ่านพื้นที่ที่มีการปะทะ พื้นดินพังทลายอย่างสมบูรณ์ ในถ้ำนี้ไม่มีชั้นที่เก้าอีกแล้ว แต่ชั้นที่แปดเชื่อมต่อกับชั้นที่เก้าแทน!

หวังหลินรู้สึกถึงแรงปะทะเกินกว่าจะจินตนาการ เสียงปะทุดังออกมาจากร่างและกระอักโลหิตทันที ดวงดาวตรงกลางคิ้วหมองลง

ธงปิศาจโบราณในท้องฟ้าปะทะกับปราณดาบและเกิดแรงกระแทกแพร่กระจาย รอยร้าวในท้องฟ้ามีมากกว่าเดิม แสงสีแดงโลหิตผุดออกมาจากรอยร้าว ณ เวลานี้ราวกับท้องฟ้าจะแตกสลายเพียงแค่สัมผัส

“หวังหลิน เราต้องทุ่มพลังทั้งหมดเสียแล้ว ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครหนีรอดไปจากถ้ำจักรพรรดิเทพได้!” เป้ยหลัวร้องคำราม ก้าวเท้าและพุ่งเข้าหาต้าเจีย ทว่าร่างกายพลันเริ่มล่าถอย รวดเร็วจนเห็นภาพติดตาทั้งยังพุ่งเข้าใส่ท้องฟ้าที่แตกร้าว

แม้เป้ยหลัวจะเร็วมาก แต่หวังหลินเร็วยิ่งกว่า วินาทีที่เป้ยหลัวร้องคำราม หวังหินคว้าหวังเว่ยและฮู่จวนก่อนจะพุ่งเข้าใส่ท้องฟ้า ชกกำปั้นเข้าใส่ท้องฟ้าด้วยความเร็วที่มากกว่าเป้ยหลัวเล็กน้อย

ท้องฟ้าในเวลานี้บอบบางมากและถูกหวังหลินชกกำปั้นกระแทกลงไป มันจึงแตกสลายอย่างสมบูรณ์แยกขาดจากกัน!

ลาวามากมายตกลงมาดุจสายฝน หวังหลินพุ่งร่างเข้าไปในลาวาและตรงขึ้นไปอีก

เป้ยหลัวร้องสาปแช่งแต่เขาไม่ได้ช้าลงและพุ่งขึ้นไปเช่นเดียวกัน

ปรมาจารย์ชีกงบ่มเพาะมานานหลายปี แม้จิตใจจะได้รับผลกระทบเนื่องจากการทลายสวรรค์ครั้งแรกมาถึง ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจน วินาทีที่ท้องฟ้าพังทลาย เขาพ่นโลหิตและใช้วิชาหลบหนีโลหิตพุ่งเข้าไปในลาวา ไม่สนลาวาอุณหภูมิร้อนแรงและบาดแผลที่เกิดจากเผ่าบัญชาโบราณทั้งสาม เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องการค้นหาหวังหลินมากนักและเพ่งสมาธิไปที่การหลบหนีจากที่นี่

ระหว่างทาง อาการบาดเจ็บก็ยิ่งแย่ลง ระดับบ่มเพาะตกจากขั้นทลายสวรรค์มาสู่ขั้นชำระสวรรค์ระดับสูง ความรู้สึกกดดันอย่างหนาแน่นเข้าเกาะกุมในใจ รู้สึกดูเหมือนเทพเร่ร่อน

เมื่อหวังหลินพุ่งเข้าไปในชั้นที่เจ็ด ลาวามหาศาลพุ่งเข้าใส่ใบหน้า ร่างกายหดเล็กกลับมาสู้ร่างปกติ ใบหน้าซีดเผือดพลางกระอักโลหิต ความเจ็บปวดปะทุขึ้นมา เขาอดไม่ได้ที่จะชะลอตัวลงเล็กน้อย แม้จะเปลี่ยนร่างเป็นเทพโบราณเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากปราณดาบทั้งที่มีหอกสังหารเทพอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามหากเขาไม่ทำลงไป คงไม่อาจทำให้หวังเว่ยหรือฮู้จวนหลบหนีได้ ถึงจะรู้ว่าไม่มีโอกาสหลบหนีในชั้นที่เจ็ดเพราะหวังหลินก็เป็นแค่ขั้นส่องสวรรค์ระดับสูงสุดเท้านั้น

ณ ตอนนี้ฮู่จวนคว้าหวังหลินและหวังเว่ย ลอยขึ้นไปข้างบน นางกลืนกินเม็ดยาสีเขียวหนึ่งเม็ดที่นางมี ร่างกายฟื้นตัวและเคลื่อนผ่านลาวาไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหวังหลินและหวังเว่ย

ลาวาเคลื่อนเข้าไปในร่างหวังหลินและสั่นจิตวิญญาณเขาเล็กน้อย หวังหลินส่งข้อความออกไป “ผู้อาวุโสไปกันก่อน ข้าพบจิตวิญญาณอัคคีที่นี่และอาจจะใช้มันช่วยหยุดมารโบราณได้เล็กน้อย!”

ฮู่จวนเผยความลังเล หากเป็นก่อนหน้านี้ไม่ว่านางและหวังเว่ยจะชื่นชมหวังหลินแค่ไหน คงไม่ลังเลแม้แต่น้อย แต่หวังหลินพึ่งช่วยนางกับสามีเอาไว้ สิ่งนี้สำคัญยิ่ง นางกระทั่งไม่รู้ตัวว่าหวังหลินช่วยหวังเว่ยจากการลอบโจมตีของปรมาจารย์ชีกงอีก ความเมตตาแบบนี้จำเป็นต้องใช้คืน

“เจ้า…” ฮู่จวนมองหวังเว่ยซึ่งช่วยนางป้องกันปราณกระบี่ จากนั้นก็บาดเจ็บสาหัสจากเสียงคำรามของต้าเจีย ในแววตามีความดิ้นรน ตอนนี้หวังเว่ยจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน ฮู่จวนไม่มีเวลารอ

“ผู้อาวุโสสบายใจได้!” หวังหลินทิ้งฮู่จวนและพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของลาวาในชั้นที่เจ็ด ฮู่จวนกัดฟันแน่นพลางรับหวังเว่ยมาและหายตัวไป

หลังจากฮู่จวนจากไป หวังหลินดวงตาส่องสว่าง จำเป็นต้องทำให้หวังเว่ยและฮู่จวนติดหนี้เขา ตราบใดที่ทั้งสองคนรู้สึกขอบคุณ ถึงแม้ฉิงหลินจะไม่ตื่นขึ้นก็อาจจะช่วยเรื่องของซือถูหนานได้ อีกทั้งการรักษาโจวยี่ก็แตกต่างจากความเมตตาไปมากมาย

หวังหลินดูดซับลาวาเข้าไปอย่างรนุนแรง ลาวาคล้ายจะไหลย้อนทวนพร้อมกับมีพลังอัคคีดั้งเดิมเข้าสู่ร่างหวังหลินอย่างบ้าคลั่ง พลังงานไหลเวียนผ่านเส้นชีพจรจนทำให้อาการบาดเจ็บสาหัสฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

หวังหลินไม่ได้ระมัดระวังเหมือนการดูดซับก่อนหน้านี้ วิหคเพลิงบนร่างกายปรากฏขึ้นรอบตัวทำให้พลังอัคคีดั้งเดิมในลาวาพรั่งพรูเข้ามาใส่หวังหลิน ลาวาจำนวนมากตกจากชั้นที่เจ็ดมาชั้นที่แปด เป้ยหลัวและปรมาจารย์ชีกงพุ่งเข้าใส่ลาวาโดยมีต้าเจียไล่ตามหลัง วินาทีนี้ทุกคนรวมทั้งหวังหลินจึงก่อกวนพลังอัคคีดั้งเดิมในลาวา จนทำให้ลาวาทั้งหมดในภูเขาไฟเริ่มการพังทลาย

เสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์เข้าสั่นลาวาจากส่วนลึกของภูเขาไฟ มังกรยักษ์เงยศีรษะมันขึ้นมา ชั่วจังหวะนี้เอง ลาวาทั้งหมดที่หวังหลินไม่ได้ดูดซับหรือได้ตกไปชั้นที่แปดแล้วจึงเริ่มเคลื่อนไหวดุจมีชีวิต ลาวาทั้งหมดพุ่งเข้าใส่มังกร

เพียงพริบตาเดียว ลาวาทั้งหมดในชั้นที่เจ็ดก็หายวับไป เหลือทิ้งไว้แต่เพียงมังกรเพลิงตัวยักษ์จ้องมองเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเบื้องล่าง

ขณะเดียวกัน ณ มิติไร้ขอบเขตตรงจุดละอองแสงที่ที่ซึ่งเป็นดินแดนวิญญาณปิศาจ มีเพลิงเผาไหม้อยู่ในเส้นขอบฟ้า วิหคเพลิงยักษ์ร้องเสียงแหลมกำลังเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ

วิหคเพลิงตัวนี้มีสติปัญญา ไม่คาดคิดว่ามันจะไม่เข้าไปทางเข้าตรงทะเลวิญญาณปิศาจตะวันออก แต่มาหาตำแหน่งที่แท้จริงของดินแดนวิญญาณปิศาจ!

เหล่าเซียนจำนวนมากอยู่ด้านหลัววิหคเพลิงตัวนี้ ท่ามกลางพวกเขามีผู้อาวุโสอยู่หกคน ทั้งหมดสวมผ้าคลุมสีแดง แต่ละคนปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลัง ทั้งหมดเป็นเซียนขั้นทลายสวรรค์!

“จากการใช้วิชาค้นหาร่วมกับจิตวิญญาณแท้จริง ที่นี่คือจุดที่คนผู้นั้นตื่นขึ้นและยังเป็นสถานที่แห่งสัมผัสอันตราย การเดินทางมาครั้งนี้อาจอันตรายยิ่งยวดแต่ถึงกระนั้นแม้จะเสี่ยง ข้าก็ต้องปกป้องเขาไว้ให้ได้!” หกผู้อาวุโสมองหน้ากันเอง แต่ละคนสายตามุ่งมั่น สมาชิกคนอื่นเผยสายตามุ่งมั่นไปด้วย!

ขณะเดียวกัน น้ำเสียงบารมีหนึ่งผุดออกมาจากดาวเคราะห์เหนือวังวนที่อยู่ในกองบัญชาการพันธมิตรเซียน

“ระงับการต่อสู้กับฝ่ายทุกชั้นฟ้า ส่งกองกำลังทั้งหมดไปยังตำแหน่งของถ้ำฉิงหลิน!”

น้ำเสียงดังกึกก้อง ร่างฉิงชุ่ยปรากฏตัวขึ้นด้านนอกกองบัญชาการพันธมิตรเซียน เขาจ้องกองบัญชาการ ขอบเขตจวี่ส่องประกายสีแดงในดวงตา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!