1113. เป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!
แดนสวรรค์พิรุณถูกปกคลุมอยู่ในสายหมอก ฝุ่นผงครอบคลุมท้องฟ้าทำให้สถานที่ดูเลอะเลือน รอยแยกอวกาศหลายแห่งปรากฏขึ้นมาและดูดเอาฝุ่นผงบางส่วนเข้าไป
เกิดเสียงอู้อี้ดังออกมาไกล ฝุ่นผงเริ่มเคลื่อนไหวราวกับสายลมกำลังพัด
นอกจากเสียงพวกนี้แล้ว ทั้งดินแดนสวรรค์พิรุณก็เงียบสนิท
ตอนที่เสียงหวังหลินดังสะท้อนออกมา แม้กระทั่งผู้อาวุโสสำนักมังกรฟ้าถึงกับหยุดชะงัก ทุกคนมองมาที่หวังหลิน
ผู้อาวุโสผมขาวจากสำนักมังกรฟ้าพลันเอ่ยขึ้น “จักรพรรดิวิหคเพลิง ท่าน…ท่านได้ยินอะไร?”
หวังหลินขมวดคิ้วและเริ่มฟังอย่างละเอียด เสียงเรียกให้ช่วยเหลือดูเหมือนสายลมที่พัดผ่านไป เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครนอกจากเขาที่ได้ยินเสียงเรียกนี้
ซือถูหนานเข้าใจหวังหลินมากที่สุด เมื่อเห็นหวังหลินขมวดคิ้วจึงเอ่ยขึ้นมา “ไม่มีเสียง!”
“อาจจะเป็นภาพมายา ไม่มีปัญหา” หวังหลินส่ายศีรษะและไม่พูดถึงมันอีก
ผู้อาวุโสจากสำนักมังกรฟ้ามองหน้ากันเองและไม่พูดอะไร พวกเขากระโจนไปข้างหน้า ทุกคนติดตามไปด้านหลัง
หวังหลินขมวดคิ้วต่อไปพลางจ้องมองภูเขาที่ใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้น หากไม่มีข้อมูลที่ทิ้งเอาไว้ในโล่ห์ หวังหลินคงไม่คิดว่าจักรพรรดิมังกรฟ้าถูกขังไว้ที่นี่ อย่างไรก็ตามยิ่งเขาเข้าไปใกล้ก็ยิ่งเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้เหตุผล
ขณะนั้นผู้อาวุโสหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!! ดูรอยประทับนี่ มันสร้างขึ้นมาจากวิชาของสำนักมังกรฟ้า ประทับฝ่ามือคราม!” ผู้อาวุโสลอยขึ้นในอากาศ มองดูพื้นหญ้าที่ปกคลุมอย่างตื่นเต้น
สิ้นเสียงพูด ผู้อาวุโสที่เหลืออยู่ของสำนักมังกรฟ้าต่างก็เข้ามาใกล้ พวกเขามองดูรปะทับฝ่ามือซึ่งถูกประทับลึกเอาไว้ในพงหญ้าแห้งเหี่ยว!
“เปิดภูเขานี้และช่วยท่านจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!!” ผู้อาวุโสกระจายตัว หัวหน้าผู้อาวุโสสร้างผนึกทำให้ชิ้นส่วนสั่นเทา พลังดั้งเดิมจำนวนมากปรากฏขึ้นมาเผยเป็นระดับขั้นทลายสวรรค์ ขณะเดียวกันภาพมังกรฟ้าหลายตัวปรากฏขึ้นรอบภูเขา ราวกับกำลังดึงภูเขาลูกนี้ให้ยกจากพื้นดิน!
“ยก!” ผู้อาวุโสของสำนักมังกรฟ้าพลันร้องตะโกน ภูเขาสั่นเทา ก้อนหินจำนวนมากร่วงหล่นลงไป
คลื่นฝุ่นผงถูกเตะขึ้นไปในอากาศพร้อมกับมีเสียงคำรามมังกรฟ้าดังสะท้อน เหล่ามังกรห่อหุ้มรอบภูเขาซึ่งยกขึ้นไปหลายนิ้ว
ผู้อาวุโสของสำนักเต่าดำและสำนักพยัคฆ์ขาวเหาะเหินเข้ามา แต่ละคนสร้างผนึกปรากฏพลังดั้งเดิมจำนวนมหาศาล ร่างเงาเต่าดำปรากฏขึ้นด้านหลังผู้อาวุโสและยกภูเขาให้สูงขึ้นไปอีก
ผู้อาวุโสจากสำนักพยัคฆ์ขาวร่อนลงมาและใช้วิชาตนเองเข้ายกภูเขา ภูเขาสูงขึ้นและสูงขึ้นจนทำให้พื้นดินสั่นไหวรุนแรง เสียงอื้ออึ้งดังสะท้อนไปทั่วท้องฟ้า
ผู้อาวุโสของสำนักวิหคเพลิงก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาเหาะเหินเข้ามาและกำลังจะใช้วิชาช่วยยกภูเขา
แต่ในวินาทีนั้นลำแสงสีทองสายหนึ่งผุดออกมาจากภูเขาและทะลุทะลวงผ่านเข้าไป จากนั้นแสงสีทองอีกสายแทงออกมาจากภูเขา ส่องสว่างขึ้นไปทั้งพื้นที่
เพียงพริบตาเดียว ลำแสงสีทองนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากภูเขาทำให้ภูเขาลูกนี้เหมือนดวงอาทิตย์ แม่กุญแจสีทองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นรอบภูเขา เป็นภาพที่น่าตกตะลึงยิ่ง!
แม่กุญแจยาวแสนฟุตและถูกปกคลุมด้วยอักขระรูนอันซับซ้อนกระพริบอย่างต่อเนื่อง พลังกดดันอันแข็งแกร่งแพร่กระจายออกมาจากสลัก เหล่าผู้อาวุโสของสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์รู้สึกถึงแรงกดดันทันที
หวังเว่ยและฮู่จวนมองดูรูแม่กุญแจสีทองและเกิดอาการตกใจ ทั้งสองมองหน้ากันเองอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เห็นอะไรผิดพลาด ทั้งสองรีบถอยและไม่เสียเวลาแม้แต่น้อย
เมื่อไร้วิชาช่วยเหลือ ภูเขาค่อยๆตกลงมาอีกครั้ง
“รวบรวมพลังอำนาจของสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องทำลายภูเขาลูกนี้ เพียงแค่ยกมันขึ้นไปเจ็ดสิบฟุตก็พอ! สถานที่คุมขังนี้ถูกจักรพรรดิเทพฉิงหลินวางเอาไว้ไม่ได้ใช้ผนึกข้าแต่ใช้กับอย่างอื่น เจ้าต้องไม่ให้สิ่งนั้นหนีรอดไปได้!” ขณะนั้นเสียงร้องอ่อนแอแต่กระวนกระวายดังออกมาจากใต้ภูเขา ครานี้ไม่ใช่เพียงแค่หวังหลินที่ได้ยินเท่านั้น แต่ทุกคนได้ยิน+
ผู้อาวุโสสำนักมังกรฟ้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หนึ่งในผู้อาวุโสที่เก่าแก่ที่สุดร้องตะโกนอย่างตื่นเต้น “ท่านจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์! เป็นเสียงของท่านจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!!”
หวังหลินมองกลับไปที่หวังเว่ยและฮู่จวนก่อนจะคำนับฝ่ามือ “ข้าขอให้สองผู้อาวุโสช่วยด้วย!”
ทั้งสองขบคิดเล็กน้อยก่อนที่หวังเว่ยจะถอนหายใจและเอ่ยขึ้นมา “ค่ายกลนี้มีกลิ่นอายของอาจารย์จริงๆ! ช่างมันเถอะ!” พลันโบกแขนเสื้อ ก้อนเมฆปรากฏใต้ฝ่าเท้าและนำเขาไปหาที่แม่กุญแจสีทอง
ฮู่จวนถอนหายใจและติดตามหวังเว่ยไป
“เราสามารถเปิดที่แม่กุญแจนี้ได้เพียงแค่หนึ่งลมหายใจเท่านั้น ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหมดต้องทำให้เร็ว!” กฏเกณฑ์ขนาดใหญ่จำนวนมากปรากฏขึ้นรอบฮู่จวน กฏเกณฑ์เรืองแสงชั่วร้ายส่งเข้าใส่ที่คุมขังสีทอง
หวังเว่ยโบกแขนขวา ปรากฏสายหมอกขึ้นเบื้องหน้า สายหมอกแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนเข้าล้อมรอบกฏเกณฑ์แต่ละจุดของฮู่จวน
นาทีนี้ผู้อาวุโสรอบด้านไม่ลังเลแม้แต่น้อย ผู้อาวุโสสำนักมังกรฟ้ารีบสร้างผนึกและใช้วิชาของตนเอง ผู้อาวุโสอีกสามสำนักที่เหลือนำสมบัติมากมายออกมา นี่คือพลังของผู้อาวุโสขั้นทลายสวรรค์ทั้งสามสิบห้าคนจึงไม่ต้องกล่าวถึงภูเขาลูกนี้แล้ว แดนสวรรค์พิรุณทั้งหมดคงแตกสลายเบื้องหน้าพลังนี้ในทันที!
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเตรียมการไว้แล้ว พวกเขาเพียงรอคอยให้กุญแจเปิดขึ้นมา!
คู่รักเซียนสูดลมหายใจลึกและนั่งลงในอากาศ สองฝ่ามือสร้างผนึกชี้ใส่กรงขัง กฏเกณฑ์ล้อมรอบด้วยสายหมอกวารีพลันก่อตัวเป็นกุญแจยักษ์อย่างไม่คาดคิด!
ลูกกุญแจพุ่งเข้าหาแม่กุญแจสีทอง พริบตานั้นมันก็ทะลวงผ่านชั้นสีทองและพุ่งเข้าหาตัวล็อค! แสงจากตัวล็อคพลันสลายไป! ไม่มีร่องรอยแสงสีทองเหลืออยู่แล้ว!
หวังเว่ยรีบตะโกน “รีบไปช่วยเขาเร็ว!”
เวลาหนึ่งลมหายใจเพียงชั่วพริบตา แต่สำหรับเซียนเฒ่าขั้นทลายสวรรค์ แค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอให้พวกเขาใช้วิชาได้แล้ว!
ลำแสงวิชาหลายเส้นยิงเข้าหาภูเขา เพียงเสี้ยววินาทีมันก็เริ่มยกภูเขาขึ้นมา ภูเขาสั่นเทาและยกขึ้นทีละนิ้ว ภูเขาลูกนี้ถูกจักรพรรดิเทพฉิงหลินหล่อหลอม มันจึงไม่ธรรมดา แม้จะไม่มีกุญแจทอง การยกขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย!
สิบฟุต ยี่สิบฟุต สามสิบฟุต!
พริบตาเดียวมันก็ถูกยกขึ้นไปห้าสิบฟุต ยิ่งยกขึ้นก็ยิ่งมีแรงกดดันมากขึ้น เมื่อยกขึ้นไปมากกว่าหกสิบฟุตแต่ใกล้ถึงเจ็ดสิบฟุต เวลาหนึ่งลมหายใจก็ผ่านไป!
แสงสีทองปรากฏขึ้นอีกครั้ง แม่กุญแจยักษ์ปรากฏ ลูกกุญแจแตกสลาย หวังเว่ยและฮู่จวนถูกลำแสงผลักกลับออกไป
แรงกดดันเพิ่มขึ้นทบทวี เหล่าเซียนขั้นทลายสวรรค์ทั้งสามสิบห้าคนพลันดิ้นรนเข้าต่อต้านกับแรงกดดัน วินาทีนั้นเสียงตะโกนหนึ่งดังออกมาจากใต้ภูเขา ลำแสงสีเขียวพยายามโผล่ออกมา
เป็นชายชราคนหนึ่งตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ เสื้อผ้าสีขาดอยู่ในแสงสีเขียว! แม้เขาจะตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ เขาพุ่งออกมาด้วยใบหน้าตื่นเต้น วินาทีนี้เองสายลมพรั่งพรูอยู่ในท้องฟ้าเหนือชิ้นส่วนแดนสวรรค์ ก้อนเมฆแบ่งตัวออกจากกันและคนผู้หนึ่งปรากฏ
เขาสวมชุดสีขาว ดูแก่ชราเล็กน้อยแต่ดวงตาเจนจัด ขณะที่เขาปรากฏได้ทำให้การล่มสลายแห่งนี้รุนแรงมากยิ่งขึ้น
“ดูเหมือนข้าจะมาได้ถูกเวลา!” ชายชราคนนี้คือเทียนหยุน เขาพุ่งเข้าหาภูเขาทันที หวังหลินเงยศีรษะขึ้นมาทันที เขาเกิดความรู้สึกแย่ๆตลอดเวลาแต่ไม่รู้ว่ามันมาจากภูเขาหรือข้างนอก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ลงมือด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นเทียนหยุน หวังหลินจึงมีแววตาส่องสว่าง เปลวเพลิงในตาซ้ายและสายฟ้ากระพริบผ่านตาขวา ก้อนเปลวเพลิงและก้อนสายฟ้าปรากฏขึ้นเบื้องหน้ายิงใส่เทียนหยุนทันที
ขณะเดียวกันหวังเว่ยและฮู่จวนต่างก็ใช้วิชาของตนเองเข้าต่อสู้เทียนหยุน!
เทียนหยุนโบกสะบัดแขนเสื้อ พลังดั้งเดิมพรั่งพรูออกมา ร่างอวตารปรากฏขึ้นมาสามร่าง ยามที่วิชาของหวังเว่ยและฮู่จวนเข้ามาใกล้ หนึ่งในร่างอวตารนั้นเผยรอยยิ้มประหลาด มันสร้างผนึกและปรากฏกลิ่นอายทำลายล้างขึ้นมา เลือกที่จะทำลายตนเองอย่างไม่คาดคิด!
การทำลายตัวเองของร่างอวตารเทียนหยุนพลันแพร่กระจายในทันที หากเพียงแค่นี้คงไม่เป็นปัญหา แต่ขณะนั้นอีกสองร่างอวตารพลันเผยรอยยิ้มประหลาดและทำลายตัวเองเช่นเดียวกัน!