1153. ความสงบก่อนพายุ
ชั่วจังหวะที่มันเปลี่ยนไป พลังดั้งเดิมของหวังหลินไม่อ่อนโยนอีก มันบรรจุพลังของภูเขากระแทกเข้าใส่ชายวัยกลางคน
ทว่าขณะที่มันกำลังจะร่อนลงไป ชายวัยกลางคนพลางเงยศีรษะขึ้นมา ใบหน้าดุร้าย กลิ่นอายทำลายล้างกำลังจะระเบิดออกมาจากร่าง
หวังหลินใบหน้ายังคงเย็นเยียบ หลังจากส่งพลังดั้งเดิมออกไปเขาก็เปิดมิติเก็บของนำกระบี่เหล็กกวาดไปข้างหน้า
ปราณกระบี่หนึ่งสายพุ่งเข้าไป ชายวัยกลางคนที่กำลังระเบิดพลันสั่นเทา โลหิตย้อมลำคอจากนั้นสาดกระจายไปทุกที่ ที่ตายไปไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายแต่ยังรวมถึงวิญญาณดั้งเดิมด้วย
ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองหวังหลิน ศีรษะหล่นลงตุบกลิ้งไปบนพื้น สายตามืดมัวยังคงดุร้ายด้วย
กลลวงของเขาก่อนตายไม่ฉลาดแต่มันยังล่อลวงคนที่อยากได้หินหยกและสูตรยาได้ดี กระนั้นหวังหลินก็ไม่ได้รู้อะไรพวกนี้เลย
สิ่งสำคัญที่สุดคือหลังจากหวังหลินเข้ามาในหุบเขา เขาเห็นร่างศพเป็นอย่างแรกตามมาด้วยอีกสี่ศพ มองผิวเผินแล้วพวกมันดูเหมือนกันคือการตายจากพิษในร่าง
ทว่าความจริงแล้วมีความแตกต่างอย่างลึกซึ้ง หวังหลินระมัดระวังตัวเสมอดังนั้นความแตกต่างเล็กๆน้อยๆนี้เขายังเห็น
ร่างศพแรกตายจากพิษในร่างจริงๆ แต่อีกสี่คนไม่ใช่แบบนี้ พวกเขาถูกฆ่าก่อนจากนั้นพิษในร่างจึงถูกกระตุ้น สถานะของทั้งสี่ร่างยังทำให้หวังหลินคาดเดาไปด้วย
เห็นได้ชัดว่าสี่คนนี้ถูกชายวัยกลางคนสังหารด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาอาจจะเป็นลูกศิษย์ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ก็เป็นศิษย์ของสตรีชรา
ในระยะสั้นหวังหลินไม่ได้ต้องการรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องทั้งหมด เขาแค่รู้ว่าชายวัยกลางคนกำลังโกหกตอนที่บอกว่าไม่สามารถใช้พลังดั้งเดิมได้
ต้องมีเหตุผลที่คนกำลังจะตายเอ่ยคำโกหกออกมา หวังหลินจึงสังหารโดยไม่ลังเล!
“เจ้ากำลังจะตายเองอยู่แล้วในอีกไม่กี่วัน” พอเห็นร่างวัยกลางคนหัวขาด ร่างกายเริ่มแข็งทื่อและเสื้อผ้าฉีกขาด
“หินหยกและสูตรยา…” หวังหลินเริ่มขบคิด
“หินหยกและสูตรยาอะไรกันถึงทำให้เซียนขั้นชำระสวรรค์สองคนฆ่ากันตาย?นี่กระทั่งเป็นเซียนขั้นชำระสวรรค์ระดับกลางแต่ยังกล้าพยายามฆ่าเซียนระดับปลาย…”
“เจตนาดั้งเดิมของเขาคือระเบิดตัวเองตาย จากนั้นการเปิดมิติเก็บของคงสลายไป ทว่าหากมีระดับบ่มเพาะสูงส่งพอ การเอาของจากมิติที่ปิดตายไปแล้วไม่ใช่เรื่องยาก”
“อีกทั้งจากสิ่งที่เขาพึ่งพูดไป เขาเข้าใจผิดว่าข้ามาจากสำนักอื่นแทนที่จะเป็นแค่คนคนเดียว…หากตัดสินจากท่าทางแบบนี้ การต่อสู้เพื่อหินหยกและสูตรยาคือการต่อสู้ระหว่างสำนัก…เขาบอกว่าศิษย์ตนเองถูกพิษของนางเฒ่าพิษแห่งสำนักห้าพิษ…นางเฒ่าที่ข้าฆ่าไปก่อนหน้านี้ต้องเป็นนาง”
“นางเฒ่าพิษนั่นก็พยายามฆ่าข้าทันทีตอนที่ข้าปรากฏตัว นางต้องคิดว่าข้าเป็นตัวแทนของสำนักอื่นแน่”
“สิ่งสำคัญที่สุด นางพูดบางอย่างก่อนจะโจมตีว่า ‘มาเร็วนัก…’ ” ทันใดนั้นหวังหลินมองขึ้นไปบนท้องฟ้า รูม่านตาหรี่แคบ
“หรือว่าเซียนอีกจำนวนมากจากสำนักอื่นๆกำลังมาที่นี่?หากเป็นเช่นนั้นมูลค่าของหินหยกและสูตรยาต้องมีสูงมากจนทำให้เกิดการต่อสู้แบบนี้ระหว่างสำนัก!” หวังหลินสูดหายใจลึก ดวงตาเปล่งประกาย
“หากการวิเคราะห์ของข้าถูกต้องเจ็ดในสิบส่วน เช่นนั้นชายวัยกลางคนต้องเกี่ยวข้องกับหินหยกและสูตรยาจริงๆ เมื่อเขารู้ว่าคนอื่นสามารถเปิดมิติเก็บของของเขาได้ ข้ากลัวว่าเขาไม่ได้วางมันไว้ในนั้น…” หวังหลินมองไปรอบๆหุบเขาก่อนที่สายตาจะตกลงบนร่างศพสี่คนบนพื้น ดวงตาหรี่แคบ
“หากข้าเป็นเขา ข้าจะทำยังไงหากเผชิญสถานการณ์เดียวกัน…ข้าจะเก็บมันไว้ในมิติเก็บของหรือซ่อนไว้ที่อื่น…” หวังหลินขบคิดเงียบๆและหลับตา พลางคิดว่าตัวเองเป็นชายวัยกลางคนดู
หวังหลินลืมตาขึ้นในเวลาไม่นาน สัมผัสวิญญาณกวาดผ่านร่างศพของศิษย์สี่คนแต่ไม่พบอะไรอื่น อย่างไรเขาก็ไม่ยอมแพ้ เปลวเพลิงพุ่งออกไปจากตาซ้ายและห่อหุ้มสี่ร่างศพ
เสียงเพลิงดังเปรี๊ยะแตกร้าวดังสนั่นในหุบเขา ในร่างศพมีพิษทรงพลัง เปลวเพลิงเรืองแสงน่ากลัว ไม่นานนักมันก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
ทว่ามีหินหยกเศษกระดูกสัตว์ขนาดเท่ากำปั้นอยู่ภายในเถ้าถ่าน
หวังหลินเผยแววตาตื่นเต้น ยื่นแขนออกไปให้หินหยกและเศษกระดูกลอยเข้าไปในมือ ส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปตรวจสอบหินหยกก่อน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป!
“สำนักทะลวงสวรรค์ระดับแปด!!” หวังหลินสูดหายใจลึกก่อนจะสงบจิตสงบใจตัวเองและมองเศษกระดูกสัตว์ แม้หวังหลินจะมีจิตใจแข็งแกร่งเขาก็อดใจเต้นมากขึ้นไม่ได้
หวังหลินไม่เชื่อสายตาตัวเอง พูดออกมาไม่ได้สักพัก
“ดับสูญ…เม็ดยาสวรรค์ดับสูญ…” แม้จะไม่รู้ว่าเม็ดยาสวรรค์ดับสูญคืออะไรแต่หวังหลินรู้น้ำหนักของคำว่า “สวรรค์” และ “ดับสูญ” ต่อเซียนที่ทรงพลัง!
โดยเฉพาะยิ่งมีหนึ่งคำนี้ในสูตรยาจึงกลายเป็นระฆังดังลั่นในใจ หวังหลินกำเศษกระดูกในมือแน่น แววตาเผยจิตสังหารมหึมา ตอนนี้หากใครพยายามปล้นมันไปจากเขาจะต้องได้รับการโจมตีแสนสาหัสจากหวังหลินแน่นอน
“คนที่ได้เม็ดยานี้มีโอกาสถึงหนึ่งในสิบส่วนที่จะเปลี่ยนกฎไปเป็นต้นตอดั้งเดิมและบรรลุสิ่งที่เหล่าเซียนเรียกกันว่าขั้นที่สาม! คนที่กินเม็ดยานี้ไปมีโอกาสผ่านขั้นทลายสวรรค์ถึงห้าในสิบส่วนด้วย! ทั้งยังมีโอกาสแปดในสิบส่วนเข้าสู่สภาวะขอบเขตฉี!”
ใช้เวลาสักพักกว่าหวังหลินจะฟื้นคืนความสงบนิ่งกลับมาได้ หวังหลินเก็บหินหยกและสูตรยาไว้ในมิติเก็บของ เขาไม่มีเวลาคิดถึงรายละเอียดแต่ก็มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้เพียงพอให้เกิดหายนะในโลกแห่งเซียน!
ตอนนี้ข่าวคราวเรื่องสูตรยาไม่ได้กระจายออกไปไกลแต่เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป ท้ายที่สุดจะทำให้ทั่วทั้งทะเลเมฆาต้องสั่นสะเทือน
หวังหลินไม่ได้รู้สึกลำคอแห้งผากมานานแล้ว เขาเลียริมฝีปากพลางลบร่องรอยตัวเองและเก็บร่างศพของชายวัยกลางคนและคนอื่นๆมา
พอแน่ใจว่าไม่ทิ้งเบาะแสอะไรไว้ หวังหลินเหาะเหินออกมาจากหุบเขา ขณะที่กำลังจะเก็บพวกมันไป หวังหลินลังเลและชี้ใส่หัวกะโหลกหนึ่งอย่างเด็ดขาด หัวกะโหลกพลันแตกสลายและแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกลงไปทั้งในและนอกหุบเขา
แววตาหวังหลินกะพริบวูบวาบ ความคิดแล่นผ่านในใจพลางนำกะโหลกที่เหลือเจ็ดชิ้นออกมา จากนั้นนำร่างศิษย์ออกมาวางกลับไปที่ตำแหน่งเดิม
หวังหลินทำความสะอาดเศษกะโหลกที่ตกลงไปทั้งในและนอกหุบเขาก่อนจะทิ้งเศษชิ้นเดียวเอาไว้ในที่ลับ
พอเสร็จสิ้นกระบวนการ หวังหลินสูดหายใจลึกและเก็บร่างศพเงินกลับไป เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงและไล่ตามหลังเจ้าวานรทมิฬ
“ข้ามีวิญญาณดั้งเดิมของหญิงชรา ข้าต้องไม่ให้นางตาย! ตราบใดที่นางไม่ตาย จะไม่มีใครรู้ว่าคนภายนอกเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วย พวกเขาจะคิดว่านางได้สูตรยาทั้งหมดไปและซ่อนตัวเองอยู่”
“นอกจากนี้ยังมีเศษกะโหลกที่นางใช้ในหุบเขา รวมถึงร่างศพที่ตายจากพิษของนาง…” เวลาจะเป็นตัวบอกเหล่าเซียนอีกหลายสำนักที่กำลังเข้ามาในแผ่นดินป่า หวังหลินไม่กล้าพักอยู่นานเกินไปและทำได้แค่แบบนี้
เขาไม่มีอารมณ์ไปขโมยสมุนไพรอีกแล้วและรีบเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จากนั้นหายตัววับไปด้วยวิชาบิดมิติ หวังหลินปรากฏตัวอีกครั้งข้างๆกับเจ้าวานรที่กำลังหลบหนี
เมื่อเจ้าวานรเห็นหวังหลิน มันตื่นเต้นและชี้ใส่ยอดเขาหลายลูก เห็นได้ชัดว่ามันกำลังบอกหวังหลินว่าตรงนั้นมีสมุนไพร
หวังหลินไม่ได้สนใจ นำยันต์เซียนสีเหลืองออกมาจากเจ้าวานรและเก็บเจ้าวานรยักษ์กลับเข้าไปในมิติเก็บของ จากนั้นพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ทะลวงผ่านม่านหมอกและวางยันต์เซียนบนร่างตัวเอง หวังหลินยังคงผิดหวังกับความเร็วของตัวเองดังนั้นจึงหยิบหนังสัตว์ออกมาวางทับบนร่างกายด้วย
ซึ่งทำให้ความเร็วหวังหลินทะลุถึงขีดสุด เขาพุ่งทะลุผ่านม่านหมอกและออกไปจากแผ่นดินป่า
แม้กระทั่งตอนนี้หัวใจยังคงเต้นกระดอนราวกับตกอยู่ในความฝัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินป่าและสิ่งที่เขาได้รับมายังรู้สึกเกินจริง
ภายหลังระงับความตื่นเต้นในใจลงได้ หวังหลินจึงรู้ว่าหากข้อมูลในสูตรยาที่เขาได้มารั่วไหลออกไป เมื่อนั้นในดาราจักรทะเลเมฆาจะมีคนไล่ล่าเขาไม่มีวันเลิกรา และอาจจะเป็นเหมือนกับในพันธมิตรเซียนกับทุกชั้นฟ้าเพราะสูตรยานี้ทำให้เซียนบ้าคลั่งได้อยู่แล้ว!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเซียนเฒ่าที่มักจะปิดด่านฝึกตนอยู่ตลอดเวลาและใกล้บรรลุถึงขั้นชำระสวรรค์สูงสุด ทั้งยังเตรียมการต่อขั้นทลายสวรรค์จะต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้สูตรยานี้มาครอบครอง
“ข้าต้องไม่ให้คนอื่นรู้ว่าสิ่งนี้อยู่ในมือข้า!” หวังหลินรีบเดินทางทะลุเขตระดับห้าและไม่กล้าแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณ เขารู้สึกว่าตอนนี้มีเซียนหลายคนกำลังมุ่งหน้ามาที่แผ่นดินป่า
หากพวกเขาเจอหวังหลินที่กำลังเร่งรีบอาจจะสงสัยได้ แม้จะไม่สงสัยมากแต่เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินป่า พวกเขาจะเรียกคนที่ต้องสงสัยมาตรวจสอบ
ยิ่งเรื่องราวใหญ่โตและยิ่งมีความลับต้องซ่อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องสงบนิ่งมากเท่านั้น
หลังจากพุ่งออกไปไกล หวังหลินนำเจ้าวานรทมิฬออกมานั่งลงบนไหล่มัน สั่งการให้เหาะเหินไปทางแผ่นดินโม่หลัวที่ตั้งสำนักต้นกำเนิด
สถานที่แห่งนี้ยังคงห่างจากแผ่นดินโม่หลังอยู่หลายวันและแม้จะอยากจากไปแค่ไหนเขาก็ยังต้องสงบนิ่งนั่งอยู่บนเจ้าวานร หวังหลินเหมือนเซียนของทะเลเมฆาอย่างแท้จริง
หลายชั่วโมงต่อมาหวังหลินจึงออกมาจากแผ่นดินป่าได้ไกลแล้ว มีแผ่นดินป่าอยู่ใกล้เคียงอีกหลายแห่งจึงบอกไม่ได้ว่าหวังหลินออกมาจากจุดไหน
ขณะนั้นรูม่านตาหวังหลินพลันหรี่แคบแต่ก็กลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน
ลำแสงสีแดงหลายเส้นสายหวีดหวิวผ่านหมอกดวงดาว เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
…………………………….