1189. สมบัติของคังจงซื่อ
คังจงซื่อเผยแววตาประหลาดและกล่าวขึ้น “มันคือคัมภีร์เต๋า! ข้าไม่กลัวว่าสหายเซียนจ้าวจะรู้เรื่องเป้าหมายที่แท้จริงของข้าหรอก วิญญาณอสูรเป็นเรื่องรอง เป้าหมายของข้าคือได้ดูคัมภีร์เต๋า!”
“มีผู้รู้แจ้งอยู่ที่นี่หลายคน ดังนั้นการจะได้คัมภีร์เต๋ามาจึงไม่ง่าย ปรมาจารย์คังจงซื่อ เจ้า…” นางมองคังจงซื่อ
“สหายเซียนจ้าว เจ้าจำเรื่องที่แพร่หลายกันในรุ่นข้ายามที่ไม่มีเม็ดยาเทวะได้ไหม?” ปรมาจารย์คังจงซื่อมองไปที่รูปปั้น
นางเอ่ยขึ้นเบาๆ “คนที่เสาะหาเต๋าถือกำเนิดในยามเช้าและตายในยามค่ำ!”
“ไปกันเถอะ” คังจงซื่อถอนสายตาและพุ่งออกไป หญิงชราชุดเขียวขบคิดเล็กน้อยและติดตามไปด้วย
ขณะที่ทั้งสองเดินทางต่อไป น้ำเสียงไร้จุดหมายก็ยิ่งดังขึ้น มันประหลาดและคาดการณ์ไม่ได้จึงทำให้ความคิดเริ่มวนเวียนโดยไม่รู้ตัว
ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อระงับเอาไว้ ขณะที่พวกเขาเข้าไปในสายหมอกลึกขึ้นยิ่งเกิดความรู้สึกว่าไม่สามารถฝืนระงับไว้ได้นาน
ทุกก้าวรู้สึกเหมือนมีกองทัพขนาดใหญ่กำลังทุ่มลงมาและทำให้ความคิดแต่ละคนสั่นเทา
ปรมาจารย์คังจงซื่อหน้าซีดแต่ยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขาเดินทะลุผ่านสายหมอกไปสักพัก พริบตาเดียวทั้งสองก็อยู่ในหมอกนี้มาสามวัน
ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาไกลแค่ไหน พอวันที่สี่พวกเขาจึงเห็นภูเขาเล็กๆเบื้องหน้าอย่างเลือนลาง
ภูเขาเล็กแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก สูงเพียงหมื่นฟุตเท่านั้น มันปรากฏขึ้นและหายวับไปในสายหมอก
ชั้นม่านแสงสีดำล้อมรอบภูเขาเอาไว้ขวางทางไปข้างหน้า ปรมาจารย์คังจงซื่อมองหญิงชราชุดเขียวและเอ่ยอย่างจริงใจ “สหายเซียนจ้าว ความรู้ด้านเขตอาคมของข้าเทียบกับเจ้าไม่ได้ โปรดช่วยข้าทำลายเขตอาคมนี้ด้วย!”
“ภูเขาแห่งนี้คือจุดที่วิญญาณอสูรนับไม่ถ้วนถูกผนึกเอาไว้ ตราบใดที่สหายเซียนจ้าวเปิดมัน เจ้าเอาวิญญาณอสูรไปเลย”
นางมองเขตอาคมม่านแสงสีดำเบื้องหน้า เดินมาถึงใกล้ๆและวางแขนขวาลงไป ผ่านไปสักพักสีหน้าพลันบิดเบี้ยวและเอ่ยขึ้น “มันคือเขตอาคมแห่งเวลา ยิ่งอยู่นานยิ่งแข็งแกร่ง ข้าไม่สามารถมองออกได้ว่ามันเก่าแก่แค่ไหน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงการทำลายมันเลยด้วยซ้ำ! หากข้ารู้ว่ามีเขตอาคมแบบนี้อยู่ ข้าคงไม่มาแน่ๆ!”
ปรมาจารย์คังจงซื่อยิ้มและยื่นแขนออกไป เปิดมิติเก็บของและมีบางอย่างลอยออกมา มันคือเหล็กปลายแหลมสีดำสลักเกลียว ขณะที่นำออกมาแรงกดดันเริ่มแพร่กระจาย
“สหายเซียนจ้าวรู้จักสิ่งนี้ไหม?” ปรมาจารย์คังจงซื่อมองไปที่นาง
หญิงชราชุดเขียวตกตะลึงกับเหล็กแหลม หลังจากมองอย่างละเอียดสักพักนางจึงเอ่ยขึ้นมา “สมบัติจากยุคโบราณ ลิ่มทำลายเขตอาคม!”
“สหายเซียนจ้าวคู่ควรต่อการเป็นปรมาจารย์ด้านเขตอาคมเสียจริง ความรู้กว้างขวางยิ่ง ข้าสงสัยเหลือเกินว่าสหายเซียนจ้าวมั่นใจในการทำลายเขตอาคมนี้แค่ไหน!”
นางขบคิดเล็กน้อยและเอ่ยขึ้นมา “เจ้ามีลิ่มทำลายเขตอาคมกี่ชิ้น?”
คังจงซื่อเอ่ยปาก “สี่!”
“หากเป็นเขตอาคมแห่งเวลาที่อยู่มาได้ช่วงเวลาสั้นๆ แค่สี่ก็น่าจะพอ แต่เขตอาคมนี้อยู่มานานมาก ข้าจึงมั่นใจแค่หนึ่งในสิบส่วน” นางส่ายศีรษะ
ปรมาจารย์คังจงซื่อขบคิดก่อนจะโบกแขนขวาและนำอย่างอื่นออกมา มันคือเศษไม้สีดำขนาดเท่าฝ่ามือ พลันปรากฏกลิ่นอายรุนแรงที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้ กลิ่นอายนี้เคลื่อนไหวทำให้สร้างวังวนกว้างร้อยฟุตหมุนอย่างช้าๆ
หญิงชราชุดเขียวหรี่ตาแคบ จ้องมองเศษไม้สีดำและอ้าปากค้าง “สมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญ?”
ปรมาจารย์คังจงซื่อไม่ได้อธิบายและเอ่ยช้าๆ “เจ้ามั่นใจกับมันแค่ไหน?”
นางถอนสายตาและคำนวณอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปาก “สี่ในสิบส่วน หากมีประทับวิญญาณสงคราม คงอยู่ราวๆห้าในสิบส่วน แต่น่าเสียดาย…”
ปรมาจารย์คังจงซื่อลังเลเล็กน้อยและนำของออกมาจากมิติเก็บของอีก มันคือผลึกสว่างคล้ายกับมีก้อนเลือดไหลอยู่ข้างใน พอปรากฏออกมาพลันแพร่กระจายกลิ่นอายทำลายล้างสั่นสะเทือนสวรรค์
“มีสิ่งนี้ก็น่าจะพอ!” ปรมาจารย์คังจงซื่อมองหญิงชราชุดเขียว
นางขบคิดเงียบๆเล็กน้อยและเอ่ยเสียงแหบพร่า “ปรมาจารย์คังจงซื่อนำสมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญออกมาสองชิ้น ผลึกนี้เห็นได้ชัดว่าทรงพลังมากกว่าของชิ้นก่อน…ด้วยของสามสิ่งนี้ข้ามั่นใจเจ็ดในสิบส่วน!”
“เจ็ดในสิบส่วนถือว่าพอเพียง!” คังจงซื่อสะบัดแขน ลิ่มทำลายเขตอาคมสี่ชิ้นลอยเข้าหานาง คังจงซื่อเตรียมการไว้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถด้านเขตอาคมของเขาด้อยกว่าหญิงชรา เขาคงทำลายมันด้วยตัวเองไปแล้ว
“เมื่อไหร่ที่ต้องการใช้สมบัติ บอกข้ามาได้เลย”
หญิงชราชุดเขียวไม่เสียเวลาอันใดอีก สองแขนสร้างผนึกส่งเขตอาคมลอยออกไป ขณะเดียวกันควันสีดำรอบตัวนางก็เคลื่อนไปด้วยเขตอาคม เพียงแค่นางชี้นิ้วมันก็พุ่งเข้าหาลิ่มทำลายเขตอาคมหนึ่งในสี่ชิ้น!
เขตอาคมร่อนลงบนลิ่มทำลายเขตอาคมจนเกิดเสียงปะทุ จากนั้นควันสีดำพุ่งเข้าไปข้างใน ลิ่มเรืองแสงสีดำ กลิ่นอายแยกสวรรค์แพร่กระจาย
ดวงตานางเรืองแสงเป็นประกายพลางกัดปลายลิ้นยิงโลหิตออกไปใส่ลิ่มทำลายเขตอาคมทำให้มันลอยตรงไปที่เขตอาคมแห่งเวลา
ขณะที่เข้าไปใกล้ เขตอาคมม่านแสงทมิฬเริ่มบิดเบือนพร้อมกับพลังอำนาจแห่งเวลากระแทกลงไป ลิ่มสั่นสะเทือนและเผยอาการแตกสลาทันที
นางร้องตะโกน “ทำลาย!”
ลิ่มเรืองแสงสีแดงโลหิต ควันสีดำจำนวนมากพุ่งเข้าไปในลุ่ม เจาะเข้าไปในมุมหนึ่งของม่านแสงเขตอาคมตรงๆ จมเข้าไปข้างในก่อนจะสลายอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันควันสีดำโผล่ออกมาจากร่างหญิงชราชุดเขียวเรื่อยๆและเข้าสู่ลิ่มทำลายเขตอาคมชิ้นที่สอง มันพุ่งออกไปดุจสายฟ้าและปักลงอีกมุมหนึ่ง
ลิ่มทำลายเขตอาคมที่เหลือต่างก็ลอยอกไปและปักลงไปในเขตอาคมม่านแสงทมิฬเช่นเดียวกัน!
พอลิ่มทั้งสี่ร่อนลงไป เกิดเสียงคำรามออกมาจากเขตอาคมม่านแสงทมิฬ เดิมทีมันจะปรากฏระลอกคลื่นจำนวนมากแต่ด้วยลิ่มทั้งสี่ที่ปักเอาไว้มันจึงเหมือนก้อนหินยักษ์สี่ก้อนโยนเข้าไปในสระ แต่ละอันลงไปในทิศทางที่ต่างกันและทำให้ผิวเกิดความสมดุล
วินาทีนั้นหญิงชราสร้างผนึกชี้ใส่กลางหน้าผากตนเอง นางพ่นควันสีดำออกมา ริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไปและกลับคืนเป็นหญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี! ควันสีดำจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ม่านแสงและร่อนลงตรงกลาง ก่อตัวเป็นวังวนสีดำและเริ่มปะทะกับเขตอาคมม่านแสงทมิฬ!
เกิดเสียงสนั่นกึกก้อง
นางรีบเอ่ยออกมา “ไม้ทมิฬ!”
ปรมาจารย์คังจงซื่อโยนเศษไม้สีดำออกไปโดยไม่ลังเล พอมันเข้าไปใกล้วังวนเขาจึงชี้ไปที่มัน!
ไม้สีดำสั่นเทาและเกิดคลื่นพลังทำลายล้างสั่นสะเทือนสวรรค์แพร่กระจายออกมาและไม้ก็แตกสลาย!
เสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ผลักดันสายหมอกให้ออกไปทุกทิศทาง หญิงชุดเขียวกระโจนไปข้างหน้าปรากฏตัวขึ้นเหนือแรงกระแทกและส่งเขตอาคมจำนวนมากออกไป นางสามารถควบคุมพลังทำลายล้างเพื่อให้พุ่งเข้าหาเขตอาคมม่านแสงทมิฬได้
พื้นดินสั่นสะเทือน ความผันผวนของเขตอาคมม่านแสงทมิฬยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ปรากฏระลอกคลื่นขึ้นอีกแต่มันไม่ได้รับความเสียหายเลยและปรากฏแรงสะท้อนกลับมา ลิ่มอันแรกที่ปักเอาไว้พลันแตกสลาย!
หญิงสาวสีหน้าเปลี่ยนไป คังจงซื่อไม่รอให้ออกคำสั่ง เขาโยนผลึกออกไปใกล้เขตอาคมและมันก็ระเบิด!
ผลึกชิ้นนี้บรรจุพลังอำนาจเหนือจินตนาการและเปลี่ยนกลายเป็นพายุยักษ์ในทันที หญิงสาวกัดฟันแน่น ขยับแขนสร้างผนึกอีกครั้งก่อนจะชี้ใส่กลางหน้าผาก ควันสีดำแพร่กระจายออกมาจากร่างมากขึ้น รูปร่างของนางเปลี่ยนไปอีก นางกลายเป็นหญิงเยาว์วัยอายุยี่สิบปี!
ภายใต้การควบคุมของนาง ควันสีดำรอบเปลี่ยนกลายเป็นเขตอาคมนับไม่ถ้วน ผสมผสานกับพลังทำลายล้างจากการระเบิดของผลึก นางส่งพลังทำลายล้างนี้พุ่งเข้าหาเขตอาคมม่านแสงทมิฬ!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับเสียงแตกร้าว บนเขตอาคมม่านแสงทมิฬปรากฏรอยแตกร้าว ทว่ารอยแตกร้าวก็ปิดลงอย่างรวดเร็วราวกับมันกำลังฟื้นคืนกลับเป็นปกติ
ปรมาจารย์คังจงซื่อกัดฟันแน่น นำสิ่งของอย่างอื่นออกมาด้วยหัวใจเจ็บปวด มันคือป้ายหยกแต่ส่งกลิ่นอายของสมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญอยู่ด้วย! ปรมาจารย์คังจงซื่อไม่อยากนำมันออกมาเพราะของสองอย่างก่อนหน้านี้ไม่ใช่สมบัติสวรรค์ดับสูญจริงๆ พวกมันแค่มีกลิ่นอายเท่านั้น ถึงแม้จะทรงพลังแต่ถูกทำลายไปยังดีอยู่ แม้จิตใจจะเจ็บปวดแต่เขาก็ต้องยอมรับ กระนั้นของชิ้นนี้คือสมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญจริงๆ ถ้าหากถูกทำลายก็คงเหมือนหัวใจถูกบีบให้แตกสลาย!
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้หญิงคนสวยต้องหรี่ตาแคบ นางสูดลมหายใจเข้าปาด เดาไม่ได้ว่าคังจงซื่อมีสมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญมากแค่ไหน!
สมบัติพวกนี้หายากมากแต่การจะทำลายเขตอาคมนี้ ปรมาจารย์คังจงซื่อจำต้องยอมทำลายพวกมันถึงสามชิ้น! แค่ถูกนำออกไปข้างนอก มูลค่าของมันถือว่ามหาศาลพอแล้ว! แค่แลกเปลี่ยนพวกมันกับวิญญาณอสูรก็เพียงพอจะทำให้ได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว
“สลาย!” ปรมาจารย์คังจงซื่อกัดฟันแน่นก่อนจะร้องคำราม เขายอมให้ทุกอย่าง!
หินหยกพุ่งเข้าไปในรอยแตกของม่านแสงและพังทลายทันที แรงกระแทกของมันรุนแรงมากกว่าสองอันก่อน ก่อตัวเป็นพายุส่งผลกระทบต่อสายหมอกทั้งหมดภายในระยะหมื่นลี้
เสียงแตกร้าวดังกึกก้องแต่ม่านแสงก็ยังไม่แตกสลาย ทว่าตอนนี้รอยแตกได้กว้างถึงร้อยฟุตแล้ว แม้มันกำลังจะฟื้นฟูแต่อัตราฟื้นตัวก็ยังช้าลง
ปรมาจารย์คังจงซื่อพุ่งเข้าไปในรอยแตกโดยไม่สนใจหญิงสาว นางดวงตาส่องสว่างและพุ่งเข้าไปในรอยแตกเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นไม่นานลำแสงสายหนึ่งทะลวงผ่านสายหมอกมาและเปลี่ยนกลายเป็นหวังหลิน เขามองรอยแตกแต่ไม่ได้เข้าไปในทันที หลังจากวางเขตอาคมจำนวนมากไว้ข้างนอกเขาจึงพุ่งเข้าไปในรอยแตกด้วย!