Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1209

Cover Renegade Immortal 1

1209. เจ้าหรือ?

สำหรับหนึ่งในเจ็ดเผ่าพันธุ์อันยิ่งใหญ่ของดาราจักรโบราณ เผ่ากลืนจันทรานั้นถือว่าควบคุมพื้นที่ดวงดาวอันกว้างใหญ่ บรรพชนพวกเขาครั้งหนึ่งได้รับคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่มา ดังนั้นเผ่ากลืนจันทราจึงมีสถานะอันสูงส่งมาก ทั้งยังมีสามคนที่เป็นผู้อาวุโสของสมาพันธ์ราชาซึ่งทำให้พวกเขามีช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์มานานหลายปี

ณ ทางทิศใต้ของเผ่ากลืนจันทราซึ่งเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ไม่มีใครอนุญาตให้เข้าไป รอบพื้นที่แห่งนี้มีการป้องกันแน่นหนาและมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้ามาบ่มเพาะได้

ข้างในพื้นที่ต้องห้ามมีรูปปั้นยักษ์อยู่เก้ารูป ทั้งหมดคือรูปปั้นของเทพโบราณ! แต่ละรูปปั้นมีชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านบน พวกเขาถือผนึกประหลาดและคล้ายจะฝืนดูดซับพลังของเหล่าเทพโบราณจากรูปปั้น

ตั้งแต่ยุคโบราณมา หลังจากพวกเขาทรยศหักหลังเหล่าเทพโบราณ เทพจันทรามักจะพยายามหาทางชิงพลังอำนาจเทพโบราณมาอยู่ตลอด พวกเขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะลบล้างความอัปยศในอดีตได้และทำให้เทพโบราณเป็นทาสของเผ่าพันธุ์กลืนจันทรา!

การบรรลุความสำเร็จนี้ ทั้งเผ่าพันธุ์จะต้องใช้ความพยายามทั้งหมดของตัวเองและค้นคว้าอยู่นานนับไม่ถ้วนจนในที่สุดก็ค้นพบวิธีหนึ่งในการกลืนกินเทพโบราณ

ทว่าวิธีนี้มีข้อผิดพลาดและอันตรายอันใหญ่หลวงเอาไว้ แม้กระทั่งวันนี้ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ

ผู้อาวุโสเก้าคนบนรูปปั้นเทพโบราณเก้าตัว ทั้งหมดล้วนเป็นคนของเผ่ากลืนจันทราที่มีพรสวรรค์มากที่สุดและมีพลังอำนาจอันน่าตกตะลึง ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเขาสามารถเข้ามาบ่มเพาะที่นี่ได้

ทุกอย่างอยู่ในความสงบ สถานที่แห่งนี้สงบนิ่งเงียบงันคล้ายกับดินแดนแห่งความตาย ทว่าวินาทีที่ผู้เยาว์จากเผ่ากลืนจันทราอัญเชิญร่างเงาเทพโบราณในดินแดนเจ็ดสี หวังหลินจึงได้มอบคำสั่งออกมาในฐานะเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์เพื่อยกเลิกพันธะสัญญาโบราณ!

เสียงดังกึกก้องโผล่ออกมาจากรูปปั้นเทพโบราณทั้งเก้าและเกิดรอยร้าวปกคลุมไปทั่ว การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ได้ทำให้คนทั้งเก้าที่บ่มเพาะอยู่ตื่นจากการฝึกฝน ทั้งหมดตกตะลึง หวาดหวั่นและเต็มไปด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น!

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่จบสิ้น วินาทีที่ทั้งเก้าคนเหาะตัวขึ้นไป รูปปั้นเทพโบราณหนึ่งในนั้นพลันแตกสลาย พลังเทพโบราณข้างในสูญสลายเข้าไปในโลก

ขณะเดียวกันรูปปั้นเทพโบราณตนที่สองก็สั่นสะเทือนและเกิดรอยร้าวมากขึ้น พริบตาเดียวมันก็กลายเป็นฝุ่นผงและหายวับไปภายใต้สายตางุนงงของคนทั้งเก้า

พอเห็นว่ารูปปั้นอีกเจ็ดที่เหลือกำลังแตกสลายไปด้วย สีหน้าแต่ละคนจึงเปลี่ยนไปมหาศาล!

“จงทำอะไรก็ได้ให้หยุดรูปปั้นทาสพวกนี้จากการล่มสลายซะ!” น้ำเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์กวาดผ่านพร้อมกับสัมผัสวิญญาณมหึมา ชายชราผู้หนึ่งปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณ สวมชุดคลุมจันทราโผล่ออกมาจากระยะไกล เขาโบกแขนจึงทำให้ท้องฟ้าถูกปกคลุมอยู่ในแสงดวงจันทร์

เผ่ากลืนจันทราช่างโอหังยิ่งที่กล้าเรียกเทพโบราณว่าเป็นทาส แม้เหล่าเทพโบราณจะไม่ได้เป็นทาสรับใช้พวกเขาก็จริง แต่เห็นความปรารถนาของเผ่าได้ง่ายดายนัก!

กลิ่นอายทรงพลังอีกหลายจุดโผล่ออกมาไกล

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?” เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจสมาชิกเผ่าทุกคนที่มาถึง

ชายชราผู้สวมชุดคลุมจันทรามองขึ้นไปบนอากาศและเอ่ยพลางกัดฟันแน่น “เทพโบราณสายเลือดราชวงศ์ตนหนึ่งได้ยกเลิกพันธะสัญญาโบราณ!” ทว่าในสายตาส่วนลึกนั้นคือความกลัวและตื่นตระหนกที่รุนแรงยิ่งขึ้น…

หวังหลินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในดาราจักรโบราณด้านนอกดินแดนปิดผนึก เสียงร้องคร่ำครวญค่อยๆเบาลงจนหายไปในที่สุด ร่างชายหนุ่มของเผ่ากลืนจันทราเปลี่ยนกลายเป็นโลหิตหยดลงสู่พื้นตรงโครงกระดูกของจางซิงเย่

กระดูกชายหนุ่มแตกสลายไปแล้วและกระจัดกระจายไปทั่ว เหลือเศษกระดูกเหลือเพียงสองส่วนที่เท่านั้นซึ่งถูกลิ่มเจ็ดสีตรึงเอาไว้

หวังหลินไม่ได้ให้ความสนใจอีก สายตามองไปบนวิหคเพลิงและสัมผัสถึงเปลวเพลิงที่หนาแน่นยิ่งกว่าเดิม ท้ายที่สุดเจ้าวิหคเพลิงส่งเสียงร้องสั่นสะเทือนปฐพีก่อนจะพุ่งลงมาเข้าไปในตาซ้ายหวังหลิน

วินาทีนี้เองปรากฏทะเลเพลิงขึ้นรอบตัวหวังหลินและเต็มไปทั่วอวกาศ เขาขยับร่างออกไปจากที่นี่ทันที หลังจากผ่านรอยแยกอวกาศมาได้ หวังหลินจึงมาถึงยอดภูเขาที่อยู่ใต้เขตอาคมแห่งเวลาและนั่งลงทันที

แสงเจ็ดสีตกลงมาจากฟากฟ้าแต่มันเริ่มบิดเบือนไปราวกับถูกเผาไหม้ มันถูกบังคับให้ถอยกลับมาจากอุณหภูมิของเปลวไฟที่อยู่ในตัวหวังหลิน

ดวงตาซ้ายหวังหลินปลดปล่อยเปลวเพลิงอันน่าตื่นตะลึง เปลวเพลิงนี้คราแรกเป็นสีแดง แต่ในไม่นานมันก็เปลี่ยนกลายเป็นสีขาวซึ่งทำให้ดวงตาซ้ายหวังหลินแทบกลายเป็นสีขาวล้วน!

วิหคเพลิงกำลังจะได้รับการตื่นขึ้นครั้งที่สาม! หลังจากดูดซับขนนกในเพิ่งหลายและกลืนกินจิตวิญญาณวิหคบรรพชนของเผ่านกกระจอกเพลิง การตื่นครั้งที่สามก็มาถึง!

จังหวะนี้แสงเจ็ดสีได้ถูกผลักดันกลับไปอย่างต่อเนื่อง แพร่กระจายคลื่นความร้อนโดยมีหวังหลินเป็นจุดศูนย์กลาง เขตอาคมแห่งเวลาได้ฟื้นฟูมาแล้วแต่เนื่องด้วยผนึกมันจึงทำให้อุณหภูมิที่นี่รุนแรงยิ่งขึ้น!

เพราะสีแดงเข้มรอบตัวหวังหลินดูดซับคลื่นความร้อนจากร่างกาย เปลวเพลิงมหึมาเต็มไปทั่วรอบด้าน เปลวเพลิงเหล่านี้ดูเหมือนกำลังจะแข่งขันกับสวรรค์!

วิหคเพลิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมเปลวไฟทั้งหมดในโลก ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหนแต่ตำนานบอกว่าตอนที่สร้างโลกขึ้นมามันมีอยู่ห้าธาตุ วิหคเพลิงจุติมาจากธาตุอัคคี!

วันนี้ ไม่ว่าตำนานจะเป็นจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งสำคัญก็คือเผ่าวิหคเพลิงที่คงอยู่มานับตั้งแต่ยุคโบราณ พวกถือกำเนิดมาจากเปลวเพลิงและไม่มีวันมอดดับ!

เผ่าพันธุ์นี้บ่มเพาะพลังของเปลวเพลิงและมีอักขระวิหคเพลิงบนร่างกาย ทุกครั้งที่อักขระตื่นขึ้นนั่นหมายถึงเปลี่ยนแปลงของวิหคเพลิงและเป็นตัวแทนของพลังอำนาจแห่งไฟสั่นสะเทือนสวรรค์ ในยุคโบราณนั้นสายเลือดวิหคเพลิงที่ได้รับการตื่นครั้งแรกไม่ได้หายากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนื่องด้วยสายเลือดที่เจือจางลง ยิ่งมีคนได้รับการตื่นน้อยลงไปเรื่อยๆ

คงไม่ต้องเอ่ยถึงคนที่ได้รับการตื่นครั้งที่สอง แม้แต่ในยุคโบราณยังหาได้ยากมากและกระทั่งตอนนี้ถือว่ายากยิ่งกว่า ใครก็ตามที่ได้รับการตื่นขึ้นครั้งที่สองถือได้ว่าทำให้สมาชิกเผ่าวิหคเพลิงตื่นตะลึงกันทุกคน

แต่เมื่อเทียบกับการตื่นขึ้นครั้งที่สาม มันเหมือนกับเอาหิ่งห้อยมาเทียบกับแสงจันทร์ การตื่นครั้งที่สามดูเหมือนจะหายไปจากบันทึก มีเพียงยุคโบราณแรกเริ่มที่ดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์อันสูงส่งจนบรรลุขอบเขตนี้ได้! ทว่าไม่มีใครรู้ว่ามีจริงหรือไม่

คนที่ได้รับการตื่นครั้งที่สามเป็นเสมือนกับจิตวิญญาณแห่งไฟของโลกใบหนี้และสามารถควบคุมเปลวเพลิงได้ทั้งหมด!

นาทีนี้หวังหลินกำลังจะผ่านการตื่นขึ้นครั้งที่สาม อุณหภูมิเปลวไฟข้างในเขตอาคมก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อากาศข้างในเริ่มแตกตัวราวกับไม่สามารถทนต้านเปลวเพลิงได้

เกราะวิหคเพลิงดูเหมือนหลอมละลายเนื่องจากไม่สามารถทนต้านทานความร้อนจากร่างหวังหลิน ชุดเกราะหลอมกลายเป็นของเหลวแต่ไม่ได้ตกลงไปแต่ถูกร่างหวังหลินดูดซับไปแทน

ทะเลเพลิงจากร่างหวังหลินเพิ่มพูนขึ้นจนเต็มไปทั่วบริเวณข้างในเขตอาคม ตอนแรกเปลวเพลิงเป็นสีแดง แต่ขณะที่มันเผาไหม้ไป เปลวเพลิงข้างในเขตอาคมได้เปลี่ยนเป็นสีขาว!

เพลิงสีขาวบรรจุพลังอำนาจทำลายล้างโลกเอาไว้ วินาทีที่ปรากฏขึ้นมามันทำให้ควันสีดำจำนวนมากที่ก่อเกิดจากใต้ภูเขาได้ถูกหล่อหลอมเอาไว้ ก่อนที่ควันจะแพร่กระจายออกไปได้ มันสลายไปเนื่องจากเจอผลกระทบของเปลวเพลิง

เห็นเพียงอย่างเดียวตอนนี้คือภูเขาหดลงและเริ่มแตกสลาย รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนประตูหินบนภูเขา หญิงสาวชุดเขียวสั่นเทาและถูกเปลี่ยนกลายเป็นควัน นางหายไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งที่ตกตะลึงยิ่งกว่าคือเรื่องที่เกิดขึ้นกับวิญญาณอสูรที่ถูกแสงเจ็ดสีผนึกเอาไว้ แสงบางส่วนแตกสลายไป วิญญาณอสูรข้างในถูกเผาไหม้จนตาย ทว่าเจตจำนงแห่งเต๋าของอสูรตัวนั้นไม่ได้หายไปด้วย และมันผสานเข้ากับเปลวไฟ!

เป็นผลให้เปลวเพลิงดูเหมือนจะแฝงเจตจำนงเอาไว้! ไม่ใช่มีเพียงแค่หนึ่งแต่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ทว่าในท้ายที่สุดทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่อยู่ใต้การควบคุมของหวังหลิน!

ในขณะนั้นภูเขาก็พังทลายย่อยยับอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งก้อนหินดินทรายยังถูกเผาไหม้จนไม่เหลืออะไรเลย มีเพียงวิญญาณอสูรระดับสิบสองและสิบสามเท่านั้นที่โชคดีเอาตัวรอดได้เนื่องจากแสงเจ็ดสีรอบตัว

จังหวะภูเขาพังทลาย อุณหภูมิก็บรรลุถึงจุดสูงสุดใหม่ ภายใต้ผลกระทบรุนแรงของเปลวเพลิง จุดที่อ่อนแอที่สุดของเขตอาคมแห่งเวลาซึ่งเป็นรอยร้าว ในที่สุดตรงจุดนั้นก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและฉีกขาดออกจากกัน เปลวเพลิงดูเหมือนจะหาที่ระบายและพรั่งพรูออกไปจากรอยร้าวทันที วินาทีนั้นมันก็เริ่มเผาไหม้เขตอาคมไปด้วย

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เขตอาคมแห่งเวลาเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเปลวเพลิงและแตกสลายทันที!

โลกสั่นสะท้าน! เปลวเพลิงจำนวนมากพรั่งพรูออกมาแพร่กระจายไปทั่วดินแดนเจ็ดสี ในภูเขาส่วนลึกของดินแดน ชายชราผมขาวพลันลืมตาตื่นและเต็มไปด้วยอาการตกใจ เขารีบลุกขึ้นมาและมองไปทางที่หวังหลินอยู่!

ในดาราจักรโบราณ ในพระราชวังแห่งหนึ่งที่ลอยอยู่ท่ามกลางดวงดาวไร้ขอบเขต ไม่มีแสงส่องสว่างอยู่เลย หินหยกก้อนหนึ่งลอยเรืองแสงอ่อนๆจุดขึ้นในอาราม

อารามแห่งนี้เงียบสงัดจนน่าหวาดกลัว ทว่าวินาทีนั้นมีแสงเทียนหนึ่งจุดขึ้นมา เปลวเพลิงสั่นไหวทำให้อารามผลัดเปลี่ยนระหว่างแสงสว่างและมืดมิด นี่ยิ่งทำให้ดูน่ากลัวยิ่งกว่า

“ยิ่งเปลวไฟรุ่งโรจน์มากเท่าไหร่ วิญญาณก็ยิ่งจะอร่อยมากขึ้นเท่านั้น…” เสียงพึมพำดังก้องพร้อมกับนิ้วมือเหี่ยวย่นปรากฏขึ้นข้างๆเปลวไฟและชี้เข้าใส่ ทำให้เปลวไฟเผาไหม้ส่องสว่างยิ่งกว่าเดิม ทว่าตำแหน่งเจ้าของนิ้วนั้นอยู่ที่ไหนสักแห่งแม้แต่เทียนก็มิอาจส่องถึง

“เจ้าไม่กลัวว่าเปลวเพลิงรุ่งโรจน์นี้จะเผาไหม้นิ้วเจ้าหรือ?” น้ำเสียงที่สองดังออกมาในอาราม คำพูดจาดูหนาวเย็นยิ่ง

“ก็อาจจะ…” นิ้วยื่นเข้าไปในเปลวไฟ ยอมให้เทียนเผาไหม้…

ขณะเดียวกันส่วนลึกในดินแดนเจ็ดสี ชายชราหรี่ตาแคบ ดูเหมือนได้รับคำสั่งมาและพุ่งเข้าหาตำแหน่งของหวังหลิน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!