1322. การเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
วันเวลาผ่านไป สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านบนพื้นดิน ต้นไม้ใบหญ้าฟื้นคืนกลับมาและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมฟุ้งเต็มบรรยากาศ แม้กระทั่งท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าครามสวยงาม
หวังหลินตื่นขึ้นจากการบ่มเพาะหลายเดือนเพื่อทำความเข้าใจการผสาน
เมื่อใช้วิชาเต๋าผสาน วิชาบิดมิติของหวังหลินจึงผสานกับโลกและตัวเอง เขาได้ใช้เคลื่อนที่พริบตาทับซ้อนกับอวกาศเพื่อผลักดันวิชาบิดมิติให้สู่การเปลี่ยนแปลงถัดไป
วินาทีที่ลืมตาขึ้นมา ก้อนเมฆเคลื่อนผ่านสายตา ดวงตาบรรจุท้องฟ้าสีครามและดวงดาวด้วยตัวเอง
ข้อเสียของบิดมิติคือความไม่แน่นอนก่อนจะผสานกับโลกซึ่งทำให้พลังดั้งเดิมและขัดขวางการใช้งาน ขณะที่หวังหลินทำการผสานมันต่อไป เขาค่อยๆจำลองข้อเสียนั้นขึ้นมา
ใช้ร่างกายตนเองเป็นโลกเพื่อกระตุ้นบิดมิติให้ผสานกับโลก ตราบใดที่ร่างกายเขาคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อนั้นถึงแม้พลังดั้งเดิมข้างนอกจะปั่นป่วน มันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้วิชาบิดมิติ
การเปลี่ยนแปลงในวิชานี้เป็นสิ่งที่หวังหลินเตรียมการกับตัวเองเป็นการเฉพาะ เขายกแขนขึ้นมาโบกสะบัด อากาศรอบๆภูเขาเริ่มบิดเบี้ยวและเกิดระลอกคลื่น แม้แต่แสงอาทิตย์ยังพังทลายก่อนจะมาถึงที่นี่
ราวกับมันเหมือนอดีตที่ผ่านมา เขาคงไม่สามารถใช้บิดมิติได้ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ตอนนี้ดวงตาหวังหลินส่องสว่างและก้าวเท้าออกไปข้างหน้า
เสี้ยววินาทีนั้นร่างกายเปลี่ยนเป็นโปร่งใสและหายวับไป
ครู่ต่อมาหวังหลินปรากฏตัวตรงจุดที่หายไป ดวงตาเผยความสุขและนั่งลงอีกครั้ง สะบัดแขนเสื้อให้พลังปั่นป่วนหายไป ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ แสงไม่พังทลายอีกแล้ว
“วิชานี้สมบูรณ์ขึ้นมาส่วนหนึ่ง การผสานกับร่างกายข้าช่วยแก้ไขข้อเสียเล็กน้อยแต่มันจำเป็นต้องใช้พลังดั้งเดิมของข้า โดยข้าสามารถใช้มันได้หลายสิบครั้ง แต่หลังจากนั้นต้องรีบฟื้นฟูพลังดั้งเดิมให้เร็ว ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นมันก็ยังเป็นการประยุกต์ที่ดีเยี่ยม มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถป้องกันไม่ให้ข้าใช้วิชานี้ได้”
หวังหลินพึมพำกับตัวเองพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า สายตาคล้ายเจาะทะลวงท้องฟ้าไปสู่นอกเผ่าแพรฟ้า หลังจากผ่านไปสักพักหวังหลินจึงถอนสายตาออกมา
วิชายับยั้งอยู่กับเขามาเกือบค่อนชีวิตและหกวิชาของป๋ายฟ่านก็ช่วยเขามาหลายครั้ง รวมถึงสองวิชาที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง และยังมีวิชาประทับพลิกสวรรค์และวิชาโล่แสงเงาของปรมาจารย์เต๋าความฝันอีก
‘ด้วยการช่วยเหลือของปรมาจารย์เต๋าความฝัน เรียกขานสายลมและอัญเชิญสายฝนจึงผสานกันกลายเป็นโลกที่สามารถทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน…แต่ด้วยการผสานของสองวิชานี้…หากข้าสามารถผสานวิชาไสยเวทย์เข้าไปด้วย พลังของมัน…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง หัวใจเต้นระรัว
เขายกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่ท้องฟ้า ดวงตาปลดปล่อยแสงประหลาด วังวนที่เกิดขึ้นจากการผสานวิชาเรียกขานสายลมและอัญเชิญสายฝนพลันปรากฏขึ้นมา
วังวนทรงกลมนี้ไม่ใหญ่มากแต่หากเซียนคนใดเห็นมันคงรู้สึกราวกับว่ามีโลกอยู่ภายใน วังวนทรงกลมเป็นเหมือนปากที่จะเริ่มกลืนกินทุกอย่างหลังจากปรากฏออกมา
เมื่อมันเปิดใช้งาน มันจะมีโลกของตัวเอง!
ปรมาจารย์เต๋าความฝันช่วยหวังหลินสร้างขึ้นมา มันสมบูรณ์แบบไร้ข้อเสียและมีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่!
“ไสยเวทย์!!” หวังหลินอ้าปากพ่นตราประทับผนึกเทพออกมา เสียงคำรามดังกึกก้อง หวังหลินโบกแขนเสื้อปรากฏแสงกะพริบและดวงวิญญาณรบนับไม่ถ้วน
คลื่นเสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วท้องฟ้า เหล่าวิญญาณรบอันดุร้ายปลดปล่อยกลิ่นอายเหี้ยมโหด มีหลายดวงมาจากดาราจักรโบราณ นอกจากเซียนหลายร้อยที่คุ้มกันนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึกแล้วยังมีพวกคนของเผ่าจันทราและคนอื่นที่หวังหลินกลืนกินระหว่างทางด้วย!
เหล่าเซียนดาราจักรโบราณทั้งหมดต่างมีอักขระกะพริบอยู่กลางหน้าผาก ตอนนี้พวกเขาปรากฏขึ้นมาเป็นวิญญาณรบมันซึ่งอาจทำให้ใครที่มองดูอยู่ตกตะลึง!
หวังหลินจ้องมองผู้คนที่ถูกเขาสังหารตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสองพันปี หวังหลินยกแขนซ้ายขึ้นและรีบสร้างผนึกใส่บนวิญญาณแต่ละดวง
ตราประทับผนึกเทพเริ่มกะพริบรวดเร็วและเริ่มผสานกับวังวนทรงกลม ตอนแรกมันยังดีอยู่ แต่ครู่ต่อมามีสัมผัสการต่อต้านเกิดขึ้น! เหมือนน้ำกับไฟที่ไม่สามารถผสานกันได้เลย
หวังหลินขมวดคิ้วพ่นแกนพลังดั้งเดิมออกมาจากปาก จากนั้นใช้สัมผัสวิญญาณห่อหุ้มรอบวังวนทรงกลมและตราประทับผนึกเทพ บังคับพวกมันให้ผสานกัน
ด้วยแกนวิญญาณดั้งเดิมและสัมผัสวิญญาณ การต่อต้านของวังวนทรงกลมและตราประทับผนึกเทพจึงถูกระงับเอาไว้และให้ทั้งสองเริ่มผสาน หวังหลินจ้องมองการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง วันเวลาดำเนินผ่านไปและทั้งสองจึงค่อยๆผสานกันอย่างช้าๆ
ขณะที่หวังหลินเริ่มจะผ่อนคลาย สีหน้าท่าทางพลันเปลี่ยนไป เขาถอยร่นโดยไม่ลังเลและเริ่มสะบัดแขน สร้างม่านป้องกันขึ้นหลายชั้น
วินาทีที่วังวนทรงกลมผสานกับตราประทับผนึกเทพนั้นเกิดการกะพริบปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้าง จากนั้นมันก็ระเบิด!
หวังหลินถอยออกมาได้ไกลแล้ว สะบัดแขนใช้พลังทั้งหมดเพื่อห้ามการระเบิด ขณะเดียวกันก็ดึงเอาวังวนทรงกลมที่กำลังพังทลายออกมาและใช้บิดมิติตรงๆไปปรากฏตัวในอวกาศสุดเขตชายแดนเผ่าแพรฟ้า!
วินาทีที่ปรากฏตัวอีกครั้ง หวังหลินหยุดวังวนไม่ได้อีกแล้ว มันเปลี่ยนกลายเป็นพายุ ส่งเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งพื้นที่ดวงดาว
ทั้งคลื่นกระแทกและเสียงคลื่นจากแรงระเบิดพัดใส่ร่างหวังหลินและเกิดพลังทำลายล้างเกินกว่าจินตนาการ สัมผัสแห่งความตายไหลท่วมความคิดหวังหลิน เขาสะบัดแขนโดยไม่ลังเลทำให้แสงมากมายรวมกันมาจากทุกทิศทาง
เงาแสงยักษ์ปรากฏขึ้นมารอบตัวหวังหลิน เมื่อพลังทำลายล้างมาถึงจึงปะทะกับเงาแสง
เสียงดังสนั่นกึกก้อง แรงปะทะสั่นสะเทือนปฐพี วินาทีนั้นกลิ่นอายทำลายล้างพุ่งหาหวังหลิน แต่เมื่อเผชิญกับเงาแสงรอบตัว เงาแสงเรืองแสงทรงพลังและสะท้อนพลังนั้นออกไปโดยไม่คาดคิด!
การสะท้อนและหักเหของแสง!
ด้วยพลังสะท้อนนี้ พลังทำลายล้างที่มาถึงจึงสะท้อนกลับไปในอวกาศไร้ขอบเขต ออกไปนอกเผ่าแพรฟ้า
เสียงดังสนั่นกึกก้องต่อเนื่อง ใช้เวลากว่าสิบห้านาทีจึงหายไปหมด เงาแสงหายไปและหวังหลินเผยรอยยิ้มบิดเบี้ยว เบื้องหน้าเขามีวังวนทรงกลมและตราประทับผนึกเทพที่แยกกันแล้ว มันกำลังเรืองแสงน่ากลัว
‘การผสานค่อนข้าง…อันตรายเกินไป’ หวังหลินยิ้มบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิม ไม่คาดคิดว่าการบังคับผสานจะสร้างผลกระทบที่น่าตกตะลึงเช่นนี้
แต่หากเขาล้มเลิกตอนนี้มันคงน่าเสียดาย หวังหลินจ้องมองทรงกลมวังวนด้วยแววตาไม่เต็มใจ วินาทีต่อมาดวงตาส่องสว่างและกลืนกินตราประทับผนึกเทพเข้าไป ยื่นแขนขวาให้วังวนทรงกลมลอยเข้ามาและบีบมันหายไป
ขณะเดียวกันแสงน่ากลัวกะพริบรอบตัวหวังหลินและล้อมรอบร่างกาย เพียงแค่คิดแสงก็พรั่งพรูแพร่กระจายอย่างบ้าคลั่งโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง พริบตานั้นมันก็แพร่กระจายออกไปหมื่นฟุต!
ทุกอย่างภายในระยะหมื่นฟุตดูเหมือนจะแยกขาดจากภายนอก ราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง! ความจริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเรียกขานสายลมสร้างท้องฟ้าและอัญเชิญสายฝนสร้างพื้นดินก่อเกิดเป็นโลกของตัวเอง!
ภายในพื้นที่ระยะหมื่นฟุตไม่มีพลังดั้งเดิม มีเพียงความต้องการของหวังหลินเท่านั้น! ภายในระยะหมื่นฟุตนี้เขาเป็นจ้าวของโลกแห่งนี้!
‘ในเมื่อข้าไม่สามารถบังคับมันผสานได้ เช่นนั้นข้าจะลองวิธีอื่น!’ ภายในโลกเขตหมื่นฟุต หวังหลินอ้าปากให้ตราประทับผนึกเทพลอยออกมา
วินาทีที่ตราประทับผนึกเทพลอยออกมา เกิดพลังการต่อต้านอันแข็งแกร่งที่เทียบเท่าพลังต่อต้านจากภูเขาฟ้า ภายใต้พลังต้านทานจนพื้นดินแตกสลายนี้ เกิดเสียงปะทุดังกึกก้องราวกับตราประทับผนึกเทพไม่สามารถทนรับได้อีกต่อไป…มันเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาโดยไม่คาดคิด!
สิ่งนี้ทำให้แววตาหวังหลินเกิดความลังเล ยิ่งรอยแตกร้าวผุดขึ้นมามากขึ้น วิญญาณนับไม่ถ้วนภายในจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนราวกับพวกมันถูกบังคับให้ถึงกาลอวสาน!
ตราประทับผนึกเทพถูกหลอมจากชิ้นส่วนแดนสวรรค์และหล่อหลอมด้วยทัณฑ์สวรรค์จนมันแทบจะทำลายไม่ได้ ทว่าภายใต้พลังต่อต้านนี้จึงเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาและเผยทีท่าจะแตกสลาย
สิ่งนี้ทำให้หวังหลินตกตะลึงมหาศาล! เขารู้สึกชัดเจนว่าพลังต้านทานที่ทำให้ตราประทับแตกสลายไม่ได้แข็งแกร่งเกินไป แต่ดูเหมือนจะมีขีดจำกัดอยู่บางส่วน ขีดจำกัดที่ป้องกันไม่ให้ตราประทับผนึกเทพคงอยู่สถานที่แห่งนี้! นับประสาอะไรกับการผสาน!
‘เรียกขานสายลมและอัญเชิญสายฝนมีอำนาจของข้า ตราประทับผนึกเทพก็มีอำนาจของข้าเช่นกัน แต่ทั้งสองไม่สามารถผสานกันได้! ข้าไม่เชื่อ!!’ สายตาหวังหลินมุ่งมั่นและทำให้โลกหดเล็กลงโดยไม่ลังเล!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดึงกึกก้องรวดเร็ว ขณะที่โลกหดลง รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนตราประทับยิ่งขึ้นจนกระทั่งมันแตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน
เขตอาคมนับไม่ถ้วนในชิ่นส่วนที่แตกสลาย ไม่คาดคิดว่า…มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกไปด้วย!
สิ่งที่หวังหลินตกตะลึงก็คือวิญญาณรบนับไม่ถ้วนที่เขาเคยสังหารไปได้แตกสลายกลายเป็นเศษชิ้นส่วนมากมาย…
…………………………….