1386. รวบรวมสมบัติ
หวังหลินไม่เคยคิดว่าจะได้มาเจอทันหลางในดาราจักรโบราณ! ในความทรงจำของเขา ทันหลางควรจะตายไปแล้วด้วยอสรพิษพิฆาตจันทร์!
เมื่อหวังหลินเห็นทันหลางแม้จะมีความคิดมั่นคงยังต้องตะลึงไปชั่วจังหวะ
พอได้เจออีกครั้ง ทันหลางก็หนีไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งเหล่าเซียนนับพันให้ตกตะลึง
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ด้วยระดับบ่มเพาะของทันหลางจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทะลวงผ่านค่ายกลดินแดนปิดผนึก แต่ก็ยังมาอยู่ที่นี่ตอนนี้!
ความเร็วของทันหลางนับว่ารวดเร็วมหาศาลจนแม้แต่หวังหลินยังตกตะลึง พริบตาเดียวเขาก็หนีไปจากดาวเคราะห์ ไม่มีเวลาแม้แต่เก็บสมบัติตัวเอง
มนุษย์ไม้ยักษ์ที่สร้างขึ้นจากป่าไม้ถึงกับยืนนิ่ง หลังจากสูญเสียการควบคุมของทันหลางไปมันจึงไม่มีพลังทำลายล้างอันใดอีก
เบื้องหน้ามนุษย์ไม้ยักษ์มีเตาหลอมอยู่ด้วย มันปลดปล่อยกลิ่นอายเก่าแก่ สมบัติกลิ่นอายความน่ากลัวได้โดยไม่ต้องเข้าใกล้
อีกด้านหนึ่งยังมีหอกที่สร้างขึ้นจากสายหมอก มันไม่ได้สร้างรูปร่างขึ้นอย่างสมบูรณ์ มันกำลังเปลี่ยนจากหอกกลายเป็นหมอก จากนั้นกลับเป็นหอกอีกครั้ง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างน้อยนับร้อยครั้งในช่วงเวลาหนึ่งลมหายใจ
ยังมีแผ่นหินจารึกขนาดใหญ่เก้าชิ้นที่ดูเหมือนจะก่อตัวเป็นค่ายกล พวกมันเปล่งแสงชั่วร้ายและมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง กระบี่เหินเก้าสิบเก้าเล่มหมุนวนรอบบริเวณ เสียงหวีดหวิวของปราณกระบี่ทำให้ดูเหมือนมังกรมากมายกำลังโคจรรอบๆ
หวังหลินกวาดสายตาผ่านสมบัติทั้งหมด สูดหายใจลึกและหรี่ตาลง
‘ทันหลาง…ไม่ได้เจอกันมาหลายปี เขาได้สมบัติทรงพลังมามากมาย!’ หวังหลินไม่แม้แต่มองเซียนนับพันเบื้องหน้า สองฝ่ามือยื่นลงไปอย่างรุนแรง
ฝ่ามือยักษ์ปกคลุมท้องฟ้าและตกลงไป กระบี่เก้าสิบเก้าเล่มเริ่มสั่นไหว ฝ่ามือมีพลังดึงดูดอันรุนแรงและดูดซับกระบี่ทั้งหมดเอาไว้!
หลังจากคว้ากระบี่มาได้ หวังหลินอ้าปากพ่นแก่นพลังดั้งเดิมออกมา พลังกวาดชำระกระบี่ดุจสายลม ประทับสัมผัสวิญญาณของทันหลางพังทลายอย่างรวดเร็ว
ห่างออกไปไกลจากดาวเคราะห์เซียน ทันหลางกำลังหนีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขาตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่
ตอนที่เห็นหวังหลิน ไม่มีความคิดอะไรอยู่ในหัวเลย ไม่มีแม้แต่ความคิดว่าจะหลบหนี ความหวาดกลัวหวังหลินปะทุขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและจึงหลบหนีสุดกำลังทันที
เขากลัวว่าถ้าช้าเกินไป สมบัติทั้งหมดคงถูกหวังหลินขโมยไปทีละชิ้น
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากเขาหลบหนีมาจึงมีท่าทีสงบนิ่ง หยุดตัวลง สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
‘ข้าตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า สมบัติของข้าก็ทรงพลังยิ่งกว่าก่อนและข้าสามารถต่อสู้ได้แม้แต่เซียนขั้นทะลวงสวรรค์! หวังหลินนั่นก็แค่เด็กน้อย แต่ทำไมข้าต้องหนี!?’ ทันหลางกัดฟันแน่นและนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ความโกรธลุกโชนขึ้นในใจ เขาไม่ได้โกรธหวังหลินแต่ว่าโกรธตัวเอง!
‘ข้าจะไม่วิ่งหนีอีกแล้ว ข้าจะไปฆ่าหวังหลินและแก้แค้น!’ จิตสังหารผุดขึ้นในแววตา เขาหันกลับมา กำลังจะกลับ
ทว่าขณะนั้นสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปมหาศาล ร่างกายสั่นเทา รูม่านตาหดลง
‘สัมผัสวิญญาณบนกระบี่เก้าสิบเก้าเล่มถูกลบออกไปด้วยกำลัง!! บัดซบ หวังหลินมีระดับบ่มเพาะอะไรกันถึงสามารถลบสมบัติวิญญาณของข้าได้?!’ ทันหลางชะงัก สีหน้ามืดมนดั่งแม่น้ำ เขานึกถึงฝันร้ายในอดีตอีกครั้ง
ความคิดหลายอย่างแล่นในแววตาและพุ่งไปหาหวังหลิน…ทว่าเขาไปได้เพียงสามก้าวก่อนจะหยุดตัวลง ใบหน้าซีดเผือดและเต็มไปด้วยความตกใจ
‘สัมผัสวิญญาณของกระดูกจารึกทั้งเก้าก็…โดนลบไปด้วย!! ข้าพบจารึกด้านนอกสุสานลึกลับและมันไม่มีประทับสัมผัสวิญญาณไว้มาหลายหมื่นปี สัมผัสวิญญาณข้าผสานกันอย่างสมบูรณ์ คนธรรมดาไม่สามารถลบไปได้ง่ายๆ …นี่…มันลบสัมผัสวิญญาณข้าในเวลาสั้นๆ ได้อย่างไรกัน!?’
ทันหลางเริ่มลังเล เขามีความรู้สึกว่าระดับของหวังหลินไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว!
‘ข้าเกลียดตัวเองที่หนีมาเร็วเกินไป ข้าไม่มีเวลาตรวจสอบระดับบ่มเพาะของหวังหลินด้วยซ้ำ…อย่างไรก็ตามถึงแม้มันจะเอาแผ่นหินจารึกและกระบี่เหินไป ข้ายังมีเตาหลอมจักรพรรดิและหอกสายหมอกมารกับจิตวิญญาณไม้ฝังสวรรค์! มันไม่สามารถเอาไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แน่!’ ทันหลางมีท่าทีดุดันพลางเหาะเหินไปตามทางที่ออกมา
ทว่า…หลังจากผ่านไปเพียงสามลมหายใจ เสียงปะทุดังขึ้นในร่างทันหลาง เขากระอักโลหิต ใบหน้าขาวซีด ท่าทีเปลี่ยนไป!
‘หอกสายหมอกมาร…โดนเอาไปแล้ว!!’ ทันหลางถึงกับหวาดหวั่นและหวาดกลัวจนท่วมจิตใจ ตอนนี้เขาไม่คิดจะไปสร้างปัญหากับหวังหลินแล้ว ความคิดหนีผุดขึ้นในใจอีกครั้ง
ทันหลางหันตัวกลับและหนีออกไปด้วยความเร็วมากกว่าเก้าสิบเท่าโดยไม่ลังเล!
“จะจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหน!! เจ้าหวังหลินบัดซบ!!!” คำพูดของทันหลางเต็มไปด้วยความขมขื่น ไม่เต็มใจอย่างรุนแรงและความโกรธ แต่กระนั้นมีสัมผัสของ…ความรู้สึกว่าบางอย่างผิดพลาด!
เขาหนีออกมาจากอสรพิษพิฆาตจันทร์จนเกือบตายและเจอกับโอกาสอันยิ่งใหญ่ เขาได้สมบัติที่ทรงพลังมามากขึ้นและคิดว่าสามารถสั่นคลอนโลกได้
ทว่าก่อนที่จะมีชีวิตที่แสนสุข กลับได้เผชิญหน้ากับหวังหลินอีกครั้ง ทันหลางรู้สึกเศร้าออกมาจากใจ ส่งเสียงคำรามออกมาพลางหลบหนี!
หลังจากผ่านไปหลายลมหายใจ ร่างกายกรีดสั่นเทา ส่งเสียงคำรามและกระอักโลหิตอีกครั้ง พลางหนีด้วยร่างกายที่ไม่มั่นคง
‘บัดซบ!!! ขโมยเตาหลอมจักรพรรดิของข้าไปอีก!!! เตาหลอมจักรพรรดิของข้า!!’ หัวใจกระตุก ราวกับมีมือยื่นเข้าไปในหน้าอกและเอาก้อนเนื้อออกมา
‘ข้าไม่ควรเอาสมบัติมากมายออกมาอวดเผ่าเมฆาคลาดเลย! หากข้าเอาออกมาแค่ชิ้นเดียวหรือไม่เอาออกมาเลย…’ ทันหลางเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปพลางหนีด้วยสีหน้าซีดเซียว
เขาหนีรวดเร็วมาก ไม่นานก็ออกมาไกลจากดาวที่หวังหลินอยู่ เขาเหาะเหินเข้าไปในส่วนลึกของดินแดนตกสวรรค์
บนดาวของเผ่าแมงป่องทมิฬ แขนยักษ์ของหวังหลินกวาดผ่านไป หลังจากได้แผ่นหินจารึกทั้งเก้า หอกสายหมอกและเตาหลอมขนาดใหญ่ สายตาจึงตกลงบนมนุษย์ต้นไม้ที่อยู่บนพื้น
‘สมบัติของทันหลางทรงพลังยิ่งกว่าเดิมมาก แค่กระบี่เหินเก้าสิบเก้าเล่มก็แข็งแกร่งกว่าผู้คนของดินแดนสังหารแล้ว! อีกทั้งแผ่นจารึกทั้งเก้านี้สร้างขึ้นมาจากกระดูกและมีกลิ่นอายทรงพลังอีก!’
‘สิ่งสำคัญยิ่งคือหอกสายหมอกที่มีกลิ่นอายของมารโบราณ กลิ่นอายเก่าแก่มากและอาจอยู่มานานหลายหมื่นปี…หรือมากกว่านั้น!’
‘ส่วนเตาหลอม ของชิ้นนี้ไม่ใช่ของธรรมดาเลย วิธีที่ทันหลางประทับสัมผัสวิญญาณใส่ลงไปนับว่าผิดพลาดโดยสิ้นเชิง เหมือนกับเตาหลอมเทพโบราณ เขาแค่ควบคุมการทำงานหลักๆ บางส่วนได้เท่านั้น ของชิ้นนี้เกี่ยวข้องกับปีศาจโบราณอีก! แม้จะไม่มีพลังปีศาจ แต่ข้าสัมผัสได้เลือนรางว่ามันเกี่ยวข้องกับพวกปีศาจโบราณ!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างพลางควบคุมฝ่ามือให้ยื่นหามนุษย์ต้นไม้ที่ยืนอยู่นิ่งๆ
เมื่อฝ่ามือหวังหลินยื่นใส่มนุษย์ต้นไม้ เสียงดังกึกก้องแต่ต้นไม้ยืนนิ่งไร้อาการบาดเจ็บ มือที่หวังหลินสร้างขึ้นมากระเด็นกลับไปและเกิดพลังสีเขียวโผล่ออกมาจากต้นไม้ ภายใต้แรงกระแทกนี้ ฝ่ามือที่หวังหลินสร้างขึ้นมาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ !
แววตาหวังหลินเกิดความสุขทันที ไม่คาดคิดว่ามนุษย์ต้นไม้จะมีความสามารถป้องกันขนาดนี้ ฝ่ามือนั่นมากพอจะฆ่าเซียนขั้นทลายสวรรค์ได้แล้ว ไม่เพียงแต่ต้นไม้จะไม่ได้รับความเสียหาย มันยังตอบโต้คืนได้อีก!
ต้องกล่าวว่าไม่มีใครควบคุมเหล่าสมบัติ หากมีคนควบคุมอยู่ พลังอำนาจของสมบัติก็คงเพิ่มขึ้น!
‘สมบัติส่วนใหญ่ของข้ามาจากทันหลาง ทันหลางเป็นคนโชคดีจริงๆ และสวรรค์อวยพรเลยด้วยซ้ำ สมบัติของเขามากพอจะต่อกรเซียนส่วนใหญ่ได้เลยทีเดียว!’ หวังหลินพ่นแก่นพลังดั้งเดิมออกมาให้ล้อมรอบมนุษย์ต้นไม้ จากนั้นหวังหลินสะบัดแขนเสื้อเก็บมนุษย์ต้นไม้เข้าไปในมิติเก็บของ
หลังจากทำเรื่องทั้งหมดนี้ เขามองเซียนนับพันที่ตกตะลึงและหวาดกลัวการกระทำของเขา หวังหลินพ่นลมหายใจเย็นและยกแขนขวาขึ้นมาเผยเป็นหินหยกอาญาสิทธิ์
“มีใครรู้จักสิ่งนี้บ้าง?”
ชายชราหนึ่งในนั้นเห็นหินหยกถึงกับตกตะลึงด้วยสายตาไม่เชื่อทันที เขามองดูใกล้ๆ ก่อนที่ใบหน้าจะซีดขาวและร้องอุทาน “อาญาสิทธิ์จักรพรรดิ!”
“ก่อนข้ากลับมา จะไม่มีใครออกไปไหนได้ทั้งนั้น พวกเจ้าทั้งหมดรออยู่ที่นี่!” หวังหลินเอ่ยเสียงเย็นชาดังกึกก้องพร้อมกับชี้ไปที่จงต้าหงที่กำลังตื่นเต้นไม่ไกลและเอ่ยขึ้น “ทำตามคำสั่งเขา!”
หลังจากทิ้งคำสั่งเอาไว้ หวังหลินพุ่งเข้าไปในท้องฟ้า ปรากฏระลอกคลื่นจากนั้นก้าวเท้าและหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
…………………………………………..