Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1416

Cover Renegade Immortal 1

1416. วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สามผู้ทรยศ

ภายในบททดสอบสวรรค์ หวังหลินจ้องมองรูปปั้นยักษ์และดวงตาส่องสว่าง

รูปปั้นนี้ประหลาดเกินไป ไม่ว่าหวังหลินจะมองดูอย่างไรก็ดูไม่เหมือนคนแต่กลับดูเหมือนมันถูกสร้างมาจากวิหคศักดิ์สิทธิ์

หลังจากขบคิดเล็กน้อย หวังหลินคำนับฝ่ามือให้กับรูปปั้น โค้งตัวเบื้องหน้า เอ่ยขึ้นว่า “ผู้น้อยวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่หก ขอคารวะบรรพชน”

เพลิงเก้าสีกลางหน้าผากของรูปปั้นส่งเสียงคำรามรุนแรงและพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ลำแสงเปล่งออกมาจากตารูปปั้น

“ผ่านการตื่นครั้งที่สี่โดยไร้สายเลือดอันแข็งแกร่ง เจ้าทำได้เยี่ยมมาก…” น้ำเสียงทรงอำนาจดังกึกก้อง

“ผู้น้อย…” หวังหลินท่าทีสงบนิ่งและกำลังจะเอ่ย

“เจ้าสามารถถามคำถามในการทดสอบได้ ข้าบาดเจ็บสาหัสและสัมผัสวิญญาณไม่ได้ตื่นมานาน ทุกการคงอยู่ได้ห้าลมหายใจ เจ้าสามารถถามได้หนึ่งคำถาม!” ตอนที่ขัดหวังหลิน น้ำเสียงเอ่ยอย่างไร้อารมณ์ความรู้สึก

เพลิงเริ่มโหมบนแขนที่หวังหลินยืนอยู่ เปลวเพลิงเปลี่ยนจากมีรูปลักษณ์ไปเป็นเพลิงไร้ลักษณ์ ทุกการเปลี่ยนแปลง พลังอำนาจของเพลิงจะเพิ่มขึ้น

“นี่ไม่ใช่เพลิงไร้ลักษณ์ แต่เป็นเพลิงในใจข้า ในอดีตมันเป็นที่รู้จักในชื่อเพลิงไร้ขอบเขตวิหคศักดิ์สิทธิ์”

ตอนที่หวังหลินกำลังได้รับประสบการณ์ในบททดสอบ กลิ่นอายเก่าแก่โผล่ออกมาจากสุสานบัญชาโบราณได้ยืดยาวออกมาจากรอยแยกอวกาศขนาดพันฟุต กลิ่นอายนี้ผสานกับดาราจักรโบราณและเริ่มดึงฝุ่นผงที่แทบมองไม่เห็นใกล้ๆเข้าไป

ฝุ่นผงรวมตัวกันมากขึ้นจนก่อเกิดเป็นพายุรอบๆรอยแยก มองไกลๆมันเหมือนกลุ่มควันที่กำลังหมุน

พายุลูกนี้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมันสั่นสะเทือนพื้นที่ดวงดาว

พลังน่ากลัวโผล่ออกมาจากพายุ ทำลายทุกอย่างรอบๆ ดาวเคราะห์รกร้างใกล้เคียงถูกดึงเข้าไปด้วยพลังดึงดูด พวกมันถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆในพายุและกลายเป็นส่วนหนึ่งไปด้วย

ในดาราจักรโบราณทางทิศเหนือมีดาวเคราะห์เซียนสิบเก้าดวงเรียงกันเป็นแนวยาว ดาวเคราะห์ดวงที่สิบซึ่งอยู่ใจกลางดูเหมือนเป็นมหาสมุทรทั้งหมด เหมือนเป็น ดาวแห่งสายน้ำ

มีเซียนคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ก้นมหาสมุทร

เขาดูแก่มาก เส้นผมสีขาวโพลน ทุกครั้งที่หายใจ มหาสมุทรจะร้องคำราม คลื่นถูกซัดออกไปทุกทิศทาง

วินาทีที่สุสานบัญชาโบราณเปิดขึ้นและเกิดพายุ ชายชราลืมตาขึ้นมา ดวงตาลึกล้ำราวกับมหาสมุทร

‘มีบางอย่างผิดปกติ!’ ชายชราดวงตาส่องสว่าง ขบคิดเล็กน้อยและเกิดความลังเล

‘ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าบนดาวมหาจักรพรรดิ ข้ายังทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นข้าจะจัดการทีหลัง…ร่างอวตาร รีบกลับมาตรวจสอบพายุนั่น ดูว่ามันคืออะไร!’

ชายชราคนนี้คือหนึ่งในห้าปรมาจารย์ เป็นร่างดั้งเดิมของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน ชายหนุ่มบนดาวมหาจักรพรรดิเป็นแค่หนึ่งในสามของร่างอวตารหลัก!

ขณะเดียวกันภายนอกดินแดนตกสวรรค์ อสูรรูปทรงไข่ขนาดเท่าดาวเคราะห์เซียนกำลังเข้าใกล้อย่างช้าๆ ชายชราที่นั่งอยู่บนหลังมีรอยใบหน้าหยินหยาง ดวงตากำลังหลับสนิท แต่ทันใดนั้นลืมตาขึ้นมามองออกไปไกลด้วยสายตาแปลกประหลาด

“นี่มัน…” ก่อนจะพึมพำตัวเองจบ อสรพิษพิฆาตจันทร์ข้างใต้พลันสั่นเทาและมองออกไปไกล ในสายตามีความตื่นเต้นและความหวาดกลัว มันอ้าปากเพื่อปลดปล่อยเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์

ชายชราใบหน้าหยินหยางเกิดความลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนทิศทางและบังคับเจ้าอสรพิษมุ่งหน้าไปหาตำแหน่งของสุสานบัญชาโบราณ

ณ ดาวมหาจักรพรรดิ ทุกคนกำลังจ้องมองก้านธูปสวรรค์แต่กลับมีชายหนุ่มท่าทีเปลี่ยนไป เขาคำนับมือไปที่วิหครุ่นที่สองและยิ้มขึ้น “สหาย ข้ามีเรื่องเร่งด่วน ดังนั้นข้าจะไม่เฝ้าดูพิธีนี้แล้ว ลาก่อน!”

เช่นนั้นเขาหันตัวกลับและก้าวเท้า ร่างเปลี่ยนกลายเป็นละอองแสงและหายไป

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง สีหน้าท่าทางของเซียนขั้นที่สามทั้งหมดเปลี่ยนไป

ปรมาจารย์เต๋าความฝันหรี่ตาและมองขึ้นไป ขบคิดเล็กน้อยจากนั้นคำนับฝ่ามือให้วิหครุ่นที่สอง “เรื่องนี้ประหลาด ข้าจำเป็นต้องออกไปตรวจสอบ” หลังกล่าวจบเขามองหลี่เฉียนเหมยและถอนหายใจ สะบัดแขนเสื้อ แสงสีฟ้าล้อมรอบทั้งสองก่อนจะหายวับไป

ชายชราบนหลังกิ้งก่าก็เช่นกัน สายตาเผยแสงประหลาด ปากที่ถูกปิดผนึกด้วยเข็มกำลังบิดเบี้ยว จากนั้นคำนับฝ่ามือให้กับวิหครุ่นที่สองแต่ไม่ได้เอ่ยคำใด แขนขวาตีใส่กิ้งก่า มันทะยานออกไปพร้อมกับเสียงซี่ๆ

ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วและปรมาจารย์ซือโม่มองหน้ากันเอง นางคำนับฝ่ามือและกำลังจะเอ่ย แต่กลับมีควันโผล่ออกมาจากก้านธูปสวรรค์!

“ก้านธูปสวรรค์เผาไหม้แล้ว!!”

“เขาจุดก้านธูปสุดท้ายได้เร็วยิ่ง!”

“ข้าสงสัยว่าจักรพรรดิน้อยคนที่สามจะอยู่ได้กี่นานแค่ไหน สามารถเหนือล้ำกว่าจักรพรรดิน้อยคนที่สองได้หรือไม่?”

สายตาเซียนรอบด้านรวมกันบนก้านธูปสวรรค์ แม้กระทั่งยอดปรมาจารย์หยุนลั่วที่กำลังจะจากไปยังต้องมอง

ก้านธูปสวรรค์เริ่มเผาไหม้ ควันเริ่มปลดปล่อยออกมามากขึ้นราวกับคบเพลิงที่กำลังปลดปล่อยความร้อน มันกำลังเผาไหม้ลงอย่างรวดเร็ว

หนึ่งลมหายใจ สองลมหายใจ สามลมหายใจ…ในบททดสอบสวรรค์ หวังหลินยังคงนั่งอยู่ในฝ่ามือและมีเพลิงเก้าสีกำลังเผาไหม้รอบตัว มองไกลๆดูเหมือนฝ่ามือกำลังถือก้อนเปลวเพลิง

วินาทีที่เพลิงปรากฏ มันบรรจุพลังทำลายล้างอันน่ากลัวเข้าไปด้วย สามลมหายใจผ่านไปในพริบตาแต่เพลิงที่หวังหลินรู้สึกกลับมีความร้อนที่มิอาจอธิบายได้

เขารู้สึกว่าตนเองกำลังอยู่ในเตาหลอมที่กำลังถูกคนอื่นหลอม เป็นความรู้สึกที่หนาแน่นและเพลิงก็พรั่งพรูขึ้นเรื่อยๆ

ทุกลมหายใจ เพลิงจะเปลี่ยนรูปร่างไปเก้าครั้ง ดังนั้นทุกลมหายใจ พลังของ เปลวเพลิงจะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล

สามลมหายใจ เพียงแค่สามลมหายใจก็ทำให้หวังหลินรู้สึกเหมือนกำลังแตกสลายไปแล้ว

บททดสอบนี่มันเป็นแบบไหน? เปลวเพลิงพยายามหลอมวิญญาณเขา!

หวังหลินสัมผัสได้ชัดเจนว่าถ้าไม่ใช่เขาได้ผ่านการตื่นครั้งที่สี่และกำเนิดเพลิงไร้ลักษณ์ขึ้นในร่างกาย วิญญาณเขาคงมอดไหม้ไม่มีเหลือเพียงแค่สามลมหายใจ

บนดาวมหาจักรพรรดิ ร่างเขาเริ่มสั่นเทา เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงหน้าผาก ทว่าเหงื่อกลับเปลี่ยนเป็นหมอกควันในทันที

ร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยเหล็กร้อนที่กำลังถูกความร้อนทำลายจากภายใน!

ภายในบททดสอบสวรรค์ หวังหลินหน้าซีด สีหน้าท่าทางไม่เคารพอีกแล้ว กลายเป็นดุร้ายขึ้นแทน เขาร้องคำรามพลางใช้ฝ่ามือสร้างผนึก เปลวเพลิงเก้าสีพุ่งออกมาจากตาซ้าย จากนั้นเปลวเพลิงเก้าสีออกมาจากร่าง เขากำลังใช้ไฟต้านกับไฟ

เสียงดังสนั่นกึกก้องอยู่ในฝ่ามือยักษ์ สี่ลมหายใจ ห้าลมหายใจ!

บนดาวมหาจักรพรรดิ เหล่าเซียนกำลังจ้องมองร่างหวังหลิน วินาทีนี้ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยหมอกควันจากเหงื่อของตัวเอง พอถึงลมหายใจที่ห้า หมอกก็พังทลายไป

การเผาไหม้จากก้านธูปสวรรค์หยุดชะงักหลังจากก้านธูปไหม้ไปแล้วครึ่งนึง

หวังหลินอยู่ได้ห้าลมหายใจ เขาร้องคำรามขึ้นทันที “เผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์อยู่ใน ดาราจักรโบราณ ทำไมถึงมีเผ่านกกระจอกเพลิงได้?”

“ศัตรูได้ทำให้วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สามคิดทรยศ เขาขโมยสมบัติและหนีไปสร้างเผ่านกกระจอกเพลิง ข้าถูกผนึกอยู่ที่นี่ดังนั้นจึงไม่สามารถออกไปชำระล้างได้! อีกทั้งตัวตนของเผ่านกกระจอกเพลิงก็ดีสำหรับข้า” น้ำเสียงนั้นตอบอย่างง่ายๆและจากนั้นเกิดความเงียบอีกครั้ง

เปลวเพลิงรอบหวังหลินเพิ่มขึ้น เพลิงจากบรรพชนเปลี่ยนกลายเป็นพายุเพลิง

หวังหลินถูกพายุเพลิงโหมกระหน่ำ เพลิงเก้าสีรอบตัวแตกสลาย ความเจ็บปวดรุนแรงท่วมเข้าใส่เขาพลางกระอักพลังวิญญาณออกมา ใบหน้าซีดเซียวดุจคนตาย

อาการบาดเจ็บในวิญญาณพุ่งขึ้นในร่าง บนดาวมหาจักรพรรดินั้นร่างกายเขาสั่นเทาและมีโลหิตไหลออกมาจากมุมปาก ทว่าก่อนที่มันจะหยดลงบนพื้น มันถูกเผาไหม้และหายกลายเป็นควันสีดำ

หลังเป็นพยานเหตุการณ์นี้ สายตาของวิหครุ่นที่สองยิ่งเคร่งเครียดและมีท่าทีมืดมนยิ่ง

‘หรือว่าบรรพชนรุ่นแรกได้ใช้เพลิงไร้ขอบเขตวิหคศักดิ์สิทธิ์ในการทดสอบ!! เป้าหมายของบททดสอบสวรรค์ควรจะทำให้เขาได้รับโชคอันยิ่งใหญ่ การทำแบบนี้หมายความว่าอะไร!?’

ปรมาจารย์ซือโม่ดวงตาส่องสว่างและเผยอาการประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะมองยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว นางกัดริมฝีปากและหรี่สายตา นางต้องการทำนายแต่เมื่อนึกถึงสายตาของหวังหลิน ความคิดสั่นเทาและไม่กล้าลอง

หกลมหายใจ…เจ็ดลมหายใจ…แปดลมหายใจ…ภายใต้ก้านธูปสวรรค์ โลหิตไหลออกมาจากปากหวังหลิน ผิวหนังเริ่มแห้ง แม้แต่โลหิตยังเริ่มเดือด ราวกับโลหิตของเขากำลังระเหยจากความร้อนที่ออกมาจากวิญญาณ

วิญญาณหวังหลินในบททดสอบสวรรค์กำลังกัดฟันแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยว เปลวเพลิงจากวิหครุ่นแรกไม่ได้เป็นเก้าสีอีกแล้วแต่กลับวุ่นวาย อุณหภูมิข้างในถึงขีดจำกัดของหวังหลิน

ภายใต้ความร้อนหนาแน่นนี้ ความเจ็บปวดเสมือนคลื่นทะเล มันรุนแรงยิ่งกว่าบททดสอบมนุษย์และบททดสอบปฐพี!

“นี่คือการทดสอบ?” หวังหลินพลันมองขึ้นไปจ้องรูปปั้นวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรก ในสายตามีความโกรธเกรี้ยวและมีอักขระสายฟ้าผุดขึ้นในตาขวา!

สายฟ้าดังสนั่นข้ามผ่านโลกและเกิดสายฟ้าไร้ขอบเขตขึ้นในบททดสอบสวรรค์ สายฟ้ามากมายรวมกันในตาขวาและมีอักขระสายฟ้าปรากฏขึ้นรอบร่าง

วินาทีที่อักขระสายฟ้าปรากฏขึ้นมา ต้องขอบคุณสายฟ้ารอบๆหวังหลินจึงทำให้เขาผ่านลมหายใจที่เก้าและสิบไปได้!!

……………………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!