1427. แกะสลักความปรารถนา
“จำไว้ว่า อย่าใช้วิชานี้จนกว่าจะถึงคราวจำเป็นเท่านั้น!” วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองมองดูด้วยท่าทีเคร่งเครียด หลังกล่าวจบจึงสูดหายใจลึกและสร้างผนึกประหลาดด้วยสองมือ
เพลิงไร้ลักษณ์โผล่ออกมาจากกลางหน้าผากและเข้าสู่ผนึก ทำให้ผนึกกะพริบสีแดง พวกมันผสานกันกลายเป็นกระดูกเพลิงยาวสิบฟุต
มันอาจจะไม่เรียกว่ากระดูกแล้วแต่มันเหมือนกิ่งไม้แต่เรียบรื่นกว่า
สายตาวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นสองเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม สองฝ่ามือสร้างผนึกอีกและเริ่มมีเส้นบางๆปรากฏ เส้นบางๆไม่ได้ล้อมรอบกระดูกเพลิงแต่ยื่นยาวออกจากส่วนปลาย
ของที่สร้างด้วยวิชาของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองดูค่อนข้างประหลาด ราวกับกระจายกระดาษน้ำมันอยู่ตรงกลางเส้น ค่อนข้างคล้ายกับร่มที่ใช้ในวันฝนตก
หวังหลินจ้องมองอย่างตั้งใจ เขาเห็นวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองสร้างผนึกที่แตกต่างกันสองชุด ผนึกชุดแรกสร้างมาจำนวน 999 ชิ้นในพริบตา กลุ่มที่สองกลับมีมากกว่าเพราะเขาสร้างขึ้นทั้งสิ้น 9,999 ในพริบตาเช่นกัน!
ไม่มีแม้แต่เพียงเสี้ยวพลังดั้งเดิมผันผวนออกมา ก้อนเมฆไม่กระจัดกระจาย รอบด้านเงียบสงัด
ราวกับไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง
หลังเสร็จสิ้นผนึกไปสองชุด วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นสองยิ่งเคร่งเครียดกว่าเดิม เขาสูดหายใจลึก ดวงตาเผยแสงประหลาด สองฝ่ามือร่วมกันสร้างผนึกและจากนั้นมีแสงแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง ทะลุผ่านทะเลสาบออกไป
ฝ่ามือของรุ่นที่สองรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม สร้างผนึกทีละชิ้นไม่มีหยุด หนึ่งร้อย หนึ่งพัน หนึ่งหมื่น หนึ่งแสน…รวดเร็วจนเห็นแต่เพียงภาพพร่ามัว!
ฝ่ามือของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองรวดเร็วยิ่งจนมิอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากใครใช้สัมผัสวิญญาณ คงถูกหยุดด้วยพลังลี้ลับ
วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองร้องคำราม จำนวนผนึกในฝ่ามือทะลุเกินหลักล้าน ขณะเดียวกันผนึกก็สร้างพายุขึ้นมาพุ่งเข้าใส่กระดูกเพลิง!
พริบตาเดียวพายุก็เข้าผสานกับกระดูกเพลิงและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
หวังหลินสูดหายใจลึกและมองขึ้นไป รูม่านตาหรี่แคบทันที
พายุดูเหมือนก่อเกิดเป็นร่มขนาดยังที่ยังไม่ได้กางออก! เพลิงจำนวนมากก่อเกิดเป็นมังกรเพลิงมากมายเข้ารายล้อมมัน!
ทั่วทั้งท้องฟ้าถูกเหล่ามังกรเพลิงครอบครอง พวกมันล้อมรอบร่มและร้องคำราม ซึ่งมองเห็นได้จากทุกที่บนดาวมหาจักรพรรดิ!
“ร่มบรรพกาลเผาดินแดน!” วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองส่งเสียงร้องคำราม พายุพลันหยุดหมุนและนิ่งงันอยู่กลางอากาศ!
แรงกดดันหนักหน่วงค่อยๆตกลงมาจากฟากฟ้า พืชพันธุ์โค้งงอและหมอกน้ำจำนวนมากผุดขึ้นมา เหล่าปลาในทะเลสาบเวียนว่ายอย่างรวดเร็วและเกิดฟองขึ้นบนผิวทะเลสาบ
บนพื้นดินเกิดรอยแตกระแหง
เหล่าเซียนทั้งหมดที่เห็นเหตุการณ์นี้รู้สึกเหมือนโลหิตในร่างกำลังเดือดจนแห้ง
ท้องฟ้าเกิดการบิดเบือนราวกับไม่สามารถทนต่อพายุได้ การบิดเบือนดำเนินต่อไปจนแพร่กระจายปกคลุมเกือบครึ่งดินแดนตกสวรรค์!
เหล่าดาวเคราะห์ทั้งหมดที่ถูกห่อหุ้มในระยะของมันถึงกับแสดงอาการแห้งแล้ง ราวกับสัญญาณแห่งการทำลายล้างกำลังใกล้เข้ามา
วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองหายใจลำบากเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการที่เขาใช้วิชานี้มีความเคร่งเครียดอย่างสูง
“กลุ่มแรกมี 999 ผนึก กลุ่มที่สองมี 9,999ผนึกและกลุ่มที่สามและสี่ต่างก็มี 990,000 ทั้งคู่!”
“เจ้าต้องสร้างผนึกทั้งหมดนี้ภายในระยะเวลาเก้าลมหายใจ แต่ละผนึกต้องบรรจุพลังงานหยางในวิญญาณดั้งเดิมเข้าไปด้วย จากนั้นเอ่ยบทร่ายพิเศษ เจ้าจึงจะสามารถสร้างวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ วิชาร่มบรรพกาลเผาดินแดน!!”
“หากผิดพลาดระหว่างการสร้างผนึก ผลกระทบที่ตามมาเป็นสิ่งที่เกินจะคาดคิด แม้ด้วยขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลางของข้ายังบาดเจ็บสาหัส หากไม่ใช่เซียนธาตุเพลิงแล้วทำผิดพลาด คงตายแน่!”
“วิชานี้ส่งต่อมาจากราชันย์สวรรค์โบราณ ครั้งหนึ่งข้าได้ยินมาจากบรรพชนที่กลับไปในบ้านเกิด ราชันย์สวรรค์โบราณใช้วิชานี้และทำลายทั้งดินแดนของผู้คนหมื่นล้าน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงชื่อว่า เผาดินแดน!”
“มันคือวิชาที่ทรงพลังที่สุดในมือของราชันย์สวรรค์โบราณ ข้าไม่รู้ว่าวิชานี้คือ วิชาเต๋าด้วยหรือไม่ แต่บรรพชนกล่าวว่าร่มสามารถเปิดได้เก้าครั้ง แต่ละครั้งคงทำลายได้หนึ่งโลก!”
“ตอนนั้น ราชันย์สวรรค์โบราณเปิดร่มไปแปดครั้งเพื่อทำลายดินแดน! เขาเองก็ไม่กล้าเปิดร่มในครั้งที่เก้า! บรรพชนรุ่นแรกอยู่ในขั้นวิบากดับสูญระดับต้นและสามารถเปิดมันได้แค่ห้าครั้งเท่านั้น! ส่วนข้าเนื่องจากยังมีวิญญาณหยางสมบูรณ์ครบถ้วน ข้าสามารถใช้หยางของตนเองเปิดมันได้สองครั้งด้วยขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลาง!”
“ข้าไม่ควรส่งต่อวิชานี้ให้เจ้า เพราะมันอันตรายเกินไปและผิดพลาดเพียงครั้งเดียวคงนำหายนะมาให้! บรรพชนกล่าวว่าวิชานี้ไม่สมบูรณ์เพราะท่านราชันย์สวรรค์โบราณเรียนรู้มาจากคนอื่น แต่ในเมื่อเจ้ามีความเข้าใจอันสูงส่ง เจ้าสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง!”
คำพูดของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นสองดังกึกก้องพร้อมกับหวังหลินที่จ้องร่มในท้องฟ้า ความคิดสั่นไหวด้วยคำพูดของรุ่นที่สอง!
เดิมทีเขาคิดว่าวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองส่งวิชาเต๋ามาให้ เขาไม่เคยคิดไม่เคยคาดฝันว่าจะได้เรียนรู้วิชาที่เหนือคำบรรยายขนาดนั้น!
“เปิดร่มไปแปดครั้งทำลายโลกหมื่นล้านคน…นี่…ยังถือว่าเป็นวิชาอยู่อีกหรือ?”
ลมหายใจวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นสองยิ่งกระชั้นชิด เขาสะบัดแขนทำให้พายุหยุดสั่นเทาและเริ่มสลาย
“ข้าสามารถทำให้เจ้าเห็นได้เท่านั้นและไม่สามารถเปิดได้ หากมันถูกเปิดขึ้นมาคงจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลที่นี่!” วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตที่มีระดับบ่มเพาะขั้นแก่นแท้ดับสูญเข้าใส่พายุ โลหิตเปลี่ยนกลายเป็นหมอกมหึมาเข้าผสานกับพายุและค่อยๆทำให้มันหายไป
จนกระทั่งเจ็ดนาทีต่อมาพายุจึงหายไป ดาวมหาจักรพรรดิค่อยๆกลับคืนสู่ปกติ อาการบิดเบือนค่อยๆฟื้นฟู
แม้จะไม่ได้ยาวนานนักแต่กลับทำให้หวังหลินด้านชา ดวงตาส่องสว่าง แม้วิชานี้จะไม่ได้เปิดใช้แต่หวังหลินกลับสัมผัสความแข็งแกร่งมันได้ จิตใจหวังหลินกำลังเต้นระรัว
วิหคศักดิ์สิทธิ์ผ่อนคลายลงเมื่อดวงดาวกลับคืนสู่ปกติ เขาสะบัดแขนส่งหินหยกก้อนหนึ่งเข้าหาหวังหลิน
“หินหยกก้อนนี้บรรจุผนึกทั้งหมดและวิธีการเปิดร่ม รีบจดจำมันไว้และเมื่อไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วก็จงทำลายหินหยก!” หลังจากวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองกล่าวจบ เขานั่งหลับตาลงและเริ่มบ่มเพาะ
หวังหลินรับหินหยกไว้และจ้องเข้าไป ฉากเหตุการณ์ที่วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองแสดงวิชาขึ้นมาผุดขึ้นในใจเขา หวังหลินสนใจยิ่ง!
ในชีวิตเขา หวังหลินค่อนข้างสนใจวิชาหรือสมบัติได้ยากมาก เขาบ่มเพาะเขตอาคมมาตลอดชีวิตและเชี่ยวชาญ สำหรับคนทั่วไปแล้วการสร้างผนึกเกือบๆสองล้านชิ้นนับเป็นงานที่ยากมาก
อีกทั้งภายในเก้าลมหายใจถือว่าสั้นเกินไป!
อย่างไรก็ตามตอนที่หวังหลินอยู่ในขั้นแกนลมปราณ เขาเองก็คุ้นชินกับการสร้างผนึกอย่างรวดเร็วแล้ว เขตอาคมบางส่วนสามารถแตกหักได้ในเสี้ยววินาที ดังนั้นผนึกจำนวนมากจำเป็นต้องสร้างขึ้นด้วยระยะเวลาอันสั้น
จุดแรกที่คนส่วนใหญ่เผชิญจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหวังหลิน! สิ่งที่หวังหลินตกตะลึงจริงๆก็คือเรื่องที่วิหครุ่นที่สองเผยเกี่ยวกับร่มบรรพกาลเผาดินแดน!
“จากราชันย์สวรรค์โบราณลอบเรียนรู้มันมา มันจึงไม่สมบูรณ์…” หวังหลินสูดหายใจลึกและแววตาเกิดความหวาดหวั่น
หากเรื่องนี้เป็นความจริงนั่นหมายความว่ามันน่าตกตะลึงเกินไป
“วิชานี้…ใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา…จักรพรรดิสวรรค์โบราณลอบเรียนรู้มาจากไหน…หากแค่ขโมยมา วิชาที่ไม่สมบูรณ์นี้มีพลังมากพอทำลายดินแดน หากมันสมบูรณ์เล่า…” หวังหลินเงยศีรษะขึ้นมองไปบนท้องฟ้าอย่างเงียบงัน เขารู้สึกเหมือนตนเองเป็นคนธรรมดาที่กำลังมองฟ้าและรู้สึกตัวเล็กกระจ้อยร่อย
“ระดับบ่มเพาะของข้าจะนับเป็นสิ่งใดได้…โลกนี้กว้างใหญ่แค่ไหน? อะไรอยู่นอกโลกใบนี้…” หลังจากนั้นหวังหลินสูดหายใจลึกและมีสายตามุ่งมั่นเต็มเปี่ยม
ยิ่งเขารู้เยอะก็ยิ่งรู้สึกตัวเองเล็กน้อย แต่หวังหลินไม่ยอมแพ้ กลับจุดปะทุความต้องการฝืนลิขิตฟ้าขึ้นในใจ!
“ข้าเองก็ทำได้เช่นกัน!”
“ข้าหวังหลิน ทำมันได้!”
“ทำไมข้าจะทำไม่ได้ หวังหลินทำได้เช่นกัน!”
ในโลกนี้มีคนที่เลือกจะเป็นคนธรรมดา บางคนกลายเป็นเทพ บางคนต่ำกว่าคนอื่น ทุกสิ่งล้วนต่างกัน ในโลกนี้มีความไม่ยุติธรรมมากมายแต่ขณะเดียวกันมันก็เท่าเทียม!
“ในเมื่อมีคนสามารถสร้างวิชาแบบนี้ขึ้นมาได้และบ่มเพาะจนถึงระดับเหนือจินตนาการ เช่นนั้นข้าหวังหลินก็สามารถทำได้เช่นกัน! แม้ข้าจะขาดแคลนพรสวรรค์ ข้าจะไม่กลายเป็นหินรอคอยโอกาส!”
“วันนี้ข้าได้เรียนรู้วิชาเผาดินแดนซึ่งถูกคนอื่นสร้างขึ้นและต่อมาจักรพรรดิสวรรค์โบราณขโมยมา ในอนาคต…ข้าอยากให้คนอื่นเรียนรู้วิชาของข้า!” ท่าทางหวังหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่ได้ร้องคำรามหรือคร่ำครวญ มีเพียงเสียงเงียบๆที่ดังสะท้อนอยู่ในใจ!
บางทีนี่คือความปรารถนาของเขา!
หวังหลินกุมมือ ส่งความคิดเข้าไปในหินหยก แกะสลักผนึกมากมายไว้ในใจรวมถึงวิธีการเปิดร่มด้วย!
หินหยกเปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าในฝ่ามือและพัดปลิวไปกับสายลม ขี้เถ้าลอยออกไปไกลเป็นตัวแทนถึงความปรารถนาของหวังหลินที่กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ…
…………………………