1455. กระบวนท่าสังหาร
เขาใช้แก่นแท้เสียงในการทะลวงเปิดประตูดับสูญและบรรลุขั้นที่สาม จากนั้นหลอมดาราจักรพันดาวโบราณและเจอกับโชคลาภมหาศาลจนทำให้เขาได้แก่นแท้วารีมา แม้จะไม่สมบูรณ์นักแต่การผสานของทั้งสองแก่นแท้ก็มากพอจะทำให้เขาสั่นสะเทือนสวรรค์!
นี่คือหนึ่งในห้ายอดปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน!
ตอนนี้เกล็ดสีม่วงส่วนใหญ่บนร่างกายได้พังทลาย ร่างกายมีแต่โลหิต สีหน้าท่าทางเกรี้ยวกราดและเปล่งเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์พร้อมกับถอยไปด้วย
นี่คือช่วงจังหวะความเป็นความตายของเขา!
“เฒ่าพิษเดียวดาย คำสาบานของเจ้าอยู่ในมือข้า ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะจัดการพลังสะท้อนของเพลิงนรกานต์ได้อย่างไร!!” ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินสะบัดแขนและนำอักขระเวทย์ที่สร้างขึ้นจากคำสาบานของเฒ่าพิษเดียวดายออกมา
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินบีบมันให้แตกจนเป็นละอองแสง
เฒ่าพิษเดียวดายถึงกับหน้าซีดทันทีและกระอักโลหิต ทว่าเขาดูไม่อ่อนแอลงแต่ยิ้มออกมา “วิธีบ่มเพาะของข้าต่างจากพวกเจ้า ข้าขโมยโชคชะตาตัวเองมาจากสวรรค์ แค่คำสาบานเพลิงนรกานต์จะทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร? แค่โลหิต คำเดียวก็มากพอแล้ว!”
วินาทีที่เฒ่าพิษเดียวดายกระอักโลหิต ร่างดั้งเดิมด้านนอกสุสานก็กระอักโลหิตไปด้วย แม้ดาวรกร้างที่เขาอยู่จะมีสิ่งมีชีวิต ภูเขาและแม่น้ำ ทุกอย่างกลับแห้งเหี่ยวไปทันทีที่เขากระอักโลหิตออกมา ราวกับดาวเคราะห์นั้นสูญสิ้นชีวิตและกลายเป็นดาวแห่งความตาย
ณ สุสานโบราณ เฒ่าพิษเดียวดายสะบัดแขนให้ประทับฝ่ามือพุ่งใส่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน พริบตานั้นทั้งห้านิ้วก็เปลี่ยนแปลงไป
นิ้วชี้กลายเป็นตะขาบสีดำหนวดยาว ร่างกายบิดเบี้ยวและน่าเกลียดน่ากลัว มันส่งเสียงร้องคำรามออกมาทันที
อีกสี่นิ้วที่เหลือกะพริบวาบในเวลาเดียวกันและเปลี่ยนกลายเป็นอสรพิษสีดำเขาเดียว แมงมุมดำยักษ์และหางแมงป่องที่ดูราวกับสามารถทะลวงอากาศได้
นิ้วโป้งเปลี่ยนกลายเป็นคางคกดูน่ากลัว ด้านหลังคางคกมีแต่ตุ่มก้อนๆที่เต็มไปด้วยพิษเกินจินตนาการ
พิษทั้งห้ารูปแบบพลันพุ่งเข้าหาปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินโดยมีเฒ่าพิษเดียวดายอยู่ตรงกลาง ฝ่ามือเขาสร้างผนึกขึ้นและพ่นพิษออกไปจากปาก อย่างไรก็ตามมันไม่ได้พุ่งออกไปแต่เข้าไปบนหน้าเฒ่าพิษเอง รูปลักษณ์ของเขาจึงเริ่มเปลี่ยนไป
ใบหน้ากลายเป็นสีดำและเหลืองราวกับกำลังเน่าสลายและมีกลิ่นเหม็น จากนั้นใบหน้าเปลี่ยนไปจนกลายเป็นรูปลักษณ์ของร่างดั้งเดิม
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล เข็มสามเล่มเจาะอยู่ในริมฝีปาก สายตาเยือกเย็นภายใต้เส้นผมยุ่งเหยิง!
“สี่หมื่นปีที่แล้ว ข้าหลอมเทพเดียวดายสามตนให้กลายเป็นเข็มและผนึกไว้ใน ริมฝีปากของข้า วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าทำไมข้าต้องผนึกปากเอาไว้! สามเทพ จงปลดปล่อย!” เฒ่าพิษเดียวดายร้องคำราม เข็มทั้งสามเล่มหลุดออกจากปากและพุ่งตรงมาทันที
พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงทั้งสามสายยิงตรงเข้าใส่ปรมาจารย์เมียวหยิน!
ขณะที่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินล่าถอย เขาสะบัดแขนจนเกิดเสียงดังลั่นในอากาศรุนแรง เพียงชั่วเวลาสั้นๆนั้นเสียงนี้กลับเข้าทับเสียงทุกอย่างในโลก
มหาสมุทรสีม่วงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเช่นกัน คลื่นเสียงกระแทกจนดังกึกก้อง!
การผสมผสานของแก่นแท้เสียงและแก่นแท้วารีจนกลายเป็นมหาสมุทรได้ทำให้มหาสมุทรร้องคำรามออกมา! เสียงคำรามของมหาสมุทรคือเสียงของมหาสมุทรแห่งสวรรค์! เสียงนี้ขยายออกไปมากมายหลายเท่าจนทรงพลังมากพอทำลายล้างสวรรค์ เสียงนี้ทำให้ดินแดนผนึกถึงกับพังทลาย!
แม้กระทั่งเซียนเกือบร้อยคนบนพื้นก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ขณะที่มหาสมุทรร้องคำราม ทั้งหมดกรีดร้องโหยหวนพร้อมกับร่างกายพังทลายไปทีละคน
ดินแดนผนึกเกิดการสลายและพังทลายในพริบตา หมอกจำนวนมากพุ่งเข้ามาและผสานกับมหาสมุทร
หวังหลินตอบสนองได้เร็วมาก เมื่อปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินใช้วิชา เขาจึงรวบรวมเหล่าอสูรยุงทั้งหมด จากนั้นทะยานออกไปข้างหน้าและเริ่มโจมตีขนาบทั้งสองด้านพร้อมเฒ่าพิษเดียวดาย!
เขาพุ่งไปใส่เมียวหยิน แสงกะพริบรอบตัวเขาเพื่อกีดกันเสียงออกไป ดวงตากะพริบเปลวเพลิงและสายฟ้าเพื่อขัดขวางพลังของเสียงคำรามมหาสมุทร
“โลกมหาสมุทร! จงเปิด!” ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินร้องคำราม รอยแยกยาวหลายร้อยฟุตปรากฏขึ้นด้านหลัง!
ในรอยแยกมีอีกหนึ่งมิติแต่ข้างในกลับไม่มีดวงดาว มันเป็นมหาสมุทรสีม่วงที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต ทั้งหมดคือวิญญาณเพลิงนรกานต์ของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน!
ตอนที่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินใช้วิชาของตนเอง เขายื่นมือออกไปด้านหลังทำให้รอยแยกเพิ่มขนาดขึ้นสิบเท่า มันขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขต ไปไกลกว่าดินแดนผนึกแห่งนี้
คลื่นเสียงของมหาสมุทรนั้นสั่นสะเทือนสวรรค์ ในรอยแยกอวกาศมีมหาสมุทรกำลังสร้างคลื่นสูงหลายร้อยฟุต เหล่าวิญญาณเพลิงนรกานต์หลายร้อยล้านดวงพุ่งออกมาจากรอยแยกเข้าหาเฒ่าพิษเดียวดาย
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา มหาสมุทรสีม่วงปะทะกับห้าพิษของเฒ่าพิษเดียวดายภายใต้เสียงคำรามมหาสมุทร
เสียงดังสนั่นกึกก้องอย่างบ้าคลั่ง ดินแดนผนึกแห่งนี้พังทลายจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเป็นส่วนหนึ่งของทะเลหมอก สายหมอกถูกดันกลับไปทุกทิศทาง
ร่างเฒ่าพิษเดียวดายกำลังจะจมลงไปในมหาสมุทรสีม่วง เขาพ่นลมหายใจ ดังสนั่น แสงสีม่วงแกมดำพุ่งออกมาจากปากเฒ่าพิษเดียวดาย
มันคือลิ้นของเขา!
ลิ้นที่ไม่ควรเป็นของมนุษย์ มันเป็นสีม่วงแกมดำและปะทะเข้ากับมหาสมุทรสีม่วง เฒ่าพิษเดียวดายร้องคร่ำครวญในลำคอ มหาสมุทรสีม่วงพุ่งผ่านลิ้นเขาไปและกระแทกใส่ร่างกาย จากนั้นเฒ่าพิษกระอักโลหิต ร่างกายแตกสลาย!
ปรากฏดวงวิญญาณและล่าถอยทันที
ขณะเดียวกันมหาสมุทรม่วงก็เปลี่ยนสี หลังจากสัมผัสเข้ากับลิ้นจึงทำให้มันเปลี่ยนเป็นสีดำราวกับน้ำหมึกและมีกลิ่นเหม็นโชยออกมา มหาสมุทรเพลิงนรกานต์ได้เปลี่ยนกลายเป็นมหาสมุทรพิษ!
ในมหาสมุทรมีห้าพิษที่เกือบพังทลายทั้งหมด พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นควันสีดำห้าสายและพุ่งผ่านมหาสมุทรเข้าหาปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน
พริบตาเดียวปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินก็กระอักโลหิตและรีบล่าถอย เข็มทั้งสามพุ่งแทงเข้าใส่กลางหน้าผาก!
เข็มทั้งสามแทงเข้าใส่หน้าผากได้ครึ่งด้าม จากนั้นเกิดระลอกคลื่นสีดำกระจายออกมา รอบๆหน้าอกเขายังมีควันสีดำห้าสายซึ่งเปลี่ยนกลายเป็นพิษทั้งห้าและ แทรกซึมเข้าสู่ร่าง
มหาสมุทรเพลิงนรกานต์เกิดการปนเปื้อนและเขาเองจึงถูกพิษไปด้วย อย่างไรก็ตามเขาได้ทำลายร่างกายหยาบของอีกฝ่ายไปแล้วจนเหลือแต่เพียงวิญญาณเท่านั้น นี่ถือเป็นชัยชนะของเขาแล้ว!
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีหวังหลินอยู่ จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันขึ้นทันที!
หวังหลินเตรียมพร้อมมาตลอดเวลา ดวงตาเปล่งประกายเย็นเยียบ ขณะที่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินล่าถอย ทั้งสองก็ใกล้กันมากขึ้น!
พริบตานั้นเหลือระยะห่างเพียงไม่กี่ร้อยฟุต ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินกระอักโลหิตต่อไปและหันกลับมาทันที เขาสะบัดแขนขวาและแยกร่างออกมาโดยไม่คาดคิด มันระเบิดกลายเป็นสายลมกรรโชกรุนแรงพัดเข้าใส่หวังหลิน
สายลมนี้แฝงเจตนาสังหาร! เขาเหมือนตะเกียงน้ำมันแห้งเหือด การถอยกลับไปได้เขาจะต้องสังหารหวังหลิน!
“ไปซะ!!” แม้จะถูกกระบี่โลหิตของหวังหลินลอบโจมตี ในใจเขาแล้วหวังหลินที่ไม่ได้บรรลุขั้นที่สามก็ยังถือว่าเป็นมดตัวหนึ่ง!
หวังหลินพลันหยุดชะงัก เมื่อสายลมกรรโชกเข้ามาถึง เขาชี้ใส่กลางหน้าผากตนเอง ดวงดาวเทพโบราณปรากฏและมีเตาหลอมจักรพรรดิออกมาจากดาวดวงแรก!
เตาหลอมจักรพรรดิเปลี่ยนเป็นรูปร่างของจริงและกระแทกใส่สายลมกรรโชกทันที!
เตาหลอมจักรพรรดิส่งเสียงดังรุนแรง แต่ในจังหวะนี้ส่วนที่หันหน้าเข้าหาเมียวหยิน ดูเหมือนหลอมละลาย จิตสังหารที่ซ่อนเอาไว้มานานพลันอุบัติขึ้น ร่างหนึ่งพุ่งออกมาและผ่านสายลมกรรโชกไป!
วินาทีที่ร่างนี้ปรากฏขึ้น รูปปั้นสีดำขนาดยักษ์ปรากฏพร้อมๆกัน รูปปั้นนี้ราวกับเทพมารที่อ้าแขนออกและส่งพลังทำลายล้างเข้าหาเมียวหยิน!
จังหวะเวลานับว่าแม่นยำยิ่ง เป็นตอนที่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินบาดเจ็บที่สุดและใกล้มากพอที่เขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินไม่เคยคิดว่าหวังหลินที่ถือว่าเป็นมดแมลงจะมีวิธีอันน่ากลัวขนาดนี้!
“หลิงตง!!” ปรมาจารย์เต๋าเมียวหบินเปลี่ยนสีหน้าทันทีและไม่เชื่อสายตาตัวเอง ขณะที่อุทานออกมา รูปปั้นที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างได้กระแทกแขนขวาใส่ กลางหน้าผากของเขา ทำให้เข็มทั้งสามแทงลึกเข้าไปในศีรษะเขาอีกหนึ่งนิ้ว…อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ผลักเข้าไปข้างในได้สมบูรณ์
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ร่างกายปกคลุมอยู่ในหมอกสีดำ พิษในร่างระเบิดขึ้นมา ต้องขอบคุณพลังทำลายล้างทำให้เขาตกอยู่ปากเหวแห่ง ความตาย!
เขากระเด็นกลับไป หมอกโลหิตสาดกระจายไปทุกที่ ขณะเดียวกันวิญญาณของเฒ่าพิษเดียวดายก็มาถึงอย่างรวดเร็วและกำลังจะครอบครองร่างของเมียวหยิน!
นี่คือไพ่ตายของหวังหลิน เป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดที่เขาเตรียมการเอาไว้ขณะที่อีกฝ่ายลดความระมัดระวังลง!!
หลิงตงเพิ่งจะกลายเป็นทาสโบราณยังไม่ได้หลอมจนสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงเรียกออกมาได้ไม่นาน แต่เพราะมีโอกาสเพียงครั้งเดียว หวังหลินจึงใช้ช่วงวิกฤตนี้ให้หลิงตงโจมตี
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินเป็นหนึ่งในห้าปรมาจารย์ ดังนั้นถึงแม้ระดับบ่มเพาะจะถูกระงับเอาไว้ แต่พลังของเขานับว่าเหนือจินตนาการ ถ้าไม่ใช่เพราะถูกกระบี่โลหิตของหวังหลินลอบโจมตีขณะที่เผชิญหน้ากับเฒ่าพิษเดียวดาย และจากนั้นก็ตกอยู่ใต้การโจมตีอันทรงพลังของเฒ่าพิษอีก การที่หวังหลินจะทำให้เขาบาดเจ็บได้นั้นนับว่าเป็นไปไม่ได้
ส่วนสำคัญที่สุดคือความเข้าใจของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินที่มีต่อหวังหลินได้ถูกหยุดเอาไว้ที่ดาวมหาจักรพรรดิ เขาไม่เคยคิดว่าหวังหลินจะสามารถควบคุมหลิงตงผู้มีระดับบ่มเพาะขั้นครึ่งก้าวสู่ขั้นที่สามได้
นี่คือข้อผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดของเขา
อย่างไรก็ตามแม้จะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้ หลิงตงยังถูกคลื่นกระแทกจากวิชาของเขาโจมตีใส่และกระอักโลหิต แม้กระทั่งรูปปั้นที่อัญเชิญออกมายังหายไป
โลหิตไหลย้อนออกมาจากปากหวังหลิน เสียงคำรามดังกึกก้องในสองหู เสียงจากปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินทำให้เขากระเด็นกลับไป เขารู้สึกเจ็บปวดถึงวิญญาณดั้งเดิมและกระอักโลหิต
ทว่าหลังจากถอยไปได้ไม่กี่ก้าว หวังหลินก็ฝืนตัวเองให้หยุดเอาไว้ ในแววตากะพริบเย็นเยียบและพุ่งออกมา เขาไม่สนปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินที่กระเด็นกลับไป หวังหลินสะบัดแขนขวา ปรากฏเตาหลอมจักรพรรดิขึ้นมาและล้อมรอบมหาสมุทร สีดำเอาไว้
มหาสมุทรนี้เป็นพิษไปแล้วดังนั้นมันจึงส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา
วิญญาณเพลิงนรกานต์นับไม่ถ้วนได้ผสานเข้ากับพิษไปแล้วและกลายเป็นวิญญาณพิษ ดังนั้นพวกมันจึงไม่ใช่เพลิงนรกานต์อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามมหาสมุทรพิษนี้คือสมบัติที่หาได้ยากยิ่งสำหรับหวังหลิน เขาต้องขโมยมันมาก่อนที่เฒ่าพิษเดียวดายจะเอาไป หลังจากหลอมมันด้วยเตาหลอมจักรพรรดิจนเป็นหยดเดียวได้ มันคงจะเป็นพิษที่สามารถคุกคามเซียนขั้นที่สามได้เลยทีเดียว
ส่วนทางด้านเฒ่าพิษเดียวดาย แม้จะฟังดูดีแต่หวังหลินจะเชื่อใจเขาได้ง่ายๆหรือ? ทั้งสองเพียงแค่ร่วมมือกันเพราะมีผลประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่
เซียนเฒ่าที่บ่มเพาะมาหลายหมื่นปีต่างก็เจ้าเล่ห์ด้วยกันทั้งนั้นและไม่อาจประเมินค่าต่ำได้ หากเขาสามารถทำลายคำสาบานต่อเมียวหยินได้ เขาก็สามารถทำลายคำสาบานต่อหวังหลินได้เช่นกัน หวังหลินเข้าใจเรื่องนี้ดี
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตั้งใจกระแทกปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินให้กระเด็นออกไปไกลโดยใช้หลิงตงโจมตี เขาไม่ได้ผลักให้เข็มทั้งสามเล่มเข้าไปจนสุดเพื่อให้ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินมีโอกาสชะลอเฒ่าพิษเดียวดายไปด้วย
วิญญาณของเฒ่าพิษเดียวดายไล่ตามหลังเมียวหยินมา วิญญาณเขาเปลี่ยนกลายเป็นควันสีดำและกำลังครอบครองร่างอย่างโหดเหี้ยม
หากหวังหลินผลักเข็มทั้งสามเข้าไปจนสุด เมียวหยินคงไม่มีพลังมากพอจะต่อต้าน อย่างไรก็ตามตอนนี้ถือว่าต่างกัน ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันด้วยสัมผัสวิญญาณอยู่ในร่างเมียวหยิน
เป็นผลให้หวังหลินมีเวลามากพอจะฮุบมหาสมุทรพิษไป เขาใช้ฝ่ามือสร้างผนึกขึ้นโดยไม่ลังเล ร้องคำรามจับมหาสมุทรไว้ในเตาหลอมจักรพรรดิ
ข้างในเตาหลอมมีมิติมากมายนับไม่ถ้วน แต่ด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลินจึงเปิดขึ้นมาได้แค่สองแห่งเท่านั้น เพียงแค่สะบัดมือไป มิติแห่งหนึ่งเก็บมหาสมุทรพิษเอาไว้และอีกแห่งเอาไว้เก็บทาสโบราณ
ตอนนี้ขณะที่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินและเฒ่าพิษเดียวดายกำลังต่อสู้เพื่อควบคุมร่างกาย รอยแยกที่เปิดไปสู่ดินแดนเพลิงนรกานต์จึงเริ่มปิดอย่างรวดเร็ว มันกำลังจะหายไปอย่างสมบูรณ์
หวังหลินจะปล่อยให้ดินแดนเพลิงนรกานต์สลายไปได้อย่างไร? เขาร่วมมือกับเฒ่าพิษเพื่อให้ได้เพลิงนรกานต์ของเมียวหยินอยู่แล้ว
เขาไม่สามารถใช้เพลิงนรกานต์ได้ แต่ทาสโบราณหลิงตงอยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขั้นที่สาม ตราบใดที่เขามีเพลิงนรกานต์เพียงพอ ทาสโบราณหลิงตงจะสามารถกลายเป็น เซียนขั้นที่สามได้
หวังหลินเผยแววตาแฝงความบ้าคลั่งพลางพุ่งเข้าหาดินแดนเพลิงนรกานต์ ข้างในนั้นมีมหาสมุทรสีม่วงอันกว้างใหญ่ที่ไม่โดนพิษและมีดวงวิญญาณเพลิงนรกานต์มากมาย
พวกมันคือวิญญาณที่ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินขโมยมาและเก็บรวบรวมไว้ตลอดชีวิตการเป็นเซียน นี่คือฐานรากของหนึ่งในห้าปรมาจารย์!
หมอกรอบๆได้ถูกผลักออกไปไกลแล้วและส่งเสียงดังอื้ออึง ดินแดนผนึกได้พังทลายไปแล้วและเหล่าเซียนข้างในก็ตายกันหมด
ทะเลหมอกด้านล่างถูกผลักลงไปเผยให้เป็นพื้นที่ว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ อย่างไรก็ตามขณะนี้พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึงขึ้น
สายหมอกพรั่งพรูออกมาราวกับน้ำพุ มันพุ่งขึ้นมาด้านบนรวดเร็วเกินไป
สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือแขนยักษ์ที่มีความหนาหลายแสนฟุตนั้นพุ่งออกมาด้วย
วินาทีที่แขนปรากฏขึ้น กลิ่นอายทรงพลังจึงเต็มไปทั่วทะเลหมอกทั้งหมด แขนนี้รวดเร็วเกินไป เข้าประชิดโดยมีเป้าหมายมาที่หวังหลินและปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่หวังหลินเห็นแขนข้างนี้ สีหน้าท่าทางเปลี่ยนแปลงทันที พลังแข็งแกร่งมหาศาลใกล้เข้ามาและกำลังจะฉีกกระชากร่างของเขาเป็นชิ้นๆ
แขนเข้าสัมผัสกับปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินในเสี้ยววินาทีและทำให้เขากระอักโลหิต เฒ่าพิษเดียวดายใช้โอกาสนี้เข้าครอบงำวิญญาณของเมียวหยิน แต่ก็ทำให้ร่างกายโดนพลังดึงดูดจนติดอยู่บนฝ่ามือและไม่สามารถหนีออกมาได้
พริบตาเดียวเท่านั้นฝ่ามือยักษ์ก็พุ่งเข้าหาหวังหลิน ห้าดัชนีราวกับเสาทั้งห้าที่ค้ำจุนโลกเอาไว้ พวกมันตกลงใส่หวังหลินทันที
พวกมันกระแทกหวังหลินด้วยพลังอันรุนแรงจนเขากระอักโลหิตแต่ก็ไม่ยอมท้อถอย สิ่งที่ทำให้เขาไม่ยอมท้อถอยไม่ใช่แค่ฝ่ามือกำลังเข้าจับเขา แต่รอยแยกที่จะเข้าสู่ดินแดนเพลิงนรกานต์นั้นอยู่ห่างไม่ถึงพันฟุต
รอยแยกตอนนี้ยาวไม่เกินหมื่นฟุตและกำลังจะพังทลายในไม่ช้า เมื่อมันหายไป รางวัลที่เขาร่วมมือกับเฒ่าพิษเดียวดายเพื่อทำให้ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินบาดเจ็บสาหัสก็จะหายวับไปกับตา
หวังหลินใช้วิชาช่วยชีวิตที่อยู่ในถุงมือเทพโบราณไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ได้ชั่วครู่ อีกทั้งทุกครั้งที่ใช้จะทำให้ถุงมือเสียหายจนมันพังทลาย
พอเห็นฝ่ามือเข้ามาใกล้ หวังหลินไม่มีเวลาคิดมาก กัดฟันแน่นและร้องคำรามใส่ท้องฟ้า ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ร่างกายขยายขนาดเติบโตจนสูงหลายพันฟุต ปรากฏเป็นร่างเทพโบราณ!
การขยายขนาดฉับพลันนี้ได้สร้างระยะห่างระหว่างเขากับฝ่ามือยักษ์อยู่ที่สองพันฟุต และยังทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับดินแดนเพลิงนรกานต์ที่มีอยู่พันฟุตหายไปอย่างสิ้นเชิง
“ผนึก!”
หวังหลินร้องคำราม เพียงแค่เขาสะบัดแขน ใบไม้โบราณสองใบลอยออกมาผนึกขอบของรอยแยก ทำให้รอยแยกหยุดหดตัวไปชั่วขณะ
ช่วงจังหวะการหยุดนี้ หวังหลินใช้แขนขวาขยับเข้าไปในดินแดนเพลิงนรกานต์ราวกับเป็นอุกกาบาต จากนั้นคว้าเหล่าวิญญาณมากมายอย่างโหดเหี้ยม
ขณะเดียวกันแขนที่โผล่ออกมาจากสายหมอกก็คว้าใส่หน้าอกหวังหลิน ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง พลังจากแขนนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบดขยี้เขาซ้ำๆ
พอแขนคว้าจับหวังหลินมันก็หดลงทันที มันกำลังดึงหวังหลินและเฒ่าพิษเดียวดาย ที่ครอบครองร่างได้สำเร็จให้ลงไปในทะเลหมอก
แขนข้างนั้นทรงพลังเกินไป หวังหลินไม่มีอะไรเทียบได้เลย แขนหวังหลินกำลังดึงออกจากดินแดนเพลิงนรกานต์ แต่เขาเองกำลังจะถูกแขนยักษ์ดึงลงไปจึงใช้แขนซ้ายยื่นออกไปคว้าปลายขอบของรอยแยก พลังเทพโบราณพรั่งพรูอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับจับรอยแยกไว้ทั้งสองด้าน
ฉากเหตุการณ์นี้ช่างน่าตกตะลึงยิ่ง หากมองไกลๆคงทำให้ทุกคนตกตะลึง เทพโบราณตนหนึ่งกำลังรั้งรอยแยกอวกาศที่เหมือนเศษเสี้ยวเอาไว้
ตรงหน้าอกเขามีฝ่ามือยักษ์ที่กุมร่างเขาเอาไว้และดึงลงไปอย่างรุนแรง
ร่างกายเต็มไปด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกฉีกให้ขาดสองท่อน รอยแยกส่งเสียงฉีกขาดและฉีกเปิดออกมากขึ้นพร้อมกับหวังหลินที่ถูกดึงลงไป
มหาสมุทรสีม่วงไร้ขอบเขตและเหล่าวิญญาณเพลิงนรกานต์มากมายได้เผยออกมาตอนที่รอยแยกฉีกเปิดกว้างขึ้น ในแววตาหวังหลินเกิดความบ้าคลั่งพลาง อ้าปากและสูดเข้าไป
ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว เขาต้องเก็บเพลิงนรกานต์มาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ขณะที่สูดเข้าไปเหล่าวิญญาณเพลิงนรกานต์จึงลอยเข้าหาเขาอย่างมหาศาล
หวังหลินสูดวิญญาณเพลิงนรกานต์เข้าไปราวกับร่างกายเสมือนหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง
เขาสูดวิญญาณเพลิงนรกานต์จำนวนหนึ่งในสิบส่วนเพียงแค่ครั้งเดียว ขณะเดียวกันร่างกายหวังหลินก็ถูกแขนดึงลงไปหลายหมื่นฟุต
อย่างไรก็ตามแขนเขากำลังห้อยอยู่บนขอบของรอยแยก ดังนั้นรอยแยกจึงไม่สามารถสลายตัวได้ มันฉีกเปิดออกมาหลายหมื่นฟุตขณะที่หวังหลินถูกดึงลงไป
“เตาหลอมจักรพรรดิ!”
เมื่อรอยแยกเปิดออกมาได้กว้างขึ้น หวังหลินร้องคำรามให้เตาหลอมจักรพรรดิส่วนหนึ่งเข้าไปในดินแดนเพลิงนรกานต์ จากนั้นดินแดนข้างในเตาหลอมเปิดขึ้นมาและดูดซับอย่างบ้าคลั่ง
มหาสมุทรสีม่วงจำนวนมากเข้าไปในเตาหลอมจักรพรรดิพร้อมกับเหล่า ดวงวิญญาณเพลิงนรกานต์มากมาย เตาหลอมดูดซับไปอีกสองในสิบส่วน
มหาสมุทรขนาดทั้งหมดสองในสิบส่วนได้เติมเต็มเตาหลอมจักรพรรดิจนมันไม่สามารถดูดซับได้อีก
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา หวังหลินอดทนต่อความเจ็บปวดในร่างกายและท้ายที่สุดก็ปล่อยแขน เตาหลอมจักรพรรดิเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและหายวับไปในกลางคิ้วหวังหลิน แม้กระทั่งใบไม้โบราณสองใบก็ถูกหวังหลินเก็บไป
ร่างกายเขาถูกแขนยักษ์ดึงลงไปอย่างรวดเร็วจนถึงด้านล่างทะเลหมอก จากนั้นสายหมอกม้วนตัวรวมกันจากทุกทิศทาง เติมเต็มหลุมที่สร้างขึ้นจากแขนยักษ์
หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เติมเต็มทะเลหมอก มันค่อยๆสงบนิ่งลง
หลายชั่วโมงต่อมา กลุ่มเซียนมากกว่ายี่สิบคนทะยานผ่านเข้ามา พวกเขาไม่สังเกตเห็นสิ่งใดเลย
“ประหลาด ตามแผนที่แล้วมันควรจะมีดินแดนผนึกอยู่ที่นี่…”
“เราดูมาแล้วสักพักและยังไม่เจออะไร หรือว่าแผนที่จะผิดพลาด?” ฝูงชนค่อยๆทะยานออกไป…