1515. จ้าวดินแดนปิดผนึก
ทางด้านอสูรโลกันตร์ เส้นขนทั่วทั้งตัวชี้ฟู มันจ้องมองเหล่าเซียนรอบๆ และร้องคำรามราวกับพุ่งออกไปได้ทุกเวลา
ความเร็วในการตอบสนองของมันเชื่องช้ามาก ดังนั้นจึงไม่สังเกตการจากไปของหวังหลิน มันยังคงร้องคำรามและทำท่าทีดุร้าย มันค่อยๆได้ยินเสียงดังสนั่นด้านหลัง
มันค่อยๆ รับรู้ว่ามีบางอย่างผิดพลาด ทำไมเหล่าเซียนพวกนี้ถึงไม่มองมาที่มันแต่กลับมองด้านหลังแทน?
เสียงของหวังหลินเข้ามาถึงหูมันอย่างเชื่องช้า ทำให้เจ้าอสูรโลกันตร์ค่อยๆหันหัวไปมองโดยไม่รู้ตัว
มันค่อยๆ หันตัวกลับมองไปยังอวกาศว่างเปล่าด้านหลัง มันจ้องมองหวังหลินที่กำลังพุ่งหาฉุยต้าวออกไปไกลเรื่อยๆ
หลังจากงุนงงไปชั่วครู่ แววตาเจ้าอสูรโลกันตร์จึงหดลง มันหยุดคำรามทันทีและคำรามเสียงดังรุนแรงออกมาอีกครั้ง ทว่าเสียงคำรามนี้แตกต่างไปจากเดิม เพราะเป็นเสียงคำรามแห่งความกลัว!
เส้นขนทั้งหมดที่ตั้งตระหง่านพลันแห้งเหี่ยวทันที แววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทาและล่าถอย ด้วยเสียงคำรามหวาดกลัวนี้ แม้แต่คนที่ได้ยินยังรู้สึกใจเต้นถี่ยิบ
มันกลัวอย่างเห็นได้ชัดและพุ่งหาหวังหลินอย่างหมดท่า แววตาทั้งหวาดกลัวและข้องใจโดยเฉพาะตอนที่คิดว่ามันไปคำรามใส่เซียนน่ากลัวพวกนั้นได้ยังไงโดยไม่มีเจ้านาย ตอนที่มันคิดเช่นนี้หัวใจจึงเต้นกระสับกระส่าย
หวังหลินเข้าประชิดฉุยต้าวที่กำลังหนี แขนขวากำปั้น คราวนี้ไม่มีเงากำปั้นแต่กำปั้นของเขาพุ่งกระแทกตรงเข้าไป!
“กำปั้นนี้เพื่อจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก!” หวังหลินสีหน้าดุดันแต่คำพูดสงบนิ่ง
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาและวิญญาณดั้งเดิมกระอักแก่นวิญญาณจนมืดมัว แววตาสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าเป็นเซียนขั้นที่สาม…ข้า…” ก่อนที่จะได้พูดจบ หวังหลินเข้าประชิดและโยนไปอีกกำปั้น!
“กำปั้นนี้เพื่อหลี่เฉียนเหมย!” หวังหลินสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง สองขาของฉุยต้าวระเบิดเป็นชิ้นๆ
เสียงกรีดร้องดังกึกก้องอีกครั้ง ฉุยต้าวที่สิ้นหวังเกิดความบ้าคลั่ง แต่ความบ้าคลั่งนี้ไร้ค่าต่อหวังหลิน!
“ข้าเป็นทาสรับใช้ของจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก รับข้าเป็นทาสรับใช้ ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล! อย่าฆ่าข้า!!”
หวังหลินก้าวเข้าไปด้วยสีหน้าไม่แยแส โยนกำปั้นที่สามออกไป!
“กำปั้นนี้เพื่อเหล่าเซียนของทะเลเมฆา สำหรับเรื่องที่เจ้าพยายามทำลายสำนักต้นกำเนิด!” หวังหลินกล่าวไปด้วยกัดฟันไปด้วย กำปั้นร่อนลงใส่หน้าอกของฉุยต้าว
วิญญาณดั้งเดิมของฉุยต้าวเกิดการสั่นเทาและโปร่งใสขึ้น ราวกับวิญญาณกำลังจะแตกดับไปตลอดกาล!
“กำปั้นนี้เพื่อพายุสีทองของเจ้า!” หวังหลินร้องคำรามโกรธเกรี้ยวพร้อมโยนกำปั้นที่สี่!
ร่างฉุยต้าวกระเด็นออกไป แขนซ้ายระเบิดจนเละ!
“กำปั้นนี้เพื่อข้า หวังหลิน!” หวังหลินยกแขนขวา ราวกับกำลังกุมดวงดาวกระแทกใส่ลงไป!
กำปั้นขวาของหวังหลินทะลุผ่านหน้าอกของฉุยต้าว เกิดเป็นหลุมยักษ์และเสียงดังสนั่นกึกก้อง!
แววตาฉุยต้าวเลอะเลือนไปแล้วและกระเด็นออกไปไกล ความเจ็บปวดรุนแรงท่วมท้นไปหมดและทำให้เขาสิ้นสติไปชั่วขณะ
“กำปั้นนี้เพื่อ…ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อฆ่าเจ้า!” หวังหลินไม่อาจคิดถึงสิ่งใดได้และพุ่งไปข้างหน้า แขนขวากำปั้นและพุ่งหาเศษเสี้ยววิญญาณที่เหลือของฉุยต้าว!
ในจังหวะสุดท้ายของฉุยต้าวนั้น เขาเผยไพ่ตายสุดท้ายออกมา!
“ข้าเชื่อมต่อกับมู่ปิงเหมย การฆ่าข้าเท่ากับสังหารนาง!! นางคือสตรีของเจ้า! ฆ่าข้าสิ!! ฆ่าข้าสิ!!” ฉุยต้าวร้องคำรามอย่างท่วมท้นและเข้าสู่ความคิดหวังหลิน
กระบวนท่าสังหารของหวังหลินหยุดห่างฉุยต้าวเพียงแค่สามนิ้ว!
ฉุยต้าวมองกำปั้นของหวังหลินด้วยจิตใจสั่นไหว เผยใบหน้าดุดันยิ่งและยิ้มอย่างคนบ้า “ทำไมเจ้าไม่ฆ่าข้าหล่ะ? ฆ่าข้าสิ!! มาฆ่าข้า!! ฆ่าข้าและมู่ปิงเหมยจะได้ตายไปด้วยกัน!! ข้าเตรียมการไว้นานแล้ว นางโง่มู่ปิงเหมยนั่นไม่รู้อะไรเลย ข้าช่วยนางฟื้นระดับบ่มเพาะและให้เม็ดยาที่ทำให้วิญญาณของเราเชื่อมกัน!”
“กระดิ่งทองนั่นจะนับเป็นอะไรได้? นางคือไพ่ตายของข้า!!” ฉุยต้าวหัวเราะพลางโบกแขนขวาที่เหลืออยู่ โลกเกิดการบิดเบือนและมีฉากเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา
ข้างในมิติบิดเบือนมีค่ายกลขนาดยักษ์เกิดขึ้น นางกำลังนั่งอยู่ข้างใน บนเสื้อผ้าสีขาวมีอักขระโลหิตอยู่ด้วย!
นางหน้าซีดเผือด ทันใดนั้นคล้ายสังเกตบางอย่างได้จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองทะลุผ่านการบิดเบือนและตกไปบนหวังหลิน
นางยิ้ม แต่รอยยิ้มเต็มไปด้วยความตาย… “ข้ารู้ว่าท่านเกลียดข้าเสมอ…”
“ข้ารู้ว่าท่านรู้สึกเจ็บปวดในใจเสมอ…”
“ข้ารู้ว่าหลิวเหมยทำผิดต่อท่าน…หลิวเหมยคือข้าและข้าคือหลิวเหมย…”
“ตลอดหลายปีที่ข้าอ่อนแอ ข้าค่อยๆลืมไปว่าข้าคือมู่ปิงเหมย ข้ารู้ว่าข้าต้องการกลายเป็นหลิวเหมย…”
“ข้ารู้ว่าระหว่างเราไม่มีอะไรกัน แต่เพราะการมีอยู่ของผิงเอ๋อร์ เราจึงกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยที่สุด…ข้ารู้…ข้ารู้ดี…”
“ข้าไม่ได้กินเม็ดยานั่น แต่ข้าเหนื่อย…ดินแดนฟ้ากระจ่างถูกทำลาย บ้านข้าถูกทำลาย ข้าเหลือแค่คนเดียวและข้าไม่สามารถแบกรับมันได้อีกแล้ว…แม้ระดับของข้าจะฟื้นฟู แต่แล้วอย่างไรเล่า…ข้าเป็นเซียนสตรีฟ้ากระจ่างแล้วอย่างไรเล่า…ข้าแค่อยากเห็นลูกข้าเท่านั้น แต่ข้าทำไม่ได้…”
“ความสัมพันธ์ของเราช่างอาภัพ เป็นหนามในใจเจ้า…เจ้าไม่อยากพูด แต่ข้ารู้…”
“ข้าไม่ติดใจอะไรที่จะตายด้วยมือเจ้า นี่คือสิ่งที่ข้าติดค้างบุญคุณ ไม่ใช่เจ้าแต่เป็น ผิงเอ๋อร์…ข้าเป็นหนี้เขามาก…ข้าไม่ใช่แม่ที่ดี…หากผิงเอ๋อร์ตื่นขึ้น ข้าหวังว่าท่านจะบอกเขาว่า…ลี่มู่หวานคือแม่ของเขา ข้า…ไม่คู่ควร…ด้วยการตายของข้า ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงระหว่างเราตลอดเวลาสองพันปีจะจบลง เจ้าจะเป็นอิสระ ข้าจะเป็นอิสระ…” หยาดน้ำตาสองสายไหลลงบนใบหน้ามู่ปิงเหมยและค่อยๆ ไหลลงบนคราบโลหิตในเสื้อผ้า ทำให้คราบโลหิตเจือจางลง
นางหลับตาพร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาประทับกลางหน้าผาก!
ฉุยต้าวตกตะลึง ตอนนี้ดูเหมือนจะสนใจชีวิตนางมากยิ่งขึ้น หวังหลินขบคิดเงียบๆ ตอนที่เขาเห็นมือขวาของมู่ปิงเหมยประทับลงไปเพื่อฆ่าตัวตาย ดวงตา หวังหลินส่องสว่าง กำปั้นที่หยุดอยู่ห่างจากฉุยต้าวเพียงแค่สามนิ้วจึงไม่ลังเลอีกและพุ่งไปข้างหน้า!
ขณะเดียวกันยกแขนซ้ายขึ้นมาชี้ใส่ภาพบิดเบือน เพียงเอ่ยคำเดียวร่างมู่ปิงเหมยจึงหยุดชะงักทันที
โลกสั่นสะเทือนเสียงดังกึกก้อง พลังมหาศาลพุ่งเข้าสู่วิญญาณดั้งเดิมของฉุยต้าว แขนขวาพังทลาย พลังรุนแรงพุ่งเข้าสู่ศีรษะ ลบล้างวิญญาณนั้นจนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน!
ฉุยต้าว ทาสรับใช้ของจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก หัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักเทพเจ้า เซียนขั้นที่สามแห่งดาราจักรทะเลเมฆา สิ้นชีพ!!
วินาทีที่เขาตาย หวังหลินเอ่ยบทร่ายซับซ้อนออกมา ไม่มีใครเข้าใจเข้าใจบทร่ายนี้ มีแต่มารโบราณเก้าดาวที่กำลังเลือนหายไปจากสำนักเทพที่ตกตะลึงเมื่อได้ยิน!
“วิชาแปลงชีวิตบัญชาโบราณ!! นี่มันวิชาแปลงชีวิตบัญชาโบราณ!! ลือกันว่า เหล่าบรรพชนใช้ได้แค่สามครั้งในชีวิตเท่านั้น!!”
วิชาแปลงชีวิตบัญชาโบราณเป็นสิ่งที่หวังหลินได้รับมาจากการสืบทอด มันไร้ประโยชน์ต่อลี่มู่หวานแต่ตอนนี้มันสามารถย้ายพลังชีวิตทั้งหมดของฉุยต้าวไปหามู่ปิงเหมยซึ่งเชื่อมต่อกับเขาได้!
วิญญาณของฉุยต้าวถูกทำลายแต่แก่นพลังชีวิตถูกทิ้งเอาไว้ ในชั่วจังหวะสุดท้ายหวังหลินไม่ได้ทำลายเขาอย่างสิ้นเชิงแต่เก็บแก่นพลังชีวิตที่ถูกเชื่อมต่อกับมู่ปิงเหมยเอาไว้!
หากเป็นในอดีต หวังหลินคงไม่ต้องทำแบบนี้ แต่ตอนนี้เขากลับเลือกทำ!
มู่ปิงเหมยถูกหยุดเอาไว้ด้วยวิชายับยั้ง นางตัวสั่นเทาเนื่องจากแก่นพลังชีวิตของฉุยต้าวเข้าไปในร่างนางผ่านวิธีอันประหลาดและเริ่มผสานกันอย่างอัศจรรย์!
“เจ้าไม่ได้เป็นหนี้ผิงเอ๋อร์หรือข้า” หวังหลินมองมู่ปิงเหมยอย่างลึกซึ้งและลบล้างวิชาหยุด
ตอนนี้เจ้าอสูรโลกันตร์เข้าประชิดด้วยสายตาหวาดกลัวและทุกข์ใจ มันรีบกลับมาอยู่ข้างๆ หวังหลินด้วยสายตาข้องใจ ราวกับกำลังดุด่าว่าทำไมหวังหลินถึงทิ้งมันไปให้รู้สึกกลัวอยู่ตัวเดียว
หลังจากกลับมาข้างๆ หวังหลิน เจ้าอสูรโลกันตร์ดูเหมือนจะฟื้นคืนความมั่นใจขึ้นมาได้ มันเริ่มร้องคำราม เส้นขนทั้งหมดตั้งขึ้นอีกครั้ง จ้องมองเหล่าเซียนข้างหน้าด้วยท่าทีดุดัน ราวกับพุ่งไปได้ทุกเมื่อหากมีคำสั่ง
ทว่านอกจากเสียงคำรามแล้ว มันแบ่งความสนใจมาที่หวังหลินด้วย หากหวังหลินถอย มันก็จะถอยตาม เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้สอนบทเรียนมันและทำให้ความคิดตื่นตัว
จิตใจของมันคงสั่นเทาเมื่อคิดว่าตนเองไม่สังเกตหวังหลินและยังร้องคำรามอยู่ ด้วยความรู้สึกละอายใจมันจึงร้องคำรามดุดันยิ่งขึ้น
คลื่นเสียงคำรามพัดความตายของฉุยต้าวให้ห่างออกไป ดังเข้าสู่หูของเซียนที่กำลังขบคิดเงียบๆ
“เหล่าเซียนแห่งสำนักมารขอคารวะจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก!” เหล่าเซียนจากสำนักมารขบคิดเล็กน้อย จากนั้นโค้งตัวลงพร้อมจ้าวสำนักของตัวเอง
“เหล่าเซียนแห่งสำนักเทพเจ้าขอคารวะจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก!” ผู้คนของสำนักเทพเจ้าเป็นพยานรู้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นและคำนับฝ่ามือด้วยท่าทีซับซ้อนเกินอธิบาย
“สำนักภูตผีแห่งทะเลเมฆาขอคารวะจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก!” มหาดับสูญแห่งสำนักภูตผีคำนับฝ่ามือให้
“เหล่าเซียนแห่งทะเลเมฆาขอคารวะจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก!” เสียงดังกึกก้องออกไปทุกทิศทางและต่างมีเซียนหลายคนให้ความเคารพมากขึ้น!