1517. ทำลายค่ายกล
ปรมาจารย์ตงตี้ยิ้มออกมาแต่ปัดความคิดในใจทิ้งไป เขามองกองทัพเซียนเก้าหมื่นคนและรู้สึกถึงจิตสังหารโหดเหี้ยมและบ้าคลั่ง อดไม่ได้ที่จะเผยท่าทีอำมหิตไปด้วย!
“ไม่จำเป็นต้องเมตตา จิตสังหารของฝูงหมาป่าเหล่านี้มากมายมหาศาลอยู่แล้ว ข้าจะปล่อยให้รอดไปได้อย่างไร? ส่วนเจ้าเซียนน้อยหวังหลินนั่น อย่างมากก็แค่ ขั้นทะลวงสวรรค์แล้วดันโชคดี การสังหารมันช่างง่ายเหมือนปอกกล้วย ไม่จำเป็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โต!”
“จุดประสงค์หลักของการต่อสู้หนแรกนี้คือการสังหารและปล้นชิง เรื่องที่สองคือวางค่ายกลเคลื่อนย้าย เรื่องสุดท้ายคือการสังหารเซียนน้อยหวังหลินนั่นระหว่างทาง!”
ขณะที่ปรมาจารย์ตงตี้คิดเช่นนี้ เขามองออกไปไกล ขณะเดียวกันหนานจ้าว บรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิงและยอดปรมาจารย์หยุนลั่วทั้งหมดต่างก็มองออกไปไกลเช่นกัน
แรงกดดันทรงพลังแพร่กระจายออกมาจนเกิดเสียงดังสนั่นและเข้าระงับเสียงคำรามบ้าระห่ำของเซียนเก้าหมื่นคน เสียงดังล้นหลามและในไม่นานก็เป็นจุดสนใจของเซียนทั้งหมดเก้าหมื่นคน
ตำหนักสีดำขนาดยักษ์พลันปรากฏขึ้นมา มันยิ่งใหญ่เท่ากับดาวเคราะห์เซียน ถูกล้อมรอบด้วยหมอกไร้ขอบเขตจนพร่ามัว!
มองเห็นเลือนลางแต่เหล่าเซียนชุดดำหลายพันคนที่กำลังลอยอยู่รอบๆ ตำหนัก ทั้งหมดมีอักขระแบบเดียวกันอยู่กลางหน้าผาก เป็นกระบี่สีดำ!
เซียนชุดดำทุกคนเปล่งกลิ่นอายเย็นเยียบ สีหน้าเฉยชาพร้อมกับทะยานอยู่นอกตำหนักสีดำ!
จิตสังหารกระจายเข้าห่อหุ้มอาณาเขตดวงดาว!
“เผ่ากระบี่!!”
“เหล่าองครักษ์ตำหนักทัณฑ์สวรรค์แห่งสภาราชันย์คือเผ่ากระบี่!!”
“ลือกันว่าเซียนทุกคนของเผ่ากระบี่มีพลังน่าสะพรึงกลัว พวกเขาบ่มเพาะกระบวนท่าปลิดวิญญาณซึ่งมีพลังเหลือล้น!”
“เผ่ากระบี่ปรากฏขึ้นมา นี่ต้องเป็นตำหนักทัณฑ์สวรรค์แห่งสภาราชันย์! ไม่คิดว่าราชันย์จะใช้หนึ่งในสี่ตำหนักในการต่อสู้ครั้งแรก!”
ตำหนักขนาดใหญ่สีดำค่อยๆ เข้าใกล้พร้อมแรงกดดันแพร่กระจาย เหล่าเซียนเก้าหมื่นคนโค้งตัวเข้าหาตำหนัก
“เราทั้งหมดขอคารวะตำหนักทัณฑ์สวรรค์!” น้ำเสียงของเซียนเก้าหมื่นคนดุจคลื่นสมุทร
ด้านนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึก ตำหนักขนาดยักษ์หยุดลงช้าๆ เหล่าเซียนชุดดำหลายพันคนจ้องมองตรงหน้าอย่างเย็นชา
“ด้วยคำสั่งของสภาราชันย์ ข้ามาเพื่อดูแลการต่อสู้…” น้ำเสียงเก่าแก่ดังออกมาจากตำหนักสีดำ น้ำเสียงปลดปล่อยแรงกดดันเข้าระงับเสียงของเซียนจำนวนเก้าหมื่นคนในทันที
“เวลานี้ข้าจะเปิดค่ายกลดินแดนปิดผนึก และสงครามจะเริ่มต้นขึ้น…” ขณะที่น้ำเสียงดังออกมากลับมีเสียงหายใจออกมาด้วย ไม่นานนักลำแสงสายหนึ่งกะพริบออกมาจากตำหนักสีดำ!
มันคือกระบี่ กระบี่ที่สร้างขึ้นจากแสงผลึก!
กระบี่ยาวเจ็ดฟุต หนาสามนิ้ว ด้ามกระบี่เป็นผลึกใสชัดเจน แค่ชำเลืองมองก็รู้แล้วว่ามีเพลิงนรกานต์อยู่นับไม่ถ้วนจนทำให้อากาศรอบๆมันบิดเบือน
ข้างในการบิดเบือนมองเห็นดินแดนเพลิงนรกานต์อยู่มากมาย เหล่าวิญญาณเพลิงนรกานต์นั่งอยู่ในนั้นและผุดเพลิงนรกานต์ของตัวเองออกมา
ณ ดาราจักรโบราณ ภายในรอยแยกอวกาศแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา มีโลกหนึ่งที่ไม่ควรมีอยู่
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยปราณสวรรค์ ที่นี่มีภูเขาสวรรค์ ยอดเขาถูกซ่อนไว้ท่ามกลางก้อนเมฆ บนยอดมีสตรีผู้หนึ่งกำลังยืนอยู่
นางดูอายุวัยกลางคน ไม่ได้สวยงามไร้ที่ติแต่เปล่งบรรยากาศความสง่างามและบารมี นางสวมชุดราตรีสูงศักดิ์ กลางหน้าผากเป็นอักขระโลหิตรูปวงรีสีแดงสว่าง!
นางมองท้องฟ้าด้วยสายตาเย็นชา ยกฝ่ามือเรียวงามดุจหยกขึ้นมาและชี้ใส่ท้องฟ้าปรากฏเป็นคทาหยก บนคทามีดอกไม้ที่เดิมทีเหี่ยวเฉา แต่พอนางชี้ไปดูเหมือนมันจะได้รับชีวิตใหม่และเริ่มเบ่งบาน
พอดอกไม้เบ่งบาน กลีบดอกร่วงโรยเก้ากลีบกลายเป็นวังวนและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ในเมื่อเจ้าไม่ตัดสินใจ ข้าจะมอบแขนให้!” นางเอ่ยกระซิบพลางดึงปิ่นสีทองออกมาและโยนไปข้างหน้า!
คลื่นเสียงพิณดังออกมาจากยอดภูเขาฟ้าในเผ่าแพรฟ้า แม้เสียงจะไพเราะแต่กลับประหลาดยิ่ง บางครั้งมันก็พร้อมซุ่มโจมตีและเข้าสังหาร แต่บางครั้งมันก็อ่อนโยน สองพลังสุดขั้วเข้าผสานกันกลายเป็นอารมณ์อันซับซ้อน
ปรมาจารย์เต๋าความฝันหลับตาพลางใช้ฝ่ามือเล่นอยู่เหนือพิณ ดูเหมือนกำลังลังเลว่าต้องเลือกสักทาง!
หลี่เฉียนเหมยนั่งสงบนิ่งอยู่ตรงข้าม นางมองผู้เป็นพ่อและไม่เอ่ยคำพูดอะไรออกมา
ขณะนั้นเกิดระลอกคลื่นดังกึกก้องอยู่เหนือภูเขาฟ้าและมีแสงสีทองกะพริบวาบ เป็นปิ่นปักผมที่นางโยนออกมา!
ปิ่นปักผมทะลวงผ่านอวกาศและมุ่งตรงมาที่ภูเขาฟ้า เจาะทะลุหลังคาบ้านและตรงเข้าสู่กลางพื้นระหว่างหลี่เฉียนเหมยและปรมาจารย์เต๋าความฝัน!
เสียงพิณหยุดชะงักทันที! สายพิณขาดไปหนึ่งสายและลอยสูงขึ้นไปในอากาศ ปรมาจารย์เต๋าความฝันลืมตาขึ้นมาจ้องมองปิ่นปักผมเบื้องหน้า ในแววตาเกิดการต่อสู้ในใจอันเจ็บปวด
หลังจากผ่านไปสักพักจึงถอนหายใจและสะบัดแขนขวา สายพิณที่ขาดไปถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีฟ้า ปรมาจารย์เต๋าความฝันกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกไป โลหิตผสานเข้ากับสายพิณและลอยออกไปไกล
ด้านนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึก กลีบทั้งเก้าปรากฏขึ้นมาข้างๆ กระบี่ผลึก ก่อเกิดเป็นพายุมหึมา!
ขณะเดียวกันแสงสีฟ้ากะพริบรุนแรงและปรากฏสายพิณขาด สายพิณนี้มีโลหิตของปรมาจารย์เต๋าความฝันและระดับบ่มเพาะอยู่ด้วย เนื่องจากมันเชื่อมต่อกับความคิดเขาจึงมีเพลิงนรกานต์อันทรงพลัง
ทางด้านตะวันตกของดาราจักรโบราณ พื้นที่แห่งนี้สีขาวสว่างเล็กน้อย เซียนคนใดที่เข้ามาที่แห่งนี้จะรู้สึกว่าจิตใจหนาวเย็น แม้กระตุ้นระดับบ่มเพาะแล้วก็คงถูกแช่แข็ง!
ห่างออกไปไกลมีดาวเคราะห์เซียนอยู่เก้าดวง มองไกลๆเหมือนเศษน้ำแข็งขนาดใหญ่เก้าชิ้นหรือกล่าวให้ถูกก็คือหนึ่งแท่ง!
ก้อนน้ำแข็งยักษ์และดาวเคราะห์เซียนแช่แข็งเก้าดวง!
ข้างในน้ำแข็งอันกว้างใหญ่มีเด็กราวๆเจ็ดถึงแปดปีผนึกอยู่ วินาทีนี้เด็กน้อยผู้เต็มไปด้วยพลังความตายพลันลืมตาขึ้นมา แววตาประหลาดยิ่งราวกับในตาแต่ละข้าง มีรูม่านตาสามรู!
เซียนสามตา!
นาทีที่ลืมตา เสียงดังสนั่นกึกก้องทั่วน้ำแข็งรอบๆ ดาวเคราะห์ทั้งเก้า จากนั้น ภาพเงานัยน์ตาขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นในน้ำแข็ง!
ดวงตาคู่นี้เหมือนกับของเด็กชาย มันมีรูม่านตาทั้งสามไปด้วย! ขณะนั้นรูม่านตาทั้งสามได้ลอยเข้าไปในดวงดาว
ณ ดาราจักรโบราณ มีรอยแยกอวกาศอีกแห่งที่เต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ ที่นั่นมีแผ่นดินแห่งหนึ่งลอยอยู่ทั้งยังเปล่งกลิ่นอายเก่าแก่และไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน
บนแผ่นดินมีสตรีผู้หนึ่งนั่งอยู่ นางสวมชุดราตรีสีแดง กระทั่งเรือนผมยังเป็นสีแดง นางดูเปล่งประกายยิ่ง!
แม้จะนั่งอยู่ที่นี่แต่ชุดราตรีสีแดงไม่ได้หละหลวมแต่กลับแนบสนิทกับร่างกาย มองดูจากด้านหลังช่างมีทรวดทรงองเอวที่งดงาม! ผสานเข้ากับริมฝีปากและส่วนเว้าส่วนโค้งได้รูปแล้ว มากพอจะทำให้จิตใจเซียนทุกคนเต้นระรัว!
นางมีใบหน้างดงามและขาวนวล เปลือกตาสั่นระริกและค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ภายในตาแฝงความเศร้าอันเป็นธรรมชาติ นางค่อยๆ ยกฝ่ามือเรียวหยกขึ้นมากัด ภาพนี้มากพอจะทำให้ทุกคนบ้าคลั่ง
นางกัดนิ้วและถอนหายใจ สะบัดแขนส่งโลหิตออกไปสามหยด เปลี่ยนกลายเป็นภูตผีดุร้ายขนาดใหญ่สามตัว พวกมันดูน่าหวาดกลัวยิ่งและส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปในท้องฟ้า!
ครู่ต่อมาภูตผีทั้งสามโค้งให้แก่สตรีชุดแดงและจากนั้นจึงหายวับไป!
ด้านนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึกมีแสงน่ากลัวกะพริบอยู่ข้างๆ กระบี่ผลึก สายพิณและกลีบดอกทั้งเก้า ภาพดวงตาผุดขึ้นมาที่นี่ ดวงตามีสามรูทำให้ดูน่าตกตะลึงยิ่ง!
ขณะที่รูม่านตาทั้งสามปรากฏขึ้น เกิดเสียงดังคำรามกึกก้อง ภูตผีทั้งสามตนฉีกเปิดอวกาศออกมา!
สมบัติหลายอย่างที่สร้างขึ้นจากเซียนทรงพลังของดินแดนชั้นนอกได้รวมตัวกัน
ณ ดาราจักรโบราณ ณ ตำหนักที่ลอยอยู่ซึ่งเป็นของราชันย์ คนผู้หนึ่งสวมชุดคลุมสีดำที่เคยถูกเสียงคำรามบังคับให้ถอย พลันมองขึ้นไป ยกฝ่ามือแห้งเหี่ยวขึ้นมาและยื่นไปข้างหน้าอย่างดุดัน!
“ตกจันทราในบ่อน้ำ!” ชายชุดดำเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่า เสียงเบาแต่กลับดังกึกก้องในตำหนัก
ค่ายกลดินแดนปิดผนึกเริ่มสั่นเทาเบื้องหน้าเซียนเก้าหมื่นคนและเริ่มพร่ามัว ราวกับมีพลังรุนแรงต้องการแยกวิญญาณของค่ายกลปิดผนึกออกมาเป็นชิ้นๆ!
ขณะที่ค่ายกลสั่นเทา แสงกะพริบวูบวาบ จิตวิญญาณค่ายกลหลายตัวปรากฏขึ้นมา และเหล่าสมบัติโลหิตเปล่งกลิ่นอายอันน่าตกตะลึง!
ค่ายกลดินแดนปิดผนึกสั่นเทาจนหวังหลินให้ความสนใจ รูม่านตาหดแคบและมองออกไป!!
ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกกันว่าความบังเอิญ หากไม่มีค่ายกลดินแดนปิดผนึก เหล่าเซียนเก้าหมื่นคนคงเห็นชายผมขาวชื่อหวังหลินกำลังมองพวกเขามาจากอีกด้านของค่ายกลแล้ว!!