Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1573

Cover Renegade Immortal 1

1573. วิญญาณภายในเส้นผม

มือหวังหลินที่กำลังถือขวดสุราถึงกับหยุดชะงักจากคำพูดของโจวหวู่ไท่!

วิญญาณที่มีความเย่อหยิ่งดวงนั้นปรากฏขึ้นเบื้องหน้าดวงตาของหวังหลิน วิญญาณดวงสีแดงที่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและทระนงตนจนส่องประกายเจิดจ้าบนดาวซูซาคุ

ชีวิตของผีเสื้อสีแดงนั้นสั้นมาก แต่ความสว่างไสวของนางเป็นสิ่งที่แม้แต่คนเช่นหวังหลินยังยากจะลืมเลือน

นางยอมตายดีกว่ายอมจำนน สตรีผู้เย็นชายิ่งคนนั้นได้ทำให้ผู้เยาว์บนดาวซูซาคุทั้งหมดต้องโค้งคำนับและไม่กล้าแม้แต่เงยหน้า ผีเสื้อสีแดง

เช่นเดียวกับชื่อนาง คือผีเสื้อที่สร้างขึ้นจากแสงสีแดงสว่างที่สุดในสรวงสวรรค์!

เป็นผีเสื้อที่งดงามยิ่งและเป็นที่จดจำจากคนจำนวนนับไม่ถ้วน!

หวังหลินนึกย้อนถึงอดีตพลางค่อยๆวางสุราลงและมองโจวหวู่ไท่

โจวหวู่ไท่เงยศีรษะขึ้นมองหวังหลิน “ผีเสื้อสีแดงเป็นคนของแคว้นเฉว่ยี่…แคว้นเฉว่ยี่หายไปตามกาลเวลาซึ่งเกี่ยวข้องกับผนึกของท่าน…เหล่าเซียนของแคว้นเฉว่ยี่ที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้ต่างกระจัดกระจายไปในสำนักหลักทั้งเก้าแห่ง”

“ทว่าหลังจากแคว้นเฉว่ยี่สลายตัวไป ข้าพบพื้นที่ว่างแห่งหนึ่ง…” โจวหวู่ไท่มีท่าทีเคร่งขรึมและดื่มไปหนึ่งอึก

“ท่านยังจำอาจารย์ของผีเสื้อสีแดงได้หรือไม่…ครั้งหนึ่งอาจารย์ของนางได้ทำนายว่าผีเสื้อสีแดงจะพบเจอกับหายนะแห่งชีวิตและความตาย หากนางรอดได้ ร่างเบญจธาตุของนางจะสมบูรณ์…”

หวังหลินพยักหน้า

โจวหวู่ไท่กล่าวอย่างสงบนิ่ง “สถานที่ที่ข้าค้นพบได้ถูกอาจารย์ของผีเสื้อสีแดงผนึกเอาไว้ก่อนที่นางจะตาย! ระดับบ่มเพาะของอาจารย์ผีเสื้อสีแดงไม่ได้สูงมาก ดังนั้นมีสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าสงสัย…นางวางค่ายกลซับซ้อนขนาดนั้นได้อย่างไร? ในค่ายกลนี้มีเส้นผมของผีเสื้อสีแดงอยู่หนึ่งเส้น”

“ค่ายกลอะไร?” หวังหลินรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด ดวงตาหรี่แคบ

“ข้าไม่รู้เรื่องค่ายกลมากนัก ข้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับผีเสื้อสีแดง ดังนั้นข้าจึงรักษาค่ายกลนั้นเอาไว้ ตอนนี้ท่านอยู่ที่นี่แล้ว ท่านจะรู้เองเมื่อท่านได้เห็นมัน” โจวหวู่ไท่ลุกขึ้นมองหวังหลิน

หวังหลินมองหลุมศพของท่านพ่อท่านแม่ เป้าหมายของการกลับมาครั้งนี้คือ การทำความเคารพต่อบิดามารดา เขาสูดหายใจลึกและไม่ได้ปลุกเหลียนต้าวเฟย เขาก้าวเข้าหาท้องฟ้าไปพร้อมกับโจวหวู่ไท่

ณ ทางเหนือของดาวซูซาคุมีเทือกเขาแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ใจกลางเทือกเขามีรูปปั้น ซูซาคุขนาดใหญ่ยักษ์ มันมีมาตั้งแต่อดีตและเป็นถ้ำของโจวหวู่ไท่ด้วย

หวังหลินและโจวหวู่ไท่ปรากฏขึ้นมาทำให้ท้องฟ้าบิดเบี้ยว โจวหวู่ไท่นำทางเข้าไปในรูปปั้นซูซาคุ ข้างในคือห้องขนาดใหญ่

ในห้องหินแห่งหนึ่งนั้นหวังหลินจึงได้เห็นค่ายกลลึกลับที่โจวหวู่ไท่เคลื่อนย้ายมาที่นี่!

ค่ายกลแห่งนี้มีความกว้างราวๆ ร้อยฟุตและครอบคลุมทั่วทั้งห้อง ทำให้ห้องถูกปกคลุมอยู่ในน้ำแข็ง

ใจกลางค่ายกลมีเส้นผมแช่แข็งไว้หนึ่งเส้น ค่ายกลนี้ดูเหมือนไม่ได้เปิดใช้งานมานานหลายปีและไม่มีสัญญาณการทำงานอยู่

“ค่ายกลแห่งนี้” โจวหวู่ไท่มองไปทางค่ายกล ใบหน้าเผยความสงสัยเหมือนในอดีต

“ข้าไม่เชื่อว่าอาจารย์ของผีเสื้อสีแดงจะสามารถวางค่ายกลนี้ได้ด้วยระดับ บ่มเพาะของนางตอนนั้น”

หวังหลินก้าวเข้าไปในค่ายกลและก้มศีรษะลง เขาเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียด มันซับซ้อนยิ่งและมีเขตอาคมอยู่จำนวนมาก ตามที่โจวหวู่ไท่ได้กล่าวเอาไว้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เซียนขั้นแรกจะวางได้

โจวหวู่ไท่กล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะค่ายกลนี้หยุดการทำงานไปแล้วตอนที่ข้าค้นพบมัน ข้าคงได้รับบาดเจ็บ”

หวังหลินนั่งชันเข่าและวางมือขวาบนน้ำแข็ง น้ำแข็งส่องแสงระยิบระยับและมีเสียงดังกึกก้องทำให้ค่ายกลเผยสัญญาณการทำงาน

แสงหักเหผุดขึ้นในแววตาหวังหลิน ชั่วขณะต่อมาเขายกแขนขวาขึ้น พอเลื่อนมือขวาออกจากน้ำแข็ง ค่ายกลก็หยุดลง

หวังหลินขบคิดเล็กน้อยและจึงเอ่ยขึ้น “นี่มันค่ายกลเคลื่อนย้ายแบ่งวิญญาณ!”

“มันต้องถูกเซียนขั้นชำระสวรรค์สูงสุดหรือมากกว่าได้วางเอาไว้…มันไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์ของผีเสื้อสีแดงจะวางได้ หรือนางอาจจะซ่อนระดับบ่มเพาะ…แต่หากนางซ่อนระดับบ่มเพาะจริง สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมากับผีเสื้อสีแดงก็อธิบายไม่ได้อีก”

หวังหลินดวงตาส่องสว่างและวิเคราะห์ “หน้าที่ของค่ายกลนี้คือการแบ่งวิญญาณส่วนหนึ่งด้วยการใช้เส้นผมและจากนั้นจึงเคลื่อนย้ายมันไป ข้าไม่รู้ว่ามันเคลื่อนย้ายไปที่ไหน…เส้นผมเส้นนี้มีกลิ่นอายของผีเสื้อสีแดง บางทีนางอาจไม่ได้ตายจริงๆ!”

เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าจะค้นพบความลับเช่นนี้บนดาวซูซาคุ

“ตอนนั้นอาจารย์ของผีเสื้อสีแดงได้ทำนายว่าผีเสื้อสีแดงจะพบเจอกับภัยพิบัติแห่งชีวิตและความตาย นางรู้ว่าหายนะครั้งนี้ยากจะหลีกเลี่ยงและได้พบค่ายกลนี้ จึงได้วางค่ายกลนี้ไว้ก่อนที่ผีเสื้อสีแดงจะพบกับหายนะ นางนำวิญญาณส่วนหนึ่งของนางมาและส่งไปที่อื่น…นางต้องการใช้วิธีนี้เพื่อให้ผีเสื้อสีแดงมีโอกาสรอดชีวิต…”

“ทำให้แม้ผีเสื้อสีแดงจะตาย ด้วยการแบ่งวิญญาณนี้เอาไว้นางจะสามารถเกิดใหม่และหลีกเลี่ยงหายนะครั้งนั้นได้!” หวังหลินลุกขึ้นและมองโจวหวู่ไท่

โจวหวู่ไท่เริ่มขบคิด หลังจากนั้นสักพักจึงเอ่ยออกมา “หลังจากข้าค้นพบค่ายกล ข้าได้ค้นบันทึกของจ้าวผู้ปกครองดาวซูซาคุคนก่อนๆ ข้าค้นพบความลับอย่างหนึ่งว่า เหล่าเซียนของแคว้นเฉว่ยี่เป็นเซียนต่างถิ่นเหมือนกับสำนักมารยักษ์”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ และออกมาจากห้อง เขายืนอยู่บนรูปปั้นซูซาคุ สายตามองทะลุออกไปยังอวกาศอันกว้างใหญ่

“ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ ผีเสื้อสีแดงที่มีชีวิตอยู่ถือเป็นเรื่องดี…บางทีตอนนี้ นางอาจจะอยู่ไหนสักแห่งและกำลังมองมาที่ดาวซูซาคุ…แต่ข้าสงสัยว่านางยังมีความทรงจำของที่นี่หรือไม่ หากนางจดจำอดีตได้…” หวังหลินเอ่ยเสียงเบาเข้าไปในหูของโจวหวู่ไท่

“ข้ามีความสุขเช่นกันที่นางไม่ตาย…มีสหายเหลืออยู่ไม่มาก ข้าหวังว่าจะได้พบนางอีกครั้งในชั่วชีวิตนี้” โจวหวู่ไท่ยิ้มก่อนจะถอนหายใจและพยักหน้า ความเกลียดชังในอดีตได้จางหายไปตามกาลเวลา

“บางทีข้าอาจได้พบเจอนาง…” หวังหลินหรี่ตาพลางนึกถึงอดีตที่ผ่านมาสองพันปี แต่เขาก็ไม่อาจค้นพบคำตอบ

“ช่างมันเถอะ หากนางอยากให้เรารู้ เราจะได้พบนางสักวันหนึ่ง หากนาง ไม่ต้องการ เมื่อนั้นเราก็ทำได้แต่เพียงคิดว่านางตายไปแล้ว…” โจวหวู่ไท่ดูหดหู่เล็กน้อย เขามองหวังหลินราวกับอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกมา

“พี่โจว ข้าขอตัวก่อน” หวังหลินหันกลับมาทางโจวหวู่ไท่และคำนับฝ่ามือ

โจวหวู่ไท่มีท่าทีซับซ้อน หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อยจึงคำนับฝ่ามือและเอ่ยถาม “ท่าน…ได้เจอหลิวเหมยหรือไม่?”

หวังหลินมองโจวหวู่ไท่ หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เอ่ยออกมา “ข้าเจอนาง…นางตายแล้ว”

โจวหวู่ไท่หน้าซีดพลางส่ายศีรษะอย่างขมขื่นและไม่กล่าวสิ่งใดอีก

หวังหลินจากไป

ร่างหายวับไปจากรูปปั้นซูซาคุ โจวหวู่ไท่ยืนเงียบๆ บนรูปปั้น มองตรงจุดที่ หวังหลินหายตัวไป เขาดูไร้ชีวิตชีวามากกว่าเดิม

“หลิวเหมยตาย…” โจวหวู่ไท่นั่งลงและถอนหายใจ เขาหยิบขวดสุราขึ้นมาและเริ่มดื่ม มีร่างหนึ่งที่อยู่ในใจเขาตลอดสองพันปีที่ผ่านมาและมันไม่เคยจางหาย

เขาดื่มจนกระทั่งฟ้ามืด โจวหวู่ไท่มองท้องฟ้าและเริ่มหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขากลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ไม่มีใครรู้ว่าในตอนนั้น เขาชื่นชมหลิวเหมยอยู่เสมอ

แม้แต่หวังหลินก็เพิ่งสังเกตท่าทางของโจวหวู่ไท่ได้ในตอนนี้ แต่เขาจะพูดอะไรได้…

หวังหลินแสดงความกตัญญูต่อท่านพ่อท่านแม่ด้วยการอยู่ตรงหน้าหลุมฝังศพของท่านเป็นเวลาเจ็ดวัน ในช่วงเจ็ดวันนี้เขาไม่ได้จากไปไหน เขาเพียงแต่นั่งอยู่ตรงหน้าหลุมฝังศพและดื่มสุรา

หัวใจหวังหลินค่อยๆ สงบลง เขาเหมือนคนแก่ที่ได้หยุดคิด หยุดคิดถึงพลังต่อต้านในร่างกายและจมดิ่งไปกับความอบอุ่นของความเศร้าโศกจากครอบครัว เฝ้าดูวันเวลาผ่านไปทีละวันอย่างเงียบๆ

เหลียนต้าวเฟยตื่นขึ้นได้นานแล้ว เขายืดเส้นยืดสายและเริ่มพูดจ้อใส่หูหวังหลินไม่หยุด หลังจากเอาสุราของหวังหลินไปดื่ม เขาก็เริ่มพูดจ้อ

พอดื่มไปเยอะจึงเริ่มเมาและเริ่มร้องเพลง ทำให้ความเศร้ารอบๆ บ้านแห่งนี้ สูญสลายไปเล็กน้อย

ในวันที่แปด หวังหลินโขกคำนับเบื้องหน้าหลุมฝังศพ สูดลมหายใจเอาอากาศในบ้านเกิดเข้าไป เขามองหลุมฝังศพก่อนจะหันตัวกลับและจากไป!

เพียงก้าวคราเดียว เขาเปลี่ยนจากคนธรรมดาที่กลับมาบ้านเกิด กลายเป็นเซียน!

เซียนผู้โหดเหี้ยม!

หวังหลินกลับคืนสู่โลกแห่งเซียนอันโหดร้าย! สิ่งที่เขาเผชิญหน้าในตอนนี้ไม่ใช่ความอบอุ่นของครอบครัวแต่เป็นเส้นทางการฝึกฝนที่อันตรายและอำมหิต!

นี่คือเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับคืน! เมื่อก้าวเข้าสู่โลกนี้แล้วจะต้องเดินต่อไป! เจ้าจะไม่สามารถหยุดได้ แม้จะมองหันกลับมาก็อยู่ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

‘มีสถานที่สุดท้ายที่ข้าต้องไปบนดาวซูซาคุ!’ หวังหลินทะยานอยู่ในท้องฟ้าพร้อมกับเหลียนต้าวเฟย สายตาสอดส่องออกไปไกล

มันคือหลุมลึกที่เป็นที่ตั้งของเผ่ารอยสัก มันเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิวิหคศักดิ์สิทธิ์คนเก่าต้องการเข้าไป!

ความลับที่อยู่ในชั้นสิบเก้าได้สร้างปัญหากับหวังหลินมายาวนาน

พริบตาเดียวหวังหลินได้พาเหลียนต้าวเฟยช่างจ้อ พุ่งทะยานเข้าหาหลุมยักษ์ในเผ่ารอยสัก!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!