1577. ต่างแดน
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ โลหิตจากตาซ้ายไม่ได้เหลืออยู่มากนักและยิ่งเวลาผ่านไปพลังส่วนใหญ่จึงสูญสลาย อย่างไรก็ตามดวงตาซ้ายถูกสร้างขึ้นจากมารโบราณเก้าดาว ดังนั้นถึงแม้จะไม่มีโลหิตมากนักมันก็ยังหล่อเลี้ยงหวังหลินได้เป็นอย่างดี!
พลังมารโบราณที่ถูกหลอมจากโลหิตได้เข้าสู่ร่างหวังหลินผ่านแขนขวา หลังจากโคจรรอบร่างกายไปหนึ่งรอบ มันเข้าไปสู่รูปปั้นมารโบราณในแขนซ้าย
รูปปั้นมารโบราณเรืองแสงสีแดงชั่วร้ายราวกับกำลังตื่นและดูดซับพลังมารโบราณอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งวัน สองวัน สามวัน…จนกระทั่งวันที่สิบ
บางทีเวลาที่นี่อาจจะไหลต่างจากข้างนอก แต่หวังหลินรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปสิบวัน โลหิตบัญชาโบราณเบื้องหน้าเขาค่อยๆแห้งอย่างช้าๆ แต่รูปปั้นมารโบราณด้านข้างเขาเทียบได้ราวกับฟ้าและเหว
ดาวมารโบราณค่อยๆ ปรากฏขึ้นในตาซ้าย!
ดวงที่หนึ่ง ดวงที่สอง…ดวงที่ห้าปรากฏขึ้น แสงสีแดงชั่วร้ายที่เปล่งออกมาแทบครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก
ในวันที่สิบเอ็ด โลหิตโบราณได้พังทลายเป็นเศษผลึกและลอยอยู่เบื้องหน้าหวังหลิน
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง สะบัดแขนขวาดึงเศษโลหิตสีแดงเข้ามาในมือโดย ไม่ลังเล ดังนั้นตอนนี้มือเขาจึงเหมือนฝ่ามือโลหิตสีแดงเข้ม เขามองรูปปั้นมารโบราณและประทับฝ่ามือใส่กลางหน้าผากมัน!
ฝ่ามือร่อนลงไปเสียงดังปังรุนแรง ผลึกโลหิตทั้งหมดในฝ่ามือหวังหลินจึงเข้าสู่รูปปั้นมารโบราณ ทำให้รูปปั้นปลดปล่อยพลังมารจำนวนมากจนร้องหอนไปทั่วท้องฟ้า
วินาทีนี้ดาวมารโบราณห้าดวงในตาซ้ายจึงกะพริบวูบวาบ วังวนที่หกปรากฏขึ้นเบาบาง มันกำลังควบแน่นกลายเป็นดาวดวงที่หกจริงๆ
‘เหลือโลหิตโบราณที่นี่ไม่มากนัก…ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พลังส่วนใหญ่ของมันสูญสลายไปเกือบหมด…แต่ข้ายังมีมารโบราณตัวอื่น!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างแขนซ้ายยื่นออกไปเปิดรอยแยกมิติเก็บของ นำมารโบราณที่เขาจับได้จากเทพโลหิตมา!
มารโบราณตัวนี้ถูกผนึกและหลับใหล หวังหลินสลายผนึกไปจึงทำให้มันตื่นขึ้น แขนขวาของหวังหลินร่อนใส่บนร่างมัน
ปัง ดาวมารโบราณในตาซ้ายของมารโบราณพลันแตกสลาย พลังมารพรั่งพรูเข้าหารูปปั้นภายใต้การควบคุมของหวังหลิน
หลังการผสานพลังมาร มารโบราณจึงแดงก่ำมากพอราวกับโลหิต ดาวมารโบราณดวงที่หกได้ก่อกำเนิดขึ้นตรงๆ วังวนสำหรับดาวดวงที่เจ็ดปรากฏขึ้น ด้วยโลหิตจาก ตาซ้ายของเย่โม่และพลังจากมารโบราณในเทพโลหิต รูปปั้นมารโบราณของหวังหลินจึงสามารถทำให้เกิดเป็นดาวดวงที่เจ็ดได้!
หวังหลินทำตามสัญญา เขาไม่สังหารมารโบราณในเทพโลหิตแต่เก็บวิญญาณเอาไว้ มารโบราณจึงถูกผนึกและเก็บไว้ในมิติเก็บของ หวังหลินกำลังจะปลดปล่อยมันหลังจากออกไปจากที่นี่
‘ในเมื่อข้าไม่สามารถหาดวงตาซ้ายของเย่โม่เจอ ข้าจะสร้างมันขึ้นมาเอง!’ หวังหลินสัมผัสการเชื่อมต่อโลหิตอันทรงพลังได้ตอนที่มองรูปปั้นมารโบราณ เขาสะบัดแขนเสื้อและวางรูปปั้นสีแดงสว่างไว้ในมิติเก็บของ
ลังเสร็จสิ้นทั้งหมดนี้ หวังหลินมองเกาทัณฑ์ขนาดยักษ์ด้านล่างและดวงตาส่องสว่าง
‘ตอนนี้เกาทัณฑ์เป็นของข้า! ด้วยคันศรของลี่กวงนี้ ข้าสงสัยว่ามันจะทรงพลัง แค่ไหนกันเชียว!’ หวังหลินค่อยๆ วางแขนขวาไว้บนเกาทัณฑ์
เขาอดทนกับพลังต่อต้านในร่างกายและใช้พลังสายโลหิตเทพในร่าง วินาทีที่พลังเทพเคลื่อนไหว ร่างกายสั่นเทา แสงสีทองโผล่ออกมาจากวิญญาณดั้งเดิม ร่างกายเปลี่ยนเป็นโปร่งใส คันศรค่อยๆปรากฏขึ้นมาจากร่างกาย!
คันศรนี้ราวกับเส้นเอ็นของหวังหลิน เปล่งแสงสีทองระเบิดออกมาจากร่าง วินาทีนี้หวังหลินคือคันศร!
เกาทัณฑ์ขนาดยักษ์ด้านล่างหวังหลินถึงกับสั่นเทา มันคล้ายสัมผัสคันศรได้ พลังแข็งแกร่งของเกาทัณฑ์ปะทุออกมาและพุ่งมาหาหวังหลิน
วินาทีนี้หวังหลินสัมผัสถึงวิญญาณโบราณ วิญญาณดวงนี้คือวิญญาณของเกาทัณฑ์ ดูเหมือนมันได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลและพุ่งเข้าสู่ร่างหวังหลิน ทำสัญญากับคันศร
หวังหลินเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสงบนิ่ง “เล็กลง!”
เกาทัณฑ์ขนาดยักษ์สั่นเทาและหดตัว มันโผล่ออกมาจากหลุมซึ่งหล่นลงมาหลายหมื่นฟุตก่อนจะหลุดมาได้
“เล็กอีกนิด!” หวังหลินเอ่ยเสียงเย็นชา เกาทัณฑ์สั่นเทาพลางหดลงอย่างมาก มันค่อยๆ หล่นลงมาจากหลุมจนร่อนลงบนพื้น
เกาทัณฑ์หล่นลงไปบนพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องและแทงเข้าใส่พื้นดิน หวังหลินร่อนลงบนท้ายของเกาทัณฑ์ซึ่งเป็นจุดที่มีขนนกทั้งเก้าอยู่
ขนนกทั้งเก้าบางเบามาก หวังหลินยืนอยู่บนเกาทัณฑ์ โน้มร่างกายขึ้นและกดลงไปให้เกาทัณฑ์สั่นเทา
หลังจากหดลงไปสองครั้ง เกาทัณฑ์ยังยาวหนึ่งแสนฟุตและกว้างหลายพันฟุต ราวกับเสาขนาดใหญ่แทงใส่พื้นดินแบบเฉียงๆ
หวังหลินยืนอยู่บนเกาทัณฑ์มองดูหลุมในท้องฟ้าที่ข้างในสีดำสนิทและไม่รู้ว่ามันนำทางไปที่ไหน ปลายขอบหลุมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ มันฟื้นฟูตัวเองอยู่จริงๆ
‘ที่นี่ช่างประหลาด…’ หวังหลินก้มหน้าลง แขนขวาสร้างผนึกและชี้ใส่เกาทัณฑ์
‘เล็กลง เล็กลง เล็กลง!’
เกาทัณฑ์สั่นสะท้านอีกครั้งและหดลงอย่างมาก ท้ายที่สุดมันก็เริ่มส่องประกาย หวังหลินร่อนลงบนพื้นเนื่องจากเกาทัณฑ์ตอนนี้มีขนาดเท่าปกติแล้ว เขายื่นแขนขวาออกไปให้เกาทัณฑ์ลอยเข้ามาในฝามือ
หวังหลินถือเกาทัณฑ์ ดวงตาส่องสว่าง เขาเห็นอักขระสี่รูปอยู่บนเกาทัณฑ์ มันเรียบเนียนและแผ่กระจายไปทั้งดอก เรืองแสงจางๆ
‘อักขระทั้งสี่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและสามารถเพิ่มพลังของเกาทัณฑ์ได้! ตอนนั้นลี่กวงใช้เกาทัณฑ์ดอกนี้ยิงใส่ตาซ้ายของเย่โม่ ข้าสงสัยว่าเขาใช้วิญญาณอะไรกัน’ หวังหลินขบคิดเล็กน้อยก่อนที่มือซ้ายจะชี้ใส่หน้าผาก ดาวเทพโบราณปรากฏขึ้นมาและมีเตาหลอมจักรพรรดิออกมาด้วย
เตาหลอมจักรพรรดิเริ่มหมุนช้าๆ หวังหลินมองเห็นวิญญาณของคนสองคนในเตาหลอมได้ชัดเจน!
หนานจ้าวและเทียนจ้าว!
วิญญาณทั้งสองคนถูกหวังหลินขังเอาไว้ในเตาหลอมจักรพรรดิ!
‘ข้าจะใช้วิญญาณเพื่อเสริมสร้างเกาทัณฑ์ดอกนี้!’ หวังหลินมีสีหน้าไม่แยแส แขนซ้ายชี้ใส่เตาหลอมจักรพรรดิ เตาหลอมสั่นเทา เปิดฝาขึ้นให้วิญญาณลอยออกมา ก่อนที่พวกเขาจะหนีได้ หวังหลินใช้แขนซ้ายคว้าเอาไว้ ดวงวิญญาณส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับหวังหลินกดพวกเขาเข้าไปในเกาทัณฑ์ที่อยู่แขนซ้าย
อักขระบนเกาทัณฑ์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง วิญญาณแต่ละดวงหยุดกรีดร้อง พวกมันผสานเข้ากับอักขระสองรูปแบบ วินาทีนั้นมีกลิ่นอายสั่นสะเทือนสวรรค์ระเบิดออกมาจากเกาทัณฑ์
กลิ่นอายรุนแรงยิ่งจนแม้แต่หวังหลินยังตกตะลึง
‘ยังเหลือวิญญาณอีกสองดวง…ใช้ดวงไหนผนึกดี…’ หวังหลินขบคิด แขนซ้ายยื่นออกไปเปิดมิติเก็บของและมีตำหนักยักษ์โผล่ออกมา!
นี่คือตำหนักปฐพีที่หวังหลินค้นพบในสุสานโบราณ!
ข้างในตำหนักแห่งนี้มีประตูหลายบาน ตอนนั้นหวังหลินเห็นวิญญาณอันทรงพลังสามดวงอยู่ข้างใน มันไม่สามารถเปิดได้เว้นแต่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ตอนนี้ หวังหลินจ้องมองตำหนักปฐพีและวิญญาณสามดวงข้างใน ขบคิดเล็กน้อยจึงเก็บตำหนักกลับไปแทนที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม
‘วิญญาณสามดวงนั้นทรงพลังเกินไป พวกมันคือศัตรูของเย่โม่ที่เขาผนึกในบ้านเกิด หากมันปลดปล่อยออกมาตอนนี้ ด้วยพลังปัจจุบันของข้าคงจะย่ำแย่’
หวังหลินส่งสายตาไปที่วงกลมตรงปลายเกาทัณฑ์ ขบคิดอยู่หลายชั่วโมง วงกลมนี้คือกุญแจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพลังต่อต้านที่สร้างขึ้นจากการผสานกันของพลังเทพและพลังโบราณ
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสักพักหวังหลินก็ยังมองทะลุความลับของวงกลมนี้ไม่ออก เขาถอนหายใจและล้มเลิกการสังเกต จากนั้นสะบัดแขนขวา เกาทัณฑ์สลายกลายเป็นลำแสงเจ็ดสายเข้าสู่ร่างเขา
หวังหลินมองไปรอบๆ ก้าวเท้าและส่งร่างเข้าไปในพื้นดิน ติดตามวงแหวนและ มุ่งหน้าเข้าหาประตูหิน
เขาสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่งและมาถึงวงกลมสุดท้ายที่ประตูหินตั้งอยู่ หวังหลินสะบัดแขนขวาเปิดประตูหินโดยไม่ลังเล จากนั้นก้าวเท้าเข้าไปและกลับคืนสู่ชั้นสิบแปด
พอยืนอยู่ชั้นสิบแปด หวังหลินมองกลับไปที่ประตูหินและเห็นมันปิดลง เขาวางผนึกไว้หลายชั้นเพื่อเตรียมพร้อมก่อนจากไป
‘ข้าต้องหลอมผลไม้เต๋าเพื่อให้แก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย เวรกรรมและจริงเท็จของข้าบรรลุความสมบูรณ์แบบ…’ หวังหลินเตรียมจะกลับ แต่ทันใดนั้นหยุดชะงักลง สายตาจับจ้องไปบนผนังที่เขาถูกพลังกระแทกใส่ตอนที่จะเปิดประตูหิน
มันเต็มไปด้วยรอยร้าวและมีก้อนหินจำนวนมากหลุดร่วงออกมา รอยแตกร้าวลึกมากคล้ายจะแทงทะลุผนังจนเผยฉากด้านหลังกำแพง
ความสนใจของหวังหลินเพ่งสมาธิอย่างเต็มที่ไปบนประตู ดังนั้นจึงไม่ทันสังเกตรอยแตกร้าวบนผนังก่อนหน้านี้ ตอนนี้พอสงบใจลงจึงสังเกตได้ว่ามันประหลาด!
สายตามองตามรอยแตกร้าวและเห็นด้านนอกอันมืดมิดได้เลือนลาง กลิ่นอายที่รั่วไหลออกมาจากรอยแยกนั้นช่างเป็นสิ่งที่หวังหลินคุ้นเคยยิ่ง
หวังหลินพึมพำ “สนามรบต่างแดน!”