Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1774

Cover Renegade Immortal 1

1774. วิญญาณของราชันย์

ขณะที่ราชันย์เอ่ยเสียง ระลอกคลื่นผุดขึ้นมาบนพื้นสุสานและเปลี่ยนเป็นของเหลวคล้ายน้ำทันที

ร่างหวังหลินและคนอื่นปรากฏขึ้นบนผิวน้ำ ราวกับกำลังจมลงไปในบ่อน้ำ

หวังหลินไม่อยากต่อสู้กับราชันย์เว้นแต่จะถึงคราวจำเป็น ศัตรูของเขาคือ เซียนเต๋าสีรุ้งและผีเฒ่าจาง การเพิ่มราชันย์เข้ามาด้วยจะทำให้เรื่องยากยิ่งกว่าเดิม แม้ไม่ต้องการสู้แต่เป้าหมายของราชันย์คือ การสังหารหวังหลินอยู่ดี

ดังนั้นหวังหลินจึงจำเป็นต้องต่อสู้!

หวังหลินยังได้เปรียบมหาศาลในตอนนี้ หยุนยี่เฟิง ถังซานและต้าเสินได้ช่วยเขาทำให้ราชันย์บาดเจ็บสาหัส คู่ไปกับการสรุปของหวังหลินก่อนหน้านี้ จึงสามารถต่อกรกับความคิดของราชันย์ได้อย่างจริงจัง

ด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง จึงเกิดสถานการร์สังหารราชันย์อย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนที่สามที่หวังหลินสัมผัสได้ต่อจากต้าเสินและราชันย์!

คนที่สามผู้นั้นคือปรมาจารย์เต๋าความฝัน!

หวังหลินแค่ไม่เชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถผนึกราชันย์ให้อยู่หมัดด้วยคนทั้งห้านี้ได้!

ซึ่งพอวิชาตกจันทราในบ่อน้ำของราชันย์ปรากฏขึ้นมา ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาไม่ต้องการหนีอีกแล้วเพราะสัมผัสได้ว่าปรมาจารย์เต๋าความฝันมา ถึงพอดี!

‘เต๋าความฝันอยู่ที่นี่แล้วอย่างไร? หากเจ้าต้องการสังหารข้า พวกเจ้าก็ต้องเสียสละ! เวลาเป็นสิ่งมีค่า อีกไม่นานผีเฒ่าจางก็จะมาถึง พวกเจ้าไม่สามารถสังหารข้าได้ก่อนที่ผีเฒ่าจางจะมาถึงหรอก!’

พื้นดินเปลี่ยนกลายเป็นบ่อน้ำสะท้อนหวังหลินและร่างคนอื่นๆ จากนั้นมีแสงสีฟ้ากะพริบวาบ สาดกระจายผ่านบ่อน้ำและท้องฟ้า ปรมาจารย์เต๋าความฝันก้าวเดินออกมาจากระยะไกล

หวังหลินดวงตาเป็นประกาย พอปรมาจารย์เต๋าความฝันมาถึงจึงส่งข้อความสัมผัสวิญญาณออกไป “ผู้อาวุโสเต๋าความฝัน ท่านผนึกราชันย์สักสามลมหายใจได้หรือไม่?”

ปรมาจารย์เต๋าความฝันเข้ามาใกล้และพยักหน้า สะบัดแขนเสื้อ พื้นดินที่เปลี่ยนกลายเป็นบ่อน้ำเกิดการสั่นไหว พื้นดินพังทลายและบ่อน้ำแตกกระจาย!

แสงสีฟ้าเข้าไปในบ่อน้ำที่แตกสลาย ลอยขึ้นสู่อากาศ เปลี่ยนกลายเป็นม่านเข้าห่อหุ้มโลกใบนี้

“สามลมหายใจ ข้าทำได้!” ปรมาจารย์เต๋าความฝันเอ่ยขึ้น ก้าวเดินเข้าไปในม่านแสง พริบตานั้นแสงที่ล้อมรอบได้พุ่งใส่ราชันย์

ลำแสงสีฟ้าสามสายพุ่งออกไปใส่หยุนยี่เฟิงและถังซาน ดึงทั้งสองเข้าไปในแสงสีฟ้า เส้นสุดท้ายห่อหุ้มรอบต้าเสินและดึงเข้าไปในแสงสีฟ้าเช่นกัน

ทั้งสี่คนผสานกับแสงสีฟ้า ชั่วจังหวะที่หายเข้าไปในแสงสีฟ้า พวกเขาเปลี่ยนกลายเป็นอักขระรูนสี่ชิ้นและลอยเข้าหาราชันย์

ราชันย์มีสีหน้าเปลี่ยนไป ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที อักขระรูนสี่ชิ้นลอยเข้าหาราชันย์ทันทีที่ปรมาจารย์เต๋าความฝันปรากฏ ราชันย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะมันสร้างขึ้นจากระดับบ่มเพาะเต็มกำลังของปรมาจารย์เต๋าความฝัน แม้เขาไม่ได้เข้าสู่ด่านวิบากแก่นแท้ แต่เขาสามารถต่อสู้กับเหล่าเซียนที่ผ่านด่านวิบากแก่นแท้ได้!

ด้วยการที่เขาช่วยเหลือจึงทำให้สี่อักขระรูนทะลวงผ่านม่านพลังทั้งหมดเข้ามาใส่ร่างของราชันย์

จังหวะที่อักขระรูนทั้งสี่ร่อนมาถึง ราชันย์เอนเอียงและถูกแสงสีฟ้าผนึกไว้ทั้งร่าง! แม้การเคลื่อนไหวถูกผนึกเขายังมีพลังจำนวนมาก แสงสีฟ้าเข้าปกคลุมร่างกาย มองไกลๆราชันย์ดูเป็นสีทองไปทั้งตัว!

โล่ทองนี้สามารถปกป้องเขาจากอาการบาดเจ็บสาหัสไปสักพักหลังจากโดนผนึก!

หนึ่งลมหายใจแรกของสามลมหายใจ!

หวังหลินไม่ลังเล ทันทีที่ราชันย์ถูกแสงสีฟ้าผนึกเอาไว้ เขาจึงก้าวเดินและปรากฏตัวเบื้องหน้าราชันย์ ยกแขนขวาขึ้นมาปรากฏใบเรือหน้าผี หวังหลินเอานิ้วแทงทะลุผ่านแสงสีฟ้าและร่อนลงกลางหน้าผากของราชันย์

“เต๋าความฝัน!!”

หวังหลินเอ่ยเสียงดังกึกก้อง ลมหายใจที่สองผ่านมาถึงแล้ว!

วิชาเต๋าความฝันและใบหน้าผีเข้าผสานกันพุ่งใส่ราชันย์ พวกมันไม่ได้ทำร้ายราชันย์เลยแต่ผสานเข้ากับวิญญาณของเขา!

หวังหลินใช้โอกาสนี้เข้าไปในความทรงจำของราชันย์ เกิดเป็นการเชื่อมต่อขึ้นมา หวังหลินไม่ได้พยายามเปลี่ยนแปลงความทรงจำของราชันย์แต่กลับชี้นิ้วไปยังภูเขาที่ล้อมรอบด้วยหมอกสีดำ

“ข้าสังเวยวิญญาณดวงนี้ให้กับเย่ซื่อ!” หวังหลินรู้ว่าเขาไม่สามารถต่อกรกับราชันย์ได้ แต่เขาสามารถยืมมีดสังหารได้ และมีดนั้นคือเย่ซื่อ!

เพียงคำพูดเอ่ยเสียงดังกึกก้อง ลมหายใจที่สามก็มาถึง สายหมอกรอบภูเขาปั่นป่วนและส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์

ขณะเดียวกันวิญญาณของราชันย์เริ่มหายไปจากร่างกายดุจโดนกลืนกิน ดวงตาดิ้นรนและส่งเสียงคำรามรุนแรง สามลมหายใจได้ผ่านไป สี่ผนึกบนร่างกายเขาหายวับในทันที

เมื่อสี่ผนึกได้หายไป ปรมาจารย์เต๋าความฝัน หยุนยี่เฟิง ถังซานและต้าเสินปรากฏตัวออกมาจากแสงสีฟ้ารอบด้าน

ราชันย์พยายามหนีจากผนึกของปรมาจารย์เต๋าความฝันพร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวน เขากุมศีรษะตัวเองพลางล่าถอย เสียงร้องโหยหวนได้สั่นคลอนจิตใจผู้คน

วิญญาณของราชันย์เลือนหายไปอย่างรวดเร็วและถูกสังเวย ยิ่งปรมาจารย์เต๋าความฝันและพรรคพวกได้เห็นแบบนี้ สายตาจึงหรี่เล็กลงและตกอยู่ในอาการตะลึง

หวังหลินกระอักโลหิตและถอยไปมากกว่าพันฟุต เขามองราชันย์ที่กรีดร้องอยู่ในท้องฟ้า สายตาเผยความเย็นเยียบและโหดเหี้ยม

ดวงตาของราชันย์แดงก่ำ ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาบ้าคลั่ง สายตามอง หวังหลินและพุ่งเข้าใส่ราวกับบ้าไปแล้ว

“เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าทนทุกข์กับความเจ็บปวดขนาดนี้ ข้าจะตามไปฆ่าเจ้า ฆ่าเจ้า…” ราชันย์ร้องคำรามขณะที่พุ่งใส่หวังหลิน สติของเขาเลือนลางและมีความคิดเดียวในหัวคือสังหารหวังหลินเท่านั้น

“หุ่นเชิดเย่ซื่อ ข้าได้สังเวยวิญญาณไปมากพอแล้ว ข้าขออัญเชิญเจ้า!” หวังหลินถอยออกมาโดยไม่ได้ปาดโลหิตออกจากมุมปาก ขณะที่ราชันย์เข้ามาใกล้ หวังหลินใช้สองมือสร้างผนึกและร้องคำราม

เมื่อคำพูดเขาส่งเสียงดังสนั่น ภูเขาที่อยู่ห่างออกไปไกลพลันแตกสลาย สายหมอกพุ่งเข้ามาหาหวังหลินอย่างรวดเร็วและห่อหุ้มในพริบตา กระทั่งห่อหุ้มราชันย์ที่พุ่งเข้ามา

มันปกคลุมสายตาของทุกคน จากนั้นสองเสียงคำรามดังออกมาจากสายหมอก หนึ่งในนั้นมาจากราชันย์ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมหาศาล อีกเสียงเต็มไปด้วย จิตสังหารมากมาย

เสียงคำรามดังกึกก้องอยู่ในหมอกสีดำอย่างต่อเนื่อง นอกจากคนข้างในแล้วไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้น พวกเขาได้ยินแต่เสียงคำรามของราชันย์ดังออกมาอย่างโหยหวนเท่านั้น

ครู่ต่อมา สายหมอกปั่นป่วนรุนแรง ราชันย์ถูกโยนออกไปและร่อนลงใส่พื้นทั้งที่ดวงตาปิดสนิท เขาแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น

ปรมาจารย์เต๋าความฝันและพรรคพวกจ้องมองสายหมอกสีดำรอบตัวหวังหลินอย่างละเอียด พวกเขาเห็นสายหมอกค่อยๆ ควบแน่นจนเผยเป็นหวังหลินขึ้นมา!

สายหมอกยังคงรวมตัวกันจนกระทั่งรวมอยู่ด้านขวาของหวังหลิน กลายเป็นร่างเงาที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น เมื่อสายหมอกทั้งหมดรวมเข้าด้วยกันจึงปรากฏร่างเงาชัดเจน

ต้าซานมีใบหน้าซีดเผือดทันทีและล่าถอยไปหลายก้าว แม้แต่หยุนยี่เฟิงยังอ้าปากค้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ปรมาจารย์เต๋าความฝันและต้าเสินนั้นดีกว่า แต่จิตใจสั่นคลอนตอนที่ได้เห็นร่างเงา

มันเป็นคนแคระผิวหนังสีม่วง เขาหมอบอยู่ตรงนั้นด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ศีรษะไร้เส้นผมและมีร่างกายผอมบาง

ลิ้นยาวห้อยต่องแต่งออกมาเจ็ดฟุต ดวงตาสีดำคล้ำราวกับดูดซับแสงรอบตัวไปจนร่างกายบิดเบือนเล็กน้อย

กลิ่นอายน่ากลัวเกินพรรณาได้แผ่กระจายออกมาจากร่าง!

หุ่นเชิดนี้เสมือนภูติผีปิศาจที่ปีนออกมาจาขุมนรกด้วยตัวเอง แม้จะนั่งหมอบอยู่ตรงนั้นแต่มันทำให้ทุกคนเกิดแรงกดดันมหาศาลอยู่ในใจ

รอบด้านเงียบสงัด มีเพียงลมหายใจของคนแคระปิศาจที่ดังออกมาเท่านั้น

หวังหลินดูสงบนิ่งแต่จิตใจตกตะลึงไปด้วย ภายในสายหมอกนั้นเขาได้เห็นการต่อสู้อันบ้าคลั่งของหุ่นเชิดเย่ซื่อที่ได้เข้าต่อกรกับราชันย์

หวังหลินใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะหักห้ามอาการสั่นสะเทือนในใจได้ เขารู้ว่าสายใยที่เขามีต่อหุ่นเชิดไม่ได้แข็งแรงนัดและควบคุมมันได้ยาก หากเขาต้องการควบคุมให้มากขึ้นจะต้องสังหารต่อไปและสังเวยวิญญาณให้มันอีก

“เจ้านี่แตกต่างจากความทรงจำในวิญญาณดวงที่สาม…ตามความทรงจำแล้ว เมื่อมันปรากฏขึ้นมาก็น่าจะมีพลังในขั้นเซียนวิบากดับสูญระดับต้นสูงสุดที่ได้ผ่านด่านวิบากแก่นแท้ทั้งเก้าขั้นมาแล้ว”

“แต่ถึงแม้หุ่นเชิดยังแข็งแกร่งก็ไม่สามารถเทียบเคียงพลังอำนาจของเซียนขั้นวิบากดับสูญของจริงได้ มันเทียบเท่ากับคนที่ได้ผ่านด่านวิบากแก่นแท้ไปหลายด่านเท่านั้น…” แม้หวังหลินจะสงสัยในใจแต่ก็ไม่ได้คำตอบ

ตั้งแต่ที่มันปรากฏตัวออกมา มหาชั้นฟ้าซวนลั่วมองหุ่นเชิดเย่ซื่อห่างออกไปไกล เขารู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไร

‘ข้าสัมผัสกลิ่นอายของมันได้มาก่อน มันคือจิตวิญญาณหุ่นเชิดจริงๆ และเปลี่ยนแปลงมาถึงสองครั้ง…ราชันย์เทพสีรุ้งคนนี้ช่างเลวทรามต่ำช้าจริงๆ!’ ซวนลั่วส่ายศีรษะและถอนหายใจ

หวังหลินสูดหายใจลึกและก้าวเดินเข้าหาราชันย์ที่ไร้สติ คนแคระตามไปอย่างเงียบๆ ร่างกายเปลี่ยนแปลงระหว่างสายหมอกและกลับกลายรูปร่าง

หวังหลินมองไปยังราชันย์และรู้สึกซับซ้อนอธิบายไม่ถูก ผ่านไปสักพักหวังหลินสะบัดแขนเสื้อและเก็บราชันย์ไว้ในมิติเก็บของ

“เจ้ายังมีวิญญาณเหลืออยู่ครึ่งดวง แต่ข้าจะไม่สังหารเจ้า ครั้งหนึ่งเจ้าเป็นทาส รับใช้ของเหลียนต้าวเฟย ข้าจะให้เจ้าได้ตัดสินชะตาตัวเองเมื่อเจ้าตื่นขึ้นมา”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!